The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 142

ตอนที่ 142

ตอนที่ 142 รถที่เร็วที่สุดในโลก

ลูกสมุนตัวสูงของสองคิงชูเมื่อได้รับคำสั่งจากหัวหน้าเขาก็รีบลงจากรถที่ตนเองนั่งอยู่

เขาถือค้อนไว้ในมือขวา

และในเวลาเดียวกันใช้งานเครื่องรางเสริมพลังทำลายในมืออีกข้าง

เขาไม่รู้จริงๆว่าทำไมเทพมือระเบิดถึงได้ขับรถสามล้อคันนี้มายังโรงพยาบาล…เขาไม่ใช่คนที่ฉลาดอะไรนักเขาจึงไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเทพมือระเบิดมีแผนเช่นไร พวกเขานั้นอยู่กันคนละระดับจึงทำให้ในบางครั้งเขาจึงไม่ค่อยเข้าใจความคิดอีกฝ่าย

“สุดยอดวิชาสามเทพ เทพไร้พ่าย!” ชายในชุดสูทตัวสูงค่อยๆย่างก้าวไปทางรถสามล้อก่อนที่จะยกมือข้างขวาขึ้นราวกับว่ามือข้างนั้นถือกระบี่อยู่ เขาตะโกนเสียงเบาออกมา ก่อนที่จะรวบมือทั้งสองเข้าหากันเพื่อให้เครื่องรางเสริมพลังให้แก่ค้อน

ทันใดนั้นเองพลังของเครื่องรางก็ซึมผ่านเข้าไปยังค้อน ทำให้ค้อนนั้นใหญ่ขึ้นและมีแสงสีทองเรืองออกมา หลังจากเสริมพลังเสร็จแล้วค้อนธรรมดาอันนั้นก็มีพลังเทียบเท่ากับอาวุธพลังวิญญาณอื่น

เขาพึงพอใจกับผลงานของเขา เพียงการโจมตีแค่ครั้งเดียวค้อนอันนี้ก็สามารถทำลายส่วนพ่วงของรถสามล้อคันนี้ได้อย่างแน่นอน

แต่เมื่อเขากำลังจะเริ่มลงมือกับรถสามล้อของหวังลิ่ง เขาก็พลันได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงออกมาจากที่ไหนสักแห่ง “นี่คุณกำลังจะทำอะไรฉันไม่ทราบ?”

ทันทีที่ได้ยินเสียงปริศนา ชายในชุดสูทก็รู้สึกกลัวขึ้นมา

เพราะดูเหมือนว่าทิศทางของเสียงจะดังออกมาจากรถสามล้อคันนี้…’รถสามล้อเก่าๆคันนี้พูดได้?’

ชายในชุดสูทเริ่มเกิดอาการกลัวและหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบออกมา ในขณะที่สายตาก็ยังไม่ละออกจากรถสามล้อตรงหน้า สีของรถก็ซีดไปหมดรวมไปถึงสนิมตรงแฮนด์รถ โดยรวมแล้วแทบไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย…แต่ตอนนี้เขาเริ่มตระหนักได้ว่าเขาทำพลาด เพราะยังไงเสียรถคันนี้ก็เป็นของเทพมือระเบิดมันคงไม่มีทางเป็นรถธรรมดาที่คนปกติทั่วไปเขาใช้กัน

“ฉันตอบให้ก็ได้นายไม่ได้คิดไปเองหรอก”

และก็มีเสียงน่ารักของเด็กผู้หญิงดังออกมาจากรถสามล้ออีกครั้ง นั่นทำให้เขามั่นใจแล้วว่าเขาไม่ได้หูแว่ว

‘เสียงนี่มัน…ทำไมมันถึงดูน่ารักขนาดนี้?!’

เขาไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลยว่า เสียงที่น่ารักขนาดนั้นจะออกมาจากรถสามล้อเก่าๆคันนี้ เพราะว่ามันหวานและน่าฟังเกินไป เขาจึงไม่ได้รับรู้ถึงความอันตรายจากมันเลยแม้แต่น้อย

‘บางทีนี่อาจจะเป็นแค่ระบบนาวิเกเตอร์นำทางซึ่งเทพมือระเบิดติดตั้งไว้ก็ได้ มันอาจจะเอาไว้หลอกคนอื่น’

ตอนนี้เขากำลังคิดอย่างหนักว่าจะทำยังไงกับรถสามล้อคนนี้ดี

หลังจากที่เขาหยุดคิดไปได้สักครู่เขาก็ตัดสินใจเงื้อมือข้างที่ถือค้อนขึ้น เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะทำลายมันด้วยการทุบเพียงครั้งเดียว!

*ปัง!!*

ค้อนที่ได้รับการเสริมพลังแล้วถูกฟาดลงไปยังหน้ารถสามล้อด้วยเสียงอันดังก้อง แต่ก็ทำได้เพียงสร้างสะเก็ดไฟ

ชายในชุดสูทงุนงงเพราะสัมผัสได้ว่ามีเกราะล่องหนคุ้มครองรถสามล้อคันนี้อยู่

ด้วยแรงสะท้อนของมันทำให้ร่างของเขานั้นกระเด็นถอยหลังไปกระแทกเข้ากับรถลีมูซีนข้างหลัง ด้วยแรงกระแทกของเขาทำให้สัญญาณกันขโมยในรถลีมูซีนดังขึ้น

“บ้าจริง…”

ชายในชุดสูทสะบัดหัวไล่ความมึนงงจากแรงกระแทกก่อนจะลุกขึ้นมาจากพื้น แรงสะท้อนจากเกราะป้องกันนั้นค่อนข้างรุนแรงและมันทำให้เขาพลาดโอกาสที่จะทำลายรถสามล้อคันนั้น

“ฉันน่ารักขนาดนี้แต่คุณก็ยังคงจะทุบตีฉัน…อย่างที่คิดไว้เลยคุณคงไม่เคยมีแฟนมาก่อนใช่ไหม?” เสียงหวานของรถสามล้อดังขึ้นมาอีกครั้ง

ครั้งนี้ชายในชุดสูทตัวสั่นอย่างรุนแรง ‘วิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในรถคันนั้นมันเป็นวิญญาณของปีศาจตัวไหนกัน?’

เสียงร้องของรถข้างหลังเขาทำให้บรรดายามรักษาความปลอดภัยวิ่งมาล้อมรอบจุดเกิดเหตุ เขาพยุงตัวเองขึ้นมาเพื่อที่จะเดินไปขึ้นรถ เมื่อขึ้นรถประจำที่นั่งคนขับท่ามกลางความปวดหัวจากแรงกระแทกเมื่อสักครู่ เขาจำใจเหยียบคันเร่งเพื่อพาตัวเองออกจากสถานการณ์อันเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น

เขาไม่มีเวลาแม้แต่ที่จะมาสนใจรายละเอียดหยิบย่อย…แม้แต่เวลาที่จะคิดถึงรถสามล้อเมื่อสักครู่ก็ยังไม่มีเลย

เขาคิดแค่เพียงอย่างเดียวว่าหัวของเขาจะเป็นอะไรมากไหม ไม่นึกว่าแรงสะท้อนจะรุนแรงถึงขนาดนี้

‘ช่างน่าขัน อย่างน้อยเขาก็มีระดับถึงแก่นแท้ปราณทองคำ การที่จะได้รับบาดเจ็บจากรถสามล้อเนี่ยนะ…ใครจะไปเชื่อลง?’

เขารีบขับรถมุงหน้าออกจากโรงพยาบาลแห่งนี้ เมื่อถึงป้อมยามเขาชนเข้ากับแผ่นกั้นอย่างจังและพุ่งฝ่าออกไป

หัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยรู้สึกโมโหกับสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ‘ขับรถก็หรูแต่ทำไมแค่ค่าจอดรถยังไม่ยอมจ่าย!’ นี่เป็นสิ่งที่หัวหน้ายามคิดแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่แอบดูว่ารถคันนั้นทะเบียนอะไร

แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจที่สุดก็คือ เขาพบว่ามีรถสามล้อวิ่งตามหลังรถคนนั้นออกไปด้วย…

รถสามล้อที่สามารถตามความเร็วขนาดนั้นทัน…

แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ…รถสามล้อคันนั้นมันไม่มีคนขี่!

……………………………….

บนรถเบาหัวซึ่งอยู่ข้างหน้าโรงพยาบาลลำดับที่สองแห่งนี้ ชายชุดดำเลี้ยวรถขึ้นไปยังบนทางด่วน

หลังจากเขาโล่งใจไปได้แค่ไม่กี่นาที เขารู้สึกว่าอาการปวดหัวของเขายังไม่หายดีหรือไม่รู้เป็นเพราะอย่างอื่น แน่นอนว่าเขาไม่รู้หรอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง…

เขาเหลือบไปมองกระจกหลัง

และทันใดนั้นเองใบหน้าของก็ซีดเผือด

‘อะไรกันวะนั่น รถสามล้อคันนั้นไล่ตามเขามา! ไอรถบ้านั่นมันเป็นตัวอะไรของมันหรือว่าจะเป็นออโต้บอท(autobot)?!’ [autobot จาก หนังเรื่อง Transformer]

*บรื้น!*

ชายในชุดดำเหยียบคนเร่งเพื่อที่จะหนีจากรถสามล้อคันนั้น แต่ดูเหมือนจะรถคันนั้นจะยังคงตามติดเหมือนเงาไม่ทิ้งห่างไปไหนเลย

ราวกับว่ามีการถ่ายทำหนัง The Fast and The Furious บนทางด่วนก็ไม่ปาน

เขาเหยียบคันเร่งจนตอนนี้ไมบากของเขานั้นวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 300 km/h แต่ไม่ว่าเขาจะเร่งไปเท่าไรรถสามล้อก็ยังสามารถตามความเร็วของเขาทัน

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือไม่เพียงรถคันนี้จะตามเขาทัน ดูเหมือนว่ารถสามล้อคันนั้นยังเร็วขึ้นได้อีก ระยะห่างระหว่างรถของเขาและรถสามล้อนั้นค่อยๆลดน้อยลงน้อยลงไปทุกที

ไม่ไกลจากทั้งคู่มากนัก มีนายหัวหน้าตำรวจจราจรกำลังยืนพิงรถอยู่และกำลังจะเอาเครื่องมือตรวจวัดความเร็วตัวใหม่ขึ้นมาติดตั้ง…

เฟี้ยว…

เขาเห็นเหมือนมีแสงอะไรบางอย่างวิ่งผ่านหน้าเขาไป

*ตู้ม!*

เครื่องตรวจจับความเร็วเครื่องใหม่ระเบิดคามือของเขา

“ไอนักซิ่งสองตัวนั่นทำอะไรกันตั้งแต่เช้า? อยากตายกันนักหรือไง?!”

หลังจากที่เขาตะโกนไล่หลังรถทั้งสองคันเสร็จเขาก็หยิบวอขึ้นมา “โปรดทราบ โปรดทราบ ทุกหน่วย ขณะนี้มีรถสองคันกำลังแข่งรถบนทางด่วนหู และความเร็วของพวกเขานั้นเกิดความเร็วที่กำหนด สกัดกั้นยับยั้งโดยเร็วที่สุด ทราบแล้วเปลี่ยน!”

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเสียงตอบกลับมา “รายงานกัปตัน รถสองคันนั้นเร็วเกินกว่าที่จะไปทำการสกัดกั้นครับ”

“นายพอจะเห็นรุ่นของรถสองคันนั้นไหม? แจ้งไปยังเทศบาลว่าพวกเราต้องการกล้องวงจรปิดเพื่อที่จะได้ทราบทะเบียนรถสองคันนั้น”

“เอ่อ…คันแรกเป็นไมบาก…และอีกคนเป็น…” ทันใดนั้นเองมีนายตำรวจคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา “หัวหน้า! อีกคันเป็นรถสามล้อ รถสามล้อนั้นกำลังไล่ตามไมบาก!!!”

“…”

“รายงานหัวหน้า! รถสามล้อแซงไมบากไปแล้ว!”

“…”

The Daily Life of the Immortal King

The Daily Life of the Immortal King

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

เขาผู้ซึ่งเป็นอัฉริยะได้รับพลังใหม่หนึ่งขั้นในทุกๆสองปีตั้งแต่เขาอายุได้เพียง1ขวบ หวังลิ่งมีพลังมหาศาลเกินกว่าที่เขาจะควบคุม ตอนนี้เขาอายุ16ปีเขาเริ่มเข้าเรียนในระดับมัธยมปลายและพบเจอเรื่องวุ่นๆมากมาย เขาวางแผนไว้เพียงอย่างเดียวคือการทำตัวให้ไม่เป็นจุดสนใจ แต่ดูเหมือนแผนของเขาจะค่อยๆลอยห่างไกลออกไปทุกที

ฉันก็แค่อยากจะกินขนมบะหมี่ของฉันอย่างสงบสุขเท่านั้นเ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท