ตอนที่ 1014 เจ้าลูกหมาหน้าไม่อาย !
ผลไม้เลือดปีศาจอยู่ในมือข้าหากพวกเจ้าแน่จริงก็มาชิงเอาไปซี่ !
ราชาอสูรมีดวายุหัวเราะลั่นและกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
ความเย่อหยิ่งของเขาดูจงใจเกินเหตุเพื่อทำให้จ้าวเทียนเจียนและเฒ่าอสูรโลหิตหลงคิดว่าเขาครอบครองผลไม้ทั้งหมด
หลังจากกล่าวจบราชาอสูรมีดวายุก็เหมือนดั่งลมกรดและวิ่งไปทางทิศเหนือราวกับประกายสายฟ้าสีดำ
เมื่อเห็นราชาอสูรมีดวายุวิ่งหนีจ้าวเทียนเจียนและเฒ่าอสูรโลหิตก็ตกใจ พวกเขารีบใช้ท่าร่างและไล่ตามสุดกำลังเพื่อผลเลือดปีศาจ
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งสามก็หายตัวไปทุกอย่างกลับคืนสู่ความเงียบสงบ แต่ด้านนอกถ้ำต่างเต็มไปด้วยหินและต้นไม้ที่พังพินาศ มันแสดงให้เห็นถึงผลพวงจากการ
ตอนที่ 1014 เจ้าลูกหมาหน้าไม่อาย !
ผลไม้เลือดปีศาจอยู่ในมือข้าหากพวกเจ้าแน่จริงก็มาชิงเอาไปซี่ !
ราชาอสูรมีดวายุหัวเราะลั่นและกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
ความเย่อหยิ่งของเขาดูจงใจเกินเหตุเพื่อทำให้จ้าวเทียนเจียนและเฒ่าอสูรโลหิตหลงคิดว่าเขาครอบครองผลไม้ทั้งหมด
หลังจากกล่าวจบราชาอสูรมีดวายุก็เหมือนดั่งลมกรดและวิ่งไปทางทิศเหนือราวกับประกายสายฟ้าสีดำ
เมื่อเห็นราชาอสูรมีดวายุวิ่งหนีจ้าวเทียนเจียนและเฒ่าอสูรโลหิตก็ตกใจ พวกเขารีบใช้ท่าร่างและไล่ตามสุดกำลังเพื่อผลเลือดปีศาจ
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งสามก็หายตัวไปทุกอย่างกลับคืนสู่ความเงียบสงบ แต่ด้านนอกถ้ำต่างเต็มไปด้วยหินและต้นไม้ที่พังพินาศ มันแสดงให้เห็นถึงผลพวงจากการต่อสู้ที่ดุเดือดเมื่อครู่
หลังจากยอดฝีมือทั้งสามจากไปฉิงเฟิงและคนอื่นๆก็ออกมา พวกเขามุ่งหน้าไปยังสุสานจิตราชันที่อยู่ส่วนกลางตามการนำทางของลูกหมาสีดำ
พวกฉิงเฟิงอยู่ที่ด้านนอกของภูเขาคุนหลุนในการเข้าถึงศูนย์กลางพวกเขาจะต้องผ่านโซนภายในซึ่งหมายถึงระยะทางอย่างน้อยหนึ่งพันกิโลเมตรทีเดียว
ถึงแม้ว่าหนึ่งพันกิโลเมตรนั้นจะไม่ได้ไกลนักเมื่อเดินทางโดยเครื่องบินเนื่องจากมันใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นแต่มันแตกต่างกันในแดนต้องห้ามของภูเขาคุนหลุน ที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรที่น่ากลัวและผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งอยู่เต็มไปหมด มันทำให้พวกเขาไม่อาจเดินทางอย่างรวดเร็วได้
หลังจากการเดินทางกว่า50 กิโลเมตร ฉิงเฟิงก็ได้พบกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง มันคือเสือดาว, ราชาเสือดาวที่มีขนาดกว่าสิบเมตร มันมีขนหนาและแข็งดั่งเข็มเล่มยาวกว่า 20เซนติเมตรซึ่งเปล่งพลังงานอันแข็งแกร่งออกมาจากร่างของมัน
ราชาเสือดาวตัวนี้เป็นสัตว์อสูรในระดับครึ่งก้าวจิตโลกา
มนุษย์พวกเจ้ารุกกล้ำถิ่นข้า อยากตายหรือไง ราชาเสือดาวแสยะยิ้มจนเห็นเขี้ยวสีขาวและกล่าวขึ้น
สำหรับราชาแห่งอสูรสัตว์ดินแดนของพวกมันไม่อาจล่วงละเมิดได้ การเหยียบย่างเข้ามาในถิ่นของมันคือยั่วยุและประกาศสงคราม นำไปสู่การต่อสู้ถึงตาย
จากนั้นลูกหมาสีดำก็แทรกพูดขึ้นว่า กล้าดียังไงวะ ไอ้คิตตี้น้อย บังอาจทำตัวโอหังต่อหน้าลูกพี่หมาผู้นี้ อยากตายรึไง
อดพูดไม่ได้ว่าเจ้าลูกหมาสีดำตัวนี้เย่อหยิ่งจองหองอย่างสุดแสนมันกล้าเรียกตัวเองว่า ‘ลูกพี่’ต่อหน้าทุกสิ่งที่มันพบ ราวกับว่ามันเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในโลก
แน่นอนว่ามันไม่กล้าทำตัวจองหองต่อหน้าฉิงเฟิงเพียงคนเดียวเพราะมันจดจำความเจ็บปวดทรมานที่มันได้รับ…
สารเลวปากดีนัก ! เจ้ากำลังหาที่ตาย ราชาเสือดาวจ้องมองไปที่ลูกหมาสีดำและกล่าวอย่างเย็นชา
มันเป็นหนึ่งในสัตว์อสูรที่ทรงพลังที่สุดในพื้นที่รอบนอกของแดนต้องห้ามในระยะ150 กิโลเมตร
โดยปกติแล้วสัตว์ร้ายทุกตัวต่างก็ให้ความเคารพต่อมันอย่างยิ่งมันไม่คิดไม่ฝันว่าวันนี้จะมีลูกหมาสีดำตัวหนึ่งมาด่าทอสาปแช่งมัน มันโกรธมาก
ข้าจะฆ่าเจ้า! ราชาเสือดาวโบกมือขวาของมันจนเกิดคมมีดวายุที่ตัดผ่านต้นไม้ราวกับตัดเนยและพุ่งเข้าหาหัวของลูกหมาสีดำ
อาการดูถูกปรากฏขึ้นในสายตาของลูกหมาสีดำในขณะที่มันบ้วนแก่นอสูรออกมามันยังไม่ได้สกัดกลั่นมันก็จริง แต่สามารถใช้พลังของมันได้ นี่คือความสามารถพิเศษของลูกหมาสีดำตัวนี้ มันสามารถถ่ายโอนพลังของวัตถุอื่นๆมาเป็นของมันเอง
ฟุ่บ!
ลำแสงสีแดงที่ยิงออกมาจากแก่นอสูรปะทะเข้ากับอุ้งเท้าของราชาเสือดาวจากนั้นพลังโจมตีของพวกมันก็หายไปในอากาศและไม่มีฝ่ายใดได้รับบาดเจ็บ
เจ้าลูกหมาบัดซบนี่เจ้าฆ่าราชางูหลามโลหิตและชิงแก่นอสูรของมันมารึไง !
ราชาเสือดาวจ้องมองไปที่ลูกหมาสีดำและกล่าวด้วยความประหลาดใจ
ในฐานะที่เป็นราชาในเขตรอบนอกของเทือกเขาคุนหลุนมันรู้จักกับราชางูหลามโลหิตที่เป็นราชาแห่งสัตว์อสูรเลื้อยคลานอย่างแน่นอน มันไม่คิดว่ามันจะตายไปแล้ว
ลูกหมาสีดำเงยหน้าขึ้นและพูดด้วยความเย่อหยิ่งอย่างเยือกเย็นว่า ถูกต้อง ! ข้าสังหารราชางูหลามโลหิตไปแล้ว
ลูกหมาสีดำตัวนี้ช่างไร้ยางอายอย่างแท้จริงความจริงแล้วราชางูหลามโลหิตถูกสังหารด้วยน้ำมือฉิงเฟิง ไม่ใช่มัน…
แต่ตอนนี้ฉิงเฟิงก็ไม่ได้ใส่ใจเขาให้เครดิตกับมัน แม้มันจะเป็นการโกหกที่ชัดเจน แต่ฉิงเฟิงก็ไม่ได้เปิดเผยออกมาเพราะพวกเขามีศัตรูร่วมกัน
ฉิงเฟิงกับลูกหมาสีดำไม่ค่อยถูกกันเท่าใดและขัดแย้งกันอยู่บ้างแต่มันนับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงขั้นคอขาดบาดตาย
ราชาเสือดาวโบกมือขวาของมันอีกครั้งเพื่อเตรียมจะโจมตีลูกหมาสีดำครั้งนี้ฉิงเฟิงเริ่มเคลื่อนไหว เขาเป็นกังวลกับเรื่องที่ต้องช่วยพ่อและไม่ต้องการเสียเวลาที่นี่ ดังนั้นเขาจึงชักกระบี่ออกมาทันที
ปัง!
ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาฟาดกระบี่ออกไปเป็นลำแสงพลังงานกระบี่ที่ยาวถึง 40 เมตรซึ่งมากกว่าเมื่อก่อน มันเจาะผ่านอากาศและตัดที่กรงเล็บของราชาเสือดาว เลือดสดกระจายไปทั่วทุกที่ โฮกกกกกก
!
ราชาเสือดาวร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดมันเป็นสัตว์อสูรระดับครึ่งก้าวจิตโลกาและมีกรงเล็บที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า กรงเล็บของมันสามารถแยกหินผาได้อย่างง่ายดาย แต่พวกมันถูกตัดโดยกระบี่ของฉิงเฟิงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว มันรู้สึกตกใจกับพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวของเขามาก
มันคิดชายหนุ่มคนนี้เป็นผู้ฝึกตนทั่วไปมันไม่คิดว่าเขาจะน่าเกรงขามถึงเพียงนี้
ราชาเสือดาวเปิดปากของมันและพ่นแก่นอสูรสีฟ้าออกมาแก่นอสูรนี้บรรจุไปด้วยพลังอันแข็งแกร่งที่ยิงเป็นลำแสงสีฟ้าเข้าใส่ฉิงเฟิง
มันลอบสัตย์สาบานในใจว่าจะฆ่าชายหนุ่มคนนี้ให้จงได้เพื่อล้างแค้นให้กับการสูญเสียอุ้งมือของมัน!
ฉิงเฟิงใช้ก้าวมังกรและเปลี่ยนตนเองเป็นร่างเงาของมังกรบินด้วยท่าร่างที่รวดเร็วดั่งสายฟ้า เขาหลบการโจมตีของราชาเสือดาวได้อย่างง่ายดาย
ตั้งแต่ที่เขาได้รับเคล็ดวิชาท่าร่างก้าวมังกรจากฮวาเซียนจื่อเขาสามารถหลบการโจมตีจากสัตว์อสูรส่วนใหญ่ได้อย่างง่ายดาย
ฉิงเฟิงกระโดดขึ้นจากพื้นดินและลอยขึ้นไปเหนือศีรษะของราชาเสือดาวหมัดขวาของเขาสร้างพลังอันไร้เทียมทานออกมาและกระแทกเข้าใส่หัวกะโหลกของราชาเสือดาว ผลทำให้ศีรษะของมันถูกทุบทำลายอย่างง่ายดายราวกับเยื่อกระดาษบางๆ ร่างกายของมันร่วงลงกับพื้นทันที
ด้วยการโจมตีครั้งเดียวราชาเสือดาวก็ตายในที่สุด
เมื่อได้เห็นว่าฉิงเฟิงทรงพลังเพียงใดสัตว์อสูรที่ซุ่มอยู่รอบๆต่างก็หนีไปด้วยความกลัว แม้กระทั่งราชาเสือดาวยังพ่ายแพ้อย่างง่ายดายและพวกมันก็ต้องตายแน่ถ้าหากยังคงรั้งอยู่ที่นี่ ฟุ่บ!!
ลูกหมาสีดำเคลื่อนไหวเหมือนลำแสงสีดำมันกระโดดขึ้นไปบนร่างของราชาเสือดาวและกลืนกินแก่นอสูรของมันในคำเดียว
เจ้าลูกหมาสีดำตัวนี้ช่างหน้าไม่อายนักก่อนหน้านี้มันฉวยแก่นอสูรจากราชางูหลามโลหิตและครั้งนี้ก็ยังมาขโมยแก่นอสูรของราชาเสือดาวที่ฉิงเฟิงเป็นคนสังหารอีก ฉิงเฟิงอยากจะทุบตีมันอย่างมาก
เจตนามุ่งร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาของฉิงเฟิงเขายื่นมือขวาออกมาและพร้อมที่จะสอนบทเรียนให้กับเจ้าลูกหมาสีดำตัวนี้
เจ้าลูกหมาตัวนี้ช่างหน้าด้านไร้ยางอายนักมันเอาเปรียบเขามาหลายครั้งแล้ว ซึ่งสร้างความรำคาญให้เขาอย่างมาก
ลูกหมาสีดำสังเกตเห็นเจตนาในการฆ่าของฉิงเฟิงมันรีบกล่าวว่า สุสานจิตราชันเปี่ยมไปด้วยอันตราย ข้าสามารถพาพวกเจ้าเข้าไปได้อย่างปลอดภัยหากพลังของข้าพัฒนาขึ้นด้วยแก่นอสูรพวกนี้ ดังนั้น ถ้าข้าตายกลางทาง พวกเจ้าไม่มีวันได้สิ่งที่ต้องการหรอก
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงอยากจะทุบตีลูกหมาสีดำตัวนี้อย่างมากแต่เมื่อฉุกคิดก็เข้าใจว่ามันพูดความจริง เจ้าลูกหมาสารเลวตัวนี้จำเป็นต้องพัฒนาพลังของมันจริงๆ ดังนั้นฉิงเฟิงทำได้เพียงต้องยอมปล่อยมันไปจนกว่าจะเสร็จเรื่องที่สุสานจิตราชัน