ตอนที่ 545 สำเร็จ?!
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดจะตอบคำถามใคร เขารู้สึกว่าทุกอย่างเหมือนเดจาวู เมื่อมองเห็นความโกรธบนใบหน้าของ ฉาน ยู่ มันทำให้เขานึกถึงตอนที่ตบหน้านางโดยไม่ได้ตั้งใจ
หลังจากผ่านไปหนึ่งปี…
นางยังคงเป็นเหมือนเดิม?
”หา?”
”เขากล้าพูดแบบนั้นกับราชินีแดนใต้ได้อย่างไร?”
”เขาคิดว่านางเป็นคนเดิมกับเมื่อหนึ่งปีก่อนอยู่งั้นหรือ?”
ทุกคนตาแทบถลนออกมาจากเบ้าผู้ที่อยู่บนช้างหินหยกคือราชินีแดนใต้!
”เขากล้าดียังไง?!นี่มันไร้สาระชัดๆ!”เจ้าหน้าที่ต่างโกรธเลือดขึ้นหน้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น
พวกเขารู้สึกว่าไม่มีทหารแดนใต้คนไหนจะทนกับเรื่องแบบนี้ได้
อย่างไรก็ตามท่าทีของเหล่าทหารไม่ได้เปลี่ยนไป
พวกเขายังคงยืนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้นราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดออกไป
ท่าทีของหลิน เทียนหลง เปลี่ยนไปทันที เขาไม่ต้องการให้การสนทนาเช่นนี้ดำเนินต่อไป เขารู้ถึงความสัมพันธ์ของ ฟาง เจิ้งจือ กับ ฉาน ยู่
ถ้าไม่ใช่เพราะฟาง เจิ้งจือ ปฏิเสธนาง…
ตอนนี้เขาคงได้เป็นสามีของฉาน ยู่ ไปแล้ว
”ท่านพ่อนี่เป็นความอัปยศของอาณาจักรเซี่ยเขากำลังทำลายเกียรติภูมิของพวกเรา!”องค์รัชทายาทหลิน เทียนหลง ร้องตะโกนขึ้นมา
เจ้าหน้าที่เตรียมที่จะคุกเข่าลง
ในตอนนั้นเอง…
จักรพรรดิหลิน มู่ไป่ ก็ลูบมือไปมา ดูเหมือนเขาจะเหนื่อยล้าเล็กน้อย
”องค์จักรพรรดิทรงเหนื่อยแล้วให้ท่านได้พักผ่อน”ขันทีเหว่ยออกคำสั่ง
ไม่นานก็มีบัลลังก์จัดวางขึ้นที่ด้านหลังของจักรพรรดิจากนั้นคนรับใช้ก็วางเบาะลงที่บัลลงก์
จักรพรรดิค่อยๆก้าวถอยแล้วนั่งลงเขาหลับตาลง
เจ้าหน้าที่ต่างมองหน้ากันด้วยความสับสนเมื่อเห็นเช่นนี้พวกเขาเลือกที่จะไม่พูดอะไร
ใบหน้าของหลิน เทียนหลง ซีดขาวและหมดหนทาง
เขาอยากจะก้าวไปข้างหน้าอย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถพูดอะไรได้
ทั้งหมดที่ทำได้เพียงแค่รอ
ราชาต้วนยิ้มเยาะเมื่อเขาเห็นเช่นนั้นทันใดนั้นเอง เขาก็เห็นสายตาของ ฉือ เฮา ที่จ้องมาที่เขา
”ตอนนี้?”ราชาต้วนส่ายหัวเล็กน้อยเมื่อเห็นองค์จักรพรรดิกำลังพักผ่อนอยู่
ปิงหยาง รู้สึกได้ถึงความมั่นใจ เมื่อเห็นท่าทีขององค์จักรพรรดิ
นางมองไปที่ไป่ ฉี ด้วยแววตาที่สดใส
”พวกเจ้ากำลังรออะไรอยู่?หยุดอยู่เฉยๆ!”
ไป่ฉี สั่นเทาเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขามองกลับไปทางคนที่ยืนอยู่ที่กำแพงวัง คนๆนั้นพยักหน้า
”รับทราบ!”ไป่ฉี ตอบรับและยืนอยู่เฉยๆ
ฝูงชนต่างพากันสับสนเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทำไมทหารองครักษ์ถึงยืนอยู่เฉยๆหลังจาก ฟาง เจิ้งจือ ทำเรื่องหยาบคายต่อราชินีแดนใต้
สภา…
การเมืองช่างซับซ้อน
หลังจากที่องค์จักรพรรดิหยุดพักความสนใจของผู้คนก็กลับไปหา ฉาน ยู่ อีกครั้ง
ไม่มีใครสนใจกับการกระทำของเจ้าหน้าที่และเหล่าทหารองครักษ์
ฉานยู่ ไม่ได้ตอบ ฟาง เจิ้งจือ ราวกับนางไมรู้จะพูดอะไรออกมา
เวลาผ่านไปห้านาที…
สิบห้านาที!
องค์หญิงฉาน ยู่ กัดปาก ดวงตาของนางเป็นประกายใต้แสงอาทิตย์ นางดูเหมือนจะตัดสินใจได้แล้ว
”เจ้ามั่นใจมากแค่ไหน?!”
”ก่อนที่เจ้าจะมาก็30%”ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างเยือกเย็น
”แล้วตอนนี้ล่ะ?”
”ยังคง30%”
”สวะ…” องค์หญิง ฉาน ยู่ กำมือแน่น นางกำลังจะต่อว่า ฟาง เจิ้งจือ แต่นางก็นึกบางอย่างได้
นางไม่เคยรู้สึกร้อนใจแบบนี้มาก่อนตลอดปีที่ผ่านมา
ในฐานะผู้นำของดินแดนภูเขาทางใต้นางต้องรักษาความสงบเอาไว้แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ในตึงเครียดแค่ไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง…
นางไม่สามารถรักษาความสงบได้เมื่อเห็นหน้าฟาง เจิ้งจือ นางเกือบจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่
นางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับเรื่องนี้
มันไม่ใช่เรื่องดีแต่ ฉาน ยู่ รู้สึกดีกับเรื่องนี้ นางสนุกที่ได้ทะเลาะกับ ฟาง เจิ้งจือ มันราวกับเป็นวิธีที่นางใช้ระบายความผิดหวัง
เป็นไปได้ยังไง?
นางไม่เข้าใจเรื่งนี้เท่าไรนักแต่นางรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างในคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ ที่นางไม่เข้าใจ
30%ก่อนที่นางจะมา!
และตอนนี้…
มันยังคงเป็น30%?
”ข้าเข้าใจแล้ว!”ดวงตาของ ฉาน ยู่ เป็นประกาย นางเข้าใจว่านางต้องทำอะไร
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟาง เจิ้งจือ บอกนางถึงระดับความเชื่อมั่นต่อแผนการของเขา
นางจำถึงช่วงที่ได้อยู่กับฟาง เจิ้งจือ ที่ดินแดนภูเขาทางใต้ ตอนนั้นนางถาม ฟาง เจิ้งจือ ถึงความแม่นใจในการทำสงคราม
100%!
นางรู้ว่าตอนนี้อะไรทำให้ฟาง เจิ้งจือ มีความมั่นใจเพียง 30% เท่านั้น
หรือก็คือ…
อีก70% ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขา
นางจ้องมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ
จากนั้นฉาน ยู่ ก็หัวเราะออกมาเบาๆ นางหัวเราะดังมากจนร่างกายของนางสั่นสะท้าน
”ฮ่าฮ่าฮ่า… 30% ?! เจ้ากล้าจะเดินออกมาทั้งๆที่มีความมั่นใจเพียง 30% เท่านั้น?” ฉาน ยู่ หัวเราะ ก่อนจะกระโดดลงมาจากช้าง
”ใช่!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
”เจ้าไม่คิดว่ามันไร้เดียงสาเกินไปหน่อยหรอกหรือ?”สายตาของนางเต็มไปด้วยความเยือกเย็น ร่างกายของนางเต็มไปด้วยจิตสังหาร
”ไม่”ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับ
”หึเจ้าคิดว่าข้าเป็นใครงั้นรึ? ก่อนหน้านี้ที่ข้าไม่ฆ่าเจ้าเพราะสิ่งที่เจ้าทำให้ดินแดนภูเขาทางใต้ อย่างไรก็ตามถ้าเจ้ายังพูดอะไรไร้สาระออกมาอีกข้าจะฆ่าเจ้าซะ!” ฉาน ยู่ แผดเสียงออกมา
ผู้คนต่างมองหน้ากันเมื่อได้ยิน
”ฉานยู่ ต้องการฆ่าเข้า!”
”มันเป็นความจริงที่เขามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อชัยชนะในดินแดนภูเขาทางใต้… ”
ฝูงชนพยักหน้า
ในปีที่ผ่านมาสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ ทำทุกคนนั้นต่างรู้ดี แม้ว่าจะไม่มีใครเอ่ยถึงชื่อของเขา ..
ทุกคนรู้ว่า…
ฟางเจิ้งจือ เป็นเหตุผลที่ทำให้ชัยชนะของสงครามครั้งนั้นเป็นของมนุษย์!
ฟางเจิ้งจือ โน้มน้าวให้ดินแดนภูเขาทางใต้ร่วมมือกับอาณาจักรเซี่ย
ยิ่งไปกว่านั้นฟาง เจิ้งจือ ได้สู้ตัวต่อตัวกับครึ่งเซียน คังหยาง
ฟางเจิ้งจือ เป็นกุญแจสำคัญของชัยชนะ
อย่างไรก็ตามเพราะสิ่งที่เขาทำหลังจากนั้น
ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเช่นนี้
ความจริงยังคงเป็นเหมือนเดิม
ยิ่งไปกว่านั้น
หลินเทียนหลง ได้ยินเสียงพูดคุยกันของผู้คน เขาไม่รู้ว่า ฉาน ยู่ พูดเรื่องสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำโดยมีจุดประสงค์อะไร
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากได้ยินอยู่ดี
”ไร้สาระ?ข้าพูดอะไรผิดไปหรือไงกัน? ไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่า ฉาน หลิง ยืนอยู่ด้านหน้าเจ้าแล้วงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ถามกลับ
”แล้วยังไง?”ฉาน ยู่ ถามกลับด้วยความโกรธ
”โว้ว!”ผู้คนไม่อาจเชื่อหูตัวเองได้
ทุกคนรู้ดีว่าคนที่ฆ่าฉาน หลิง คือ ฟาง เจิ้งจือ
แม้ว่าฟาง เจิ้งจือ จะไม่ได้มีจุดประสงค์ชัดเจน แต่เขารู้ว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรอยู่
เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งกับสิ่งนี้แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือและ ฉาน ยู่ ดูเหมือนจะไม่สังเกตุเห็นท่าทีของ หลิน เทียนหลง นางดูเหมือนจะระเบิดอารมณ์ได้ตลอดเวลา
”เจ้าไม่ได้พึ่งพูดว่า’แล้วยังไง’ งั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”ใช่ข้าพูด!” ฉาน ยู่ พยักหน้า
”งั้นให้ข้าถามเจ้าหน่อยเจ้าเป็นองค์ราชินีของดินแดนภูเขาทางใต้ เจ้าจะปล่อยให้ฆาตกรลอยนวลไปได้ยังไง?” ฟาง เจิ้งจือ กดดัน
“เขาตายไปแล้ว ไม่มีอะไรที่พวกเราทำได้อีก” ฉาน ยู่ พึมพัม
”นั่นมันก็เป็นความจริงเจ้าไม่คิดจะล้างแค้นงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ไม่หยุด
”เจ้า…”ฉาน ยู่ กัดฟัน เปลวไฟลุกโชนในดวงตาของนาง กลิ่นอายรอบๆตัวนางเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
”ราชินีของดินแดนภูเขาทางใต้จะปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆงั้นหรือ?นักรบของแดนใต้จะยอมรับเรื่องนี้ง่ายๆงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ยังคงกดดันต่อไป
”ไม่มีความยุติธรรมในโลกใบนี้”ฉาน ยู่ กำหมัด
”ใช่บนโลกนี้ไม่มีความยุติธรรมอย่างไรก็ตามสวรรค์เฝ้าดูสิ่งที่เราทำ พวกเราต้องสู้เพื่อความยุติธรรม ?” ฟาง เจิ้งจือ ตอบกลับด้วยความดูถูก
”เจ้ากำลังพยายามบังคับให้ข้าฆ่าเจ้างั้นหรือไงกัน?”ดวงตาของ ฉาน ยู่ เต็มไปด้วยความโกรธ
”ถ้าเจ้าคิดว่าข้าเป็นฆาตกรเจ้าสามารถฆ่าข้าได้เลยตอนนี้!”ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างใจเย็น
”ฮ่าฮ่าฮ่า… เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำหรือไงกัน? พี่ชายของข้าตาย ณ ชายแดนภูเขาทางใต้ มีเพียงสามคนอยู่ที่นั่น เจ้า องค์รัชทายาทและเจ้าหน้าที่ซู ตอนนี้เจ้าหน้าที่ซูอยู่ที่ดินแดนทางเหนือ ถ้าเจ้าจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ฆ่า เจ้าจะบอกว่าเป็นองค์รัชทายาทงั้นหรือ?!” เปลวไฟลุกโชนในดวงตาของนาง ลายเมฆปรากฎขึ้นมาบนร่างของนาง
เห็นได้ชัดว่าฉาน ยู่ โกรธขนาดไหน
แต่
ฝูงชนตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉาน ยู๋ พูด
”ถ้าไม่ใช่เจ้าที่ฆ่าเขาแต่เป็นองค์รัชทายาท?!”
ทุกคนหันไปมองหลิน เทียนหลง หลิน เทียนหลง หน้าซีด
เจ้าหน้าที่ทุกคนตกใจเมื่อได้ยิน
พวกเขารู้ว่าฉาน ยู่ โกรธมาก พวกเขาคิดว่า ฉาน ยู่ เชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นฆาตกร
พวกเขาไม่คิดว่านางจะเปลี่ยนเป้าหมายไปที่หลิน เทียนหลง
”ฟางเจิ้งจือ และ ฉาน ยู่ จะวางแผนเรื่องนี้มาก่อนได้ยังไง…ในเมื่อพวกเขาไม่เคยพบกันมาก่อน!”
”เกิดอะไรขึ้น?”่
”นี่มันบังเอิญหรือเป็นสิ่งที่เตรียมไว้แล้วกัน?”
เจ้าหน้าที่สามารถบอกได้ว่าเรื่องทุกอย่างกำลังแย่ลงอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ…
มันสายเกินไปแล้ว
ฉานยู่ ได้พูดออกมาแล้ว
มันอาจจะไม่ใช่คำพูดที่ชัดเจนแต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความสงสัย ในนามของแดนใต้ นางสงสัยในตัวขององค์รัชทายาทและอาณาจักรเซี่ย
เหวินเต๋าเปา จ้องเขม็งเมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขาเกือบถลนออกมาจากเบ้า เขาคิดในใจว่า “เชี่ยเอ้ย? มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? เชี่ยเอ้ย…”
ท่าทีของหลินเทียนหลง มืดมนลง เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ และ ฉาน ยู่ เริ่มมีปากเสียงกัน…
เขากำลังเดาทิศทางของการสนทนา…
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหยุดพวกนั้นได้
เขาเป็นเพียงองค์รัชทายาทไม่ใช่องค์จักรพรรดิ ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาจะดูเป็นคนผิดถ้าก้าวออกไป
ดังนั้น…
อยู่เฉยๆ
เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้ว่านิ้วของ ฉาน ยู่ จะชี้มาที่เขาก็ตาม…
เพจหลัก: Gate of god TH
ตอนที่ 546 บ้าไปแล้ว
บรรยากาศในพระราชวังให้ความรู้สึกตึงเครียดอย่างมาก
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้มอง หลิน เทียนหลงเขายิ้มให้ ฉาน ยู่ “ถ้าข้าบอกว่าใช่ล่ะ?”
”อะไรนะ?!”
ผู้คนต่างสับสน
ทำไมฟาง เจิ้งจือ ถึงพูดเช่นนั้น? เขาจะกล่าวโทษองค์รัชทายาท
เขาหาญกล้าเกินไปแล้ว…
”เขาพยายามจะโทษองค์รัชทายาทจริงๆหรือ?”
”เขาต้องถูกประหาร!”
ทุกคนต่างไม่เชื่อในเรื่องที่เกิดขึ้น
เหล่าเจ้าหน้าที่ที่อยู่หลังองค์รัชทายาทต่างก็พากันตกใจพวกเขาไม่ได้ตกใจกับความกล้าของฟาง เจิ้งจือ …
พวกเขาตกใจที่ฟาง เจิ้งจือ พูดโดยไม่มีหลักฐาน
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาพวกเขามองไปที่ ฉาน ยู่ และรอการตอบสนองของนาง
”โอหังเจ้ากล้ากล่าวหาองค์รัชทายาทงั้นหรือ?”ฉาน ยู่ ตอบกลับด้วยความโกรธ
”นั่นไม่ใช่คำกล่าวหาเจ้าจะพบความจริงหากได้ลองตรวจสอบ แต่..เจ้ากล้าไหมล่ะ? “ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างใจเย็น
”ทำไมจะไม่กล้า?”
”แล้วถ้าเจ้ารู้ว่าองค์รัชทายาทเป็นฝ่ายผิดจะทำอย่างไร?”
”ถ้าสิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริงข้าจะทำเพื่อความยุติธรรมจนกระทั่งลมหายใจสุดท้าย! แต่ถ้าเจ้าโกหก ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”ฉาน ยู่ ตอบด้วยความโกรธ
”เยี่ยม!เราจะทำตามที่เจ้าพูด!”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าแล้วหันไปมององค์รัชทายาท “ฝ่าบาท ท่านล่ะว่ายังไง?”
”สวะ!ฟาง เจิ้งจือ เจ้ากล้าดียังไงมาว่าข้า? มันเป็นเรื่องเลวร้ายที่อาจจะทำให้กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดนได้!”หลิน เทียนหลง ไม่สามารถอยู่เฉยได้
เขาตะโกนเมื่อได้ยินคำถามของฟาง เจิ้งจือ
เขาไม่แม้แต่รอให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างหลังเขาพูด
”ฝ่าบาทท่านรู้สึกผิดงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเยาะ
”ฝ่าบาท… ”
”ฝ่าบาทอย่าไปสนใจคำพูดของเขา!”
”ใช่แล้วนั่นเป็นเพียงคำพูดที่ไร้สาระ ทำไมท่านต้องใส่ใจเขาด้วย?”
เจ้าหน้าที่เริ่มกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งนั้น
”ฮึ่มข้ารู้ เรื่องนี้เงียบหายไปตั้งแต่ปีก่อน! เจ้าฆ่า ฉาน หลิง ทำไมข้าจะต้องกล่าวหาเจ้า?”หลิน เทียนหลง จ้องไปที่องค์จักรพรรดิและกำหมัดแน่น
”ฝ่าบาทท่านมีหลักฐานอะไรบ้าง?” ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”หลักฐาน?”องค์รัชทายาทหลิน เทียนหลง ตกใจ
ฟางเจิ้งจือ ต้องเป็นคนหาหลักฐานเพื่อยืนยัน นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเขา
อย่างไรก็ตามเขากัดฟันแน่น
”เจ้าหน้าที่ซูเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นั่นนอกจากนี้ข้ายังถูกเจ้าแทงด้วย! มีทั้งพยานและหลักฐานทางกายภาพ เจ้าต้องการอะไรอีก?” หลิน เทียนหลง พูดขึ้นมา
”ข้าเกรงว่าคงไม่ได้!ฝ่าบาท ท่านเองก็เป็นผู้ต้องสงสัยเช่นกัน ตามกฎหมาย ท่านไม่สามารถเป็นพยานสู้กับข้าได้ ท่านมีหลักฐานอะไรมาสู้กับข้าบ้าง?”ฟาง เจิ้งจือ ถามกลับ
”เจ้าพยายามยืดเยื้อไปเรื่อยๆงั้นหรือ?”หลินเทียนหลง โกรธ
”กฎหมายระบุไว้ว่ามนุษย์เพียงคนเดียวไม่สามารเป็นพยานเพื่อใช้ในการตัดสินได้ข้าพูดถูกหรือไม่?”ฟาง เจิ้งจือ กล่าวเสริม
ท่าทีของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเปลี่ยนไปในขณะนั้น
พวกเขาไม่สามารถหยุดเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้นอกจากนี้ ฟาง เจิ้งจือ พูดถูก
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้…
ไม่สามารถใช้ตัดสินได้
สิ่งต่างๆ กำลังเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป
เจ้าหน้าที่ยังคงนิ่งเงียบและองค์รัชทายาทเองก็กัดฟันแน่นเขาไม่สามารถทนได้ที่ต้องถูกพวกบ้านนอกมาไล่ต้อนสอบสวนเช่นนี้
นี่เป็นการท้าทายอำนาจของเขา
”ฟางเจิ้งจือ เจ้ากล่าวหาว่างองค์รัชทายาทเป็นคนฆ่า ฉาน หลิงเขาจะมีแรงจูงใจอะไร ถ้าเขาไม่มีแรงจูงใจ เหตุใดเขาต้องทำเช่นนั้น?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก้าวไปข้างหน้า
เจ้าหน้าที่คนอื่นๆต่างเรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็วแววตาของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที
”ทำไมองค์รัชทายาทต้องฆ่าฉาน หลิง? นั่นเป็นข้อกล่าวหาที่ไร้สาระมาก!”
”เจ้าหน้าที่หลี่พูดถูก!”
”ถ้าไม่มีแรงจูงใจที่สมเหตุสมผลเขาก็ไม่อาจตกเป็นผู้ต้องสงสัยได้ ฟาง เจิ้งจือ เจ้าอย่าพยามหลอกหลวงพวกเรา!”
เจ้าหน้าที่เริ่มก้าวไปข้างหน้าและเถียงฟาง เจิ้งจือ
องค์รัชทายาทถอนหายใจด้วยความโล่งอกถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ก้าวออกไปข้างหน้า เขาคงลืมเรื่องนี้ไปสนิท
ตามกฎหมายแล้วเขาไม่อาจตกเป็นผู้ต้องสงสัยได้ ถ้าการก่ออาชญากรรมนั้นไม่ก่อประโยชน์ใดๆแก่เขา
”ทำได้ดีมากฟาง เจิ้งจือ! ข้าเกือบหลงกลเจ้าเสียแล้ว!”หลิน เทียนหลง ยิ้มเยาะ เขามีแรงจูงใจในการฆ่า ฉาน หลิง
แต่
ไม่มีใครกล้าพูด
ฉานหลิง ต้องการที่จะเป็นจักรพรรดิ
หลินเทียนหลง ไม่มีทางปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่สักวันเขาต้องได้กลายเป็นราชาของดินแดนภูเขาทางใต้ และแน่นอนว่าจะตามมาด้วยปัญหามากกมาย หลิน เทียนหลง จึงตัดสินใจฆ่าเขาทิ้งซะ
อย่างไรก็ตามมันถือเป็นความผิดอันรุนแรง! เขาจำเป็นต้องมีเหตุผลที่ดีหรือแพะรับบาปที่น่าเชื่อถือพอ
ฟางเจิ้งจือ ได้มอบทั้งสองอย่างให้กับเขา
ล่วงเกินองค์หญิง!
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้เขาสามารถใส่ร้าย ฟาง เจิ้งจือ ได้ง่ายขึ้น เขาได้รับผลประโยชน์มากมายจากการลงมือในครั้งนั้น
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าฉาน หลิง จะปล่อย ฟาง เจิ้งจือ ก่อนที่เขาจะตาย
นี่…
ทำให้เขาต้องมาถึงทางตันในวันนี้
”ฟางเจิ้งจือ เจ้าเป็นคนเดียวที่มีแรงจูงใจพอที่จะฆ่า ฉาน หลิง!” เจ้าน้าที่ก้าวขึ้นมาด้านหน้าและพูดขึ้นมา
ฝูงชนและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆต่างพยักหน้าเห็นด้วย
ฟางเจิ้งจือ ล่วงเกินองค์หญิง
มันมีเป็นเหตุผลที่เพียงพอที่จะฆ่าฉาน หลิง ยิ่งไปกว่านั้น หลิน เทียนหลง มีเหตุผลอะไรที่จะฆ่า ฉาน หลิง? ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด
”ฟางเจิ้งจือ เจ้าอยากจะพูดอะไรอีกไหม?”
”เจ้าอ้างว่าตัวเองเป็นฟาง เจิ้งเจิ้ง ที่หน้าประตูเมือง แต่ตอนนี้เจ้ายอมรับความผิดที่เจ้าได้ก่อและยอมรับตัวตนที่แท้จริงของเจ้า ตอนนี้เจ้าหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว!”
”ทหาร!จับกุมอาชญากรเดี๋ยวนี้!”
เหล่าเจ้าหน้าที่เริ่มตะโกนออกมาเมื่อเห็นฟาง เจิ้งจือ เงียบ
”ใครกล้างั้นรึ?!”เสียงของ ปิง หยาง ดังขึ้นขณะที่สายตาของนางมองไปที่เหล่าเจ้าหน้าที่
”ฝ่าบาทเรื่องนี้มันชัดเจน … ”
”ใช่ทำไมท่านต้องปกป้องเขาด้วย?”
”ให้กฎหมายเป็นตัวจัดการทุกอย่าง…”
ทุกคนรู้ว่าปิง หยาง นั้นไม่เชื่อฟังและเอาแต่ใจแค่ไหน แต่พวกเขาไม่คิดจะปล่อย ฟาง เจิ้งจือ ไปง่ายๆ
ในช่วง10 วันที่ผ่านมา …
ว่านฉง ถูกจองจำ…
เพราะเอกสารที่ว่าน ฉง มีทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่ตกอยู่ในความตื่นกลัว จากนั้น ยู่ ยี่ปิง รวมถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีทั้งสองก็ถูกจับตัวไปเช่นกัน รัฐมนตรีกรมสงครามเองก็ถูกสั่งให้นั่งคุกเข่าอยู่ที่ทะเลสาบสิบลี้
มันบอกพวกเขาถึงเรื่องหนึ่ง…
ฟางเจิ้งจือ ได้เตรียมความพร้อมก่อนที่เขาจะเข้ามาในเมืองหลวง
ไม่มีใครรู้ว่าเป้าหมายต่อไปของเขาคือใครแต่พวกเขามั่นใจว่าชีวิตของพวกเจาตะปลอดภัยถ้าไม่มี ฟาง เจิ้งจือ
”ฝ่าพระบาทโปรดหลีกทางนายน้อยเหยียน… ข้ามั่นใจว่าท่านเหยียนคงไม่รู้เรื่องที่ท่านทำในวันนี้!” เจ้าหน้าที่เดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ
หลินเทียนหลง ยิ้มเยาะ
สภา…
ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ชาวบ้านธรรมดาจะมาวิ่งเล่นได้ตัวเขาเองได้พยายามอย่างหนักเพื่อให้มีอำาจดั่งเช่นวันนี้
ฟางเจิ้งจือ ไม่มีทางเขี่ยเขาออกไปได้ง่ายๆ
”ไร้เดียงสามาก!”หลิน เทียนหลง หัวเราะเยาะ เขาสามารถทำนายอนาคตของ ฟาง เจิ้งจือ ต่อจากนี้ได้เลย
เมื่อฟาง เจิ้งจือ เข้าไปอยู่ในคุกเมื่อไร เขามีวิธีนับร้อยเพื่อฆ่า ฟาง เจิ้งจือ
แม้รัฐมนตรีกรมกฎหมายจะเป็นเหวิน ฉวน ก็ตาม…
เขายังมีวิธีรับมืออีกมากมาย
ตราบใดที่เขายังเป็นองค์รัชทายาทไม่มีใครทำอะไรเขาได้
องค์หญิงฉาน ยู่ หันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความกังวล นางสามารถเดาได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ วางแผนอะไรไว้
นางพยายามทำตามแผนนั้น
อย่างไรก็ตามตอนที่มันกำลังจะสำเร็จนั้นเอง…
ก็เกิดเรื่องขึ้นมันเป็นสิ่งที่นางไม่คาดคิดแม้แต่น้อย
”ข้าควรจะทำยังไงต่อดี?”ฉาน ยู่ เริ่มหาทางออก หรือนางควรสั่งให้ทหารจับกุม ฟาง เจิ้งจือ ?
ร่างกายของเหยียน ซิว ถูกรายล้อมด้วยสีแดง
ความเป็นจริงแล้วฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้คิดจะเอา เหยียน ซิว เข้าร่วมในแผนนี้
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้ยินดีที่เขาเดินออกมาด้วยซ้ำ
เหยียนซิว ไม่มีทางรู้ว่าไพ่ตายของ ฟาง เจิ้งจือ คืออะไร เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ฟาง เจิ้งจือ จะออกจากสถานการณ์เช่นนี้ไปได้ยังไง
”ใช่ข้ามีแรงจูงใจแต่องค์รัชทายาทไม่มี!” ฟาง เจิ้งจือ หันไปมองเหล่าเจ้าหน้าที่
”ในเมื่อเจ้ายอมรับแล้วก็มอบตัวซะดีๆ!”
”เจ้าอยากจะเห็นองค์หญิงและนายน้อยเหยียนถูกลงโทษไปด้วยเพราะเจ้างั้นหรือ?”
”คดีนี้จบลงไปแล้วไม่มีอะไรที่เจ้าพูดไปได้มากกว่านี้แล้ว”
เจ้าหน้าที่ต่างยิ้มเยาะฟาง เจิ้งจือ นั้นราวกับได้ตายไปแล้ว
ทันใดนั้นร่างหนึ่งได้ก้าวออกมาดวงตาของเขาเปล่งประกาย
ฉือเฮา แห่งกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์
”ฟาง เจิ้งจือ ทุกคนรู้ว่า เจ้าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเราชนะในสงคราม เจ้าอาจจะฆ่า ฉาน หลิง ด้วยความไม่ตั้งใจ ถ้าเจ้ายอมมอบตัว เจ้าอาจจะไม่ถูกลงโทษถึงตาย!” เสียงของ ฉือ เฮา ดังก้องไปทั่ว
ผู้คนต่างเงียบลงเมื่อได้ยินเสียงนี้พวกเขารู้ดีถึงสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้ทำไป
ต่อให้ฟาง เจิ้งจือ จะทำความผิด ผู้คนก็ไม่สามารถมองข้ามความดีของเขาไปได้
นอกจากนี้…
ฉานยู่ ได้พูดเอง
นางไม่โจมตีฟาง เจิ้งจือ เพราะสิ่งที่เขาได้ทำไว้
ดวงตาของหลิน เทียนหลง กลายเป็นเย็นยะเยือกทันทีเมื่อได้ยิน ฉือ เฮา เหมือนกำลังช่วย ฟาง เจิ้งจือ
”ใช่แล้วฟาง เจิ้งจือ มีส่วนในชัยชนะ อย่างไรก็ตามกฎหมายนั้นอยู่เหนือกว่านั้น! เขาต้องตายเพราะความผิดที่เขาทำ! เขาฆ่า ฉาน หลิง! มันเป็นความผิดที่ร้ายแรง!” หลิน เทียนหลง ไม่คิดจะให้ ฟาง เจิ้งจือ มีชีวิตรอด
”องค์รัชทายาทพูดถูกต้อง!พวกเราต้องเคารพกฎหมาย! เราให้รางวัลกับสิ่งที่เขาทำแต่เขาก็ต้องถูกลงโทษเพราะความผิดที่เขาทำเช่นกัน! มันไม่สามารถล้มล้างกันได้”
”ใช่มันไม่เกี่ยวข้องกัน!”
”ฆาตกรจะต้องตายเพราะความผิดของเขาต่อให้องค์ราชินีแห่งแดนใต้จะเมตตา พวกเราก็ไม่สามารถปล่อยให้ฆาตกรรอดชีวิตไปได้!”
เจ้าหน้าที่ต่างอยู่ข้างหลิน เทียนหลง
ฉือเฮา ขมวดคิ้ว แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเหตุเห็นว่า ฟาง เจิ้งจือ มีรอยยิ้มอันสดใส
”ทำไมเขาถึงมีรอยยิ้มบนใบหน้าอยู่?”ฉือ เฮา ไม่เข้าใจ
ทันใดนั้นเองเสียงของฟาง เจิ้งจือ ก็ดังขึ้น
”ใช่ฆาตกรควรตายเพราะความผิดของเขาอาณาจักรต้องอยู่ใต้กฎหมาย ชายผู้นี้ควรตายต่อให้องค์ราชินีแห่งแดนใต้จะเมตตาก็ตาม!” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้ม
แต่…
ฉือเฮา กลับตกตะลึง
”เขาบ้าไปแล้วหรือไงกัน?!”
เพจหลัก: Gate of god TH
Gate of God – ตอนที่ 545 -546
ตอนที่ 545 -546
Posted by ? Views, Released on ตุลาคม 17, 2021
, Gate of God
เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง