Gate of God – ตอนที่ 432

ตอนที่ 432

องค์หญิง ฉาน ยู่ กัดริมฝีปากของตัวเอง นางรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่นางไม่มีตัวเลือกมากนัก

ตอนนี้เมืองภูเขาเซียนถูกล้อมเอาไว้แล้ว

คำสั่งได้ถูกสั่งออกมาแล้ว

นางไม่สามารถลังเลได้อีกต่อไป! นางต้องตัดสินใจแล้ว!

“ถ่ายทอดคำสั่งลงไปกองทัพทั้งหมด … ” องค์หญิง ฉาน ยู่ หยุดพูดเล็กน้อย ขณะมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังหลับตาอยู่

แม่ทัพทุกคนต่างรอฟังคำสั่งอย่างตั้งใจ

“ฟาง เจิ้งจือ เจ้าตื่นแล้วงั้นหรือ?“

“ตึ้ง!“

แม่ทัพคนหนึ่งถึงกับล้มลงเมื่อได้ยินเรื่องนี้

แม่ทัพคนอื่นๆเองก็ตกใจเช่นกัน พวกเขาไม่คิดว่าองค์หญิง ฉาน ยู่ จะพูดอะไรเช่นนี้ออกมา

อะไรกัน?

เดี๋ยวก่อน!

ฟาง เจิ้งจือ ตื่นแล้ว?!

ไม่ได้หมายความว่าเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดที่พวกเขาพึ่งพูดคุยกันไปหมดหรอกหรือ?

ตาย!

แม่ทัพทุกคนคิดจะฆ่าเขาทันที อย่างไรก็ตามความคิดของพวกเขาต้องหยุดทันทีเมื่อได้ยินประโยคต่อไปขององค์หญิง ฉาน ยู่

“ฟาง เจิ้งจือ เลือกเล่นละครสักที! ข้ารู้ว่าเจ้าแอบฟังอยู่ ถ้าเจ้าแสดงความคิดเห็นอะไรออกมาบ้าง ข้าอาจจะปล่อยเจ้าไปก็ได้ เจ้าไม่คิดจะพูดอะไรออกมาหน่อยงั้นรึ?“

“ปล่อยเขาไปงั้นหรือ?“

“องค์หญิง พวกเราจะปล่อยเขาไปไม่ได้!”

“องค์หญิง! เขามาจากอาณาจักรเซี่ย! ถ้าพวกเราปล่อยเขากลับไปอาณาจักรเซี่ยต้องรู้แน่ว่าเมืองภูเขาเซียนของพวกเราถูกล้อมไว้อยู่! พวกเขาอาจจะฉวยโอกาสนี้บุกรุกเข้ามาในดินแดนของพวกเราหรือส่งกำลังเสริมมาก็ได้!สงครามครั้งนี้ … ”

แม่ทัพทุกคนแสดงความกังวลออกมาทันที

องค์หญิง ฉาน ยู่ ไม่ได้พูดอะไรออกมาสายตาของนางยังคงจ้องมองอยู่ที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเยือกเย็น

แม่ทัพทุกคนต่างยืนเงียบเมื่อเห็นเช่นนี้

ในกระโจมนั้นเงียบมากจนทุกคนแทบจะได้ยินเสียงหายใจ

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เคลื่อนไหว ราวกับเขาไม่ได้ยินสิ่งที่องค์หญิง ฉาน ยู่ พูดออกมาถ้าไม่ใช่เพราะเสียงหายใจเบาๆ ทุกคนคงคิดว่าเขาตายไปแล้ว

“ดูเหมือนเขาจะยังไม่ตื่นนะ?“

“องค์หญิงท่านเข้าใจผิดหรือไม่?“

แม่ทัพทั้งหมดต่างเต็มไปด้วยความสงสัย พวกเขาไม่กล้าตั้งคำถามกับองค์หญิงมากเกินไป

“ฟาง เจิ้งจือ เจ้าช่วยลืมต่าของเจ้าสักถีเถอะ ถ้าเจ้ายังเล่นอยู่อีก ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้!” องค์หญิง ฉาน ยู่ เริ่มโกรธขึ้นมา

มีแต่ความเงียบ

แม้แต่เสียงทำของหล่นยังดังกว่า

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เคลื่อนไหว

แม่ทัพทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยเห็นได้ชัดว่า ฟาง เจิ้งจือ ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่ทำไมองค์หญิงกลับบอกว่าเขาตื่นขึ้นมาแล้ว?

“ได้ ตายซะ!” องค์หญิงตะโกนก่อนที่จะพุ่งออกจากที่นั่งและหยุดลงที่ด้านหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ

จากนั้นนางก็ดึงมีดสั้นออกมาและจ่อไปที่คอของ ฟาง เจิ้งจือ

“ลืมตาซะ หรือจะให้ข้าฆ่าเจ้า!“

เงียบ

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เคลื่อนไหว

“ฝ่าบาท เมืองภูเขาเซียนถูกล้อมเอาไว้และตอนนี้ทุกคนกำลังรอคำสั่งของท่านอยู่ ทำไมท่านถึงต้องการความเห็นจากคนนอกกัน?” แม่ทัพคนหนึ่งไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

“ฝ่าบาท! เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่ได้สติ แม้ว่าเขาจะไดสติ ความเห็นของเขาจะดีกว่าพวกเรางั้นหรือ?” แม่ทัพอีกคนหนึ่งเยาะเย้ย ฟาง เจิ้งจือ

“ถ้าข้าให้ทหารหมาป่าเขาเงินไปห้าร้อยนายเจ้าจะสามารถเข้ายึดถิ่นฐานราชสีห์คำรามที่มีทหารห้าหมื่นนายได้อย่างนั้นรึ?” องค์หญิง ฉาน ยู่ มองไปที่ทั้งสงแม่ทัพ ขณะที่เท้าของนางเหยีบอยู่ที่หน้าอกของ ฟาง เจิ้งจือ และมีดยังคงจ่อคออยู่

มันไม่ใช่ท่าทางที่น่าดึงดูดเท่าไรนัก

แต่ไม่มีแม่ทัพคนใดสนใจ

พวกเขานั้นต่างพูดไม่ออก นางพูดถูก พวกเขาเคยได้ยินถึงความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ มาก่อน

นั่นทำให้พวกเขาพอยอมรับ ฟาง เจิ้งจือ ได้อยู่บ้าง

“เขาเป็นผู้เข้าสอบ! นอกจากนี้เขาใช้พลังของกองทหารของพวกเราและเหรียญตราของท่าน…” แม่ทัพคนหนึ่งหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพูด

“ผู้เข้าสอบ? แล้วถ้าพูดถึง หุบเขาสายลมล่ะ ไม่มีใครเคยผ่านมันมาได้มาก่อน เป็นเจ้าจะทำแบบนั้นได้งั้นรึ?” องค์หญิง ฉาน ยู่ พูดอย่างหงุดหงิด

เงียบ

คราวนี้ไม่มีใครโต้กลับนางอีก

นี่คือความจริง หุบเขาสายลมเป็นปราการธรมมชาติที่ไม่ใช่ใครจะผ่านเข้ามาตามใจชอบได้ แต่ ฟาง เจิ้งจือ ก็สามารถเข้ามาได้

มันเป็นความสำเร็จที่ไม่มีใครสามารถลอกได้

“ฟาง เจิ้งจือ ตอนนี้ดินแดนภูเขาเซียนถูกล้อมเอาไว้อยู่ ข้าไม่มีเวลาจะเสียอีกแล้ว ถ้าเจ้าหาทางออกให้ข้าได้…ข้าจะให้เจ้าเป็นแม่ทัพเลย!“ องค์หญิง ฉาน ยู่ กัดฟันและพูดออกมา

“ผแม่ทัพ?!“

“องค์หญิง…เรื่องนั้น…เขายังเด็กอยู่มาก!“

เหล่าแม่ทัพต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เชื่อแม่ทัพนั้นเป็นตำแหน่งที่สูงมาก! แม้แต่ในอาณาจักรเซี่ย ยังเทียบได้กับเจ้าหน้าที่ระดับสอง!

ภายในกระโจมตกอยูภายในความเงียบสงัด

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เคลื่อนไหว

“ย่อมได้! ดี ดีมาก … ฟาง เจิ้งจือ! ยังไม่พอสำหรับเจ้าใช่ไหม ถ้าเป็นรองแม่ทัพใหญ่ล่ะ!รองแม่ทัพใหญ่ของดินแดนภูเขาทางใต้!ตราบใดที่เจ้าภักดีต่อพวกเรา ตำแหน่งนั้นจะเป็นของเจ้าแน่นอน!” องค์หญิง ฉาน ยู่ ตะโกนออกมา

แม่ทัพทุกคนต่างรู้สึกว่าร่างของพวกเขาสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเรื่องนี้

รองแม่ทัพใหญ่

ถ้ามันเป็นเรื่องจริงต้องทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือนแน่นอน

รองแม่ทัพใหญ่อายุแค่สิบหกปี

ฟาง เจิ้งจือ คงไร้ใครเทียบได้

แต่…

มันยังดูไม่ทำให้เขาตื่นขึ้นมาอยู่ดี

ไม่มีเสียงอื่นใดภายในกระโจม นอกจากเสียงหอบหายใจขององค์หญิง ฉาน ยู่

“ถ่ายทอดคำสั่งออกไป! พวกเราจะเดินทัพไปยังเมืองภูเขาเซียน! จากนั้น … ลากเจ้านี่ไปให้หมาป่ากินซะ!” องค์หญิง ฉาน ยู่ ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

“รับทราบ ฝ่าบาท!” แม่ทัพทั้งหมดต่างตอบขึ้นมาพร้อมกัน

ทันใดนั้นเสียงอันขี้เกียจก็ดังขึ้นมาที่ใต้เท้าขององค์หญิง ฉาน ยู่ มันทำลายบรรยากาศภายในกระโจมทั้งหมดลง

“เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากตื่น แต่เงื่อนไขของเจ้าฟังไม่ขึ้นเลย จะให้ข้าตื่นได้ยังไง?“

มีแต่ความเงียบ

ทุกคนตกตะลึง

สายตาของพวกเขาทั้งหมดจับจ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

“เงื่อนไขที่ฟังไม่ขึ้น?“

“เขาบอกว่าสิ่งนั้นฟังไม่ขึ้นอย่างนั้นหรือ!“

“รองแม่ทัพใหญ่! ฟังไม่ขึ้น?! เขาต้องการเป็นจักรพรรดิหรือไงกัน?!“

แม่ทัพทั้งหมดต่างโกรธฟาง เจิ้งจือ ดูถูกความฝันของพวกเขาทุกคน

“เดี๋ยวก่อน … งั้นเขาต้องการ … ” แม่ทัพคนหนึ่งมองไปที่องค์หญิง ฉาน ยู่ จากนั้นก็ตะโกนลั่นออกมา “ไม่มีทาง! มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้! ฝ่าบาทท่านห้ามแต่งงานกับเขา!“

“แต่งงานกับเขา?“ท่าทีขององค์หญิง ฉาน ยู่ แข็งค้างเมื่อนางมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความตกใจ

เจ้าสารเลวนี่ช่างไร้ยางอาย …

ทำไมข้าต้องแต่งงานกับเขา?

อย่างที่บอกไป …เขาเชี่ยวชาญมากในกฎแห่งเต๋า ถ้าเขายังภักดีต่อดินแดนภูเขาทางใต้ต่อไป เขาจะสามารถยกระดับความเข้าใจในกฎแห่งเต๋าขึ้นได้ นอกจากนี้เขายังมีความสามารถในการต่อสู้เป็นอย่างมากทั้งที่อายุสิบหกปี

ถ้าเขาเป็นรองแม่ทัพใหญ่ของพวกเราจริงๆล่ะก็ เขาต้องซื่อสัตย์กับพวกเรา ถ้าไม่ เขาอาจจะเป็นปัญหาในอนาคตได้

บางที

“อี๋ แหวะ! ภรรยาของข้าต้องเป็นคนที่อ่อนโยนและสุภาพเท่านั้น นางจะต้องรู้วิธีเลี้ยงลูกของพวกเราและการดูแลบ้านข้าไม่ต้องการองค์หญิงที่ป่าเถื่อนเช่นนี้… “ฟาง เจิ้งจือ หยุดพูดกลางคัน ก่อนจะกลืนคำพูดกลับไป

เขารู้สึกถึงมีดที่จ่อคอเขา มันแหลมคมจนทำให้เขาต้องหุปปาก

แม่ทัพทุกคนจ้องมองด้วยตาที่เบิกกว้าง

มีเพียงความคิดเดียวที่วนเวียนในหัวของพวกเขา ฟาง เจิ้งจือ กำลังจะตายอย่างน่าสังเวช

อย่างไรก็ตาม แม้ผ่านเวลาผ่านไป 15 นาทีแล้ว ฟาง เจิ้งจือ ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตามมีบาดแผลบนคอของเขา …

แต่ แผลของเขานั้นรักษาตัวเองได้เร็วเกินไป

“ระดับอภินิหาร!“

“เจ้านี่อยู๋ระดับอภินิหารจริงๆงั้นรึ!“

“ด้วยอายุแค่นี้! แต่มันเป็นเรื่องจริง!“

แม่ทัพทุกคนต่างได้ยินเรื่องนี้มาจาก เถิง ซือเซิง แต่ไม่มีใครมั่นใจเต็มร้อย

แต่การที่สามารถเห็นด้วนตาตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่แตกต่างกัน

องค์หญิง ฉาน ยู่ เก็บมีดสั้นและเหลือบมอง ฟาง เจิ้งจือ นางกัดริมฝีปากของนางแรงมากจนเลือดไหลออกมาเล็กน้อย

ถ้านางสามารถมองแผนการของ หยุน ชิงวู ออก นางคงไม่ต้องมานั่งทำแบบนี้… ถ้าไม่ใช่เพื่อดินแดนภูเขาทางใต้ นางคงไม่ปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ ทำตัวแบบนี้แน่นอน

เดี๋ยวก่อน!

ทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงกระพริบตาถี่มาก?

องค์หญิง ฉาน ยู่ เลื่อนสายตาไปตามสายตาของ ฟาง เจิ้งจือ ทันใดนั้นนางก็หน้าซีดก่อนที่จะหน้าของนางจะขึ้นสีทันที

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท