Chapter 509: ไม่เป็นที่รู้จัก
ในสำนักงานของพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง กรรมการทหารหลายคนต่างมารวมตัวกันที่ห้องประชุม กรรมการทหารเหล่านี้จะรวมตัวกันก็ต่อเมื่อมีสิ่งสำคัญเกิดขึ้น
บนหน้าจอด้านในห้องประชุม วิดีโอและรูปภาพก็ถูกเล่นขึ้น ในตอนเริ่มแรก กรรมการทหารต่างมีท่าทางใจเย็น แต่เมื่อพวกเขาดูวิดีโอเสร็จแล้ว พวกเขาต่างมีท่าทางตึงเครียดกันทั้งหมด
ในตอนเริ่มแรกของวิดีโอ มันมีถนนธรรมดาทั่วไปเพียงไม่กี่แห่งบนหน้าจอ ซึ่งมันเกี่ยวกับสถานการณ์ธรรมดาทั่วไปของเมืองเจียงหนิง พวกเขาก็สามารถที่จะมองเห็นซอมบี้จำนวนมากที่กำลังสู้กับซอมบี้ที่กำลังสู้กับทหารที่อยู่ในบ้านเพื่อป้องกันการโจมตีของพวกมัน จนถึงจุดนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูธรรมดาทั่วไป แต่ในชั่ววินาทีต่อมา บ้านที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร จากจุดที่ทหารอยู่ และหลังจากนั้น บางสิ่งบางอย่างสีดำขนาดใหญ่ที่มีขนาดเท่ากับรถถังก็ปรากฏ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“สัตว์ป่ากลายพันธุ์?”เสียงของทหารก็ดังออกมาจากวิดีโอ
ปืนกลก็ยิงออกมาอย่างบ้าคลั่ง แต่อย่างไรก็ตาม ในวิดีโอมันก็มีบางสิ่งบางอย่างขนาดใหญ่ค่อยๆเข้ามาใกล้กับกองทัพ แรงสั่นสะเทือนและเสียงดังก็ตามมา หลังจากนั้นเสียงกรีดร้องก็ถูกได้ยินอย่างต่อเนื่อง
“อ๊า!!! อย่า! ช่วย-“นี่คือช่วงเวลาที่วิดีโอหยุดลง
หลังจากนั้น รูปภาพทั้งสองรูปก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ รูปแรกก็โชว์ให้เห็นว่าทหารถูกจับโดยบางสิ่งบางอย่างสีดำนั่น รูปต่อมาก็โชว์ให้เห็นว่าพวกเขาจางหายไปกลางอากาศ เหลือทิ้งไว้เพียงเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆบนพื้นดินและมันก็ไม่มีหยดเลือดแม้แต่หยดเดียวที่สามารถเห็นได้ ในเวลาเดียวกัน บางสิ่งบางอย่างสีดำก็ขยายขนาดขึ้น
ทุกคนในห้องต่างประหลาดใจ แม้ว่าพวกเขากำลังดูวิดีโอและรูปภาพอีกสองรูปอยู่ก็ตามที พวกเขาก็กลัวแทบตาย นอกจากนี้แล้ว แม้แต่อุปกรณ์ถ่ายวิดีโอก็ได้รับผลกระทบจากบางสิ่งบางอย่างสีดำนั้น พวกเขาบางคนก็อดที่จะคิดถึงผีที่โด่งดังที่ติดอยู่บนรูปถ่ายก่อนวันโลกาวินาศเสียมิได้
“นี่มันคืออะไร?”กรรมการทหารถามออกมา
“นี่คือบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินงั้นเหรอ? มันอยู่ในเมืองและมันเหมือนจะส่งผลกระทบกับแผนพัฒนาของพวกเรา”กรรมการทหารอีกคนหนึ่งขมวดคิ้ว ภารกิจที่สำคัญที่สุดของพวกเขาก็คือการขยายพื้นที่ออกไปให้ใหญ่ขึ้น แต่มันก็ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าพวกเขาจะพบกับสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักเช่นนี้
“มันเป็นตัวปัญหาจริงๆ มันดูไม่ง่ายเลยที่จะกำจัดมัน”
“พวกมันมีมากขนาดไหนกัน?”
หลังจากนั้นชายแก่หัวหงอก นายพลจางที่ยืนอยู่ข้างหน้าจอก็พูดออกมา “ตัวเดียว”
“หื้อ? มีแค่ตัวเดียวนี่นะ? ถ้างั้นมันดูไม่ยากเลยที่จะจัดการกับมัน…”
“ใช่ พวกเราจะอนุญาตให้สัตว์ประหลาดตัวเดียวมาคุกคามความปลอดภัยของพวกเราได้ยังไงกัน?”
ผู้บังคับบัญชาก็เริ่มที่จะผ่อนคลายเล็กน้อย เมื่อพวกเขาคิดว่าสัตว์ประหลาดเพียงตัวเดียวไม่สามารถที่จะสร้างความเสียหายได้มากสักเท่าไหร่ สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวมากที่สุดก็คือการสูญเสีย ในตอนเริ่มแรกมันมีซอมบี้จำนวนน้อยกว่านี้ แต่มนุษย์ก็มีจำนวนน้อยด้วยเช่นกัน ในเวลาเดียวกัน จำนวนของสัตว์ป่ากลายพันธุ์ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางฝูงซอมบี้ จำนวนของซอมบี้กลายพันธุ์ก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
“มันไม่ง่ายแบบที่คุณคิดนะ! สิ่งที่คุณเห็นในวิดีโอมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของมันเท่านั้น!”นายพลจางพูดออกมา
“ท่านหมายถึงอะไรครับ?”
“นายพลจาง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
นายพลจางตอบกลับมา “สิ่งนี้สามารถที่จะแบ่งตัวเองออกเป็นหลายส่วนที่แตกต่างกันได้ ส่วนเหล่านั้นต่างกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางพวกมันและหลังจากนั้นพวกมันทั้งหมดก็จะกลับมารวมตัวกัน”
“ผู้รอดชีวิตของเมืองเฮยจิงต่างหลบหนีและกลับมาเข้าพักในพื้นที่ปลอดภัยของพวกเรา หลังจากฟังคำพูดของพวกเขาแล้ว บางส่วนของสัตว์ประหลาดนั่นก็ปรากฏตัวขึ้น ทำลายเมืองทั้งเมืองและกลืนกินคนไปจำนวนมาก ในเวลาเดียวกัน กองทัพของพวกเราก็ถูกโจมตีโดยอีกส่วนหนึ่งของมัน นี่มันก็แสดงให้เห็นว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้สามารถที่จะแบ่งส่วนออกไปได้หลายส่วน”นายพลจางพูดและหลังจากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึกๆ
“นอกจากนี้ มันก็ไม่สามารถที่จะระบุได้ว่ามันเป็นสัตว์ประหลาด ทหารที่หลบหนีออกมาได้สำเร็จและนำวิดีโอกลับมาได้เห็นมันในระยะใกล้ๆ ตามที่เขาเห็น เลือดและเนื้อของเจ้าสิ่งนี้แตกต่างไปจากที่พวกเราเข้าใจ เพียงเวลาไม่นานที่พวกมันเข้ามาใกล้ สนามพลังก็ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ในการรับฟังและมองเห็น ในขณะที่ความคิดของผู้คนก็ต่างได้รับผลกระทบจากมัน”นายพลจางพูดเพิ่มเติม
“มันสามารถที่จะเรียกสัตว์ป่ากลายพันธุ์จำนวนมากออกมาได้ ซึ่งพวกมันทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของมัน มันยังไม่ชัดเจนว่าความสามารถของมันคืออะไร บางทีมันอาจจะเป็นพลังจิตที่แข็งแกร่งหรือมันอาจจะปล่อยคลื่นพิเศษออกมา…”นายพลจางพูดออกมา ในขณะที่โบกมือของเขาไปด้วย
“มันเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทใหม่ที่ยังเติบโตและรวมตัวอย่างต่อเนื่อง ในอีกความหมายหนึ่ง มันไม่เป็นที่รู้จัก! บางส่วนของมันก็ได้กลืนสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบข้างไปทั้งหมดและรอบๆเมืองเฮยจิง ซึ่งมันพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวตนของมันเป็นภัยคุกคาม เป้าหมายของมันต่อไปอาจจะเป็นฐานทัพของพวกเราก็เป็นได้!”
หลังจากที่ได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับภัยพินาศอันเลวร้ายมานักต่อนัก นายพลจางก็เข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความน่ากลัวของโลกที่ล่มสลายไปแล้ว แม้แต่ปราสาทที่ทนทานที่สุดก็สามารถที่จะถูกทำลายได้ในครั้งเดียว ความปลอดภัยเพียงชั่วขณะมันก็ไม่ได้หมายถึงทุกสื่งทุกอย่าง ตราบเท่าที่มันยังมีเปลวเพลิงที่ยังลุกไหม้อยู่ มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่มันจะกลายเป็นเปลวเพลิงที่ลุกโชกช่วง
กรรมการกองทัพทุกคนต่างตกตะลึง หลังจากที่ได้ยินเกี่ยวกับตัวตนอันดำมืดนั่น การพูดคุยอันดุเดือดก็เริ่มขึ้น
ในตอนนี้ ประชาชนของพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงเกือบๆจะสี่แสนคนและทุกคนก็มีส่วนร่วมในการก่อสร้างมัน ด้วยเหตุนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะปล่อยให้คนจำนวนมากขนาดนั้นตายได้ รวมทั้งสถานที่แห่งนี้ให้ถูกทำลายอีกด้วย
“อย่างแรกเลย พวกเราควรที่จะเพิ่มการป้องกันให้แข็งแกร่งขึ้น อย่างที่สอง เรียกทีมทั้งหมดที่กำลังทำภารกิจอยู่ด้านนอกกลับมา หลังจากนั้น พวกเราก็ควรที่จะส่งทีมพิเศษออกไปตรวจสอบและทำลายสิ่งแปลกๆนั่น!”นายพลจางพูดออกมา
“มันถูกจัดการได้ด้วยเหรอ? แล้วถ้าพวกเราล้มเหลมจะเกิดอะไรขึ้น?”กรรมการกองทัพถามออกมา
“นี่มันก็เป็นไปได้ด้วยเช่นกัน…ถ้าพวกเขาไม่สามารถที่จะกำจัดมันได้แล้วละก็พวกเราก็ควรที่จะป้องกันพื้นที่ปลอดภัยของพวกเรา!”นายพลจางกำหมัดแน่นและโบกมืออย่างลำบากใจ เขาก็เห็นถึงการล่มสลายของเกาะเชนไฮ่ ผู้รอดชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนก็สละชีวิตไปด้วย ในครั้งนี้ นายพลจางก็มไอนุญาตให้สิ่งเดิมๆเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“ตั้งแต่ผู้รอดชีวิตของเมืองเฮยจิงมาถึง เปิดทางเข้าและให้พวกเขาเข้ามา ถ้าพวกเขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่แล้วละก็พวกเราก็จะให้พวกเขาเข้าร่วมกับพวกเรา เพื่อป้องกันพื้นที่ปลอดภัย..”
ในเวลาเดียวกัน รถมินิบัสและรถ off-road ก็พุ่งเข้าไปด้านในประตูพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงด้วยความเร็วสูงสุด
ก่อนที่ทหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบเฝ้าประตูจะได้ถามออกมา เจียงลู่ฉีก็ลดหน้าต่างลงและตะโกนออกมา “ทีมฉี่หยิง!” หลังจากนั้น เจียงลู่ฉีก็จับพวงมาลัยและขับตรงเข้าไปด้านในโดยไม่มีรีรอ เขาก็พาทีมกลับมายังพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง สุดท้ายแล้ว เวลามันก็เป็นเรื่องที่สำคัญ!
โชคดีที่นายพลจางได้ออกคำสั่งให้พวกเขาผ่านไปได้ เมื่อเห็นรถมินิบัสที่พิเศษคันนี้ ทหารก็รีบเปิดประตูออก
เมื่อรถมินิบัสเข้าไปในพื้นที่ปลอดภัยและขับไปยังลานจอดรถ เจียงลู่ฉ๊ก็สังเกตเห็นว่าบรรยากาศนี้ดูแตกต่างออกไปในวันนี้ มันมีรถที่ได้รับการปรับแต่งมากมายในลานจอดรถ
“พวกนี้คือผู้รอดชีวิตที่มาจากเมืองเฮยจิงงั้นเหรอ?”เจียงลู่ฉีกระซิบ
เขาก็กวาดตามองและมองไม่เห็นเฮอจุนฮงและแฟนของเขา มันเหมือนกับว่าพวกเขาไมได้อยู่ที่นี่ เจียงลู่ฉีก็เดาว่าพวกเขาอาจจะถูกกลืนกินไปหรือหลบหนีไปยังสถานที่แห่งอื่นแล้ว เจียงลู่ฉีก็ได้ยินมาว่าผู้รอดชีวิตก็พูดออกมาว่าพวกเขามาจากสานที่แห่งอื่น มันแสดงให้เห็นเลยว่า รังผึ้งปรากฏตัวขึ้นหลายแห่งในเวลาเดียวกัน ยังไงก็ตาม เจียงลู่ฉีก็เหลือบตามองไปยังพวกเขาและขับผ่านพวกเขาไปยังลานจอดรถ