ตอนที่ 1025 แหวนลึกลับ
จ้าวเทียนเจียน,เฒ่าอสูรโลหิตและราชาอสูรมีดวายุต่างมุ่งหน้าเข้าไปในเจดีย์สีน้ำเงิน เจดีย์นี้มีทั้งหมดสามชั้น โดยสามัญสำนึกแล้ว สมบัติล้ำค่าที่สุดมักจะอยู่นั้นสูงสุดซึ่งก็คือชั้นสาม ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งตรงไปที่ชั้นสามอย่างมิได้นัดหมาย
จากนั้นเหล่าผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์จ้าวอี้เจียน เฮยซุน เซวี่ยหยาน เซี่ยตงและคนอื่นๆต่างก็กรูกันเข้าไปในเจดีย์สีน้ำเงินอย่างรวดเร็วเพื่อแสวงโชคและยึดสมบัติภายในนั้น
แต่หลี่ฉิงเฟิงเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้เข้าไปข้างในกลับกัน เขาเดินไปหยุดที่ตรงหน้าเจดีย์สีน้ำเงิน มีรูปปั้นสีขาวอยู่รูปหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นรูปปั้นเสมือนของเจ้าของสุสานแห่งนี้
ผู้อาวุโส,ผู้เยาว์จำเป็นต้องล่วงล้ำเข้าไปในสุสานของท่านโดยมิได้รับอนุญาต ผู้น้อยต้องการอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันเพื่อช่วย
ตอนที่ 1025 แหวนลึกลับ
จ้าวเทียนเจียน,เฒ่าอสูรโลหิตและราชาอสูรมีดวายุต่างมุ่งหน้าเข้าไปในเจดีย์สีน้ำเงิน เจดีย์นี้มีทั้งหมดสามชั้น โดยสามัญสำนึกแล้ว สมบัติล้ำค่าที่สุดมักจะอยู่นั้นสูงสุดซึ่งก็คือชั้นสาม ดังนั้นพวกเขาจึงมุ่งตรงไปที่ชั้นสามอย่างมิได้นัดหมาย
จากนั้นเหล่าผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์จ้าวอี้เจียน เฮยซุน เซวี่ยหยาน เซี่ยตงและคนอื่นๆต่างก็กรูกันเข้าไปในเจดีย์สีน้ำเงินอย่างรวดเร็วเพื่อแสวงโชคและยึดสมบัติภายในนั้น
แต่หลี่ฉิงเฟิงเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้เข้าไปข้างในกลับกัน เขาเดินไปหยุดที่ตรงหน้าเจดีย์สีน้ำเงิน มีรูปปั้นสีขาวอยู่รูปหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นรูปปั้นเสมือนของเจ้าของสุสานแห่งนี้
ผู้อาวุโส,ผู้เยาว์จำเป็นต้องล่วงล้ำเข้าไปในสุสานของท่านโดยมิได้รับอนุญาต ผู้น้อยต้องการอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันเพื่อช่วยชีวิตพ่อของผู้น้อยออกมา หากการกระทำใดๆเป็นการรบกวนการนอนหลับของท่านก็โปรดยกโทษให้ด้วย
ฉิงเฟิงคุกเข่าลงและกล่าวกับรูปปั้นหน้าเจดีย์
คนเราต้องเคารพผู้ล่วงลับถึงแม้ว่าราชันวิญญาณจะตายไปแล้ว แต่ฉิงเฟิงก็รู้สึกไม่ดีสำหรับการบุกรุกเข้าไปในสุสานของเขา ดังนั้นจึงแสดงความเคารพออกมา
ปึง!
หลังจากฉิงเฟิงคุกเข่าคำนับปรากฏแหวนสีดำหลุดออกมาจากรูปปั้นและหล่นลงต่อหน้าฉิงเฟิงโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
แหวนสีดำอะไรนี่
ฉิงเฟิงจ้องมองอย่างโง่งมถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ถ้ามันหลุดออกมาจากรูปปั้นราชันวิญญาณ มันย่อมเป็นสมบัติล้ำค่า เขาหยิบมันขึ้นมาและเก็บมันไว้ในกระเป๋าของเขา เข้าไปข้างในเจดีย์กันเถอะ ฉิงเฟิงโบกมือให้พรรคพวกและนำหน้าพวกเขาเข้าสู่เจดีย์สีน้ำเงินสุสานของราชันวิญญาณ
เพียงเข้าสู่เจดีย์สีน้ำเงินได้ไม่กี่ก้าวใบหน้าของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกกดดันด้วยความประหลาดใจ เจดีย์สีน้ำเงินนี้มีพลังลึกลับบางอย่างซึ่งทำให้การเดินเหินภายในนี้ดูยากลำบากกว่าภายนอก
เมื่อมองจากด้านนอกเจดีย์สีน้ำเงินมีเพียงแค่สามชั้นเท่านั้นและไม่ใหญ่มากกระนั้นเมื่อพวกเขาก้าวเข้าไปข้างใน พื้นที่กลับใหญ่โต มันเป็นพื้นที่ๆกว้างใหญ่มาก
โอ้มีโอสถระดับโลกาด้วย ฉิงเฟิงอุทานด้วยความยินดี ที่มุมหนึ่งของภายในเจดีย์สีน้ำเงินแห่งนี้มีขวดใบหนึ่งที่บรรจุโอสถระดับโลกาเอาไว้ มันคือเม็ดยาจิตโลกา
เม็ดยาจิตโลกาบรรจุไว้ด้วยพลังแท้มากมาย
ฟุ่บ! จ้าวอี้เจียนแห่งนิกายกระบี่สวรรค์ขยับตัวอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า เขามาถึงเบื้องหน้าเม็ดยาในพริบตาและเตรียมจะคว้ามัน
อย่าแม้แต่จะคิด!
ฉิงเฟิงชักกระบี่เพลิงคะนองออกมาและฟาดฟันออกไปเข้าหาจ้าวอี้เจียนเขาก็ต้องการเม็ดยาจิตโลกาเม็ดนี้เช่นกันและไม่ต้องการให้อีกฝ่ายตัดหน้าไป
เคร้ง!
จ้าวอี้เจียนดึงกระบี่น้ำแข็งของเขาออกมาต้านรับและปะทะกับกระบี่ของฉิงเฟิงจนก่อให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นพลังของทั้งสองคนแพร่กระจายไปทั่ว พลังกระบี่พุ่งออกไปทุกทิศทุกทางและทะลุผ่านท้องยามปลดปล่อยออกมา
จ้าวอี้เจียนไม่ได้ขยับแม้แต่นิ้วเดียวแต่ฉิงเฟิงต้องผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าว
จ้าวอี้เจียนสมแล้วที่เป็นที่หนึ่งในยอดฝีมือรุ่นเยาว์ขอบเขตจิตโลกาอีกทั้งยังเป็นอัจฉริยะในเชิงกระบี่อันดับหนึ่ง พลังของเขาแข็งแกร่งจนแม้กระทั่งฉิงเฟิงก็ต้องถอยไปก้าวหนึ่ง
ม่านแสงวิญญาณน้ำแข็ง
!
จ้าวอี้เจียนปลดปล่อยรังสีของม่านแสงวิญญาณออกมามันเป็นม่านแสงวิญญาณประเภทน้ำแข็ง เขาต้องขังฉิงเฟิงไว้ภายในนั้นด้วยความหนาวเหน็บเสียดกระดูก
ม่านแสงวิญญาณเพลิงนรก
!
เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ปล่อยม่านแสงวิญญาณออกมาฉิงเฟิงก็ใช้ม่านแสงวิญญาณประเภทไฟออกมาด้วยเช่นกัน
พลังแท้ในรูปแบบของไฟรวมตัวกันเป็นม่านแสงกว้างห้าสิบฟุตที่บรรจุไปด้วยเปลวเพลิงที่แผดเผา
พลังงานสองสายที่ตรงข้ามกันม่านแสงวิญญาณปะทะเข้าหากันและกันน้ำแข็งและเปลวไฟกระทบกันอย่างรุนแรง
ในอากาศกระแสของธาตุทั้งสองชนกันหนึ่งขาวหนึ่งแดงจนเกิดความว่างเปล่าสีดำที่ตรงกลาง
ฉิงเฟิงเซถอยหลังไปยังทิศทางที่เม็ดยาจิตโลกาวางอยู่เขาเอื้อมมือออกไปคว้าหยิบขวดยาด้วยความรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาดจนได้มันมาในที่สุด
บัดซบ! หลี่ฉิงเฟิง จงมอบเม็ดยาจิตโลกามาเดี๋ยวนี้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า
จ้าวอี้เจียนคำรามด้วยใบหน้าเย็นชา
ฉิงเฟิงส่ายหัวด้วยความรังเกียจเม็ดยาจิตโลกาเม็ดนี้เป็นโอสถวิญญาณล้ำค่าที่สามารถช่วยให้ยอดฝีมือระดับจิตโลกาเพิ่มพลังแท้สูงขึ้นได้อีก เขาไม่มีทางยอมมอบมันแน่
เพลงกระบี่น้ำแข็ง
!
เมื่อได้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมจ้าวอี้เจียนคำรามออกมาและวาดกระบี่ในมือเป็นมายาน้ำแข็งยักษ์ มายาที่สำแดงออกมานี้มีขนาดใหญ่ถึงห้าสิบฟุต มันกดทับลงไปยังฉิงเฟิงที่อยู่ข้างใต้
ควบแน่นเพลิงภูเขาไฟ
!
ฉิงเฟิงใช้ออกด้วยเคล็ดกระบวนท่าแรกของวิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟก่อให้เกิดมายาภูเขาไฟส่งเสียงระเบิดและปะทะเข้ากับน้ำแข็งยักษ์ ฉิงเฟิงผงะถอยไปหนึ่งก้าวและหน้าถอดสีเล็กน้อยวิชากระบี่ของจ้าวอี้เจียนทรงพลังกว่าของเขา ชายคนนี้ไม่อาจมองข้ามได้แม้ตแน้อย
แต่แน่นอนว่าฉิงเฟิงยังมีไพ่ตายที่ยังไม่ได้ใช้อีกมากมายเช่นเจตน์กระบี่ แต่เขาไม่ได้วางแผนที่จะใช้มัน
พูดตามตรงฉิงเฟิงไม่เต็มใจใช้เจตน์กระบี่ยกเว้นอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นจริงๆ เนื่องจากจ้าวอี้เจียนเป็นอัจฉริยะเชิงกระบี่ เขาต้องการปะทะกับชายผู้นี้ตรงไปตรงมาเพื่อฝึกฝนขัดเกลาเคล็ดวิชากระบี่ของเขาเอง
วิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟของฉิงเฟิงมีสี่กระบวนท่าแต่เขาบรรลุเพียงแค่สามกระบวนท่าเท่านั้น ยังขาดอีกหนึ่งท่า ดังนั้นความคิดตอนนี้ของเขาคาดเดาได้ง่ายมาก เขาต้องการเข้าถึงกระบวนท่าที่สี่ในการต่อสู้กับจ้าวอี้เจียนนั่นเอง
เคร้งเคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง …
กระบี่ของฉิงเฟิงและจ้าวอี้เจียนปะทะกันหลายสิบครั้งและทำให้เกิดเสียงระเบิดพลังกระบี่ที่รุนแรงกระจัดกระจายไปทุกทิศทางทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งและสร้างความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอย่างมาก
ถึงแม้ว่าฉิงเฟิงจะเอาแต่ถอยต่อเนื่องจากการปะทะกับจ้าวอี้เจียนแต่สีหน้าและแววตาของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย นี่เป็นเพราะเขาพยายามเข้าถึงกระบวนท่าและเคล็ดวิชาของคู่ต่อสู้
แม้นว่าน้ำแข็งและไฟจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันแต่ฉิงเฟิงก็ได้ใช้หลักการตรงกันข้ามนี้เพื่อเข้าถึงเคล็ดวิชาได้ไม่น้อย
ฉิงเฟิงเริ่มตระหนักได้ถึงบางสิ่งเขาค่อยๆเข้าใจกระบวนท่าที่สี่ของวิชากระบี่เพลิงภูเขาไฟแล้ว มันคือ [การระเหิดของภูเขาไฟ] และเป็นกระบวนท่าสุดท้ายที่ทรงพลังที่สุดของวิชากระบี่ชุดนี้ มันสามารถระเหยวัตถุใดๆได้อย่างคาดไม่ถึง
ก่อรูปพลังกระบี่ !,
อินทรีน้ำแข็งผสาน
!
จ้าวอี้เจียนร่ำร้องออกมาและใช้วิชากระบี่อินทรีน้ำแข็งพลังงานกระบี่ของเขาควบแน่นกลายเป็นนกอินทรีน้ำแข็งขนาดมหึมาใหญ่ถึงสี่สิบฟุต มันกางกรงเล็บน้ำแข็งที่แหลมคมและพุ่งไปที่ฉิงเฟิง
เพลิงภูเขาไฟระเหย
!
ฉิงเฟิงใช้กระบวนท่าที่สี่ที่เขาเพิ่งจะบรรลุได้ในทันทีพลังกระบี่ของเขาควบแน่นกลายเป็นภูเขาไฟสีขาว
โดยปกติแล้วภูเขาไฟจะเป็นสีแดงแต่มายาภูเขาไฟของกระบวนท่าที่ที่ฉิงเฟิงก่อรูปขึ้นมานี้กลับกลายเป็นสีขาวและแข็งแกร่งกว่า เช่นเดียวกับเปลวเพลิงซึ่งมีทั้งสีแดงและสีขาวเปลวเพลิงสีขาวนั้นน่ากลัวและมีอุณหภูมิสูงกว่าอย่างเทียบกันไม่ติด !
ตูม
!!
มายาภูเขาไฟสีขาวพุ่งเข้าใส่มายานกอินทรีน้ำแข็งที่หอบเอาความเย็นยะเยือกเสียดกระดูกสิ่งที่เกิดขึ้นคือเปลวเพลิงภูเขาไฟสีขาวกลับหลอมละลายเจตน์กระบี่ที่ก่อรูปเป็นอินทรีน้ำแข็งอย่างไม่เหลือซาก มันระเหยเป็นไอในอากาศโดยไร้ซึ่งร่องรอย
ตึง!
จ้าวอี้เจียนก้าวถอยหลังไปใบหน้าของเขาซีดลงเนื่องจากเจตน์กระบี่อินทรีน้ำแข็งของเขาพ่ายให้กับฉิงเฟิง
เหลือเชื่อหลี่ฉิงเฟิงจู่ๆก็แข็งแกร่งมาก ! ข้าไม่คิดว่าเขาจะบีบให้จ้าวอี้เจียนต้องถอยหลังได้
ถูกต้องจ้าวอี้เจียนเป็นอันดับหนึ่งในผู้ฝึกตนขอบเขตจิตโลกาของรุ่นเยาว์ คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแพ้ในการปะทะกับหลี่ฉิงเฟิง
หลี่ฉิงเฟิงแข็งแกร่งเหลือเกินวิชากระบี่ของเขาก็ทรงพลังมาก !
เหล่าผู้ชมรอบๆต่างก็พูดคุยกันด้วยความตระหนกแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ