บทที่ 254 – เหนือดินแดนน้ําแข็ง (5)
ฉันได้มอบตรวจสอบเธอละเอียดยิ่งขึ้นทั้งๆที่สับสน ผมยาวสีม่วงอ่อนของเธอดูจะกลืนไปกลับความมืดรอบๆและก็ยังรวมถึงผิวซีดขาวของเธออีก ดวงตาของเธอก็ยังมีสีม่วงอ่อนเหมือนกับผมของเธอและราวกับดูดแสงทั้งหมดเข้าไป ไม่เพียงแค่ขนาดตัวของเธอที่เล็กเท่านั้นแต่ตาของเธอ ริมฝีปากของเธอและหูของเธอต่างก็เล็กหมด ทุกๆคนที่มองไปที่เธอก็คงจะคิดแบบเดียวกันว่าเธออายุเพียงแค่สิบปีเท่านั้นเอง
อ่า เธอก็ยังไม่ได้ใส่เสื้อใดๆเลยอีกด้วย
” ชิน ชินมีอะไรจะพูดก่อนที่ฉันจะควักตาชินไหม”
“ฉันไม่รู้เรื่องนะ ฉันถูกกล่าวหา ถ้าหากว่าเธอจะหาคนผิดเธอก็ต้องไปคุยกับเด็กที่ทําแบบนั้น
“ในบางครั้งการที่อยู่ในบางที่ก็ถือเป็นความผิดแล้วนะ ถ้าหากว่าในรู้ว่าเธอเปลือยอยู่ชินก็ควรจะหันไปสิ”
“ฉันคิดว่าเธอจะโตกว่านี้เพราะเสียงของเธอดูเป็นผู้ใหญ่ ฉันรู้สึกตกใจว่าเธอเป็นเด็กเลยมองสํารวจเธอนะ ฉันรู้ว่านี้มันเป็นความผิดของฉัน แต่ว่าการควักลูกตาฉันออกมามันออกจะเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินไปแล้วนะ”
ในตอนที่ฉันตอบกลับไปอย่างสงบและป้องกันนิ้วของโรเล็ตต้าอย่างหมดท่า เชอริฟิน่าได้มองดูเราเงียบๆ ไปใส่อะไรสักหน่อยเถอะ ขอร้องล่ะ
“ลอร์ด ใส่อะไรสักหน่อยสิ”
“นั่นมันเป็นปัญหาสินะ ฉันขอโทษ ฉันแทบไม่เคยคุยกับคนอื่นๆเลย”
เธอได้ขอโทษโรเล็ตต้าและดีดนิ้วออกมา เธอได้เปลี่ยนมาใส่ชุดเดรสสีดําในทันที ฉันได้ดันนิ้วของโรเล็ตต้าออกไปและถอนหายใจอย่างโล่งอก ในเวลาเดียวกันฉันก็อดที่จะคิดกับตัวเองไม่ได้ว่าเธอใส่อะไรอยู่ข้างใต้? อะแฮ่ม
” ตอนนี้ฉันก็ใส่เสื้อล่ะนะ มันไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องควักลูกตาเขาออกแล้วสินะ”
“ฟู่…เธอตั้งใจทําแบบนี้ใช่ไหม”
“โรเล็ตต้าเธอก็น่าจะรู้ดีที่สุดนะว่าฉันไม่ได้ใส่เสื้อเป็นปกติ”
“อืมม.. ฉันมาถามเธอก่อนนะ เธอรู้ใช่ไหมว่าทําไมเราถึงอยู่ที่นี่”
“ใช่ มันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกถูกไหม”
เชอริฟิน่าได้หยักหน้าช้าๆและพูดต่อ
“โลกกําลังอยู่ในสถานะป้องกันศัตรูที่บุกรุกอย่างสมบูรณ์ ถ้าคุณยังคงพัฒนาต่อไปมันก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะหยุดศัตรูของโลกได้ก่อนที่มนุษยชาติจะต้องหลั่งเลือด”
“ฉันรู้แล้วล่ะ แต่ว่า…”
“ยังไงก็ตามพวกเขานั้นก็ตระหนักได้ว่าคุณนั้นทรงพลัง”
เชอริฟิน่าได้มองมาที่ฉัน เมื่อมองเข้าไปในนัยตาที่ทรงเสน่ห์สีม่วงอ่อนของเธอมันทําให้ฉันรู้สึกเข้าใจได้ว่าทําไมโรเล็ตต้าถึงได้ทดสอบฉันก่อนหน้านี้ โรเล็ตต้าได้พูดฉันออกมา
“ถ้าหากลอร์ดล่อลวงชินล่ะก็ฉันจะฆ่าแม้กระทั่งลอร์ดแน่นอน”
“ฉันไม่ได้มีเจต
“ฉันไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น นอกไปจากนี้ความรักไม่ใช่เรื่องดีสําหรับผู้ดูแลโรเล็ตต้า ฉันได้บอกเธอเรื่องนี้หลายครั้งแล้วนะแต่เธอก็ไม่เคยฟังฉันสักที”
“ถ้าลอร์ดไปพูดเรื่องนี้กับคนอื่น ฉันก็จะฆ่าลอร์ด”
“ความรักมันสร้างปัญหาให้ทั้งเธอและคนที่เธอรัก ความคาดหวังของเธอมันสูงเกินไป”
โรเล็ตต้าได้หยิบเอาขวานของเธออกมา
“ฉันก็ฆ่าจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้ซะ”
“โรเล็ตต้า ขอร้องล่ะ”
“แต่ว่าผู้หญิงคนนี้มัน..! ชินเป็นความคาดหวังที่สูงเกินไปของฉันงั้นหรอ ฉันเอาแต่ใจไปหรอ”
“มันไม่ใช่แบบนั้นซักนิด ดังนั้นเก็บขวานลงไปก่อนที่ฉันจะรู้สึกแบบนั้นซะ แล้วก็เธอเก็บขวานไว้ไหนกันถึงเอามันออกมาได้ตลอดเวลาแบบนี้”
หลังจากฉันได้หยุดยั้งวิกฤตครั้งที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ดันเจี้ยนก่อตั้งมาแล้วเชอริฟน่าก็พูดออกมาอย่างหน่ายใจ
“การเร่งความเร็วของการบุกรุกมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการจะทําเพราะว่ามันใช้มานาที่สูง….”
” เธอพูดเหมือนมันกําลังเป็นไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหรอ”
” แทนที่พวกนั้นจะประสบความสําเร็จในการบุกรุก พวกเขากลับต้องสูญเสียดินแดนที่พวกนั้นได้รับไปแทน เพื่อตอบสนองสิ่งเหล่านี้พวกนั้นก็จะต้องเสียสละกองกําลังของพวกเขาบางส่วน เพื่อที่จะฝืนบังคับทางผ่าน”
ฉันได้ล้มเลิกการเถียงและฟังเธอต่อไป
” ตามปกติแล้วฉันจะแบ่งพลังของฉันออกไปอย่างเท่าเทียมกันในทุกๆโลก ผู้ดูแลดันเจี้ยน ผู้ดูแลนักสํารวจ และการแทรกแซงการบุกรุกของศัตรู”
“ใช่ ใช่”
“เพราะเหตุการณ์ล่าสุดที่ชิปัวได้หนีไปอ่าถึงแบบนั้นในเรื่องนี้เราก็จะต้องขอบคุณคุณที่ ทําให้เราสามารรถป้องกันดันเจี้ยนเอาไว้ได้ ถ้าว่าแม้แต่เราสูญเสียแค่หนีดันเจี้ยนก็จะต้องเผชิญกับปัญหาหนักแน่ๆ”
” ช่วยอธิบายต่อไปด้วยลอร์ด”
โรเล็ตต้าได้พูดออกมาอย่างรําคาญ เชอริฟิน่าได้หยักหน้ารับและพูดต่อ
” เพราะเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นจากการที่ซิปัวหนีไปทําให้ดันเจี้ยนหยุดตัวลง สายตาของฉันก็ยังถูกจํากัดลงไปด้วย ซิปัวได้กลับมายังตําแหน่งของเธอแล้ว แต่ว่าก่อนที่พลังของฉันจะกลับมาครบถ้วน การบุกรุกครั้งที่สามของศัตรูก็ได้เริ่มขึ้น พวกเราอยู่ในจุดที่จัดการไม่ทันเวลา”
“ถ้างั้นทฤษฎีของฉันก็ถูกต้องสินะลอร์ด”
“ใช่แล้ว ดันเจี้ยนก่อตัวได้ไม่สมบูรณ์ นอกไปจากนี้เพราะว่าฉันได้เร่งเปิดใช้งานพลังของฉัน ทําให้ฉันไม่ได้สังเกตุว่าพวกนั้นได้มารวมตัวอยู่ในจุดๆเดียวกัน เนื่องจากว่าฉันไม่ได้สังเกตุว่าเหตุการ์ดันเจี้ยนได้หายไปและศัตรูได้มารวมกันเป็นกองทัพ คุณสามารถจะบอกได้เลยว่าพวกนั้นได้ ต้มฉันซะแล้ว แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็หมายความว่าพวกนั้นก็ยังมีพลังที่จะป้องกันฉันไม่ให้รู้ตัวว่าเหตุการณ์ดันเจี้ยนหายไป”
“มันเป็นไปไม่ได้”
“ศัตรูของเรามีทั้งพลังที่หลากหลายและน่ากลัว โรเล็ตต้าสิ่งที่เราคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้มัก จะย้อนกลับมาทําร้ายเราเองเสมอ”
ลอร์ดได้พูดออกมาอย่างใจเย็นๆ
“จําเรื่องนี้เอาไว้ อาจจะมีใครสักคนที่อยู่ท่ามกลางพวกนั้นสามารถจะเข้าใจในพลังของฉันได้ และเพิกเฉยพลังเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์”
“มันจะใช่เดม่อนลอร์ดไหม”
“ฉันไม่คิดว่าเป็นแบบนั้นนะ ในตอนที่นักสํารวจคนสุดท้ายออกมาจากทวีปลูก้า เขาคนนั้นไม่ได้มีพลังแบบนี้ มันจะต้องเป็นปีศาจที่เกิดขึ้นมาใหม่หลังจากที่เดม่อนลอร์ดได้รับพลังของโลก”
แม้ว่าเธอจะพูดด้วยเสียงที่จริงจัง แต่ฉันก็ไม่สามารถจะตั้งสมาธิกับคําพูดของเธอได้เพราะรูปลักษณ์ของเธอ ฉันได้ตบแก้มตัวเองเพื่อเรียกสติกลับมาและถามเธอ
“แล้วก็อาจจะมีแบบนั้นมากกว่าหนึ่งด้วยสินะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันวางแผนที่จะทําทุกอย่างเท่าที่จะทําได้แล้ว แต่ว่าสิ่งที่ดันเจี้ยนทําให้คุณได้ก็มีแต่จะยิ่งน้อยลง”
ลอร์ด เธอนี้ไร้ความผิดชอบเกินไปแล้วนะ”
“ฉันคาดหวังกับคุณเอาไว้มากนะ”
เธอได้ทําเป็นไม่ได้ยินเสียงของโรเล็ตต้าและมองตรงมาที่ฉัน
” คุณอาจจะไม่รู้ แต่ว่าคุณเป็นนักสํารวจที่ปืนดันเจี้ยนได้เร็วที่สุดเท่าที่ดันเจี้ยนเคยมีตัวตนมาแล้ว การโซโล่ดันเจี้ยนคือสิ่งที่คุณคิดว่าธรรมดาและง่ายมันไม่ใช่แม้แต่สิ่งที่นักสํารวจ 1% จะทําได้เลย ความสามารถในการปืนสองชั้นในวันเดียวก็ยังน้อยยิ่งกว่า 1% ของ 19% อีกที่ทํากันได้ สําหรับความเร็วในการปืนบียอนของคุณฉันยิ่งไม่มีอะไรจะพูดคุณทั้งแข็งแกร่งและมีความคิดที่กล้าหาญพร้อมทั้งโชคที่สนับสนุนคุณเป็นอย่างมากแม้แต่ฉันยังยากที่จะเชื่อเลย ความสนใจและความปรารถนาดีต่อคุณจากเทพนั้นก็แทบจะเป็นครั้งแรกเลยนับตั้งแต่ที่จักรวาลได้เริ่มต้นขึ้น”
“เอะเฮะ เธอกําลังทําให้ฉันอายนะ”
” ทําไมคุณต้องอายด้วยล่ะโรเล็ตต้า”
เธอได้งงกับท่าทางของโรเล็ตต้า จากนั้นก็หันกลับมาหาฉันอีกครั้ง
“ยังไงก็ตามยิ่งความสําเร็จของคุณมากเท่าไหร่มันยิ่งทําให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ ฉันเกลียดคําว่า โชคชะตา” ที่สุด แต่ว่าเมื่อดูจากพรสวรรค์และโชคของคุณ ฉันอดที่จะคิดไม่ได้ว่าช่วงเวลาที่ต้องการพลังแบบนี้จะมาถึงแล้ว
“ลอร์ด”
โรเล็ตต้าได้มองไปที่เชอริฟิน่าด้วยใบหนาที่ตกใจมากๆ เมื่อเห็นอาการกังวลที่อยู่บใบหน้าเล็กๆของเธอ โรเล็ตต้าก็ได้ถามออกมา
“ไม่สบายใจ..? ทําไมล่ะ? ลอร์ดได้เห็นและได้ประสบกับโลกที่ล่มสลายมานับไม่ถ้วนและคุณรู้สึกไม่สบายใจในอันตรายของโลกชินหรอ”
“ลองคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกที่เป็นอยู่สิโรเล็ตต้า”
ฉันสามารถจะเข้าใจในคววามไม่สบายใจที่เชอริฟิน่ารู้สึกได้ โรเล็ตต้าก็ดูจะเข้าใจได้ถึงบางสิ่งทําให้เธอเงียบลงไป
“ผู้นําของศัตรูที่มีพลังในการเพิกเฉยพลังของดันเจี้ยน นั่นมันเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทําให้พวกเขากลายเป็นผู้นํา มันรู้ได้ชัดเจนว่าดันเจี้ยนนั้นเป็นผู้คุ้มกันและผู้นําการโจมตีนี้ได้เกิดขึ้นมาเพื่อเอาชนะผู้คุ้มกัน”
“เป็นแบบนั้นงั้นหรอ”
“แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันก็ไม่ได้ออกมาในภาพแบบนั้นเหมือนกัน เดม่อนลอร์ดที่เปิดทางผ่านโลกอื่นหลังจากที่ดูดพลังของโลกมาาและความจริงที่ว่าคือทางผ่านนั้นนําทางมาสู่โลก ทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถเมินเฉยได้ มันก็เหมือนๆกันกับหัวหน้าของเหล่ามอนสเตอร์แต่ว่าฉัน ก็ยังคงไม่รู้ว่าตัวตนของเขาคนนั้นเป็นแบบนั้น แต่ถ้าคุณป้องกันโลกไม่สําเร็จและพวกเขานั้นชนะ คุณคิดว่าพวกนั้นจะหยุดไหม”
ทั้งโรเล็ตต้าและฉันต่างก็พูดไม่ออก ฉันไม่อยากจะจินตนาการในตอนที่โลกถึงจุดจบเลย แต่ว่าถ้าผู้ที่บุกโลกได้เริ่มเอื้อมไปโลกอื่นๆต่อ แล้วมันจะมีกี่คนกันที่จะสามารถป้องกันตัวเองได้อีก ลอร์ดได้ขัดความเงียบขจองเราด้วยความพูดต่อออกมาอย่างโหดเหี้ยม
“อันตรายที่โลกกําลังเผชิญอยู่นี้ร้ายแรงมาก คุณจะต้องหยุดพวกเขา ถ้าหากว่าคุณให้พวกนั้นมาลงตั้งหลักได้ พวกเราก็ไม่รู้แล้วว่าพวกนั้นจะทําอะไรต่อไป พวกนั้นจะต้องถูกขับไล่ออกไป นอกจากนี้คุณจะต้องแกร่งขึ้น”
” แน่นอน”
” คุณมาถูกทางแล้ว พัฒนาต่อไป ปืนดันเจี้ยนแต่ว่าอย่าได้ถูกมันครอบงํา แค่ทําเหมือนกับที่คุณทําในตอนนี้พัฒนาพลังที่ไม่มีทางได้จากดันเจี้ยนต่อไป นอกจากนี้…”
ฉันรู้สึกเหมือนกับไม่อยากจะฟังเรื่องต่อไป เพียงแค่ในตอนที่ฉันกําลังจะปิดหูตามสัญชาตญาณลอร์ดก็ได้ประกาศออกมา
“คุณจะต้องเปิดอกยอมรับมนุษย์ที่มีชื่อว่าเคียร่า คีเน็กซ์”
“ฉันอยากจะตาย…”
เธอได้พูดต่อไปราวกับรู้อยู่แล้วว่าฉันจะตอบสนองแบบนี้
” เธอก็คือคนที่ได้รับพลังของโลกเหมือนกับคุณ ถ้าหากว่าคุณคือฮีโร่ เธอก็คือนักบุญ พวกคุณทั้งสองคนคือตัวตนที่โลกขาดไปไม่ได้ เมื่อดูจากสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันแล้วฉัน ถึงได้เข้าใจว่าทําไมถึงเธอต้องมีตัวตนอยู่ คุณจะเป็นจะต้องมีคนที่คอยอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรู คุณต้องใช้เธอผู้ที่เกิดมาพร้อมกับพลังที่ดันเจี้ยนให้ไม่ได้”
“ขอร้องล่ะ… อ่าาา ถ้าเธอพูดแบบนั้น…”
ฉันอยากจะปฏิเสธเธอออกไปตรงๆ แต่ว่าฉันก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง ฉันไม่ชอบเธอเลย ฉันไม่ชอบนิสัยของเธอและฉันไม่ชอบเธอที่ชื่นชมในตัวฉันเพียงเพราะฉันเป็นฮีโร่ ฉันไม่ชอบรูปลักษณ์ของเธอและฉันไม่ชอบเสียงของเธอ ฉันไม่ชอบในทุกๆสิ่งที่เป็นเธอ ฉันรู้สึกเกลียดทัศนคติของเธอที่มองชีวิตของผู้คนเป็นแค่ตัวเลขเท่านั้น
แต่ถ้าหากฉันกีดกันเธอออกไปเพราะว่าฉันไม่ชอบนิสัยและการกระทําของเธอ แล้วมันจบลงด้วยการบาดเจ็บล้มตายโดยที่ฉันไม่ยอมใช้พลังของเธอล่ะ
ถ้าหากว่าคนที่บาดเจ็บล้มตายเหล่านั้นคือ ยุย ไอน่า แม่ พ่อ ไอน่า ฮวาหยา เยอึน ยุย รูเดีย ไอน่า เดซี่ เร็น ยุย ลีออน ไอน่า วอร์คเกอร์ ยุย หรือไอน่า
“เธอจะแข็งแกร่งขึ้นได้ภายในดันเจี้ยน ด้วยการยกระดับขึ้นนี้เธอจะสามารถเสริมพลังของเธอที่ได้รับมาในตอนนี้คุณจําเป็นต้องมีพลังของเธอช่วย”
” อ้าาา”
ฉันมีคนมากเกินไปที่ต้องการจะปกป้อง ฉันคิดเสมอว่ามันเป็ฯเรื่องใหญ่มากที่จะปกป้อง ทุกคนด้วยพลังของฉัน แต่ฉันก็รู้ดีเหมือนกับว่าในตอนนี้ฉันไม่มีทางจะแก้ไขทุกๆอย่างด้วยตัวเองได้
เพื่อที่จะปกป้องคนที่รัก…
” ฟู่..ฉันจะติดต่อไปหาเธอ”
ฉันจะชักนําเธอได้ไหมนะ ฮวาหยาอาจจะทําเรื่องนี้ได้ แต่ว่าเธอคงจะไม่คลั่งไปนะ ฉันได้ถอนหายใจออกมาเมื่อคิดถึงตอนที่ได้เจอกับหน้าเคียร่า คีเน็กซ์ โรเล็ตต้าก็ยังจ้องไปยังลอร์ดเขม็ง
“ฉันรู้สึกหงุดงิดกับจํานวนผู้หญิงที่รายล้อมชินมากพอแล้วนะ ทําไมเธอถึงได้เพิ่มอีกคนด้วยเล่า!
“ถ้างั้นโรเล็ตต้าจะไปที่โลกเพื่อช่วยเขาหรอ”
“ฉันทําได้”
“ไม่ได้อย่างแน่นอน เธอควรจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุดนะ”
โรเล็ตต้าได้เบะปากใส่เชอริฟิน่า แต่เชอริฟน่าก็ยังพูดต่อไปโดยไม่ใส่ใจสายตาใดๆ
“การมีผู้หญิงเพิ่มคนสองคนมันสําคัญกว่าความปลอดภัยของเขางั้นหรอ”
“ฉันไม่รู้ ชินกลับกันดีกว่า ฉันไม่น่าพาชินมาที่นี่เลย ฮึ่ม”
“เอ๋ พวกเราจะกลับแล้วหรอ”
“พวกเราได้รู้ในสิ่งที่เราอยากรู้แล้ว ลอร์ด มีอะไรอยากจะพูดอีกไหมล่ะ”
“ฉันก็อยากจะช่วยอีกหน่อยนะ แต่ว่าโชคร้าย…”
เธอได้ส่ายหัวออกมา ท่าทางของเธอมันดูเข้ากับคําว่า “ยายแก่” แต่นับตั้งแต่ที่ฉันรู้ว่าผู้หญิง ค่อนข้างจะอ่อนไหวกับเรื่องอายุ ดังนั้นฉันจึงไม่โง่พอจะถามออกไป
“ฉันหวังว่าคุณจะผ่านอันตรายครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัยนะ ฉันจะเฝ้ารอการพบกันครั้งต่อไปของเรา”
“ฉันจะไม่พาชินมาหาเธออีกแล้ว”
โรเล็ตต้าได้ตะโกนออกมาใส่เธอและดึงฉันออกไป ฉันได้โค้งให้เชอริฟิน่าและตามโรเล็ตต้าไป เธอได้ดึงฉันออกมาเหมือนกับในตอนแรกที่เรามาที่นี่
“ชินจะต้องไม่เป็นอะไร ไม่ต้องกังวลมากไปหรอก ดันเจี้ยนทั้งหมดคือสิ่งที่อยู่ภายในหัวของลอร์ด เธอจะไม่มีวันละเลยศักยภาพของชิ้นแน่ ฉันจะโกรธอีกด้วย”
“ไม่ ฉันไม่คิดว่าเธอจะทํา… กลับกันเธอคืออะไรหรอ เธอดูไม่เหมือนมนุษย์เลย”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ”
โรเล็ตต้าได้เสริมขึ้นมาด้วยรอยยิ้มขม
“เธอไม่เคยพูดเกี่ยวกับตัวเองเลย มันเป็นเวลาหลายร้อย… นานมาแล้วที่ฉันเจอเธอ”
เธอได้ตัดการติดต่อกับผู้คนแลละใช้ชีวิตสองพันปีหรือมากยิ่งกว่านั้นในความมืดนี้งั้นหรอ ฉันคิดเกี่ยวกับคําพูดที่ฉันเพิ่งจะคุยกับเธอ เชอริฟิน่าดูจะมีท่าทางอะไรบางอย่างปกตินะ แต่ว่าเมื่อคิดเกี่ยวกับมันเธอก็ไม่ได้พูดอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนเลย ทําไมเธอจะต้องใช้เวลานานแบบนี้ ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้มีเวลามาห่วงเรื่องของคนอื่น แต่ว่าฉันก็อดจะคิดเกี่ยวกับเธอไม่ได้ ในตอนที่ฉันถอนหายใจออกมา โรเล็ตต้าก็มองมาทางฉันอย่างเป็นกังวล
“ชินไม่ได้สนใจเธอใช่ไหม ฉันคิดว่าชินต้านเสน่ห์เธอได้ แต่มันอาจจะเป็น…”
“โรเล็ตต้าเป็นคนเดียวสําหรับฉัน”
“อ๊าาาาาา เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่ได้เตรียมบันทึกเลย อีกครั้งสิ พูดอีกครั้งหนึ่ง”
“มันน่าอายนะ ดังนั้นไม่ดีกว่า”
“ชินนนนนนนนน”
ฉันไม่ได้อยู่ในจุดที่จะมาเป็นห่วงคนอื่นได้ ฉันจะต้องสู้กับปีศาจที่หลอกตาของลอร์ดแห่งดันเจี้ยนและพิชิตโอเชียเนีย ฉันจะต้องล้างความคิดก่อนที่จะออกไปสู้
เรื่องการติดต่อกับเคียร่าด้วย ฉันจะต้องเอามันออกไปก่อนจนกว่าการต่อสู้จะจบลง ยังไงก็ตามแค่ได้ฟังเธอมันก็ทําลายอารมณ์ของฉันแล้ว