ตอนที่ 180 ช่วงเวลาแห่งการซุบซิบ
วันพุธที่ 8 มิถุนายน สัปดาห์ที่ 7 ของปีการศึกษาที่ 1
วันนี้อาจารย์ดังก็ได้เริ่มเล่าเรื่องซุบซิบทั่วไปตามปกติระหว่างการสอนวิชาประวัติศาสตร์แต่ครั้งนี้เนื้อหานั้นต่างออกไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เรื่องเล่าของแกจะเกี่ยวกับเนื้อหาที่สอน แต่คราวนี้อาจารย์ดังเริ่มต้นด้วยเรื่องขององค์กรเงาสายธาร และเริ่มต้นพูดถึงบรรดานักฆ่าระดับท็อปของโลกที่มีชื่อเสียง
“ปัญหาขององค์กรเงาสายธารในหลายเดือนที่ผ่านมานั้นได้เป็นที่สนใจของบรรดาผู้นำเมืองต่างๆ วันนี้เนื้อหาการเรียนการสอนจะเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเธอทุกคน” อาจารย์ดังพิงข้อศอกลงไปบนแท่นสอนของเขาจากนั้นจึงเริ่มต้นพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ “มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับนักฆ่าเหล้านั้นที่มีชื่อติดอยู่ในน่าฆ่ามีชื่อเสียงระดับโลกบ้าง?”
ไม่มีใครขานตอบใดๆกลับมา
“นักฆ่าเงาสายธารจำนวนสามคนที่เสียชีวิตภายในโรงเรียนของเรานั้นก็ติดอันดับอยู่หนึ่งในยี่สิบนะ คนที่มีอันดับสูงที่สุดก็อยู่อันดับที่สิบสาม” เมื่อพูดประโยคนี้จบอาจารย์อ้วนก็ยิ้มขึ้นมา “แต่คนกลุ่มนี้มันก็แค่ปลา!”
“ปลา?” บางคนไม่เข้าใจคำเปรียบเทียบของอาจารย์ดัง
อาจารย์ดังยักไหล่ “ปลาขยะ”
“ถ้าจะให้อาจารย์พูดตรงๆ..พวกที่อยู่อันดับต่ำกว่าสิบมันก็อ่อนพอๆกัน!”อาจารย์ดังแสยะ
แม้ว่าอาจารย์แค่จะพูดเพื่อทำให้เหล่านักเรียนรู้สึกตลก แต่หวังสิ่งก็สามารถจับความมั่นใจผ่านน้ำเสียงของอาจารย์ดังได้ เขาเคยเห็นฝีมือที่แท้จริงของอาจารย์ดังด้วยตัวของเขาเอง และเขาก็เชื่อมาตลอดว่าอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์คนนี้ ตัวตนที่แท้จริงของเขาไม่น่าจะธรรมดา
สำหรับหวังลิ่งอาจารย์ดังเป็นคนลึกลับผู้มาพร้อมกับเรื่องเล่ามากมาย…อันที่จริงแล้วตอนที่หวังสิ่งพบนักบุญลำดับสาม เขาได้ยินนักบุญคนนั้นเอ่ยชื่อปรมาจารย์นักฆ่าหรือนักฆ่าอันดับหนึ่ง หวังลิ่งก็เริ่มสงสัยในตัวตนของอาจารย์หวังซูคังมากขึ้นไปอีก
“มันจะเป็นไปได้ไหมที่อาจารย์ดังคือนักฆ่าอันดับหนึ่งคนนั้น?”
“วันนี้ฉันอยากจะพูดเกี่ยวกับนักฆ่าสิบอันดับในลิสต์นักฆ่าโลก”
เมื่อพูดจบอาจารย์ดังก็ทำสีหน้าเคร่งขรึม “จากลิสต์รายชื่อ หัวหน้าขององค์กรเงาสายธารนักฆ่าเจียงหลิวเย่นั้นอยู่อันดับที่หก ศพของเธอไม่ถูกพบเมื่อตอนที่ศูนย์บรรชาการใหญ่ถูกถล่มฉันมีความรู้สึกว่าหัวหน้าองค์กรคนนั้นยังไม่ตาย เอาหล่ะเรามาเริ่มไล่จากหลังมาหน้าดีกว่า นักฆ่าลำดับที่สิบมีฉายาในวงการว่า ไตวายแห่งสายฝนยามค่ำคืน” [สาบานได้นะว่านี่น่ะคือฉายา…ผู้แปล]
“ไตวายแห่งสายฝนยามค่ำคืน?”
“ใช่แล้ว ถ้าหากพูดถึงประวัติของนักฆ่าไตวายแห่งสายฝนยามค่ำคืนแล้วหล่ะก็ เขาเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เมื่อตอนที่เขายังเด็กเขาไม่เคยได้รับการสนับสนุนการฝึกตนเลย และนั่นคือเหตุผลที่เขาก้าวเข้าสู่โลกด้านมืด เขาล่าไตของคนและขายเพื่อเงิน ยิ่งเป็นคนเก่งไตก็ยิ่งราคาแพง…นักฆ่าคนนี้ฆ่าคนกว่าครึ่งค่อนประเทศเพื่อไต เขาจึงได้รับชื่อเรียกอีกชื่อนึงว่านักล่าไต”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้เหล่านักเรียนต่างรู้สึกตกใจ นักฆ่าคนนี้แค่อันดับที่สิบเอง เขาดูไม่ปกติเอาเสียมากๆ…แล้วคนที่มีอันดับสูงกว่าเขาหล่ะ?
อาจารย์ดังเริ่มพูดต่อ “นักฆ่าอันดับที่เก้านั้นมีฉายาในวงการว่านักฆ่ามือเย็น คนคนนี้เกิดมาด้วยลักษณะพิเศษ เขามีมือที่เย็นจริง ทุกครั้งที่เขาทำภารกิจเขาจะแสร้งทำเป็นว่าตัวเองไม่อันตรายและแกล้งล้มลงทุกครั้ง”
“ทำไมถึงต้องแกล้งทำเป็นล้มด้วยหรอครับ/ค่ะ?” ทุกคนในห้องต่างสงสัย
“เป็นเพราะว่าเขาต้องการที่จะหาโอกาสกุมมือเป้าหมายอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุดยังไงล่ะเมื่ออีกฝ่ายได้มีโอกาสสัมผัสมือของนักฆ่าคนนี้ พลังไอเย็นจากฝ่ามือจะซึมเข้าสู่ร่างกายและแช่แข็งอวัยวะภายในร่างกายทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง แน่นอนว่าสำหรับนักฆ่าเวลาเพียงชั่วครู่ก็เพียงพอแก่การปลิดชีวิตแล้ว คนที่โดนฝ่ามือพิษน้ำแข็งของนักฆ่าคนนี้เข้าไปพวกเขาไม่มีทางที่จะรับรู้วาระสุดท้ายของชีวิต”
“นักฆ่าลำดับที่แปดมีชื่อในวงการว่าซาลาเปาผู้ย่ำยี นักฆ่าคนนี้มีความพิเศษเล็กน้อยทุกๆ การฆ่าของเขาจะทิ้งซาลาเปาเนื้อสีแดงไว้ สิ่งที่น่ากลัวสำหรับนักฆ่าคนนี้คือวิชาซ่อนพลังวิญญาณของเขา เขาสามารถไปไหนมาไหนโดยที่ไม่มีใครจับได้เลย”
“นักฆ่าอันดับที่เจ็ดมีชื่อในวงการว่าหนึ่งนิ้วสีเทา…นักฆ่าคนนี้ก็มีความพิเศษเช่นกัน อาวุธในการฆ่าของเขาก็คือเส้นผมยาวหนึ่งนิ้วสีเทาของเขา มีข่าวลือมาว่าเขาเสริมพลังเส้นผมของตัวเองด้วยของวิเศษ เมื่อเขาเริ่มลงมือ เป้าหมายจะถูกฆ่าอย่างแน่นอน จนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยพลาดเลย”
เสริมพลังเส้นผมจนกลายอาวุธได้เนี่ยนะ?
เมื่อหวังลิ่งฟังถึงตรงนี้ คิ้วทั้งสองของเขาก็ขมวดเป็นปม เพราะว่ามันคล้ายกับอาจูและอายูจากหอคอยอมตะ
“อาจารย์คงไม่ต้องอธิบายนักฆ่าอันดับหกหัวหน้าองค์กรนักฆ่าเงาสายธารนะ เราไปดูอีกห้าคนที่เหลือดีกว่า” อาจารย์ดังแอบหยิบป้อกกี้ขึ้นมาจากกระเป๋าและเอาเข้าปากไป “อาจารย์เชื่อว่าในขณะที่พวกเธอได้ติดตามข่าวมา พวกเธอเคยได้ยินเรื่องของนักฆ่าอันดับสี่และห้ามาบ้างพวกเขาเป็นคู่หูนักฆ่าที่โด่งดังในวงการ ชื่อในวงการของพวกเขาคือเฒ่าทองคำและเฒ่าเงิน พวกเขาเก่งกาจในเรื่องการใช้พิษ”
“ผู้ฝึกตนก็จำเป็นต้องใช้พิษหรอครับ?”
“แน่นอนสิ!”
อาจารย์ดังพยักหน้า “หลังจากที่พวกเธอมีโอกาสได้เรียนวิชาเภสัช พวกเธอคงรู้ว่าผู้ฝึกตนจะไม่ได้รับผลของพิษทั่วไป ไม่ว่ามันจะเป็นพิษจากเขี้ยวงูหรือยางพิษจากพืช เพียงแค่ปริมาณนิดเดียวก็เพียงพอต่อการปลิดชีวิตคนธรรมดาแล้ว แต่สำหรับผู้ฝึกตนหากได้รับพิษธรรมดาพวกนั้นเข้าไป พวกเขาสามารถหมุนเวียนพลังวิญญาณและขับพิษเหล่านั้นออกจากร่างกายได้…แต่พิษของสองเฒ่านี้มีความพิเศษกว่าพิษทั่วไป พวกเขาเป็นเพียงคนเดียวที่มียาถอนพิษเหล่านั้น เท่าที่ฉันรู้ตอนนี้คือพวกเขายังไม่หยุดยั้งในการพัฒนาพิษรูปแบบใหม่เพื่อใช้กับผู้ฝึกตน”
ใครบางคนยกมือถามขึ้น “พิษชนิดไหนหรอครับ”
อาจารย์ดังตอบกลับ “มันเป็นยาพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาททำให้ประสาทหลอนและอาละวาดเหมือนเป็นคนบ้า พิษชนิดนี้ส่งผลอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้รับมันเข้าไป เฒ่าทองคำและเฒ่าเงินเคยใช้มันกับนักฆ่าที่อยู่อันดับสี่มาก่อน ฉายาของเขาคือเทพนักตก”
“แล้วผลเป็นยังไงหรอครับอาจารย์?” มีนักเรียนชายในห้องคนนึงเอ่ยถามขึ้นมา
อาจารย์ดังยักไหล่ “เทพนักตกคนนี้กลายเป็นบ้าภายในคืนนั้น เขาบุกเข้าไปยังบ้านนักฆ่าคนอื่นและตะโกนใส่ทุกคนที่เขาเจอว่า “ฉันหล่อที่สุดในโลกเลยใช่ไหมที่รัก…”
“…” เมื่อฟังจบนักเรียนทุกคนภายในห้องต่างเงียบกริบ
“สุดท้ายที่พวกเขาพบนักฆ่าคนนี้เขากลายเป็นศพไปเสียแล้ว ไตทั้งสองข้างหายไป ร่างกายมีร่องรอยของการโดนแช่แข็ง และพบเส้นผมพันอยู่รอบลำคอ แถมยังมีซาลาเปาสีเลือดวางอยู่ข้างศพอีก
“พูดง่ายๆก็คือนักฆ่าลำดับที่สี่โดนลอบสังหารโดยนักฆ่าที่อยู่อันดับต่ำกว่า หลังจากนั้นเฒ่าทองกับเฒ่าเงินและคนอื่นก็ได้เลื่อนอันดับขึ้นมาแทน”