ตอนที่ 153 แค่ต้องใช้ผงซักฟองหนึ่งถุง
หวังสิ่งโทรหาเทพมือระเบิดเพื่อปรึกษาเรื่องที่สองคิงชูมาขอความช่วยเหลือ
หลังจากเทพมือระเบิดวางสายเขาก็รีบขี่แกะน้อยมุ่งหน้ามายังบ้านของหวังลิ่งโดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีเขาก็มาถึงหน้าบ้านแล้ว
หลังจากที่เขานํารถสามล้อของหวังสิ่งกลับไป เขาได้วานให้พี่ชายที่เก่งในเรื่องยานยนต์ช่วยซ่อมแซมปรับปรุงให้ เมื่อเขาได้ยินว่าหวังสิ่งต้องการความช่วยเหลือจากเขา เขาเลยถือโอกาสนี้นํารถสามล้อมาคืนด้วยเลย
เมื่อเขามาถึงหน้าบ้านเขาเห็นประตูบ้านนั้นแง่มเปิดอยู่ หวังลิ่งรู้ว่าเทพมือระเบิดมาถึงแล้ว เขาจึงใช้พลังวิญญาณบังคับให้ประตูเปิดออก
สองคิงซูเห็นเทพมือระเบิดและเด็กผู้หญิงผมสีชมพูในกางเกงขาสั้นสีน้ําเงินและสวมเสื้อโคทสีเทาเดินเข้ามาในบ้าน เด็กผู้หญิงนั้นดูอายุราวหกขวบพร้อมด้วยทรงผมจุกสองข้าง เธอกระพริบตาปริบๆและมองไปรอบบ้าน
เมื่อเขาสังเกตเห็นเทพมือระเบิดกําลังอุ้มเด็กน้อยคนนั้นไว้ สองคิงซูก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย…เขาไม่เคยได้ยินข่าวว่าสองคิงมีลูกสาว แล้วเด็กน้อยคนนี้มาจากไหนกัน?”
หลังจากเทพมือระเบิดเข้ามาในบ้าน เขาก็เห็นคุณปู่ของหวังสิ่งกําลังนั่งดู “คุณพ่อสอนหนูขับหน่อย” ซึ่งเป็นละครที่กําลังดังอยู่ในช่วงนี้ เขาจึงไม่กล้าที่จะไปขัดจังหวะการรับชมของคุณปู่ เขาจึงวางแผนเอาไว้ว่าเดี๋ยวเสร็จธุระวันนี้เขาจะกลับไปไล่ดูตั้งแต่ต้นยันจบ….บางทีเขาน่าจะได้ความรู้อะไรบางอย่างจากละครเรื่องนี้!
“มันต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ผู้อาวุโสทําแบบนี้อย่างแน่นอน!”
เขานําเจ้าแกะมาส่งให้หวังลิ่งถึงมือ แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชุดนอนของหวังสิ่ง “น้องลิ่งวันนี้แต่งตัวดูแปลกตาไปนะ?!”
เขากํามือกุมไว้ที่หน้าอกและกล่าวทักทายหวังสิ่งในชุดนอนกระต่ายสีขาว “น้องลิ่ง ฉันเอาเจ้าแกะมาคืน…”
หวังสิ่งหันไปมองเด็กผู้หญิงคนนั้นและเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เทพมือระเบิดเอามือลูบหัวเด็กผู้หญิงตัวน้อย “เป็นไงน้องลิ่งสภาพเจ้าแกะเป็นยังไงบ้าง?”
หวังลิ่งยกมือขึ้นแตะคางและพยักหน้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าแกะแปลงร่างเป็นมนุษย์ แต่ก่อนหน้านี้สภาพและเครื่องแต่งกายของเธอนั้นดูไม่ค่อยน่ามองเสียเท่าไร นั่นก็เพราะตัวรถสามล้อนั้น มีทั้งสนิมและลอยขีดข่วนบนตัวรถ แต่ตอนนี้ดูเป็นคนละคน(คัน)หลังจากเข้าอู่ซ่อมมา!
เจ้าแกะชี้นิ้วไปที่เทพมือระเบิดด้วยสีหน้าดีใจ “คุณลุงเขาขอให้คนบางคนช่วยพ่นสีแว็ก และ ขัดถูตัวหนู! มันรู้สึกดีมากเลยค่ะ!”
เทพมือระเบิด (= =)
ด้วยเหตุผลบางอย่าง หวังลิ่งรู้สึกคําพูดของเจ้าแกะมันฟังดูแปลกๆชอบกล
หลังจากฟังสองคิงชูอธิบายเรื่องราวทั้งหมด เทพมือระเบิดก็หัวเราะขึ้นมา “กลับกลายเป็นว่าคุณเป็นคนส่งคนกลุ่มนั้นให้เข้ามาต่อสู้แย่งชิงหน้ากากผีดิบจากเราในตอนนั้น แต่ทว่าตอนนี้คุณกลับถูกเขี่ยทิ้งหนําซ้ำยังถูกตามล่าตัวอีก คุณจึงมาขอให้พวกเราช่วยเหลือ ถาหากคุณรู้ว่าผลมันจะออกมาเป็นแบบนี้ ทําไมคุณถึงเลือกที่จะทํามันในทีแรก?”
สองคิวชูถอนหายใจและแสดงสีหน้าปั้นยาก “ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ท่านยอดฝีมือทั้งสองเป็นเพียงความหวังเดียว ถ้าหากท่านทั้งคู่ยอมช่วยฉัน ฉันจะบอกข้อมูลที่คุณอยากรู้…”
“งั้นเรามาฟังข้อมูลนั่นก่อน” เทพมือระเบิดนั่งและเอนตัวลงบนโซฟา เจ้าแกะพยายามหนีการกอดของเทพมือระเบิดและแสดงท่าที่รักเกียจเล็กน้อย
ท่ามกลางสายตาของทั้งหวังลิ่งและเทพมือระเบิด สองคิงซูจึงพูดขึ้นมา “ฉันรู้ว่ายอดฝีมือทั้งสองกําลังหาข้อมูลเกี่ยวกับคนทําหน้ากากนั่น…”
เมื่อได้ยิงดังนั้นนัยน์ตาของเทพมือระเบิดก็ลุกวาว “คุณมี?”
สองคิงซูพยักหน้าเบาๆ “ใช่ผมมี” ข้อมูลเหล่านี้เขาได้มาจากหัวหน้าพรรคเขียวซึ่งมีความน่าเชื่อถือในระดับนึง
จริงๆแล้วสองคิงชูรู้ตัวดีว่าเขาไม่มีอํานาจต่อรองใดๆ เพราะทุกวันนี้ผู้ฝึกตนมีหลากหลายวิธีที่จะดึงเอาข้อมูลในความทรงจําในหัว และยิ่งด้วยเป็นบุคคลทั้งสองตรงหน้าเขาด้วยยิ่งเป็นเรื่องง่าย
แต่เขาก็ไม่โง่ถึงขนาดนั้น…ก่อนที่จะมาที่บ้านของครอบครัวหวัง เขาได้ใช้วิชาผนึกความทรงจําไปบางส่วนแล้ว ถ้าหากผนึกถูกทําลายโดยที่เขาไม่ยินยอม ความทรงจําเหล่านั้นก็จะสูญหายไปตลอดกาล เขารู้ดีว่านี่เป็นข้อต่อรองที่ดีที่สุดของเขาเพียงอย่างเดียว แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าหวังสิ่งจะมีวิธีดึงข้อมูลเหล่านั้นวิธีอื่นอีกไหม
ยิ่งเทพมือระเบิดสามารถฆ่าผู้ฝึกตนระดับแก่นแท้วิญญาณด้วยกางเกงขายาวแล้วนั้น
“ฉลาดดีนี่ที่ใช้วิชาผนึกความทรงจําบางส่วนไว้” รูม่านตาของเทพมือระเบิดเรืองแสงออกมาเล็กน้อย ตาสวรรค์ของเทพมือระเบิดนั้นอยู่ในระดับแก่นแท้วิญญาณ แม้ว่าจะไม่ได้มีระดับสูงเทียบเท่าของหวังสิ่ง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากในการแอบดูความคิดของชายคนนี้
แต่ทันใดนั้นเองเทพมือระเบิดก็ขมวดคิ้วเพราะเขาเห็นจุดดําบนวิญญาณของสองคิงซู “ตราประทับวิญญาณ?” เขาเคยเห็นตราประทับวิญญาณเหล่านี้มาก่อน และยิ่งเป็นตราประดับที่อันตรายเท่าไรตราประทับนั้นยิ่งมีสีดํามากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ตระประทับวิญญาณของสองคิงชูนั้นดํามาก ดําจนแทบจะกลายเป็นก้อนเชื้อราดําอยู่แล้ว!
สองคิงชูก้มหน้าด้วยความเศร้าและถอนหายใจออกมา “ทุกคนที่ทํางานให้กับปราสาทตระกูลโม่จะได้รับตราประทับวิญญาณโดยเจ้าของปราสาทแบบนี้…”
เทพมือระเบิดเอามือแตะที่คางตนเองอย่างครุ่นคิด มันมีหลายมีวิธีที่จะกําจัดตราประทับวิญญาณ แต่ตราประทับวิญญาณที่อยู่ในวิญญาณของสองคิงชูนั้นมันอยู่มานานเกินไป และอาจจะถอนออกยากด้วย ไม่เพียงแค่เสี่ยงต่อการเปิดเผยตําแหน่งของตัวเขาเอง และเสี่ยงต่อเจ้าตัวที่จะโดนคําสาปเพิ่มอีก
“น้องสิ่งมีวิธีที่จะกําจัดตราประทับวิญญาณนี้ไหม?” เทพมือระเบิดหันไปถามหวังสิ่ง
หวังลิ่งพยักหน้าและลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ําของชั้นหนึ่ง จากนั้นเขาหยิบเอาถุงสีแดงออกมาจากชั้นวางของ
ทางด้านเทพมือระเบิดและสองคิงซูที่เห็นถุงสีแดงและตราสัญลักษณ์คุ้นตาต่างพากันทําหน้างง
“น้องลิ้งนี้มันคืออะไร?”
หวังสิ่งเปิดถุงออก
ข้างในถุงมีผงสีทองสะท้อนแสงและส่งกลิ่นห้อมฟังไปทั่วทั้งบ้าน
นี่เป็นถุงผงซักฟองยี่ห้อโอโม่ซึ่งหวังลิ่งเป็นคนเสกไว้
ในเวลาเดียวกัน สตรีนางหนึ่งมาถึงหน้าประตูรั้วบ้านของหวังลิ่ง สตรีท่านนี้สวมชุดกี่เพ้าและ รองเท้าส้นสูงสีแดง
เธอได้ตามรอยของตราประทับวิญญาณของสองคิงซูจนมาถึงที่นี่
“ที่นึ่งั้นหรือ…นี่แกคิดจริงๆหรอว่านายท่านจะไม่รู้ว่าแกซ่อนตัวอยู่ที่นี่?” ผู้หญิงคนนั้นทําจมูกฟุดฟิดเนื่องจากเธอได้กลิ่นของสองคิงซู
“สองคิงซู ออกมาเดี๋ยวนี้ นี่เป็นคําสั่งตรงจากนายหญิงของปราสาท ฉันมาเพื่อล้างแค้นให้อาจู!” ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ได้ลงมือทําอะไร เธอแค่ตะโกนออกไปด้วยเสียงอันก้องกังวานเพื่อเรียกคนที่อยู่ในบ้านออกมา
แต่ทว่า เสียงตะโกนของเธอกลับไม่มีใครตอบรับกลับมาเลย
“ไอบ้าน! สองคิงชู ถ้าแกยังทําตัวเป็นเต่าหดหัวอยู่ในกระดอง เดี๋ยวแม่จะทุบกระดองให้แตกเอง! ฉันสาบานเลยว่าฉันจะฆ่าคนให้หมดทั้งบ้าน!!” ผู้หญิงในชุดกี่เพ้าเริ่มพูดดังขึ้นด้วยความโมโห
และเมื่อเธอจะทันได้เริ่มลงไม้ลงมือ ประตูบ้านตรงหน้าของเธอก็เปิดออก
และมีเด็กผู้ชายในชุดนอนกระต่ายสีขาวค่อยๆก้าวออกมา