Infinite Competitive Dungeon Society – ตอนที่ 234

ตอนที่ 234

บทที่ 234 – ผู้พิทักษ์ (4)

[ขอย้ำอีกครั้ง ดันเจี้ยนจะถูกปิดลงเป็นการชั่วคราวเนื่องจากว่าหนึ่งในหัวหน้ากิลด์ได้หายไป มีเพียงแค่พื้นที่พักอาศัยเท่านั้นที่จะทำงานจนกว่าหัวหน้ากิลด์จะกลับมา หัวหน้ากิลด์ระดับ B หรือที่สูงกว่านั้นควรที่จะมารวมตัวกันที่พลาซ่าของพื้นที่พักอาศัยในทันที]

ข้อความของพี่สาวก็ยังคงไม่ได้ตอบคำถามของฉัน ฉันได้รีบไปที่พื้นที่พักอาศัยในทันที ในตอนนั้นข้อความภายในกิลด์ของฉันก็กลายเป็นวุ่นวาย

[เจ้าลูกชาย อยู่ๆมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนก็หายไป]

[ชิน นายได้ยินไหม]

[ชินนายอยู่ไหน]

[ชิน]

อ๊า น่ารำคาญ ฉันได้บอกพวกเขาไปว่าฉันไม่ได้รู้อะไรเลยในตอนที่วิ่งไปที่พลาซ่า เมื่อฉันได้มาถึงที่พลาซ่าก็เต็มไปด้วยคนมากมาย ไม่นานนักฉันก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

“ถ้านายที่ไม่ใช่หัวหน้ากิลด์ระดับ B หรือสูงกว่าก็ช่วยถอนไปด้วย นายไม่มีคุณสมบัติ”

เสียงที่พูดนั้นค่อนข้างจะรุนแรงแต่มันคือความจริงๆ คนๆนี้… ไม่สิ เอลฟ์นี่คือโรเล็ตต้า ฉันได้วิ่งเข้าไปในพลาซ่าในขณะเรียกความสงบกลับมา ในตอนที่โรเล็ตต้าได้เห็นฉันเธอก็ทักทายมา

“ชินนายมาแล้ว”

“โรเล็ตต้า ฉันกลัวว่าจะเป็นเธอซะอีกเพราะฉันไม่เห็นเธอที่ร้านขายของ”

“หุหุ ชินเป็นห่วงว่าฉันจะหายไปหรอ มันไม่มีทางที่ฉันจะหนีไปโดยทิ้งชินที่ฉันรักไว้ข้างหลังหรอก”

เมื่อได้ยินคำพูดของโรเล็ตต้าทำให้ฉันต้องเผลอยิ้มออกมา เมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของเธอทำให้ฉันรู้สึกโล่งอกและมองไปรอบๆ ภายในพลาซ่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนในกิลด์ผู้ดูและและมีคนนอกไม่มากนัก อ้างอิงจากที่โรเล็ตต้าบอกมีเพียงแค่สิบเอ็ดคนเท่านั้นรวมถึงฉัน มันดูเหมือนว่าจริงๆแล้วจะมีไม่กี่กิลด์ที่มีระดับสูงกว่าระดับ B

โรเล็ตต้าและหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลคนอื่นๆอีกสามคนได้แสดงตัวออกมา ฉันจำได้ว่าโรเล็ตต้าเคยพูดเอาไว้ว่ามีกิลดูผู้ดูแลในดันเจี้ยนที่หนึ่งอยู่ห้ากิลด์ เนื่องจากว่ามีหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลอยู่ที่นี่สี่คน คนที่หายไปคนนั้นก็ควรจะเป็น…

นอกจากโรเล็ตต้าแล้ว ฉันได้รู้จักหัวหน้ากิลด์ผู้แลสองคนและฉันก็ไม่สามารถจะเห็นคนหนึ่งที่นี่ได้ คนๆนั้นคือผู้หญิงที่ให้การสนับสนุนกิลด์แมงป่องทะเลทรายอยู่เบื้องหลัง ซิปัว

“โรเล็ตต้า…”

“อย่างที่ชินคิดแหละ”

โรเล็ตต้าได้หยักหน้าด้วยท่าทางที่ท้อแท้เล็กน้อย จากนั้นเธอได้มองไปที่หัวหน้ากิลด์ที่รวบตัวกันอยู่พร้อมพูดออกมา

“เนื่องจากว่าทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว กิลด์ผู้ดูแลแต่ละกิลด์ก็จะรับกิลด์ไปสามกิลด์เพื่อที่จะอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง จากนั้นก็จะเริ่มค้นหาซิปัว ฉันจะรับหน้าที่ดูแลหัวหน้ากิลด์แฟนท่อมกับหัวหน้ากิลด์รีไวเวิร์ล”

ดูเหมือนว่ากิลด์ที่พัฒนามาถึงระดับ B ได้นั้นส่วนใหญ่จะสสนิทกับหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลอย่างน้อยหนึ่งคน เมื่อเห็นหัวหน้ากิลด์เดินเข้าไปหาหัวหน้ากิลด์ผู้แลด้วยต้นเองแล้วฉันก็ยังได้เดินเข้าไปหาโรเล็ตต้า ในเวลาเดียวกันฉันก็ได้หันไปมองหัวหน้ากิลด์อีกกิลด์หนึ่งที่อยู่กับโรเล็ตต้า เขาเป็นชายหล่อเหลาที่มีร่างกายดูแข็งแกร่ง มีลักษณ์ที่ชัดเจน ผมยาว….

“สวัสดี ฉันหัวหน้ากิลด์แฟนท่อม ฟิลิออน”

“ฉัน… คังชิน”

ตัวเล็ก ไม่สิจิ๋วเลย เขาเป็นคนที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ

“ฟิลิออนเป็นพิกซี่ ชินตกใจหรอ”

“มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นนักสำรวจที่เป็นพิกซี่….”

“ทวีปของฉันมีพิกซี่มากกว่ามนุษย์ แม้ว่าพิกซี่จะต้องโดนจับไปโดยมอนสเตอร์มากว่า 300 ปีแล้วก็ตาม”

นี้เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นคนที่พูดถึงการล่มสลายของทวีปตัวเองอย่างสดใจ ฉันได้มองไปที่เขาอย่างตกตะลึง จากนั้นเองโรเล็ตต้าก็อธิบายออกมาด้วยรอยยิ้มแห้ง

“พิกซี่จะได้รับพลังจากอารมณ์นะ อารมณ์เศร้าจะนำไปสู่ความตายของพวกเขา นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึง…”

“เข้าใจแล้ว”

“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไร สักวันหนึ่งฉันจะเอาทวีปของฉันคืนมา”

“ฉันเชื่อว่านายจะทำสำเร็จนะ”

300 ปี ถ้าหากว่าเขาอยู่ในดันเจี้ยนมาเป็นเวลานานขนาดนั้น เขาก็จะต้องแข็งแกร่งมากๆแน่ ในตอนที่ฉันถามโรเล็ตต้าออกไปเธอก็ตอบกลับมา

“ฟิลิออนได้อยู่ในดันเจี้ยนชั้นที่ 91 แล้ว”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฉันได้ยินมาว่าไม่มีใครผ่านไปชั้นที่ 92 มากว่า 200 ปีแล้ว”

“ยังไงก็เถอะ ตามฉันไปที่สวนแฟรี่ก่อน เดี๋ยวฉันจะอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง”

ในตอนที่ฉันได้มองไปรอบๆหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลคนอื่นๆก็ยังพากันออกไปแล้ว มีเพียงแค่นักสำรวจธรรมดาเท่านั้นที่พูดคุยกันเสียงดังอยู่ใกล้ๆ เนื่องจากว่าไม่มีเหตุผลอะไรให้เราอยู่ที่นี่แล้ว ฟิลิออนกับฉันก็ได้มุ่งหน้าไปสวนแฟรี่ผ่านประตูที่โรเล็ตต้าเปิดขึ้นมา

“การดำเนินการของดันเจี้ยนจะถูกระงับไว้”

“แล้วดันเจี้ยนที่สองล่ะ ที่นั่นจะถูกหยุดลงด้วยหรอ ให้ตายสิ”

“ดันเจี้ยนที่สี่ได้ติดต่อเราไหม มันไม่มีดันเจี้ยนใหม่ขึ้นมา และจะไม่มีเหตุการณ์ดันเจี้ยนขึ้นมาอีกสักพักเหมือนกัน”

ในตอนที่ฉันได้มาถึงสวนแฟรี่บรรยากาศที่ผ่อนคลายตามปกติที่นี่ไม่มีอยู่แล้ว ฉันได้คนทุกคนกำลังวิ่งวุ่นไปรอบๆ ภูติธาตุที่ขี้เล่นก้ยังหัวเราะอย่างสนุกสานและเลียนแบบในสิ่งที่คนอื่นๆทำ ฉากนี้มันยิ่งทำให้ดูน่าตื่นเต้น แฟรี่บางส่วนก็ได้จับตามองมาที่โรเล็ตต้าและเข้ามาหา

“หัวหน้ามาแล้ว”

“ซิคาทรากับหลินเกือบจะพร้อมแล้ว”

“สองคนนั้น…?”

“ใช่แล้ว ตามฉันมา”

สถานที่ๆโรเล็ตต้าพาพวกเราไปคือศาลาที่ฉันได้เห็นมาหลายครั้งแล้ว แม้ว่ามันจะดูหนาแน่นผิดปกติ แต่ว่ามันก็ยังคงเงียบอยู่ ในตอนที่ฉันได้นั่งลงบนเก้าอี่และฟิลิออนก็นั่งโต๊ะถัดไป จากนั้นโรเล็ตต้าก็ได้นั่งตรงข้ามกับฉันและถอนหายใจออกมา

“ฉันรู้เหมือนกำลังจะตาย ฉันไม่อยากจะทำอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชินเลย แต่ว่าเรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นอีกแล้ว”

“เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นบ่อยหรอ”

“นี้มันเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ดันเจี้ยนได้ก่อตั้งขึ้น ในระหว่างช่วงเวลาที่ยาวนานนี้ ยาวนาน… อะแฮ่ม จริงๆมันก็ไม่นานหรอก แต่ว่านี้คือครั้งที่สอง”

โรเล็ตต้าได้เน้นพูดอีกเรื่องขึ้นมาเพื่อดึงความสนใจจากคำว่า ‘ยาว’ หูของเธอได้กระพืออย่างรวดเร็ว

“ในที่สุดซิปัวก็ทำในสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เธอได้หลอกสมาชิกในกิลด์ผู้แลของเธอทุกคนและหายไปอย่างสมบูรณ์”

“อืม… หัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลสร้างออกมาจากตำแหน่งได้หรอ”

“พวกเขาไม่ควรจะทำแบบนั้น นั่นจริงเป็นเหตุผลที่การดำเนินการของดันเจี้ยนถูกหยุดลงไง”

โรเล็ตต้าได้หยุดอยู่ครู่หนึ่งและพูดต่อด้วยเสียงที่เหนื่อยใจ

“หัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมดันเจี้ยนถึงจะทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง แม้แต่หากมีใครสักคนหายไปทุกๆสิ่งก็จะกลายเป็นยุ่งเหยิง ถ้าหากว่ามีสองคนหายไปจากดันเจี้น… ถ้าแบบนั้นดันเจี้ยนก็จะหายไปโดยที่ไม่สามารถคงสภาพไว้ได้ นี้จึงเป็นเหตุผลที่เราถึงเรียกทั้งสองคนมาช่วยเราค้นหาซิปัวและพาเธอกลับมาไง”

น่าทึ่งที่คำพูดของเธอดูมีน้ำหนักมาก ฉันได้เบิกตากว้างขึ้นมา ทำไมการหายไปของหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลถึงมีผลต่อดันเจี้ยนมากขนาดนี้ล่ะ

“โรเล็ตต้า…การมีอยู่ของหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลคืออะไรหรอ”

“ฮีโร่”

ฉันได้รับคำตอบสั้นๆมาจากด้านหลัง ในตอนที่ฉันได้หันไปมองฉันก็ได้เห็นเอลฟ์ซิคาทราและหลิน รูปลักษณ์ของหลินในตอนนี้ดูน่าประหลาดใจอย่างมาก เขาในตอนนี้ได้ใส่เสื้อหนังที่แนบเนื้อพร้อมด้วยปืนพกที่เอว… เดี๋ยวนะ ปืนหรอ

“หลิน… นั่นมันคือ…”

“มันเป็นอาวุธของฉัน ทำไม มีปัญหาอะไรล่ะ”

“ใช่สิ นั่นมันไม่ใช่ว่าเป็นปืนพกหรอ”

“อะไร นายคิดว่าปืนจะมีอยู่แค่ในโลกของนายหรอ”

“แต่ว่านายไม่สามารถจะฆ่ามอนสเตอร์ด้วยปืนได้นี่ หรือว่าปืนนั่นเป็นอุปกรณ์เวทย์ที่ดูเหมือนกับปืนเท่านั้น”

“โลกของฉันมีอารยธรรมที่สูงทางด้านวิทยาศาสตร์ ปืนในโลกของฉันและปืนในโลกของนายอาจจะมีโครงสร้างที่ไม่ต่างกันนัก คนในโลกของฉันก็ไม่สามารถจะฆ่ามอนสเตอร์ได้ด้วยปืนเหมือนกัน แต่ว่าฉันต่างออกไปฉันสามารถจะเสริมพลังให้กับปืนและกระสุนด้วยมานาได้”

หลินได้พูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ มันเป็นธรรมดาที่ภาพของลีออนจะเข้ามาในหัวของฉัน แต่ว่าในกรณีของหลินเขาไม่เหมือนกับลีออนที่มีพลังในด้านนั้น มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังของลีออนมันหาได้ยากมากๆ แต่ว่าเมื่อคิดถึงหลินแล้ว… ดาบมันควรจะเหมาะกับเขามากกว่าปีนนะ ยังไงเขาก็เป็นช่างตีเหล็กนี่นา

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีปืนยาวห้อยอยู่บนหลังของเขา

“นั่นมันไม่ใช่ว่า…. เป็นปืนไรเฟิลหรอ”

“มันเอาไว้เผื่อในกรณีที่เลวร้ายที่สุดนะ”

หลินพูดดูเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าฉันรู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจ ยังไงก็ตามฉันไม่ได้พูดในสิ่งที่ฉันกังวลออกไป มันมีสิ่งสำคัญที่ฉันจะต้องถาม

“หลิน นายเพิ่งจะบอกว่าโรเล็ตต้าคือ…ฮีโร่หรอ”

“ใช่แล้วชิน… ฉันเป็นฮีโร่ ฮีโร่ที่ไม่สามารถจะช่วยโลกของเธอได้ แต่ว่ายังคงมีพลังของโลกอยู่”

โรเล็ตต้าได้พูดออกมาแทนหลิน ความรู้สึกเสียใจได้แสดงออกมาดเจนบนหน้าของเธอ

“ชิน ชินจำในสิ่งที่ฉันบอกชินก่อนหน้านี้ได้ไหม เกี่ยวกับที่ฉันบอกว่าดันเจี้ยนแต่ก่อนไม่ใช่แบบทุกวันนี้ ในเวลานี้วิธีที่มอบพลังให้กับผู้ใช้พลังมันต่างไป”

“ฉันคิดว่าเธอกำลังจะบอกว่าพลังมันถูกมอบให้ง่ายเกินไป…”

“มันง่ายและง่ายมากเกินไป ในท้ายที่สุดแล้วมันกลายเป็นว่าความแย่นั่นจะทำให้ระบบถูกทำลายถ้าหากไม่ได้พลังกลับคืนมา ยกตัวอย่างง่ายๆคืองานที่ตาแก่ทำมันน่าสะพรึงกลัว… อะแฮ่ม พูดตามตรงศัตรูของโลกมันทรงพลังจนพวกเราไม่สามารถจะสู้ได้เว้นเสียแต่ว่าพวกเราจะทำแบบนี้”

โรเล็ตต้าก็เป็นฮีโร่เหมือนกับฉันหรอ มันไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยคิดมาก่อน แต่ว่ามันแปลกๆที่ได้ยินสิ่งนี้ออกมาจากปากของเธอเอง แม้ว่าฉันจะได้รู้อะไรมากขึ้นจากเธอ แต่ว่าฉันก็ยิ่งรู้สึกห่างไกล

“แต่ว่าโรเล็ตต้า….”

“ใช่แล้ว หัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลดันเจี้ยนทั้งห้าคนคือฮีโร่ที่เคยได้รับการสนับสนุนจากดันเจี้ยน มีบางคนที่บ่ายแพ้และบางคนก็หนีมา แต่ในท้ายที่สุดพวกเราทุกคนก็แพ้ให้กับศัตรูของโลก”

“….”

“แต่แม้ว่าเราจะแพ้ พวกเราก็ยังไม่ยอมที่จะตายและเลือกที่จะมอบพลังของโลกไปให้มัน ฉันรู้สึกกังวลและต้องการจะแก้แค้น ฉันต้องการที่จะฉีกกระชากทุกคนที่มาบุกรุกโลกที่สงบสุขของฉัน แม้ว่าพวกนั้นจะมีเหตุผลของตัวเอง แม้ว่าพวกนั้นจะไม่เต็มใจและถูกบังคับให้ทำแบบนั้น แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรที่ฉันต้องสนใจ คนอื่นๆก็รู้สึกเหมือนๆกันรวมไปถึงซิปัวด้วย พวกเราต้องการจะช่วยฮีโร่ พวกเราต้องการจะช่วยเหล่าฮีโร่ที่ต้องการความช่วยเหลือ”

“นั่นเป็นเหตุผลสินะ…”

“หลังจากสูญเสียทุกๆสิ่งไปเราได้ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับลอร์ด พวกเราไม่ต้องการให้ฮีโร่คนอื่นๆ ผู้พิทักษ์คนอื่นๆจะต้องเผชิญหน้ากับจุดจบแบบเดียวที่เราเจอ ชินก็คงจะเคยสงสัยสินะว่าทำไมการมีอยู่ของดันเจี้ยนถึงได้อยู่ข้างเดียวกับผู้ป้องกัน นี้แหละคือเหตุผลนั้น”

โรเล็ตต้าได้มองตรงเข้ามาในตาของฉัน

“ดันเจี้ยนได้ถูกสร้างขึ้้นโดยผู้พิทักษ์ที่ล้มเหลว เพื่อที่จะสอนผู้พิทักษ์คนอื่นๆ เพื่อที่จะทดสอบศักยภาพของพวกเขา และเพื่อที่จะช่วยให้พวกเราไปถึงจุดสูงสุดใหญ่ๆ ด้วยการให้พรที่จะยกระดับพวกเขา พวกเขาจะได้มาปกป้องโลกของพวกเราได้ดียิ่งขึ้น”

ในที่สุดฉันก็ได้รู้ถึงมัน

ดันเจี้ยนไม่ใช่สถานที่ๆเป็นธรรมหรือเป็นสถานที่ๆมีความลับซ่อนเร้นเอาไว้ มันเป็นเพียงโรงเรียนฝึกฝนที่สร้างขึ้นโดยผู้อาวุโสที่พ่ายแพ้กับความไร้พลังและอยู่ในสถานการณ์เดียวกับพวกเรา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยให้พวกเราไม่ต้องเผชิญหน้ากับความพ่ายแพ้ที่พวกเขาได้เจอ

“ดันเจี้ยนเป็นโลกที่ถูกทำให้มีอยู่ด้วยพลังของลอร์ดและหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแล นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมการหายไปของคนๆหนึ่งถึงได้ทำให้เกิดสถานการณ์แบบนี้”

หลินได้กระแทกหมัดลงกับโต๊ะในตอนที่พูดออกมาอย่างไม่มีความสุข ร่างกายของฟิลิออนได้เด้งขึ้นจากแรงกระแทกนี้ แม้ว่าเขาจะจ้องไปที่หลิน แต่หลินก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาแม้แต่น้อย

“คังชินเหตุผลที่เราเรียกหัวหน้ากิลด์ที่มีระดับสูงกว่าระดับ B มาก็เพื่อให้ช่วยเรารักษาการดำรงอยู่ของดันเจี้ยนไว้ในช่วงวิกฤตแบบนี้”

“ฉันว่ามันเป็นข้ออ้างที่มันไม่มีความหมาย แต่ว่ามันมีประโยชน์จริงๆ”

ฉันจำได้ถึงประโยคที่บอกให้ฉันสร้างกิลด์ขึ้นมา ในตอนแรกฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่สัญลักษณ์เฉยๆ ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย

“มันคงจะดีถ้าหากมีเพียงแค่พวกเราห้ากิลด์ผู้ดูแลที่สามารถจะจัดการแก้ไขปัญหานี้ได้โดยที่ไม่ต้องให้นักสำรวจมาเกี่ยวข้องกัน แต่ว่าถึงแม้จะเป็นกิลด์ผู้ดูแลขนาดใหญ่ก็มีขีดจำกัดในการจะไปโลกอื่นเหมือนกัน ที่สำคัญที่สุดก็อพวกเขาจะต้องไปพร้อมกับนักสำรวจดันเจี้ยน มันเกี่ยวข้องกับการคงอยู่ของพลังดันเจี้ยน จริงๆแล้วถ้าหากว่าไม่ได้หยุดการดำเนินการของดันเจี้ยนก็คงจะไม่มีแม้แต่หัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลหรือสมาชิกกิลด์ผู้ดูแลคนใดที่จะสามารถก้าวเท้าออกไปจากดันเจี้ยนได้แม้แต่ขาข้างเดียว”

“พูดตามตรงฉันไม่อยากจะให้เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับชินด้วย แม้ว่าถ้ามันจะเป็นเรื่องของดันเจี้ยนการวางตัวฮีโร่ของโลกไว้ในจุดที่อันตรายมันจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะ แต่ว่ามีนักสำเร็จเพิ่งไม่กี่คนที่ทรงพลังมาพอที่เราจะเรียกมาให้ช่วยได้ นอกเหนือไปจากชินแล้วจะมีฮีโร่อีกสามคนที่จะมามีส่วนร่วมในตอนนี้ ฉันไม่สามารถจะปล่อยชินเอาไว้ได้แม้ว่าฉันจะต้องการก็ตาม”

“ถ้าหากว่ามันเป็นสิ่งที่ฉันจะต้องทำในฐานะหัวหน้ากิลด์ ฉันก็จะทำมัน”

ฉันได้พูดอย่างชัดเจน จากนั้นก็เสริมขึ้น

“แต่ว่าฉันจะหนีไปถ้าหากว่ามันอันตรายเกนิไป”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะอยู่กับนาย แต่ว่าถ้าหากว่ามีสิ่งที่มีอันตรายก็คิดเพียงแต่ว่าชีวิตของนายเอง แน่นอนว่ามันจะไม่เกิดขึ้น”

“ฉันจะต้องไปกับหลินหรอ”

“อะไร นายคิดว่าจะให้ฉันไปกับเจ้าจิ๋วนี่แทนหรอ”

“ใครกันที่นายเรียกว่าเจ้าจิ๋ว เจ้ามังกรเหม็นโฉ่”

ในที่สุดฟิลิออนก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ในตอนั้นซิคาทราที่ดูตะใกล้ชิดดกับพิกวี่เป็นปกติแล้วก็ได้ปลอบเขา หลินก็ยังคงพูดกับฉันต่อไปโดยที่ไม่สนใจฟิลิออน

“ฉันคาดหวังจากนายมากนะ ดังนั้นให้ความร่วมมือด้วย”

“ถ้าฉันช่วยได้แน่นอนว่าฉันจะช่วย แต่ว่ามีบางอย่างที่ฉันยังไมรู้ ทำไมเธอจะต้องหนีและเธอไปที่ไหน”

“มันยังไม่ชัดอีกหรอ”

‘ฉันรู้ ฉันแค่อยากจะมั่นใจ…’ ฉันได้จ้องไปที่หลินและส่งสัญญาณออกไป หลินไม่ได้รู้สัญญาณจากฉันเลยและจ้องมาที่ฉัน เมื่อเห็นพวกเราโรเล็ตต้าได้ยิ้มขึ้นและพูดออกมา

“ซิปัวมุ่งหน้าไปที่โลกที่ถูกพิชิตโดยบุ๊ควอร์คเกอร์ ทวีปไซรอน เธอต้องการที่จะพบกับคนรักของเธอ โรเดิท ไฮเดลเซิน คนที่เป็นที่รู้จักกันในฐานะหัวหน้ากิลด์แมงป่องทะเลทราย แม้แบบนั้นเขาก็ยังมีชีวิตอยู่

ใช่แล้ว นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันคิดอยู่

ถ้าหากว่าฉันจะต้องเลือกนักสำรวจดันเจี้ยนมาช่วยฉันในภารกิจครั้งนี้ มันมีตัวเลือกเดียวเท่านั้นที่ฉันจะต้องเลือก

เมื่อคิดว่าฉันจะต้องขอให้เดซี่มาช่วยฉันอีกครั้ง ฉันได้ถอนหายใจออกมาเล็กๆ

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

Status: Ongoing

เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง

เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป

สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท