ในวันที่ 2 หานซั่วไม่ได้เข้าร่วมงานประมูล
เขาได้ข้อมูลมาจากองครักษ์ชุดดำมาก่อนแล้วว่าไม่มีสินค้าชิ้นไหนที่น่าสนใจสำหรับเขาเลยสักชิ้น ส่วนโซฟีก็มาหาเขาตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อเธอรู้ว่าหานซั่วจะไม่ไปที่งานประมูล เธอก็ร่าเริงขึ้นมาอีกครั้งและลากหานซั่วออกไปข้างนอกเพื่อเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจอีก 2-3 แห่ง
ในครั้งนี้ โซฟีได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีเสียที เมื่อเธอพาหานซั่วไปยังสถานที่ขึ้นชื่อรอบ ๆ นครซีซาร์แห่งจักรวรรดิคาซี
ตลอดการเดินทาง หานซั่วค่อนข้างจะใจลอย เขาสามารถสัมผัสได้ว่าราชาหกเขาแห่งเผ่าวิญญาณกำลังใกล้เข้ามา จิตสังหารของราชาหกเขา ทำให้หานซั่วตื่นตัวระวังภัยคุกคามอยู่เสมอ เขาจึงทำใจชื่นชมกับวิวทิวทัศน์รอบตัวได้ยากยิ่ง
เพียงชั่วพริบตา อีก 1 วันเต็มก็ได้ผ่านไป และเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว หานซั่วก็รวบรวมกำลังเพื่อที่จะไปที่งานประมูลอีกครั้ง
ไม่นานนักหลังจากที่เขาไปถึง ซาร์ยา ผู้ที่ดูแลที่นั่นคนเดิมก็ปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ หานซั่ว และอาจจะเป็นเพราะเรื่องราวคราวก่อน เขาจึงมีท่าทีสำนึกผิดไม่น้อยขณะพูด
“ข้าต้องขอโทษด้วยจริง ๆ เรายังตามหาสินค้าชิ้นนั้นไม่พบเลย กรุณาให้เวลาเราอีกสักนิดเถอะนะขอรับ”
ในเมื่อตอนนี้ใบไม้มรกตตกมาอยู่ในความครอบครองของหานซั่วอย่างลับ ๆ แล้ว เขาจึงพยักหน้าและตอบออกไป
“ก็ได้!”
“ขอบคุณขอรับ! เราจะพยายามตามหาสินค้ามาให้ท่านโดยเร็วที่สุดเลย!”
ซาร์ยารู้สึกอับอายอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับลูกน้อง
“ดูแลแขกคนสำคัญให้ดีล่ะ”
เมื่อสร้างความประทับใจด้วยการทุ่มเงินประมูลกว่า 300,000 เหรียญทองในงานประมูลวันก่อน ผู้คนจึงพากันมองเขาในแง่มุมใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่องานประมูลเริ่มขึ้น หานซั่วก็หยุดพูดคุย เขาก็ปล่อยจิตออกไปและสำรวจทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในงานประมูล ก่อนจะมุ่งความสนใจไปที่สินค้าที่กำลังถูกนำขึ้นแสดง
** Please note : หากท่านไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้จากบล็อก https://gdk-th.blogspot.com/ แปลว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับคนที่กำลังสุขสบายกับการหาเงินง่าย ๆ ด้วยการใช้นิ้วคลิกก๊อบผลงานแปลของเพจไปขายอีกต่อหนึ่ง **
“ขอโทษนะคะ ข้าขอนั่งข้าง ๆ ท่านได้รึเปล่า?”
ในตอนนั้น สตรีสูงศักดิ์ซึ่งอยู่ในงานเลี้ยงของบรากเมื่อวันก่อนก็เดินเข้ามาหาหานซั่ว ก่อนจะถามเขาพร้อมกับดวงตาที่จ้องมองเขาอย่างแน่วแน่
“โอ้ ได้สิ”
หานซั่วมองเธอและตอบพอเป็นพิธี ภายในใจ เขารู้สึกแปลกใจอยู่ดี และไม่รู้เลยว่าจุดประสงค์ที่ผู้หญิงคนนี้พยายามเข้าหาเขาคืออะไร
ในงานเลี้ยงของบรากเมื่อคืนก่อน หานซั่วก็รู้ว่าเธอเป็นฤๅษีแห่งพงไพร ในจักรวรรดิคาซีแห่งนี้ อารามแห่งน้ำแข็งมีอิทธิพลสูงสุด จึงเป็นการยากที่จะได้เห็นลัทธิอื่นปรากฏตัวขึ้นที่นี่ โดยเฉพาะพวกที่มาจากภาคีฤๅษีแห่งพงไพร
ก่อนหน้านี้หานซั่วเคยเจอกับแคสเปี้ยน ฤๅษีแห่งพงไพรผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคีฤๅษีแห่งพงไพรมาแล้ว เขารู้ว่าหลักคำสอนของภาคีนี้เกี่ยวกับธรรมชาติของชีวิตที่สงบสุข ในจำนวนนั้น ฤๅษีพงไพรผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงมักจะพบเห็นได้ยากในสังคมมนุษย์ แม้แต่พวกที่เผยแพร่คำสอนอยู่ในสังคมทั่วไป ก็มักจะอยู่ในที่ ๆ เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มเสียมากกว่า
หานซั่วแทบจะไม่เคยเห็นฤๅษีแห่งพงไพรแบบเธอที่เข้าสังคมชั้นสูง ในคืนก่อนหน้านี้ ผู้หญิงคนนี้เรียกขุมพลังธาตุไม้หรือใบไม้มรกต ว่ามันคือ ‘หัตถ์เทพี’ ซึ่งหมายความว่า เธอรู้ว่าใบไม้มรกตคืออะไร เพราะภาคีฤๅษีแห่งพงไพรคือผู้ที่บูชาธรรมชาติอยู่แล้ว และบังเอิญว่าขุมพลังธาตุไม้สามารถทำให้พืชพรรณในป่าเติบโตมีชีวิตชีวา และยังมีความสามารถพิเศษอีกหลายอย่างที่น่าอัศจรรย์ จึงน่าสนใจไม่น้อยที่ผู้หญิงคนนี้เรียกใบไม้มรกตว่าหัตถ์ของเทพีแห่งธรรมชาติ
“ข้ามีชื่อว่า ลิเลียน ข้าเป็นฤๅษีแห่งพงไพร จากภาคีฤๅษีแห่งพงไพร”
เธอแนะนำตัวกับหานซั่วทันทีหลังจากนั่งลง
หานซั่วพยักหน้าพร้อมยิ้มให้เธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จะต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ทำผู้หญิงคนนี้เข้ามาหาเขา จากการสำรวจของหานซั่ว สิ่งที่เธอต้องการพูดกับเขาคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับใบไม้มรกตไม่ผิดแน่
“ข้าหวังว่าท่านจะขายหัตถ์เทพีให้กับข้า ‘หัตถ์เทพี’ เป็นของภาคีฤๅษีแห่งพงไพร ข้าหวังว่าท่านจะเข้าใจเจตนาของพวกเรา”
ลิเลียนพูดด้วยเสียงแผ่วเบา ในขณะที่ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องมาที่หานซั่ว
ผู้หญิงคนนี้ดูแล้วน่าจะมีอายุราว 30 ปี เธอมีผิวที่เรียบเนียนและรูปร่างบอบบาง แม้ว่าจะไม่ได้ดูโดดเด่นเท่าใดนัก และแทบจะเรียกไม่ได้ว่าสูงส่งหรืองามสง่าถึงขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็มีกิริยาอาการแบบฉบับสมบัติผู้ดีเฉกเช่นที่เหล่าชนชั้นสูงจะพึงทำ และด้วยบทบาทที่เธอสวมอยู่นี้ ทำให้หน้าตาท่าทางที่ดูธรรมดาของเธอ กลับกลายเป็นน่าดึงดูดใจไม่น้อย
หานซั่วกวาดตามองไปรอบ ๆ ลิเลียน และพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านก็รู้นี่นา สิ่งนั้นไม่ได้อยู่กับข้าหรอก ข้าต้องขออภัยด้วย”
ลิเลียนมองหานซั่วด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม หลังจากลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พูดขึ้น
“แล้วถ้าของสิ่งนั้นอยู่ในมือท่านล่ะ?”
หานซั่วขมวดคิ้ว และสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
“ท่านหมายความว่ายังไง?”
ราวกับว่าหัวใจของลิเลียนถูกแช่แข็งเพราะทั่วทั้งร่างกายจมอยู่ในน้ำเย็นจัด ในขณะที่อยู่ท่ามกลางห้องโถงที่แออัดวุ่นวายในงานประมูล ลิเลียนกลับไม่รู้สึกถึงความปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย ในฐานะฤๅษีแห่งพงไพรจากภาคีฯ ลิเลียนย่อมมีสัมผัสที่ละเอียดอ่อนกว่าคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้น เธอจึงรู้ได้ทันทีว่าความรู้สึกนี้มีความหมายว่าอะไร
เพราะหากว่าชายร่างอ้วนที่ดูซื่อ ๆ ธรรมดาคนนี้ต้องการจะฆ่าเธอแล้วล่ะก็ เธอคงไม่มีทางหนีอย่างแน่นอน
ลิเลียนที่ยังคงอยู่ในอาการตกใจ เธอจึงรีบชี้แจง
“ข้าหมายความว่า ถ้าหากว่างานประมูลนี้ตามหาหัตถ์เทพีของภาคีฤๅษีแห่งพงไพรมาให้ท่านได้แล้ว ท่านจะช่วยขายต่อให้กับข้าได้หรือไม่? เราเต็มใจจะเสนอราคาที่สูงกว่าเดิมอีกนะ!”
ในตอนนั้น โซฟีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หานซั่วก็ดึงชายเสื้อเขา ดูเหมือนว่าโซฟีเองก็สามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่มากจากหานซั่วเช่นกัน เธอจึงเตือนเขาถึงสถานการณ์ในตอนนี้
สีหน้าเคร่งขรึมของหานซั่วจางหายไปและถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มธรรมดา ๆ เขาหัวเราะและพูดขึ้น
“โอ้ ถ้าเป็นอย่างนั้น ไว้ค่อยคุยกันเมื่อถึงเวลาก็แล้วกัน หลังจากที่สำนักประมูลสามารถหาของมาคืนข้าได้แล้วน่ะนะ!”
2 วันก่อนหน้านี้ ผู้หญิงคนนี้ทำท่าเหมือนจะขัดสนเรื่องเงิน ใครจะคาดคิดว่าหลังจากระยะเวลาเพียงสั้น ๆ เธอจะสามารถเสนอราคาที่สูงกว่าสำหรับสินค้าชิ้นนี้ได้แล้ว? ผู้หญิงคนนี้คงไปรวบๆเงินทุนมาได้มากพอ ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอย่างแน่นอน
“ท่านคะ ของสิ่งนั้นมีความสำคัญกับภาคีฤๅษีแห่งพงไพรมากจริง ๆ ถ้าท่านยินดีขายต่อให้กับเรา ภาคีฤๅษีแห่งพงไพรจะต้องซาบซึ้งใจอย่างที่สุดเลยล่ะ”
ลิเลียนยังคงพูดต่อไปขณะที่จ้องมองหานซั่วด้วยสายตาเว้าวอน หลังจากที่เธอเห็นว่าสีหน้าของหานซั่วผ่อนคลายลงแล้ว
“ข้าไม่คิดว่าจะได้มันกลับมาด้วยตัวเองหรอก แต่ถ้าท่านมีเวลา ท่านน่าจะไปติดต่อกับทางสำนักประมูลมากกว่า บางทีพวกเขาอาจจะมีอีกชิ้นมาขายอีกก็ได้ ใครจะรู้?”
หานซั่วไม่มีทางส่งใบไม้มรกตให้คนอื่นอย่างแน่นอน มันมีประโยชน์มหาศาลกับเจ้าผีดิบธาตุไม้ ยิ่งไปกว่านั้น หานซั่วยังต้องหวังพึ่งเจ้าผีดิบธาตุไม้ในการปลดปล่อยค่ายกลอสูรเบญจธาตุออกมาได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
ลิเลียนมองหน้าหานซั่วและอ้าปากกำลังจะพูดบางอย่างออกมา แต่แล้วเธอก็ลังเลใจ บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอนึกถึงจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาจากหานซั่วก่อนหน้านี้ เธอจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ
** Please note : หากท่านไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้จากบล็อก https://gdk-th.blogspot.com/ แปลว่าท่านกำลังจ่ายเงินให้กับคนที่กำลังสุขสบายกับการหาเงินง่าย ๆ ด้วยการใช้นิ้วคลิกก๊อบผลงานแปลของเพจไปขายอีกต่อหนึ่ง **
หานซั่วไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เมื่อเขามองเห็นท่าทีลังเลใจของลิเลียน ในใจของเขาก็รู้สึกไม่แน่ใจนักว่าเธอจะรู้หรือไม่ว่า “ใบไม้มรกต” อยู่กับเขา ความรู้สึกนี้ช่างน่ารำคาญใจเหลือเกิน หานซั่วเหลือบมองและสำรวจเธอ 2-3 ครั้ง และจากสายตาดึงดันของเธอ ก็ดูเหมือนเธอจะรู้อะไรบางอย่าง
เธอจะรู้ได้ยังไงกัน? ไม่มีทางหรอกน่า! หานซั่วว้าวุ่น เขาลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยายามหลอกถามเธอ
“ท่านมีเหรียญทองสู้ราคาได้เท่าไหร่รึ?”
ทันทีที่หานซั่วพูด เธอก็มีท่าทีทั้งประหลาดใจและดีใจอย่างที่สุด
“ท่านยอมขายมันให้เราแล้วเหรอ?”
นั่นทำให้แน่ใจได้มากพอว่า ลิเลียนรู้ว่าหานซั่วกำลังครอบครองมันอยู่ เธอจึงได้มีท่าทีเช่นนั้น หานซั่วสังเกตปฏิกิริยาของเธอ เขาแน่ใจว่าเธอรู้ว่าใบไม้มรกตอยู่ในมือของเขา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถบอกได้ว่าเพราะอะไรก็ตาม
“ก็… ถ้าท่านเสนอราคาที่สมเหตุสมผล เมื่อข้าได้มันมาแล้ว ข้าค่อยพิจารณาที่จะขายให้ท่านก็แล้วกัน”
หานซั่วตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ
“350,000 เหรียญทอง ท่านว่าไงล่ะ?”
ลิเลียนรีบตอบทันที
อืมม… ไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีอย่างที่คิดแฮะ เพิ่มมาแค่ 50,000 เหรียญทองเท่านั้นเอง หานซั่วคิดในใจ
“400,000 เหรียญทองก็ได้! ข้าให้ได้มากที่สุดเท่านี้ ข้าขอร้องล่ะ ได้โปรดเถอะ พวกเรามีเท่านี้จริง ๆ!”
เมื่อเห็นว่าหานซั่วยังนิ่งเงียบอยู่ ลิเลียนก็เข้าใจว่าเขายังไม่พอใจในราคา 350,000 เหรียญทอง ดังนั้นเธอจึงขอร้องอ้อนวอนหานซั่วอีกครั้ง
การที่มีสตรีสูงศักดิ์มาปฏิบัติต่อเขาอย่างอ่อนโยนนุ่มนวลเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าใบไม้มรกตนั้นมีความสำคัญต่อเจ้าผีดิบธาตุไม้แล้วละก็ หานซั่วคงจะยอมตกลงเป็นแน่
“ราคาดีทีเดียว ข้าจะรับไว้พิจารณาก็แล้วกัน!”
หานซั่วถอนหายใจและตอบลิเลียนพร้อมกับรอยยิ้มสุภาพ
“ตัวกินสมอง มันเป็นสัตว์วิเศษที่ไม่ธรรมดาเลย มันไม่มีผลึกมนตรา และใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินสมองมนุษย์และสัตว์วิเศษตัวอื่น ๆ ว่ากันว่ามันอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกทางตะวันออกของอาณาจักรแห่งความลึกล้ำ แถมยังจับตัวได้ยากมากอีกด้วย เด็ก ๆ คนไหนที่เกิดมามีปัญหาเรื่องสติปัญญา หากว่าได้กินเจ้าตัวกินสมองนี่เข้าไปล่ะก็ จะทำให้พวกเขาฉลาดขึ้นมากกว่าเด็กทั่วไป และนอกจากนี้……”
เสียงกระตือรือร้นของโฆษกดังขึ้น
หานซั่วรู้สึกปลาบปลื้มขึ้นมาทันที เป็นครั้งแรกที่เขาพุ่งความสนใจไปยังสินค้าที่อยู่บนเวที และไม่ได้สนใจลิเลียนที่กำลังจ้องมองอยู่ข้าง ๆ เขาอีก
ในความทรงจำของชูชางหลาน สัตว์ร้ายกินสมองนี้มีชื่อว่า ‘อสุรกายเขมือบสมอง’ เป็นสัตว์ที่หาได้ยากมาก อีกทั้งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลังจากที่หล่อหลอมร่างกายเลือดเนื้อและกระดูกของกิลเบิร์ตแล้ว หานซั่วก็กังวลเรื่องการรื้อฟื้นส่วนสมองของกิลเบิร์ตมากที่สุด แต่ถ้าหานซั่วได้เจ้าอสุรกายเขมือบสมองนี่มาล่ะก็ เขาก็ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนั้นอีกแล้ว ตราบใดที่เขาแก้ปัญหาสำคัญนี้ได้ หลังจากรวบรวมวัตถุดิบอีกเล็กน้อย หานซั่วก็จะสามารถหล่อหลอมร่างใหม่ให้กับกิลเบิร์ตได้ในทันที
ดังนั้น เช่นเดียวกับขุมพลังธาตุไม้ ‘ใบไม้มรกต’ หานซั่วก็ตั้งใจที่จะชนะการประมูลอสุรกายเขมือบสมองนี้มาให้ได้ด้วยเช่นกัน
******************************