Gate of God – ตอนที่ 424

ตอนที่ 424

ถ้าการเข้าถึงระดับพลังของ ฟาง เจิ้งจือ ทำให้ เหล่าปีศาจต้องหวาดกลัวและตกใจ ความสามารถของ ฉือ กูเหยียน คงจะเป็นยิ่งกว่าความหวาดกลัว

ถ้า ฟาง เจิ้งจือ เป็นภัยคุกคามต่อเหล่าปีศาจ แล้ว ฉือ กูเหยียน ล่ะ!

แม้ว่าเหล่าปีศาจจะรู้ว่า ฉือ กูเหยียน จะเป็นภัยคุกคามตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้เห็นว่านางก้าวหน้าไปมากแค่ไหน มันยิ่งทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นกลัว

ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในระดับอภินิหาร!

ฉือ กูเหยียน ก็อยู่ในระดับอภินิหารเช่นกัน!

เผ่าพันธ์ของปีศาจยังมีอนาคตอยู่อีกหรือไม่?

ปีศาจทั้งหมดไม่มีทางเลือกอื่น แต่ก็ต้องระงับความคิดเหล่านี้เอาไว้ เลือดในร่างของพวกเขาต่างเดือดพล่าน

ปีศาจในระดับอภินิหารเป็นสุดยอดในหมู่พวกเขาเอง อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ ฉือ กูเหยียน พวกเขารู้สึกถึงความว่างเปล่า

“อั้ก!“

“อ่า …”

ในอากาศเต็มไปด้วยเลือดและเสียงกรีดร้อง

แสงดาบปักเข้าไปในร่างของพวกเขาก่อนจะระเบิดออกมาจากด้านใน จากนั้นปากแผลก็เปิดออกด้วยดาบแสงอีกเล่มที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ก่อนที่พวกเขาจะฟื้นฟูตัวเองได้ทัน

วู่ ยี่ มองดูอย่างจริงจัง

ในฐานะปีศาจระดับจุติ เขาล้วนมีความหยิ่งทระนงในตัวเองเขาต้องการจับ ฉือ กูเหยียน เมื่อเขาเห็นแสงดาบพุ่งเข้ามา

แต่ความคิดนั้นก็หายวับไป

เป็นเพราะว่า…

หลังจากที่เขารู้ว่า ฉือ กูเหยียน อยู่ในระดับอภินิหาร เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสำเร็จ แม้ว่าเขาจะรวมพลังกับ ไป่ ซิง ก็ตาม

ก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสำเร็จ

โดยปกติแล้วความสำเร็จต้องอยู่ที่ 50% ถึงจะคุ้มค่าที่จะโจมตี แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำได้ เขามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า

ปกป้อง หยุน ชิงวู

ปีศาจชั้นสูงหลายสิบตนจะสามารถปกป้อง หยุน ชิงวู ได้หรือไม่?

แน่นอนว่าได้!

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องพยายามปกป้องตัวเองด้วย จะเกิดอะไรขึ้นแม้พวกเขาจะพยายามเต็มที่แล้ว หยุน ชิงวู ยังคงได้รับบาดเจ็บ?

แต่ถ้า 2 ปีศาจในระดับจุติเข้าร่วมป้องกัน…

แม้แต่พลังที่แข็งแกร่งของ ฉือ กูเหยียน ก็ไม่สามารถทำอะไร หยุน ชิงวู ได้

ฉือ กูเหยียน รู้เรื่องนี้ดี นางจึงใช้ล้านคมดาบผสานเข้ากับสายฝน สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า วู่ ยี่ จะพยายามใช้พลังของเขาเพื่อปกป้อง หยุน ชิงวู

สำหรับ ไป่ ซิง…

นางเอาตัวเองไปยืนอยู่ด้านหน้าของ ไป่ ซิง ถ้านางไม่เคลื่อนไหว ไป่ ซิง ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวเช่นกัน

ท่าทีของ หยุน ชิงวู ก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็น

นางรู้ว่า ฉือ กูเหยียน อาจจะปรากฎตัวขึ้นที่นี่ แต่นางไม่คิดเลยว่า ฉือ กูเหยียน จะเข้าสู่ระดับพลังอภินิหาร แม้แต่เรื่องที่ ฟาง เจิ้งจือ เข้าถึงระดับอภินิหาร ตัวนางเองก็ไม่ได้คาดคิดเลยแม้แต่น้อย

“สองอัจฉริยะ …ในระดับอภินิหาร?” หยุน ชิงวู มองไปที่ ฉือ กูเหยียน และ ฟาง เจิ้งจือ ขณะที่นางได้ยินเสียงกรีดร้องรอบตัว

แววตาของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกอันไม่มีทางเลือก

สิ่งนี้ไม่ควรปรากฏขึ้น นางเป็นนายน้อยของเหล่าปีศาจ ผู้ที่ฉลาดเฉลียวและแข็งแกร่งอย่างมาก

เมื่อตอนที่นางอายุ 10 ปี…

หยุน ชิงวู ได้นำกองทัพปีศาจทั้ง 6 ดินแดนกลับไปยังเมืองเงาเลือด

ทหารปีศาจจากทั้ง 6 ดินแดน

ต่างภักดีต่อ หยุน ชิงวู ที่อายุได้ 10 ขวบ

มันเป็นเรื่องน่าหวาดกลัวแค่ไหนกัน?!

ในวันที่สอง พ่อของนางก็มอบกองทัพที่เหลืออีก 4 ดินแดนให้ต่อหน้า 4 ตระกูลผู้ทรงอิทธิพล

ในวันนั้น เจ้าปีศาจมีเพียงคำขอเดียวเท่านั้น

ในวันนั้น หยุน ชิงวู สาบานกับบรรพบุรุษของเหล่าปีศาจว่านางจะทำเพื่อเผ่าพันธุ์ปีศาจจนตราบถึงลมหายใจสุดท้าย!

“นายน้อย ปล่อย ฟาง เจิ้งจือ ให้เป็นหน้าที่พวกเรา! ท่านหลบออกไปก่อน!“

“ปกป้องนาง!“

“อ่า … นายน้อย ได้โปรดหลบไปด้วย !“

เสียงดังก้องจากยอดผาขณะที่หยดเลือดหลอมรวมเข้ากับสายฝน ปีศาจชั้นสูงกว่าสิบตนยังคงพยายามดิ้นรนและกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง

ร่างของ หยุน ชิงวู สั่นไหว

มันไม่ใช่เพราะล้านคมดาบที่ทำให้นางบาดเจ็บ ความจริงแล้วนางยืนอยู่ที่เดิมตลอดมา …

แต่ดาบแสงไม่สามารถทำอะไรนางได้

เป็นเพราะว่า…

นางได้รับการปกป้องจากปีศาจชั้นสูงกว่าสิบตนและ วู่ ยี่

“นายน้อย อย่าได้ลังเลอีกเลย!“

“นายท่าน ได้โปรดถอยไปก่อน!“

“นายน้อย พวกเราจะพาตัว ฟาง เจิ้งจือ กลับไปแม้ว่าพวกเราจะตายก็ตาม“

เสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและความภักดี พวกเขาเต็มใจยอมสละชีวิตเพื่อนาง

“ถอยรึ?“หยุน ชิงวู เงยหน้าขึ้นมองดาบแสงสีเงินที่ตกลงมา

มันทรงพลังเป็นอย่างมาก!

ความคิดนั้นวนเวียนอยู่ในใจของ หยุน ชิงวู แม้ว่านางจะชื่นชมพลังของ ฉือ กูเหยียน …

ร่างทรงเต๋าสวรรค์ …

ระดับอภินิหาร!

สุดยอดอัจฉริยะของรุ่น!

แข็งแกร่ง แข็งแกร่งมากจริงๆ!

ความสามารถของอัฉริยะที่อยู่ในระดับอภินิหารกับเต๋ากว่า 388 ดวงจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?!

หยุน ชิงวู มองดูร่างที่อยู่ถัดไปจากนาง ฟาง เจิ้งจือ นอนอยู่ตรงนั้น…

ไม่มีใครใกล้ หยุน ชิงวู ได้มากไปกว่าเขา

เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ สลบลง เขายังคงจับขาของ หยุน ชิงวู เอาไว้…

ดาบแสงยังคงตกลงสู่พื้นอย่างต่อเนื่อง

หยุน ชิงวู ไม่ได้รับบาดเจ็บและ ฟาง เจิ้งจือ เองก็เช่นกัน ฟาง เจิ้งจือ อยู่ข้างๆนาง

ข้า…เป็นปีศาจ!

ริมฝีปากของ หยุน ชิงวู เริ่มสั่นไหวเมื่อมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ นางเห็นว่าเขายังคงหมดสติ แววตาของนางก็ส่องประกาย

“ข้าสาบานว่าข้าจะไม่ให้เหล่าปีศาจตามฆ่าเจ้า แต่ข้าไม่เคยพูดว่าข้าจะไม่ทำเอง“เสียงของ หยุน ชิงวู ดังขึ้น

ตอนนั้นเองที่เท้าของนางได้เคลื่อนไหว

มันเป้นการเคลื่อนไหวที่เล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตามมันเพียงพอแล้วที่จะเตะ ฟาง เจิ้งจือ ที่หมดสติอยู่…

ออกจากหน้าผา!

ไม่มีเสียงดังมากนัก แต่มีร่างหนึ่งร่วงลงมาจากหน้าผา

“ให้สวรรค์กำหนดชะตากรรมของเจ้า!“

บนท้องฟ้า อินทรีย์เหมันต์บินพุ่งลงมาราวกับดาวตก

ปิง หยาง ไม่คิดจะดู ฟาง เจิ้งจือ กลิ้งลงไปหน้าผาเฉยๆแน่นอน

ดังนั้น…

นางตัดสินใจจะอวดความสามารถของนางในฐานะเจ้าหญิงเสียหน่อย

อย่างไรก็ตามนางประเมิณปีศาจที่อยู่หลัง หยุน ชิงวู ต่ำเกินไป พวกเขายินดีจะตายเพื่อนาง

ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังกลิ้งลงไป มีปีศาจสองตนพุ่งออกมาเพื่อขวาง ปิง หยาง เอาไว้

“ไม่มีใครแทรกแซงการตัดสินใจของนายน้อยได้!“

“ปล่อยให้ข้าผ่านไปเดี๋ยวนี้!“

ปีศาจทั้งสองไม่ได้ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไป ชะตากรรมของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นอยู่ในมือของ หยุน ชิงวู

เนื่องจาก หยุน ชิงวู ได้ตัดสินใจแล้ว ดังนั้นไม่มีใครจะมาขัดขวางได้

พวกเขาทั้งสองดึงดาบออกมาแล้วพุ่งเข้าหาอินทรีย์เหมันต์ ก่อนที่จะไปอยู

พวกมันไม่ช้าไปกว่าอินทรีย์เหมันต์

อย่างไรก็ตามอินทรีย์เหมันต์ก็ยังเหนือกว่าอยู่ดี

“ตูม!“

ความผิดพลาดที่ตามมาคือเสียงอันดังก้อง

อินทรีย์เหมันต์ร้องเสียงแหลมก่อนจะกางปีกออก หลังจากได้ปะทะกับปีศาจ มันก็บินกลับไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง

ปิง หยาง อ้าปากค้าง นางไม่ได้คาดคิดว่าจะมีปีศาจมาขวางนาง

ถ้าพ้นตอนนี้ไปแล้ว…

หมายความว่านางไม่มีโอกาสแล้ว

อินทรีย์เหมันต์ไม่คิดจะเสี่ยงได้รับบาดเจ็บเพื่อช่วยเหลือ ฟาง เจิ้งจือ อีกต่อไป เพราะภารกิจที่สำคัญที่สุดคือมั่นใจว่า ปิง หยาง จะปลอดภัย

ด้วยเหตุนี้หลังจากถูกขัดขวางโดยปีศาจระดับอภินิหารสองตนมันจึงบินกลับขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที

ฉือ กูเหยียน เองก็ต้องการจะเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม ไป่ ซิง ยืนอยู่ตรงหน้านาง หา ไป่ ซิง เคลื่อนไหวไม่ได้ นางก็ไม่ได้เช่นกัน

“ช่วยเขา!” เสียงของ ฉือ กูเหยียน ดังขึ้นที่หน้าผา คราวนี้น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

นางเป็นกังวลจริงๆ

ผู้เข้าสอบได้ยินเสียงของ ฉือ กูเหยียน แต่พวกเขาอยู่ไกลเกินไป

ซิง ฉิงซุย ก็ต้องการจะช่วย ฟาง เจิ้งจือ เช่นกัน แต่เขาควบคุมทหารห้าพันนายอยู่ที่ประตูหน้าถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง เขาไม่สามารถไปปรากฎตัวบนนั้นได้ทัน

ซิง หยวนกัว นั้นเร็วมาก แต่มันก็ไม่เพียงพอที่วิ่งฝ่าทหารนับแสนคนไปช่วย ฟาง เจิ้งจือ ได้ทัน

หนานกง เฮา เองก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน

ทุกคนที่มากจากอาณาจักรเซี่ยต้องการช่วยเขา

แต่…

ผู้ที่ยืนอยู่ด้านล่างของหน้าผาไม่ใช่ทหารของอาณาจักรเซี่ย

กองทัพของอาณาจักรเซี่ยถูกล้อมตั้งแต่เริ่มสงคราม พื้นที่ตรงนั้นอยู่ในมือของทหารของดินแดนภูเขาทางใต้

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท