ตอนที่ 457 โฉบลงไป!
ฟางเจิ้งจือ อยากจะตะโกนออกมาให้สุดเสียงจริงๆ แต่เขาก็กลืนกลับเขาไปก่อนที่จะตะโกนออกมาสมองบอกเขาว่า ฉือ กูเหยียน รู้ตัวว่านางกำลังทำอะไรอยู่
ในใจของเขา… ฉือ กูเหยียน ยังคงอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์
ระดับพลังสะท้อนสวรรค์นั้นอ่อนแอ
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ว่าเขาจะเอาชนะ ฉือ กูเหยียน ได้หรือไม่แต่เขามั่นใจว่าจะไม่แพ้
แม้ว่านางจะเอาชนะเขาได้แต่เขาก็คงไม่แพ้แบบราบคาบแน่นอน
”ถึงเจ้าจะเป็นอัจฉริยะของรุ่นพวกเราเจ้าก็เหมาะจะเป็นคนรับใช้ข้าอยู่ดี” ฟาง เจิ้งจือ คิดกับตัวเองถ้าเขาไม่สามารถออกไปจากสถาณ์นี้ได้ ฉือ กูเหยียน ก็ทำไม่ได้เช่นกัน
งั้น…
ฉือกูเหยียน มาที่นี่เพื่อดู …
ฟางเจิ้งจือ ไม่เคยรู้สึกอับอายขายหน้าขนาดนี้มาก่อน
ตอนนี้เขาเป็นเชลยสงคราม!
เชลยที่ไม่มีใครใส่ใจ!
โดยปกติแล้วเชลยต้องได้รับการช่วยเหลือ!
นั่นคือประเด็นทั้งหมด!
ขณะที่เขากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อินทรีย์เหมันต์ก็บินโฉบเข้ามา มันมีปีกขนาดใหญ่บดบังดวงอาทิตย์ทำให้เกิดพายุขนาดใหญ่พัดมาทาง ฟาง เจิ้งจือ
”เชี่ยยมัน… มันพยายามจะฆ่าข้าเหรอ?”ฟาง เจิ้งจือ ต้องการจะหลบไปด้านข้าง แต่เขายังค้างอยู่ที่จุดเดิม
หยุนชิงวู มองดูพายุที่พุ่งเข้ามาหา
นางรู้ดีว่าการโจมตีนี้มีเป็าหมายที่ตัวนาง
นางไม่ได้หลบไปด้านข้าง
นางอยู่ที่เดิมและปล่อยให้พายุพัดเข้าหานางนางกำลังถูกโจมตีโดยลมพายุ แต่นางยังคงใจเย็นอยู่เหมือนเดิม
นางจ้องไปที่ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง โดยไม่พูดอะไร นางทักทายพวกเขาแล้ว
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
”ตูม!”
ลมพายุพัดเข้ามาทำให้หินและดินกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้า
เนื่องจากฟาง เจิ้งจือ อยู่ใกล้กับ หยุน ชิงวู มาก เขาจึงได้โดนการโจมตีไปด้วยยิ่งไปกว่านั้น เพราะเขาติดกับดักเขาจึงไม่มีทางเลือก
ลมพายุหมุนวนรอบตัวเขา
ตามปกติแล้วฟาง เจิ้งจือ ควรจะหลับตาลงสวดอธิษฐานขอชีวิตแต่เขาไม่ได้ทำ…
เพราะ… เขาเห็นบางอย่างแปลกๆ
เขารู้ถึงพลังของหยุน ชิงวู ดี
นางอ่อนแอมาก!
อย่างไรก็ตามหยุน ชิงวู ยืนอยู่ใจกลางลมพายุ ท่าทีของนางสงบเยือกเย็น ชุดกระโปรงของนางพริ้วไหวตามสายลม
สิ่งที่แปลกคือ…
ถ้าหยุน ชิงวู อยู่ในมิติอื่น ทำไมลมพายุถึงส่งผลต่อชุดกระโปรงของนางด้วย?
ฟางเจิ้งจือ คิดไม่ออก
และที่แปลกกว่านั้นคือในตอนนี้อินทรีย์เหมันต์อยู่ตรงหน้าเขา
มันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
”ฉือกูเหยียน … เจ้ามาที่นี่เพื่อช่วยข้าจริงรึ?”ฟาง เจิ้งจือ จ้องไปที่อินทรีย์เหมันต์
เขาสามารถมองเห็นความกลัวในตาของอินทรีย์ตัวนี้ได้เลย
ในฐานะสัตว์ร้ายที่ทรงพลังมันจะมีสัมผัสที่หกที่สามารถรับรู้ได้เพราะงั้นมันจึงสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของปีศาจในชุดดำดี
แต่มันยังคงบินลงมา
นั่นเพราะ
ฉือกูเหยียน สั่งให้ลงมา มันจึงบินโฉบลงมาอย่างไม่ลังเล
นี่คือสัตว์ร้ายที่ซื่อสัตย์
ฟางเจิ้งจือ มองดูหญิงสาวที่อยู่บนอินทรีย์เหมันต์ หญิงสาวในชุดสีชมพูจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เปล่งประกายราวกับดวงดาว
”ฉือกูเหยียน!”สายตาของ ฟาง เจิ้งจือ จับจ้องไปทางแขนที่ยื่นออกมาเขารู้ดีว่าผิวของนางนั้นนุ่มนวลแค่ไหน
ในตอนนั้นเองฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่า ฉือ กูเหยียน เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยม แม้ว่านางจะหยิ่งเล็กน้อย แต่เขาก็ต้องยอมรับว่านางสวยจริงๆ
นางมีรูปร่างที่ดีและผิวพรรณของนางช่างสมบูรณ์แบบนอกจากนี้นางยังเซ็กซี่อย่างไม่น่าเชื่อ
นางช่างสวยงามจริงๆ…
ถ้าเขาแต่งงานกับนาง…
ถุย!
เชลยสงครามมักจะรู้สึกหลงไหลผู้ที่มาช่วยเสมอ
และครั้งนี้ก็เป็นฉือ กูเหยียน
เมื่อฉือ กูเหยียน ยื่นมือเข้ามา หัวใจของเขาก็เริ่มสั่นไหว
แต่ฟาง เจิ้งจือ จะยื่นมืออกไปรับการช่วยเหลือราวกับหนังที่เขาเคยดูได้ยังไง!เขาทำไม่ได้!
แต่งงานกับฉือ กูเหยียน?
ไม่มีทาง!
เขาไม่สามารถเอานางเป็นเมียได้!กับคนที่หยิ่งผยองและเจ้าบงการอย่าง ฉือ กูเหยียน เขาจะทำให้นางมาเป็นคนรับใช้ของเขาให้ได้!
”เจ้าไร้ยางอายเจ้ามองอะไรอยู่? กระโดดขึ้นมา!”เสียงของ ปิง หยาง ขัดจังหวะความคิดของ ฟาง เจิ้งจือ นางดูโกรธและหงุดหงิดเล็กน้อยขณะที่มองมา
”กระโดด?เ้จาใช้อะไรคิดหา?!” ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างหยาบคาย
เขาต้องการกระโดดจริงๆแต่เขาทำไม่ได้! ถ้าเขากระโดดได้เขาคงจะหนีไปนานแล้ว
”หึ!”ในขณะนั้นเสียงของชายชราก็ดังขึ้นอย่างไม่พอใจ
จิตสังหารแผ่กระจายไปทั่ว
มันทำให้อินทรีย์เหมันต์ตื่นตระหนกมันกระพือปีกและกลับขึ้นสู่ท้องฟ้า
แต่มันก็สายเกินไป
มันกรีดร้องของร่างของมันจะร่วงกับพื้นหัวของอินทรีย์เหมันต์เอียงไปด้านข้างราวกับถูกตบอย่างจัง
จากนั้นมันกระพือปีกอย่างแรงแต่ไม่มีประโยชน์ ร่างกายขนาดใหญ่กระแทกเข้ากับพื้นดิน
ขณะที่มันกระแทกพื้นดินลมพายุก็พัดไปทางปีศาจในชุดคลุมสีดำ
ใบหน้าที่แก่ชราถูกเปิดเผย
ผมสีเงินของเขาไหลลื่นและได้รับการดูแลอย่างดีผิวหนังเหี่ยวย่นของเขาเป็นสีเหลือง แต่ก็ยังคงดูสุขภาพดี
ส่วนที่พิเศษที่สุดของเขาคือดวงตาของเขา
มันว่างเปล่าพวกมันดำสนิทเกือบจะเป็นหลุมดำสองจุดที่สามารถกลืนกินทุกสิ่งที่เข้ามาใกล้
มีบางอย่างแปลกๆเกี่ยวกับเขา
นั่นก็คือ…
เขาไม่มีดวงตาปีศาจ!
สิ่งที่เขามีทั้งหมดคืออักขระบนหน้าผากของเขามันเป็นอักขระที่เรียบง่าย แต่ทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกๆ
ราวกับอักขระนั้นกลืนกินทุกอย่างบนโลกนี้เข้าไป
เขาคือคังหยางผู้ที่สร้างความหวาดกลัวในใจของทุกคน
เขาเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในโลก
ไม่มีใครคาดคิดว่าปีศาจที่ไร้ชนชั้นและตาบอดคนนี้จะสามารถใช้การจุตเต๋าแห่งสวรรค์ได้และกลายเป็นครึ่งเซียน
หาได้ยากที่คังหยาง จะปรากฎตัว แต่เขาได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาคือปีศาจในระดับจุติที่ทรงพลังที่สุด
ฟางเจิ้งจือ มองดูใบหน้าของชายคนนั้นและอินทรีย์เหมันต์
เขาตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเพิ่งได้เห็น
เขาไม่รู้ว่าอินทรีย์เหมันต์ตัวนั้นเป็นสัตว์แบบไหน
อย่างไรก็ตามด้วยความรวดเร็วและว่องไวของมัน เขารู้ว่ามันไม่ใช่สัตว์ร้ายธรรรมดา ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะมันได้ในการต่อสู้
แต่…
ปีศาจชราที่ตามบอดสามารถเอาชนะมันได้แย่างสมบูรณ์
เขาเป็นสัตว์ประหลาดอะไรกัน?1
…
สายลมหยุดพัด
หญิงสาวในชุดสีชมพูร่อนลงบนพื้นแล้วลูบอินทรีย์เหมันต์ในขณะที่นางกำลังทำเช่นนั้น ดวงตาของนางเปล่งประกาย
ข้างๆมีหญิงสาวในชุดเกราะสีแดงเพลิง
ดวงตาของนางนั้นใสราวกับสายน้ำแต่เต็มไปด้วยความตกใจนางมองดูราวกับเป็นกระต่ายที่กำลังหวาดกลัว
”พี่เหยียนชายตาบอดคนนี้เป็นใครกัน?”ปิง หยาง ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่นางไม่คิดจะพุ่งไปด้านหน้าด้วยหอกฉีหลินของนาง
นางเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับอินทรีย์เหมันต์
”คังหยาง”ฉือ กูเหยียน ตอบอย่างใจเย็นขณะที่นางมองไปที่อินทรีย์เหมันต์และ ปิง หยาง
”คังหยาง?!ครึ่งเซียน?”ท่าทีของ ปิง หยาง เปลี่ยนไปเป็นความหวาดกลัว
”ใช่แล้ว”ฉือ กูเหยียน พยักหน้า
”พี่เหยียนพวกเราต้องหนีท่านพ่อเคยบอกข้าว่าถ้าข้าพบคนพวกนี้ ข้าควรหนี! เขาเป็นหนึ่งในพวกนั้น!”
”งั้นเจ้าไปหาท่านลุงซิงก่อน!”
”งั้นพี่ล่ะ”
”ข้าต้องช่วยเขา!”ฉือกูเหยียน มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ที่ตัวแข็งอยู่ด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
สายลมพัดผ่านไปทั่วสนามรบ
กระโปรงสีชมชมพูของฉือ กูเหยียน เองก็ถูกพัดไปตามแรงลมเล็กน้อย
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 458 ทำลาย
ท้องฟ้ามืดครึ้มเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน
ฟางเจิ้งจือ มองไปที่ ฉือ กูเหยียน เมื่อเขาได้ยินนางพูดว่า
”ข้าต้องช่วยเขา!”
มันเป็นคำพูดง่ายๆแต่ ฟาง เจิ้งจือ กลับตกใจตัวแข็งค้าง เขารู้ว่านางหมายถึงอะไร
คังหยาง
ปีศาจที่เป็นครึ่งเซียน!
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้เลยว่าชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขารู้ว่าไม่มีครึ่งเซียนที่ไหนอ่อนแอ
มันชัดเจน…
ฉือกูเหยียน รู้ถึงพลังของ คังหยาง แต่นางยังคงเดินไปข้างหน้า
ทำไม?
ฟางเจิ้งจือ ไม่เข้าใจ
เขาอยากรู้เหตุผลที่อยู่ในแววตาของฉือ กูเหยียน อย่างไรก็ตามเขามีความรู้สึกว่าแววตาของนางช่างส่องประกายราวกับกลุ่มดาว
มันดูเหมือนกลุ่มดาวเดียวกันบนท้องฟ้นี้า
หรือเขาจะบ้าไปแล้ว?
ฟางเจิ้งจือ กระพริบตา เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบว่ากลุ่มดาวในดวงตาของนางได้หายไปแล้ว ขณะที่ชุดสีของนางยังพริ้วไหวไปตามสายลม
ปิงหยาง ยังคงมองดู ฉือ กูเหยียน แววตาของนางเต็มไปด้วยความกังวล
”ช่วยเขา?!แต่พี่จะต้องสู้กับครึ่งเซียนนะ! คังหยางไม่ตายง่ายๆแน่! ข้าสงสัยว่าพี่จะเอาชนะเขาได้เหรอ?””ปิง หยาง สับสน
”อืมข้ารู้” ฉือ กูเหยียน พยักหน้าเบา ๆ
”ถ้าอย่างนั้น…”
”แต่ข้าต้องช่วยเขาเจ้าไม่อยากให้ข้าช่วยเขาหรือ?”ฉือ กูเหยียน ส่ายหน้าและยิ้มเล็กน้อย
นางดูเหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานด้วยความงดงามของนาง
ฉือกูเหยียน!
ความภาคภูมิใจของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์นางเป็นคนในคำทำนาย
นางมีความสามารถ
พูดได้ว่า…
ไม่มีใครสามารถเทียบได้กับนางได้ในเวลาสิบปีที่ผ่านมา
แต่ตอนนี้…
หญิงสาวคนนี้บอกกับคังหยางในดินแดนภูเขาทางใต้ว่านางจะช่วยใครบางคนไปจากเขานอกจากนี้นางยังพูดด้วยความเด็ดเดี่ยว
ปิงหยาง มองดู ปิง หยาง และ ฟาง เจิ้งจือ ท่าทีของนางเต็มไปด้วยความสับสนหลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ นางก็พยักหน้า
”ใช่เราต้องช่วยเขา!”
…
ฉือกูเหยียน ยิ้ม
ราวกับว่านางเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานกลางสนามรบ
ต่อมานางก็เริ่มเคลื่อนไหว
นางยิงแสงขึ้นไปสู่ท้องฟ้าราวกับดวงดาว
แสงสีเงินนับไม่ถ้วนตกลงสู่พื้นดิน
พวกมันคือดาบแสง
ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสวไปด้วยแสงสีเงินในช่วงเวลาสั้นๆ หยุน ชิงวู และ คังหยางถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามคังหยางไม่ได้เคลื่อนไหว
เขาเงยหน้าขึ้นและมองดูแสงสีเงินที่ตกลงมาหาเขาดวงตาของเขาราวกับหลุมดำลึก
แสงสีเงินพุ่งใส่พื้นดินจนเกิดแรงระเบิดขนาดใหญ่
”ร่างทรงเต๋าสวรรค์ช่างยอดเยี่ยม!”เสียงของคังหยางดังขึ้นมันทั้งอ่อนแอและชราภาพ แต่เผยให้เห็นร่องรอยของความประหลาดใจ
”ข้ารู้อยู่แล้วว่านางจะมาและช่วยเหลือเจ้าแต่ข้าไม่คิดเลยว่านางจะมาจริงๆ”หยุน ชิงวู จ้องไปที่ดาวบนท้องฟ้าขณะพึมพำกับตัวเอง
แต่ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจดีในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไม หยุน ชิงวู ถึงยังปล่อยให้เขามีชีวิตรอด
”ข้าเข้าใจแล้วข้าเป็นแค่เหยื่อ… ” หัวใจของ ฟาง เจิ้งจือ สั่นไหวเมื่อมองไปที่แสงสีเงิน
เขาหวังว่าแสงสีเงินจะโจมตีใส่เขาเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดเลยว่า…
แสงสีเงินหลีกเลี่ยงเขามันพุ่งไปยังเป้าหมายของมันราวกับมีดวงตา
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่านี่เป็นเพราะ ฉือ กูเหยียน ที่ควบคุมล้านคมดาบอยู่ อย่างไรก็ตาม นั่นหมาความว่านางไม่สามารถคุมมันได้อย่างเต็มกำลัง
”ข้าไม่ใช่แค่ตัวล่อแต่เป็นตัวที่ทำให้นางลำบากด้วย?”ฟาง เจิ้งจือ หวังว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่านี้
สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือชีวิตที่ไร้กังวลและมีความสุข
การต่อสู้?
เขาขมวดคิ้วถ้าเป็นไปได้ เขาจะพยายามเอาชนะคู่ต่อสู้เสมอ
แต่เมื่อต้องเผชิญกับพลังที่แข็งแกร่ง…
สติปัญญาทั้งหมดของเขา…
ก็ไม่มีความหมายสิ่งที่เขาภูมิใจ ทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
ใช้อาวุธลับของเขา?
เขาจะทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อเขาเคลื่อนไหวไม่ได้?
ใช้กับดักหรือกลลวง?
มันจะมีประโยชน์ยังไงในเมื่อคู่ต่อสู้ของเขาเป็นหยุน ชิงวู?
เขาไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ เหรอ?
หรือว่า…
ความหวังเดียวของเขาคือฉือ กูเหยียน?
ฟางเจิ้งจือ อยากจะกำหมัดด้วยความอัดอั้น แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ มันเหมือนกับว่าร่างกายของเขาทั้งหมดถูกแช่แข็งเอาไว้
เขาถูกตรึงอย่างสมบูรณ์
เขาทำได้แค่รอความตาย!
มันเป็นตัวเลือกเดียวของเขาใช่ไหม?
ไม่เขาต้องการมีชีวิตอยู่!เขายังอยากมีครอบครัว!
”พังไปซะ!”ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนอออกมาพร้อมกับเลือดขึ้นหน้า เขาใช้ทุกอย่างที่เขามีพยายามหาทางพังสิ่งที่ทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่ได้ในตอนนี้
เขาจะไม่ตายแบบนี้เด็ดขาด!
เขาไม่กลัวความตาย!
แต่เขาไม่ยอมตายแบบนี้!
”พังไปซะข้าบอกว่าให้พังไปซะ!”สิ่งเดียวที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำได้คือพูด บางที่อาจจะเป็นเพราะ หยุน ชิงวู ต้องการฟังเสียง ฟาง เจิ้งจือ ที่กำลังดิ้นรน
เขาไม่สามารถขยับแขน
เขาไม่สามารถขยับขาได้
ความพยายามทั้งหมดของเขา ไม่มีประโยชน์แม้ ฟาง เจิ้งจือ จะใช้พลังทั้งหมดที่เขามี ร่างกายของเขาก็ไม่ขยับไปแม้แต่นิ้วเดียว
มันทำให้ฟาง เจิ้งจือ นึกถึงเรื่องเล่าเกี่ยวกับการอัญเชิญพระไตรปิฎก ตอนนั้น ซุน หงอคง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นกัน
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือหงอคง สามารถมองเห็นภูเขาที่ทับไว้อยู่ได้ แต่เขามองไม่เห็นสิ่งที่พันธนาการร่างเขาไว้อยู่!
มันเป็นเต๋าแบบไหนกัน?!
”พังหลาย!”ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่า คังหยาง เป็นครึ่งเซียน แต่เขาไม่รู้ว่าคังหยางเข้าถึงการจุติของเต๋าแห่งสวรรค์ เช่นนั้นทางออกเดียวของเขาในตอนนี้คือทำลายมัน
”ตู้ม!”
คลื่นพลังระเบิดออกมาจากร่างของฟาง เจิ้งจือ
มันเป็นพลังเดียวกันกับที่เขาเคยใช้ต่อสู้กับหนานกง เฮา กว่าหนึ่งชั่วโมง
ครั้งนี้…
เขาจะใช้มันเพื่อทำลายสิ่งที่พันธนาการร่างเขาไว้อยู่
แรงระเบิดขนาดใหญ่ทำให้พลังกระจายไปทุกทิศทาง
ชุดของหยุน ชิงวู และผ้าคลุมของ คังหยาง เองก็พัดไปตามแรงที่ระเบิดออกมา
แต่ฟาง เจิ้งจือ ก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำได้ดึงดูดความสนใจปีศาจรอบๆ
”เขายังพยายามจะหนีอีกงั้นหรือ?”
”ฮ่าฮ่า… เป็นแค่มนุษย์เขาจะสามารถเอาชนะสวรรค์ได้ยังไง!”
”เขากำลังคิดอะไรอยู่?!เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอความตายเท่านั้น เขากำลังทำอะไรที่เสียเปล่าอยู่”
”ข้าคิดว่าเขายังคงยอมรับความจริงไม่ได้ปล่อยเขาทำต่อไปเถอะ!”
ปีศาจทั้งหมดเริ่มเยาะเย้ยฟาง เจิ้งจือ พวกเขารู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน
พวกเขาคิดว่าการกระทำของฟาง เจิ้งจือ ตอนนี้ตลกอย่างไม่น่าเชื่อ
หน่วยเกราะมังกรและกองทัพทลายภูผาก็มองไปที่ฟาง เจิ้งจือ อย่างช่วยไม่ได้
ซิงหยวนกัว กำมือแน่น เขาอยากช่วย ฟาง เจิ้งจือ แต่เขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้น
ซิงหยวนกัว รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาดูราวกับกล่าวโทษว่ามันเป็นความผิดของตัวเอง
สำหรับหนานกง เฮา
เขามองไปที่สายฝนสีเงินปากของเขาขยับเล็กน้อยราวกับกำลังพูดบางอย่างอยู่ แต่ไม่มีใครได้ยิน
”ท่านพี่ฟาง เจิ้งจือ มานี่เพื่อช่วยดินแดนใต้ ข้าอยากช่วยเขา!”ดวงตาของ ฉาน ยู่ เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
”ช่วย?เจ้าวางแผนจะช่วยเขายังไง! อย่าโง่ไปหน่อยเลย เขาถูกจับโดย คังหยาง ก็ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้วหรอก แม้แต่ ซิง หยวนกัว ก็ทำอะไรไม่ได้! เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” ฉาน หลิง ตอบโดยไม่ลังเล
”แต่ฉือ กูเหยียน…ถ้าเราไม่ลองก็ไม่รู้ไม่ใช่หรือ ”
”หยุดพูดซะอย่าลืมว่าเจ้าเป็นใคร!”
”ท่านพี่!”
”เจ้าไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วในฐานะผู้บัญชาการข้าขอสั่งให้เจ้าปกป้องเนินเขาเหล็ก!หยุดปีศาจที่กำลังโจมตีพวกเราซะ!”
”ท่านพี่…”
”อย่าเรียกข้าเช่นนั้น!ตอนนี้ข้าเป็นผู้บัญชาการ! เจ้าพยายามจะขัดคำสั่งงั้นหรือ?”
”ข้าไม่กล้า!”ท่าทีของฉาน ยู่ เปลี่ยนไป นางกัดฟันแน่น อย่างไรก็ตามนางเป็นทหารนางต้องทำตามคำสั่ง
แม้ว่าคำสั่งเหล่านั้นมาจากพี่ชายของนาง
”ไปเถอะอย่าโทษข้าเลย เจ้าก็รู้ว่าพวกเรามาที่นี่เพื่ออะไรเจ้าจะเต็มใจสละชีวิตทหารนับพันเพื่อคนนอก?”ฉาน หลิง มองไปที่องค์หญิง ฉาน ยู่
องค์หญิงฉาน ยู่ ไม่ได้พูดอะไร นางแค่มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ จากนั้นนางก็หันหลังและเดินกลับไปที่เนินเขาเหล็ก
ตอนนี้ถิ่นฐานกำลังอยู่ในความวุ่นวาย
ถ้านางไม่ไป…
นางจะกล้าเผชิญหน้ากับทหารของดินแดนภูเขาทางใต้ที่สู้จนตัวตายได้ยังไง?
นางเป็นองค์หญิง…
ต้องทำในสิ่งที่องค์หญิงควรทำ
ต่อให้นางจะรู้ว่าที่นั่นไม่สามารถป้องกันไว้ได้แต่นางก็ไม่ยอมแพ้
เนินเขาเหล็กเป็นความหวังสุดท้ายของดนแดนภูเขาทางใต้
ถึงแม้ว่า…
มันดูจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม
”พังไปซะพัง พัง.. ” ฟาง เจิ้งจือ ราวกับเสียสติไปแล้ว แต่ละครั้งที่เขาตะโกนจะตามมาด้วยคลื่นพลังที่ระเบิดออกมา
เสียงดังกึกก้องไปทั่วสนามรบ
หยุนชิงวู มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยท่าทีอันตกใจเล็กน้อย
”จริงๆถ้าเจ้าต้องการมีชีวิตรอด… ข้าสามารถปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้ “หยุน ชิงวู มองความบ้าคลั่งในสายตาของ ฟาง เจิ้งจือ
”ให้ข้ามีชีวิตรอด?”
”ใช่”
”เงื่อนไขคือถ้าข้าปล่อยเจ้านั่นหมายความว่าเจ้าจะไม่ใช่ผู้ฝึกตนอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าจะต้องอยู่ในเมืองเงาเลือด เจาไม่ได้ต้องการมีชีวิตธรรมดาๆงั้นหรือ? ข้าสามารถทำให้เจ้าอิ่มท้องรวมถึงที่พัก….ถ้าเจ้าต้องการหญิงสาวข้าก็หามาแต่งงานกับเจ้าได้”
”เจ้าคิดว่าข้าจะตกลงงั้นหรือ?”
”ไม่แต่เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น การดิ้นรนต่อไปมันไม่มีความหมาย นี่คือเต๋าสวรรค์ มีแต่ผู้ที่เข้าใจมันเท่านั้นถึงจะพังพันธนาการนี้ได้ แม้แต่ร่างสถิตย์เต๋าสวรรค์เช่นนางก็ไม่สามารถทำได้!”
หยุนชิงวู พูดต่อด้วยเสียงที่จริงใจและสงบนิ่งเมื่อนางมองดูแสงสีเงิน
”เต๋าสวรรค์?”ท่าทีของฟาง เจิ้งจือ แข็งค้าง
เขารู้ดีว่าเต๋าสวรรค์คืออะไรและนั่นคือ หนึ่งในหกเต๋าที่แข็งแกร่ง
”ใช่แล้วเต๋าสวรรค์!แม้ในหมู่ปีศาจ ก็มีแค่อาจารย์ของข้าคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจมัน ถ้าเจ้าไม่ได้มาที่นี่ เจ้าอาจจะเข้าใจได้ในวันหนึ่ง …แต่ตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้!” หยุน ชิงวู พูดเพิ่มเติม
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้สนใจที่นางพูดกับเขา “เต๋าสวรรค์ …มีเพียงผู้ที่เข้าใจมันถึงจะสามารถปลดปล่อยมันได้?ข้าเข้าใจแล้ว … ข้าจะทำลายมันซะ!”
เพจหลัก: Gate of god TH
Gate of God – ตอนที่ 457-458
ตอนที่ 457-458
Posted by ? Views, Released on กันยายน 3, 2021
, Gate of God
เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง