ตอนที่ 1023 พบสัตว์อสูรตลอดทาง
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของงูเห่าสองหัวฉิงเฟิงก็เหวี่ยงหมัดทลายนรกานต์ที่รวบรวมแก่นพลังทั้งมวลไว้ในมือและทุบกระแทกเข้าใส่หางของมันอย่างโหดร้าย เกล็ดบนหางของมันปริแตกจนเผยให้เห็นเนื้อสีแดงสดและเลือดที่อยู่ภายใน เลือดของมันพุ่งกระฉูดออกมาจนระบายสีที่พื้นเป็นสีแดงโดยรอบ
ฮู่มฮู่ม !!
งูเห่าสองหัวปล่อยเสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดออกมาด้วยความประหลาดใจจากการโจมตีของฉิงเฟิงมนุษย์ที่อยู่เบื้องหน้ามันทรงพลังเกินไป !
งูเห่าสองหัวเปิดปากกว้างเผยให้เห็นฟันที่คมอย่างไม่น่าเชื่อ มันพุ่งเข้าหาฉิงเฟิงอย่างรุนแรงด้วยความพยายามที่จะกินเขา
หนึ่งดรรชนีแยกสรรพสิ่ง
!
ฉิงเฟิงใช้ออกด้วยวิชาดรรชนีผู้พิชิตโดยโคจรพลังทั้งมวลไปสู่นิ้วชี้และยิงลำแสงที่แหลมคมสายหนึ่งออกไปที่หัวของงูเห่าสองหัวจนหัวของมันขาดและตกลงบนพื้น
ปรากฏไข่มุกสีขาวขนาดเท่ากำปั้นหล่นออกมาจากร่างของงูเห่าสองหัวนี่เป็นแก่นอสูรของมันนั่นเอง และเนื่องจากงูเห่าสองหัวเป็นสัตว์อสูรประเภทธาตุน้ำ แก่นอสูรของมันจึงเป็นสีขาว
ฉิงเฟิงหยิบมันขึ้นมาในครั้งนี้เขาไม่ยอมให้เจ้าลูกหมาสีดำมากินตัดหน้า แต่เขามอบให้แก่ฮวาเซียนจือทันทีเพราะเธอบ่มเพาะพลังบนพื้นฐานของธาตุน้ำ แก่นอสูรนี้จึงเป็นอะไรที่เหมาะกับเธอที่สุด
เมื่อฉินเซียนจื่อได้เห็นฉิงเฟิงมอบแก่นอสูรให้แก่ฮวาเซียนจื่อใบหน้าของเธอก็ดูครุ่นคิด
ไม่ต้องห่วงครั้งหน้าผมจะมอบแก่นอสูรให้คุณเอง ฉิงเฟิงกล่าวปลอบโยนเธอ
ฉินเซียนจื่อพยักหน้าด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความสุข
ฉินเซียนจื่อเป็นบุตรสาวคนโตของตำหนักจักรพรรดิเพลิงส่วนฮวาเซียนจื่อเป็นนักบุญของตำหนักร้อยบุปผา แม้ว่ามองจากผิวเผินพวกเธอทั้งสองจะดูเป็นมิตรกัน แต่ลึกๆแล้วยังมีความตึงเครียดระหว่างพวกเธออยู่บ้างเพราะต่างก็ชอบพอหลี่ฉิงเฟิงเหมือนกัน
สีหน้าของลูกหมาสีดำดูป่วยๆมันหิวโหยต่อแก่นอสูรที่อยู่ตรงหน้า ที่จริงมันคิดจะแอบแย่งมากินเสียด้วยซ้ำแต่ติดตรงที่ว่าหลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเกินกว่าที่มันจะกล้าทำ
ฮวาเซียนจือโคจรกลีบดอกบัวภายในร่างกายของเธอเพื่อดูดซับแก่นอสูรธาตุน้ำในทันทีและเปลี่ยนมันให้เป็นพลังของตนเอง พลังของเธอเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากที่จบเรื่องงูเห่าสองหัวแล้วฉิงเฟิงก็พาพรรคพวกมุ่งหน้าต่อไปจุดหมายของพวกเขาอยู่ทางเหนือไปอีก 90 ไมล์
มีสัตว์อสูรมากมายในภูเขาคุนหลุนขณะที่เขาเดินทางไปอีกเพียง 30 ไมล์เขาก็ได้รับการต้อนรับจากสัตว์อสูรอีกตัวที่ทรงพลัง
มันเป็นอินทรีเงินขนาดยักษ์ที่มีความยาวมากกว่า40 เมตร ร่างของมันปกคลุมไปด้วยขนสีขาวและกรงเล็บอันแหลมของมันทำให้เกิดร่องรอยของบรรยากาศที่หนาวเย็นจนสร้างความตื่นตระหนกให้แก่สัตว์อสูรตัวอื่นๆ
เจ้าหนู,นี่คือราชาอินทรีเงิน สัตว์อสูรในขอบเขตจิตโลกาขั้นกลาง มันเร็วมากและสามารถโจมตีเจ้าได้ด้วยการดาบสายลม จงระวังความเร็วของมันให้มาก
เสียงของจักรพรรดิราตรีกล่าวเตือนฉิงเฟิงในใจ
ฉิงเฟิงพยักหน้ารับทราบเขารู้ว่าสัตว์อสูรประเภทนกนั้นเร็วที่สุดในบรรดาสัตว์อสูรทั้งหมด เขาต้องระวัง ไอ้ลูกหมาสารเลว! เดือนที่แล้วแกขโมยไข่อินทรีของข้า แกยังมีหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกหรือ ข้าจะกินเจ้า ราชาอินทรีเงินคำรามด้วยความโกรธเมื่อเห็นลูกหมาสีดำ
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ฉิงเฟิงก็จ้องเขม็งไปที่ลูกหมาสีดำและบ่นว่า ไอ้หมาโง่ แกทำเรื่องอะไรมากมายขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ก็ขโมยไข่ของงูเห่าสองหัว ตอนนี้โจทก์ใหม่ก็บอกว่าแกขโมยไข่ของมันไปอีก
ลูกหมาสีดำตระหนักถึงพลังของราชาอินทรีเงินมันกลัวมากจนซ่อนอยู่หลังฉิงเฟิง มันชี้ไปที่เขาและกล่าวว่า เดี๋ยวๆอย่าเข้าใจผิด เจ้ามนุษย์คนนี้ต่างหากที่บอกให้ข้าไปขโมยไข่ของเจ้า ฆ่ามันแทนเลย
ฉิงเฟิงรู้สึกโกรธมากลูกหมาไร้ยางอายตัวนี้โยนเผือกร้อนให้เขาอีกแล้ว
ปัง
!
ฉิงเฟิงเหยียดฝ่ามือออกไปและตบหัวลูกหมาสีดำจนกระเด็นไปกระแทกหินก้อนใหญ่ทันที
อย่าตีข้าซี่เกิดเจ้าหนักมือเกินไปจนข้าตาย แล้วใครจะพาเจ้าไปที่สุสานจิตราชันล่ะโว้ย ลูกหมาสีดำกล่าวพร้อมกับหดคออย่างรวดเร็ว
ลูกหมาสีดำไม่ค่อยกลัวอะไรแต่มันก็กลัวฉิงเฟิงมาก ชายหนุ่มคนนี้เป็นดั่งตัวซวยของมัน
ฉิงเฟิงจ้องหน้าลูกหมาสีดำและไม่ตบมันอีกเขาหันไปหาราชาอินทรีเงินและกล่าวว่า โทษทีนะ ถึงเจ้าลูกหมาตัวนี้จะตอแหลขี้ขโมย แต่มันก็ยังมีประโยชน์ต่อฉัน ฉันปล่อยให้แกทำอะไรมันไม่ได้หรอก
เจ้ามนุษย์ในเมื่อเจ้ากล้าขวางข้า งั้นข้าจะฆ่าเจ้าก่อน !
ราชาอินทรีเงินกล่าวอย่างเย็นชาดวงตาของมันเต็มไปด้วยเจตนาร้าย
ชู่ว! ราวกับสายฟ้าสีขาวราชาอินทรีเงินมาถึงหน้าฉิงเฟิงในพริบตา
เป็นความเร็วที่เหลือเชื่อมาก!
ฉิงเฟิงตกตะลึงกับความเร็วของราชาอินทรีเงินแม้ว่าเขาจะเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ไว้แล้ว แต่การได้เห็นความเร็วของมันด้วยตาตัวเองก็ยังทำให้เขาตกใจอย่างมาก
ฉิงเฟิงใช้ท่าร่างก้าวมังกรด้วยเท้าขวาอย่างรวดเร็วและหลบหนีจากการโจมตีของราชาอินทรีเงิน
ถึงแม้ว่ากรงเล็บอันแหลมคมของมันจะไม่โดนตัวฉิงเฟิงแต่กระแสลมจากการโจมตีก็ยังทำให้เขาผมเผ้ายุ่งเหยิง โชคดีที่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งและรวดเร็วพอที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีได้ หากเป็นคนอื่นพวกเขาจะต้องถูกกรงเล็บของราชาอินทรีเงินสังหารในครั้งเดียวเป็นแน่
หมัดทลายนรกานต์ !
ฉิงเฟิงคำรามเสียงต่ำเขาโคจรพลังไปที่หมัดขวาและเปลี่ยนมันเป็นมายาของขุนเขาตรงเข้าใส่ราชาอินทรีเงิน
ราชาอินทรีเงินจ้องมองด้วยความดูถูกด้วยการสะบัดปีกสีเงินของมัน มันก็ลอยขึ้นฟ้าหลบหมัดอันเกรี้ยวกราดของฉิงเฟิงได้อย่างง่ายดาย
บัดซบทำไมมันเร็วนักวะ ! ฉิงเฟิงสบถออกมา เขาขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกหงุดหงิดอย่างยิ่ง
เพลงหมัดทลายนรกานต์ของเขาไม่เคยล้มเหลวในการต่อสู้กับสัตว์อสูรมาก่อนเขารู้สึกเซอร์ไพรส์มากจากความจริงที่ว่าราชาอินทรีเงินหลบหมัดระยะเผาขนของเขาได้
ฉิงเฟิงหยุดใช้วิชาหมัดและตัดสินใจใช้วิชากระบี่แทน
วูบ! ด้วยการพุ่งตัวอย่างกะทันหันราชาอินทรีเงินพุ่งเข้าไปโจมตีฉิงเฟิงอีกครั้ง มันเร็วพอๆ กับฟ้าผ่าและทิ้งภาพติดตาเอาไว้เบื้องหลัง
เคร้ง!
ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาเขาปลดปล่อยเจตน์กระบี่แห่งไฟอันเกรี้ยวกราดออกมาและดักจับราชาอินทรีเงินอย่างทันท่วงที
เมื่อสัมผัสได้ถึงเปลวไฟอันร้อนระอุจากเจตน์กระบี่แววตาของราชาอินทรีเงินก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก มันคิดจะหลบหนีอีกครั้ง แต่มันสายเกินไปแล้ว
ฉัวะ!
ในชั่วพริบตาฉิงเฟิงสะบัดกระบี่ตัดหัวของมันในทันทีหัวของมันหล่นลงบนพื้นและกลิ้งกระเด็นไปไกลจนเลือดสาดไปทั่ว
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรขอบเขตจิตโลกาขั้นกลางและมีพลังรวมถึงความเร็วที่เหนือกว่าฉิงเฟิง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขาที่บรรลุเจตน์กระบี่แล้ว มันไม่นับเป็นอันใด
เจตน์กระบี่ย่อมเป็นอำนาจที่สะกดข่มได้อย่างแน่นอน
เมื่อได้เห็นการตายของราชาอินทรีเงินเหล่าสัตว์อสูรชั้นล่างที่ล้อมรอบทั้งหมดต่างก็กระจัดกระจายวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด พวกมันทั้งหมดเป็นลูกน้องของราชาอินทรีเงิน ในเมื่อตอนนี้หัวหน้าของพวกมันตายไปแล้ว พวกมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องวิ่งหนี
ในสายตาของสัตว์อสูรชั้นล่างเหล่านี้หลี่ฉิงเฟิงเป็นดั่งปีศาจร้าย เขายิ่งน่ากลัวกว่าราชาอินทรีเงิน
ฉิงเฟิงกุมกระบี่เพลิงคะนองและเดินไปหาราชาอินทรีเงินเขาผ่าท้องของมันออกมาและพบไข่มุกสีเขียวอยู่ข้างใน ไข่มุกสีเขียวก้อนนี้เป็นแก่นอสูรของราชาอินทรีเงิน
ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับมันจริงๆที่ตกตายก่อนจะมีโอกาสได้ใช้พลังจากแก่นอสูรก้อนนี้ มันมีขนาดเท่ากำปั้นซึ่งใหญ่กว่าปกติเล็กน้อยมันส่องแสงสีเขียวและเมื่อมองอย่างใกล้ชิดจะเห็นถึงกระแสไฟที่เปล่งประกายอยู่ภายในนั้น มันเป็นแก่นอสูรธาตุลม