ตอนที่ 181 โจรปิศาจ ลมเย็น และคุณครูนักฆ่า
มันเป็นเวลากว่าสามวันแล้วนับตั้งแต่ศูนย์บัญชาการใหญ่องค์กรเงาสายธารถูกทําลาย และมันก็นานพอที่เจียงหลิวเย่จะพักฟื้นร่างกายจนกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
หัวหน้าองค์กรเงาสายธารคนนี้ประมาทต่อหายนะที่เกิดขึ้น จึงทําให้เธอสูญเสียพลังที่สั่งสมมาไปถึง600ปีของผู้ฝึกตน
ถ้าหากร่างโคลนปั้นของเธอไม่ถูกทําลายแบบไม่มีชิ้นดี เธอสามารถเรียกพลังที่เธอใส่ลงไปกลับคืนมาได้ แต่โชคไม่ดีที่เจ้าแมวบ้าตัวนั้นไม่ปล่อยโอกาสให้เธอทําแบบนั้น มันทําลายร่างโคลนปั้นของเธอทิ้งเสียก่อน
ศูนย์บัญชาการของเธอนั้นพังย่อยยับ น้องสาวของเธอก็ถูกจับกลับไปอีกครั้งและแม้แต่ลูกน้องคนสนิทของเธอโหมวลีก็ยังถูกจับ
องค์กรนักฆ่าเงาสายธารอันโด่งดังนั้นคงไม่มีตัวตนอีกต่อไปแล้ว นั่นทําให้เจียงหลิวเย่รู้สึกเศร้า
ตอนนี้องค์กรเงาสายธารได้ล่มสลายลงอย่างสมบูรณ์ เธอรู้ดีว่าบรรดานักฆ่าที่อยู่อันดับต้นๆกําลังตามล่าตัวเธอ…ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งนิ้วสีเทาอันดับเจ็ด ซาลาเปาผู้ย่ํายีอันดับแปด นักฆ่ามือเย็นอันดับเก้า หรือไตวายแห่งสายฝนยามค่ําคืนอันดับสิบ พวกเขาจะต้องตามล่าตัวเธอเพื่อชิงอันดับอย่างแน่นอน
แล้วตอนนี้เธอควรจะทํายังไงดี?
เจียงหลิวเยู่ได้เตรียมตัวเพื่อสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดมาบ้าง แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่ามันจะมาเร็วถึงเพียงนี้ แต่ถึงอย่างนั้นแม้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเธอก็ยังสามารถป้องกันร่างกายหลักของเธอไว้ได้ อันที่จริงถ้าหากมันไม่ใช่ร่างโคลนปั้นของเธอ เธอคงไม่มีโอกาสที่จะหนีรอดมาได้แบบนี้
เธอเองนี่แหละที่เป็นคนเก็บกล่องใส่หน้ากากไว้ที่ศูนย์บัญชาการ เธอรู้ว่าหน้ากากผีดิบนั้นเป็นหนึ่งในอาวุธคู่แฝด ทันทีที่เธอนําเอาหน้ากากออกมาจากกล่องหิน เธอก็ผนึกคู่ของมันไว้ในมิติแห่งความวุ่นวายเพื่อตัดขาดการเชื่อมต่อของหน้ากากทั้งสอง
เธอยังคงมีหนทางที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้
หน้ากากผีดิบนั่นเป็นอาวุธลับของเธอ
ตราบใดที่เธอยังคงมีชีวิตอยู่
อีกทางด้านหนึ่ง อาจารย์หวังซูคังยังคงสอนวิชาประวัติศาสตร์ของเขาภายในห้องเรียน
เขาพูดถึงนักฆ่าทั้งสิบอันดับจนจะครบแล้ว เหลือแค่เพียงอีกสามอันดับเท่านั้น
อาจารย์ดังวางมือทั้งสองของเขาลงบนแท่นสอนหนังสือตามสไตล์ของเขา “อาจารย์ได้พูดถึงนักฆ่าอันดับที่สี่ถึงสิบไปแล้ว ต่อไปอาจารย์จะพูดถึงอีกสามคนที่เหลือ”
เมื่ออาจารย์ดังพูดจบอาจารย์ก็หลี่ตาลงพร้อมกับบรรยากาศที่เปลี่ยนไป
“เท่าที่อาจารย์รู้ นับตั้งแต่มีการเปิดเผยหนึ่งร้อยอันดับนักฆ่าสากลออกมา และมีการเปลี่ยนแปลงไม่ต่ํากว่าสามพันหกร้อยครั้ง อย่างไรก็ตามมีเพียงสามต่ําแหน่งเท่านั้นที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และพวกเขาเหล่านั้นก็คือนักฆ่าสามอันดับนี้ ในตอนนี้ก็มีนักฆ่าจํานวนไม่น้อยที่ท้าทายนักฆ่าสามอันดับนั่น ภายในหนึ่งปีพวกเขาโดนท้าสู้ไม่ต่ํากว่าสามร้อยครั้ง แต่โชคร้ายที่ไม่มีผู้ท้าชิงคนไหนเลยรอดชีวิตกลับมา เสมือนพวกเขารนหาที่ตายกันเสียเอง”
“ตั้งแต่ตอนนั้นเพื่อที่จะควบคุมไม่ให้เกิดการสูญเสียไปมากกว่านี้ พวกนักฆ่าได้ตกลงว่าพวกเขาจะสามารถท้าสู้กับคนที่อยู่สูงกว่าตนได้เพียงหนึ่งตําแหน่งเท่านั้น ดังนั้นในตอนนี้มีเพียงเฒ่าทองคําและเงินที่สามารถท้าสู้กับนักฆ่าอันดับที่สามได้”
“ขอโทษนะครับอาจารย์ แล้วพวกเขาได้ลองท้าสู้ไปแล้วหรือยังครับ?” มีนักเรียนถามขึ้นมาภายในห้อง
“แน่นอนสิ” อาจารย์ดังพยักหน้า “แต่จากที่อาจารย์ทราบ พวกเขาท้าสู้ไปแล้วไม่ต่ํากว่ายี่สิบครั้งแต่ก็ไม่สําเร็จเลย นักฆ่าอันดับสามนั้นมีชื่อในวงการว่าโจรปีศาจ เขามีชื่อเสียงในด้านการโจรกรรม มีข่าวลือว่าทุกครั้งที่ต่อสู้พวกเขาจะพบว่าทรัพย์สินของพวกเขาบางอย่างหายไป และ พวกเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกมันหายไปตอนไหน”
“ก่อนที่สนธิสัญญาของนักฆ่าจะประกาศ ซาลาเปาผู้ย่ํายีก็เคยท้าสู้กับโจรปีศาจ ผลลัพธ์ก็คือ ซาลาเปาสีเลือดของเขาถูกขโมยไปจนหมด เขายอมแพ้หนีไปก่อนที่จะเริ่มต่อสู้เสียอีก”
“นักฆ่ามือเย็นก็เคยจะใช้การแกล้งล้มกับโจรปิศาจ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเสื้อผ้าของเขาถูกขโมยเสียอย่างงั้นโดยไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน เขารีบลุกขึ้นมาและวิ่งหนีโดยที่ไม่ทันได้เริ่มต่อสู้ และเขาเกือบจะโดนตํารวจจับข้อหากระทําการลามกอนาจารในที่สาธารณะ
“ที่โชคร้ายที่สุดคงเป็นหนึ่งนิ้วสีเทา… เมื่อตอนที่เขาท้าสู้ในตอนนั้น เขาตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นกลับพบว่าผมทั้งหมดของตัวเองนั้นหายไป! ที่น่าเจ็บใจที่สุดก็คือโจรปีศาจได้ทายากําจัดผมลงไปบนหัวของเขาด้วย…”
“อาจารย์คิดว่าพวกเธอคงเดาออกในกรณีของเฒ่าทองคําและเฒ่าเงิน” อาจารย์ดังพูดด้วยน้ําเสียงติดตลก “ทุกครั้งที่พวกเขาจะใช้พิษเพื่อเล่นงานโจรปีศาจ พวกเขามักจะพบว่าพิษของพวกเขานั้นหายไป ในทีแรกพวกเขาคิดว่าพวกเขาคงเป็นโรคความจําเสื่อม…”
สมกับที่เป็นอาจารย์ดัง เขาได้รวบรัดและจัดสรรเนื้อหาที่จะสอนเกี่ยวกับนักฆ่าแก่พว กเด็กนักเรียนได้อย่างดีเยี่ยม
ในตอนนี้เองบรรยากาศภายในห้องเริ่มตื่นเต้นขึ้น เมื่ออาจารย์เห็นว่ายังพอมีเวลาเหลือ เขาจึงจบเรื่องราวของนักฆ่าอันดับสามไว้และต่อด้วยเรื่องราวของนักฆ่าอีกสองคนที่เหลือ
“นักฆ่าอันดับที่สองนั้นมีชื่อในวงการว่าลมเย็น พละกําลังของเขานั้นเป็นที่รู้จักโดยทั่วกัน จากที่อาจารย์ทราบมานะ นักฆ่าคนนี้เคยเป็นทหารพิเศษที่ถูกฝึกโดยทางรัฐบาลเพื่อใช้ในภารกิจลอบสังหาร เขาช่วยประเทศของเขาให้ผ่านพ้นวิกฤตเหตุการณ์หลายครั้ง โดยการสังหารเหล่าสายลับจากประเทศอื่น มีครั้งหนึ่งที่เขาจัดการฆ่าทหารรับจ้างที่ถูกส่งมาโดยคนจากชาติตะวันตก โดยที่ไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่นิดเดียว”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้อาจารย์ดังก็อดไม่ได้ที่จะแสดงออกถึงความเสียใจ “ในทุกครั้งที่เราได้ยินชื่อนักฆ่า พวกเราจะคิดว่าพวกเขานั้นเลือดเย็น แต่ก็มีคนที่สมควรจะถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ในหมู่พวกเขา…ลมเย็นก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“หนึ่งในนั้น? ยังมีคนอื่นอีกหรอครับอาจารย์ นักเรียนในห้องถามขึ้นมา
“แน่นอนสิ” อาจารย์ดังพยักหน้าให้กับนักเรียนคนนั้น “นักฆ่าคนต่อไปอาจารย์อยากจะพูดเกี่ยวกับตํานานที่ยังมีชีวิต ที่เขาสามารถคงตําแหน่งอันดับหนึ่งไว้ได้ตลอดมานับตั้งแต่มีการประกาศรายชื่อนักฆ่าสากล.เขาคือปรมาจารย์นักฆ่า หรือชื่อในวงการก็คืออาจารย์นักฆ่า”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ หวังสิ่งเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะ
ปรมาจารย์นักฆ่าเป็นอีกครั้งที่เขาได้ยินชื่อของคนคนนี้
เพราะนักบุญอันดับสามก่อนหน้านี้ก็ได้เข้าใจผิดว่าเขาคือคนคนนี้เช่นกัน