Infinite Competitive Dungeon Society – ตอนที่ 310

ตอนที่ 310
บทที่ 310 – ทะลวงผ่าน (3)
“เจ้าพวกนี้มันคงไม่ยิงอะไรอย่างนิวเคลียร์ออกมาหรอกใช่ไหม?”
[แน่นอนว่าไม่ได้ แต่ถึงแบบนั้นถ้าพวกนี้ไปที่โลกได้เกิดหายนะขึ้นแน่]
เสียงโทนเย็นชาของเชอริฟิน่าได้ทำให้ฉันปวดหัว ฉันได้ใช้ธาเลเรียเร่งความเร็วและหลบกระสุนไปทันที
“ดอร์ตู พวกมันทั้งหมดเป็นโลหะ นายทำอะไรกับมันไม่ได้หรอ?”
[ข้าดอร์ตู พวกมันเร็วเกินไป ถ้าดอร์ตูสัมผัสกับร่างกายหลักมันได้ดอร์ตูก็จะทำอะไรได้บ้าง]
“ฉันก็จะทำอะไรได้เหมือนกันถ้าฉันไปถึงร่างหลักของมันได้”
[ข้าดอร์ตู…]
ฉันได้ปลอบดอร์ตูที่ดูเหมือนจะเสียใจด้วยคำถามใหม่
“แล้วเรื่องการป้องกันล่ะ”
[ข้าดอร์ตู ข้ามั่นใจในการป้องกัน]
“ยอดเยี่ยมเลย ถ้างั้นก็ฝากด้วยนะ ไพก้าเร็วเข้า”
[ได้เลย!]
ฉันรู้สึกได้ถึงพลังของไพก้าที่เต็มอยู่ในตัวฉัน ฉันได้ใช้พลังของเทพสายฟ้าเสริมเข้าไปในพลังของไพก้าและเพิ่มความเร็วของฉันขึ้น
“ถ้าแกอย่างจะหยุดฉันจริงก็แสดงตัวออกมา!”
ทะลวงผ่านไปให้เร็วยิ่งๆขึ้น!
ฉันสามารถจะคงสภาพความเร็วศักดิ์สิทธิ์ย่อยได้ด้วยวงจรเพรูต้าที่ดูดมานารอบๆมาที่ตคัวฉัน ในตอนที่ความเร็วของฉันได้เร็วขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน กระสุนก็ไม่สามารถตามได้แม้แต่เงาของฉัน
น่าเสียดายที่ชั้นที่ 86 นี้มันไม่เหมือนชั้นก่อนๆ มันเป็นพื้นที่รกร้าง ฉันไม่รู้เลยว่าฉันจะต้องไปหาทางไปช้นต่อไปที่จะมีโรเล็ตต้ารอฉันอยู่ตรงไหน
เส้นทางในบียอนมันแคบมากจนไม่จำเป็นต้องหาทางที่ถูก แต่ว่าดันเจี้ยนชั้นที่ 86 นี่มันเริ่มขึ้นมาเหมือนเขาวงกต
[ข้าดอร์ตู วัตถุโลหะขนาดใหญ่กำลังใกล้เข้ามา]
ดูเหมือนว่าศัตรูจะรู้ตัวแล้วว่ากระสุนมันทำอะไรฉันได้อีก หลังจากที่ดอร์ตูได้เตือนฉันออกมาลูกบอลดลหะยักษ์ก็พุ่งขึ้นมาจากพื้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่มันคือมือขวาของหุ่นยนตร์
“ฮ่าห์!”
ศัตรูเกือบทั้งหมดดูเละๆเหมือนกับว่าพวกมันไม่มีความสามารถในการขึ้นรูปโลหะแบบมนุษย์ได้ แต่ว่าพวกหุ่นยนต์พวกนี้มันเคลื่อนไหวได้แน่นอน แล้วก็ในมือของพวกมันถือบาซูก้า บาซูก้า!?
[ข้าดอร์ตู ข้าสามารถจะแทรกแซงและครอบงำพวกมันได้]
“นายจัดการกับกระสุนเล็กๆนั่นไม่ได้หรอ? มอนสเตอร์ปกติมันคงจะไม่ทิ้งอาวุธบ่อยๆหรอกนะ!”
[ข้าดอร์ตู นั่นมันใช้มานามากเกินไป ดอร์ตูเชื่อในนายท่าน]
…ดอร์ตูกำลังย้อนฉันใช่ไหมเนี้ย? เพราะฉันไปแกล้งทำร้ายความรู้สึกเขาสินะ?
“อึก มันมาแล้ว”
เพราะว่าแม้ฉันจะคิดอยู่แต่ฉันก็ยังพุ่งออกไปทำให้กระสุนนับสิบได้ปะทะเข้ากับเกราะของฉันแล้ว ถึงแม้ว่าพลังของดอร์ตูจะคุ้มกันฉันไว้ แต่แรงกระแทกก็ยังคงมีอยู่มหาศาล กระสุนพวกนี้ก็ยังเต็มไปด้วยมานาอีกด้วย ถ้าหากว่าลีออนได้เห็นพวกนี้เขาอาจจะคลั่งไปเพราะความสุขแน่ แม้ว่าเขาอาจจะมีชีวิตได้ไม่นาน
แต่ว่านั่นมันไม่ใช่สิ่งที่ต้องสนใจ ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญก็คือบาซูก้ามันทำให้ฉันเจ็บมากกว่ากระสุนเล็กๆนี่มากแน่
[ข้าาดอร์ตู พวกมันมาแล้ว]
“ความเร็วศักดิ์สิทธิ์!”
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้วฉันก็เลยได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ของดันเจี้ยนต่อให้มันจะใช้มานามากก็ตาม ด้วยความเร็วของฉันที่เพิ่มมาขึ้นกว่าห้าเท่าแล้ว ฉันได้พุ่งตัวหลบออกไปก่อนที่กระสุนบาซูก้ามันจะโดนตัวฉัน ฉันได้ปาหอกที่เต็มไปด้วยสายฟ้าจำนวนมากออกไปทันที
“ตายไปซะ!”
แน่นอนว่าหอกของฉันมันปกคลุมด้วยอะไรที่มากกว่าสายฟ้าอีก มันได้ทะลวงเจ้าหุ่นยนต์โลหะไปอย่างง่ายๆและหอกก็ลอยกลับมาที่มือของฉัน หุ่นยนต์โลหะได้ล้มไปกับพื้นทันที
[ข้าดอร์ตู กำลังทำการวิเคราะห์]
เสียงที่น่าไว้ใจของดอร์ตูได้ดังขึ้นในหูฉันทันที มันชัดเจนว่าหอกของฉันก็มีพลังของดอร์ตูอยู่เหมือนกัน เนื่องจากว่าฉันเอาอาวุธมาและใช้สู้กับมันไม่ได้ฉันก็เลยโยนดอร์ตูไปหามันแทน
ถึงแม้ว่าหุ่นยนต์จะถูกเผาด้วยสายฟ้าและหยุดการทำงานลงไปแล้วก็ตามแต่เมื่อดอร์ตูวิเคราะห์เสร็จลงเขาก็จะสามารถใช้มันได้ ข้อเสียอย่างเดียวก็คือพลังป้องกันของเกราะฉันมันจะลดลงไปในตอนที่ดอร์ตูยุ่งกับการวิเคราะห์พลังของศัตรู
เมื่อหอกของฉันกลับมาอยู่ในมือฉันก็ขว้างมันออกไปอีกครั้ง การตั้งรูปแบบของหุ่นยนต์ได้พังลงไปเพราะหุ่นยนต์อีกตัวหนึ่งได้ทรุดลงไปกับพื้น ฉันได้ยิ้มขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างกายของมันเปลื่ยนไปเล็กน้อย
“ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันมีดอร์ตูอยู่ด้วย”
ขอบคุณดอร์ตูที่ทำให้ฉันเข้ามาถึงศัตรูของโลกได้ในมุมที่ต่างออกไป หากไม่มีดอร์ตูแล้วทางเลือกเดียวของฉันก็คือการสู้กับมันแบบหัวชนฝา
เมื่อคิดจากการที่มีกระสุนแบบนี้ฉันได้กังวลในการสู้กับทหารเต็มรู้แบบ การสู้กับทหารที่มีปืนตรงๆนั่นมันไม่ใช่เรื่องฆ่าตัวตายหรอกหรอ ฉันเลือกที่จะไปสู้กับทหารบนโลกแทนซะดีกว่า กระสุนที่อัดด้วยมานามันเจ็บเกินไปแล้ว
ในทางกลับกันดูเหมือนไพก้าก็จะโกรธที่ฉันชมแต่ดอร์ตู หอกในมือของฉันได้ส่งประกายสายฟ้าขึ้นและไพก้าก็บ่นออกมา
[แล้วฉันล่ะนายท่าน? ฉันไร้ประโยชน์กับนายท่านหรอ?]
“ไพก้าก็น่าทึ่งอย่างเคยไง ฉันไม่ต้องพูดมันด้วยซ้ำไป”
[หุหุ ใช่แล้วล่ะ]
ฉันสามารถจะพูดออกไปได้อย่างภูมิใจเลยว่าผู้ใช้ธาตุคือคลาสที่ดที่สุด แถม… ฉันยังคิดว่าพวกเธอน่ารักอีกด้วย
[ข้าดอร์ตู พวกมันกำลังเพิ่มจำนวนขึ้น]
“เพิ่มจำนวนงั้นหรอ? นายทำอะไร… ว้าว”
ฉันได้หยุดความเร็วอยู่กลางอากาศ แม้ว่าฉันจะพอเดาได้แล้วแต่ฉันไม่คิดว่าการโต้กับสถานการณ์มันจะเร็วแบบนี้…
บนท้องฟ้าได้หุ่นยนต์นับร้อยพุ่งขึ้นมาพร้อมกับสิ่งที่ดูเหมือนปืนกล ปืนไรเฟิร์ล บาซูก้า และอาวุธปืนทุกชนิด ฉันได้ถามกับเชอริฟิน่าทันที
“เชอริฟิน่า ฉันเป็นคนแรกที่ได้สู้กับเจ้าพวกนี้ใช่ไหม?”
[เป็นงั้นแหละ]
คำตอบของเชอริฟิน่าไม่มีอะไรที่จะชัดไปกว่านี้แล้ว เชอริฟิน่าเธอวางแผนจะแกล้งฉันใช่ไหม? เธอกำลังส่งมอนสเตอร์ทุกๆตัวที่มีปัญหามาให้ฉันงั้นสินะ!?
“อ๊าาา ยังไงก็ตาม มาสู้กัน!”
[คุณได้ใช้ทักษะยั่วยุ! มันไร้ผลกับศัตรู]
แม้แต่ทักษะยั่วยุของฉันก็ยังไร้ผล มาถึงตอนนี้พวกมันก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต นั่นมันก็ยังหมายความว่าพวกมันไม่ได้มีผลกับพลังแห่งความตาย
ไม่ต้องพูดถึงที่ฉันมีสกิลจำนวนมากที่ใช้เลือด เสน่ห์ และหลายๆอย่างที่ใช้กับสิ่งมีชีวิต การต่อสู้กับเจ้าพวกนี้ฉันใช้ทักษะพวกนั้นไม่ได้เลย
ฉันได้รู้สึกว่าความดันโลหิตของฉันมันพุ่งขึ้น
“ดอร์ตู เสร็จยัง?”
[ข้าดอร์ตู หนึ่งวันก็ยังไม่พอ]
“อะไรนะ!?”
ฉันได้ตกใจกับคำพูดของดอร์ตูทันที ยังไงก็ตามฉันก็ได้เจอแต่กระสุนจากทุกๆด้านเท่านั้น
“พระเจ้า ฉันมาสู้กับฝนกระสุนหรือไงเนี้ย”
ฉันได้บ่นออกมาและปากหอกออกไป ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์และอัดมานาของไปในแขน ตัด ฟาด ทุบกระทุนทั้งหมดที่ลอยเข้ามาหาฉัน ถึงแม้ว่ามันจะมีแรงปะทะกลับมาที่ฉันแต่ฉันก็ตัดสินใจจะไปต่อ ฉันแค่หวังว่าฉันจะไปในทางที่ถูก
*****
ฉันพลาดแล้ว เพราะความกว้างใหญ่ของที่นี่ทำให้ฉันจบลงด้วยการวนไปรอบๆมาตลอดทั้งวัน
“ดอร์ตู?”
[อีกนิด]
ฉันได้คุยกับดอร์ตูมานานแล้ว เขายังคงอยู่กับการวิเคราะห์หุ่นยนต์ตัวแรก เพราะขีดจำกัดของจำนวนภูติธาตุที่ฉันจะอัญเชิญมาได้ทำให้ฉันมีแต่เพียงไพก้าเท่านั้นที่ช่วยฉันในการฝ่าห่ากระสุน น่าแปลกที่หุ่นยนต์พวกนี้ก็ยังปรากฏออกมาไม่สิ้นสุดลง
“ถ้าพวกมันมีเหลือมากขนาดนี้แล้วมันแพ้ได้ยังไงกัน? เจ้าพวกชั้นบนๆยังแข็งแกร่งกว่านี้อีกหรอ?”
[ฮีโร่ได้โจมตีในร่างหลักของมันอย่างเดียว]
“แต่ว่าร่างหลักของมันไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหม?”
[ใช่แล้ว]
“อ๊าาาา กรรมของฉันแล้ว”
ไม่มีทั้งความหวังและความฝัน มันไม่มีอะไรอีกที่จะทำได้แล้ว ฉันได้แต่ตระเวนไปรอบๆที่รกร้างแล้วสู้กับหุ่นยนต์ต่อไป
หลังจากเวลาผ่านไปนานในที่สุดดอร์ตูก็ควบคุมหุ่นตัวที่สองสำเร็จ
[ข้าดอร์ตู ยิงสัญญาณในการโจมตีกลับ]
เนื่องจากว่าดอร์ตูเชื่อมต่อกับฉันเขาได้รู้ถึงดำแหน่งของฉันและเริ่มบินมาหาฉันพร้อมกับหุ่นยนต์ของเขา ปัญหาเดียวก็คือดอร์ตูจำเป็นต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันในการตามมาหาฉัน ด้วยผลนี้ทำให้ฉันต้องปักหลักรอเขาอยู่กับที่ในระหว่างนี้และตั้งสมาธิไปกับการจัดการหุ่นยนต์
เนื่องจากว่าหุ่นยนต์มันจะกลับมาใหม่จากแม้แต่เศษเหล็กๆทำให้ฉันต้องรวมภูติธาตุที่มีอยู่กวาดล้างหุ่นยนต์ให้หายไปโดยสมบูรณ์
“พายุธาตุ! ใบมีดธาตุ!”
[ย๊ากกกกกก!]
[โว้วววว!]
[พวกมันทั้งไม่มีชีวิตและไม่ใช่ความตาย! มาทำลายพวกนั้นกันเถอะ!]
[แต่ว่าพวกนั้นขยับนะ]
[ฉันไม่รู้]
[นายไม่รู้หรอก]
[ย๊ากกกกกกกก!]
ถึงแม้ว่าฉันจะถูกจำกัดให้อัญเชิญภูติธาตุได้สองตน แต่มันก็ไม่มีข้อจำกัดในการใช้ภูติธาตุที่เป็นอิสระ ภูตจิธาตุจำนวนมาได้เข้ามารวมที่ฉัน
[ข้าดอร์ตู ข้ามาถึงนายท่านแล้ว]
ในที่สุดแล้วดอร์ตูก็ได้มารวมกับฉัน หุ่นยนต์ทั้งสองตัวของเขาที่ย้อมสีดำได้พุ่งลงมาทันทีและหุ่นนี้ก็ไม่มีร่องรอยของการถูกทะลวงเลย
เท่าที่จำได้หุ่นทั้งสองตัวนี้ต่างก็มีปืนบาซูก้าและปืนมินิกัน
[ข้าดอร์ตู ในตอนนี้ถึงเวลาที่ดอร์ตูจะฉายแสงแล้ว]
ใช่แล้วๆ ฉันฝากด้วยนะ”
ดอร์ตูได้ทำตามที่พูดทันที หุนยนต์ได้จับอาวุธสีดำของพวกมันและเริ่มยิงออกไปในทุกๆทางทันที
[ข้าดอร์ตู ด้วยมานาของนายท่านข้าสามารถจะควบคุมได้มากว่านี้]
“นี่มันเป็นข่าวดีที่สุดที่ฉันได้ยินมาในวันนี้เลย!”
ฉันได้ยกเลิกใบมีดธาตุและส่งมานาไปให้กับดอร์ตู ความเร็วในการยิงของหุ่นยนต์ได้เพิ่มขึ้นทันที ฉันรู้สึกว่ามันกำลังยิงลำแสงเลเซอร์มากกว่ากระสุนซะอีก
ยังไงก็ตามมันก็ยังมีเพียงแค่หุ่นยนต์สองตัว อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ฝั่งนูนมันมีหุ่นยนต์อยู่นับพันและยังมีอีกตัวหนึ่งที่โจมตีจากที่ไกลๆที่ฉันยังตรวจจับไม่ได้อีกด้วย
“ดอร์ตู ฉันต้องรออีกนานแค่ไหน? วันต่อไปงั้นหรอ!?”
[ข้าดอร์ตู]
ดอร์ตูไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ฉันได้กัดฟันแน่นและปาหอกออกไป จากนั้นฉันก็ได้คิดขึ้นว่าถ้าฉันใช้โอเวอร์ลอร์ดและกำจขัดพวกนี้ไปดอร์ตูก็จะใช้เวลาควบคุมมันน้อยลงไหมนะ? ไม่สิ โอเวอร์ลอร์ดมันจะรับรองแบบนั้นได้หรอ?
ในตอนนี้เองรูปแบบของศัตรูดูเหมือนจะพังลงไปและได้มีการระเบิดเล็กๆอยู่ใจกลาง มีหุ่นยนต์ไม่กี่ตัวระเบิดขึ้นมาตามมาด้วยหุ่นยนต์ที่มากขึ้น
[ตอนนี้มันเริ่มขึ้นแล้ว]
หุ่นยนต์สีดำทั้งสามตัวได้บินเข้ามาหาพวกเขา ฉันได้เล็งหอกไปที่พวกมันแต่แล้วก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนมันจะช้าไป ดอร์ตูได้ควบคุมพวกนี้แล้ว
ดอร์ตูได้เริ่มทำการสวนกลับด้วยการแย่งอาวุธมาแล้ว
Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

Status: Ongoing

เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง

เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป

สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท