Gate of God – ตอนที่ 615 เจ้าบ้าไปแล้ว?

ตอนที่ 615 เจ้าบ้าไปแล้ว?


ฟางเจิ้งจือ รู้สึกเศร้าสลด แม้ว่าเขาจะยังไม่ตายก็ใช่ว่าเขาอยากให้คนอื่นรู้ โดยเฉพาะในตอนนี้ราชาอสูรยังไม่ตาย
ที่จริงเขารู้ว่าเหยียน ซิว จะทำอะไรตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขาไม่คิดจะให้ เหยียน ซิว สละชีวิตตัวเอง แต่การหยุด เหยียน ซิว ตอนนั้นมันเป็นไปได้
ดังนั้นทางออกเดียวคือโจมตีใส่เหยียน ซิว พร้อมกัน ด้วยวิธการนี้ แม้จะทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ยังดีกว่าตายไปเลย
ผลที่ได้ชัดเจน- พวกเขารอดชีวิตมาได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรวทำต่อจากนั้นคือการแกล้งตาย ใช่ไหม?
นั่นคือสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ คิดแต่เขาไม่คิดเลยว่าจู่ๆ เหยียน ซิว จะพรวดพราดออกมาแบบนี้แต่นั่นก็ยังไม่ใช่เรื่องที่แย่ที่สุด
ทำไมฉาน ยู่ ถึงยืนขึ้นมาด้วย?
ฟางเจิ้งจือ พูดไม่ออกเลย เขาไม่สามารถทำตามที่คิดไว้ได้
ฟางเจิ้งจือ ลืมตาขึ้นมาโดยไม่ลังเล เขามองไปที่หน้าอกตรงหน้าของเขามันทั้งอ่อนนุ่มและอบอุ่นมาก
เอาล่ะแต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ฟางเจิ้งจือ ไม่มีเวลามาทำแบบนี้ ด้วยการตีลังกาเพียงครั้งเดียวเขาจับ ฉาน ยู่ กดลงบนพื้นได้ในทันที
”ปัง!”
เสียงดังขึ้นที่ด้านหลังกำแพงที่แข็งแรงก็ไม่สามารถต้านพลังของราชาอสูรไว้ได้ ฟาง เจิ้งจือ กอด ฉาน ยู่ เอาไว้ด้วยความสิ้นหวัง
อย่างไรก็ตามมีหินขนาดยักษ์ตกลงมาอย่างรวดเร็วภายในพริบตาพวกเขาทั้งคู่ก็ถูกฝังอยู่ใต้ฝุ่น
”แค่กแค่ก จะฆ่าข้าเหรอ!”ฟาง เจิ้งจือ ถ่มดินออกจากปาก เขารู้ว่าราชาอสูรจะโจมตีเข้ามาอีกครั้ง
มือข้างหนึ่งโอบเอวบางๆของฉาน ยู่ เอาไว้ส่วนมืออีกข้างกระแทกพื้นอย่างแรงเพื่อที่จะพุ่งออกมาจากเศษซากของกำแพง
”เจ้ายังไม่ตาย!”ฉานยู่ จ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ราวกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดแม้แต่คำเดียว
”ตูม!”
กีบเท้าที่เต็มไปด้วยขนสัตว์กระทืบซ้ำลงไปที่เดิมเพื่อบดขยี้ฟาง เจิ้งจือ และ ฉาน ยู่
ฟางเจิ้งจือ กระโจนออกมาไม่ไกลจากเศษซากพวกนั้น
”เดี๋ยวก่อนข้ามีเรื่องจะพูด!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจ ฉาน ยู่ และปล่อยนางลงพื้นในขณะที่ตะโกนใส่ราชาอสูร
”หืม?เจ้าอยากจะสั่งเสียอะไรงั้นหรือ?”ราชาอสูรหยุดการกระทำของเขาในขณะที่จ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
”ข้าอยากจะบอกว่าเจ้ามัน…โง่!”หลังจากที่ราชาอสูรหยุดฟัง ฟาง เจิ้งจือ ก็ชูนิ้วกลางใส่ จากนั้นก็เตะที่ก้นของ ฉาน ยู่
ฉานยู่ ไม่ทันได้ตั้งตัวนางก็ลอยไปกระแทะกับพื้นในทันที
ทั้งกองทัพทลายภูผาทั้งกองทัพคนเถื่อนและ เหยียน เฉียนหลี่ ต่างประหลาดใจอย่างสิ้นเชิง
”เขาว่าราชาอสูรว่า…โง่?”
”แต่ทำไมเขาถึงเตะองค์หญิงแดนใต้?”
ทุกคนต่างจ้องไปที่ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความสับสนและ ฟาง เจิ้งจือ ก็มองไปที่เหล่าทหารอย่างไม่รู้สึกผิดอะไร
ความกล้าหาญ?ทำไมเขาถึงกล้าทำอะไรแบบนั้น?
ถ้ามีเวลาพอจะทำเช่นนั้น
ราชาอสูรจ้องไปที่ฟาง เจิ้งจือ แล้วมอง ฉาน ยู่ ที่นอนอยู่บนพื้นหลังจากที่กำลังสับสนดวงตาของเขาก็เริ่มส่งอแสงสีเขียวอีกครั้ง
”โฮก!”เสียงคำรามดังกึกก้อง
เขาเตรียมที่จะกระทืบฟาง เจิ้งจือ ให้ตายลงในครั้งเดียวแต่กลับมีคนมาขวางเอาไว้
”อสูรตัวน้อยข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เจ้าเอง!”ปากของ เหยียน เฉียนหลี่ มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยเขาจ้องไปที่ราชาอสูร
”ท่านปู่ท่านไม่เป็นไรงั้นหรือ?”เหยียน ซิว เต็มไปด้วยความกังวล ร่างของเขาส่องแสงสีแดงเลือด
”ใจเย็นเขาบาดเจ็บหนักกว่าข้ามาก” เหยียน เฉียนหลี่ ชี้ไปที่ราชาอสูร ก่อนที่จะหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ “เจ้าเด็กไร้ยางอายเจ้าพึ่งแกล้งตายไปเองไม่ใช่งั้นรึ? ตอนนี้ต้องลุกขึ้นยืนแล้วงั้นหรือ?”
”ท่านคิดว่าข้าอยากจะยืนขึ้นมางั้นหรือ?!”ฟาง เจิ้งจือ ตะโกนกลับด้วยความหงุดหงิด
”เหยียนซิว ปกป้ององค์หญิง ปิง หยาง และราชาินีแดนใต้!” เหยียน เฉียนหลี่ ออกคำสั่งกับ เหยียน ซิว เขาตัดบทสนทนากับ ฟาง เจิ้งจือ
”รับทราบ!”เหยียน ซิว พยักหน้า.Aileen-novel.
ดวงตาของเหยียน เฉียนหลี่ จ้องมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนอยู่ด้านหลัง เหยียน เฉียนหลี่ ควันลอยออกมาจากจมูกของเขาด้วยความโกรธ
”เหยียนเฉียนหลี่ มังคงยากกว่าเจ้าจะมาถึงระดับเซียนได้ ถ้าเจ้าหลีกทางข้าจะไว้ชีวิตเจ้า หลังจากฆ่าเจ้าสารเลวนั่นเสร็จข้าจะไปทันที ข้าไม่คืนคำแน่นอน แต่ถ้าเจ้ายังเลือกที่จะยืดหยัดอยู่ที่นี่ ข้าจะทำลายเมืองหลวงทั้งเมือง!”
”ฮ่าฮ่าเป็นแค่อสูร กล้ามาต่อรองกับข้างั้นรึ? เจ้ามีสิทธิทำเช่นนั้นด้วยหรือ?” เหยียน เฉียนหลี่ พูดออกมาด้วยความยโส
”เหยียนเฉียนหลี่ เจ้ามันรนหาที่ตาย!” ราชาอสูรไม่พูดอะไรอีกหลังจากเห็นท่าทีของ เหยียน เฉียนหลี่ เขากระทืบกีบเท้าลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง
”ตูม!”
กำแพงเมืองถล่มลงมาอีกครั้ง
ฟางเจิ้งจือ หลีกไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ขณะที่ เหยียน เฉียนหลี่ ถอยไปด้านหลังเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นเขาก็พุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วในมือของถือหอกสีแดง
อย่างไรก็ตามราชาอสูรไม่คิดจะปล่อยให้เหยียน เฉียนหลี่ เข้าใกล้ เขาสร้างม่านพลังสีทองขึ้นรอบๆตัวหลายชั้น
”ตูม!”
”ตูมตูม ตูม!”
เสียงของการปะทะกันนับครั้งไม่ถ้วนดังขึ้นไม่มีใครเห็นว่าเกิดอะไร ขึ้น
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีร่างหนึ่งกระเด็นออกมาจากกลุ่มควันก่อนที่จะหล่นลงกระแทกพื้น
”เหยียนเฉียนหลี่ แพ้?!”
”ถึงแม้เขาจะเป็นเซียนแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะราชาปีศาจได้ด้วยตัวคนเดียว!”
”ตราบใดก็ตามที่เขายังมีไข่มุกอสูรอยู่ก็เท่ากับชีวิตของเขาเป็นอมตะ!”
”ถ้าราชาอสูรคิดจะทำลายทั้งเมืองไปล่ะก็…”
กองทัพทลายภูผาต่างมองไปที่เหยียน เฉียนหลี่ ด้วยความสิ้นหวัง
แต่อีกด้านพวกคนเถื่อนดวงตาของพวกเขากลับเป็นประกาย กองทัพที่ถอยไปแล้ว เริ่มตั้งทัพใหม่ได้อีกครั้ง
เหยียนซิว เป็นกังวลอย่างมาก แตเขายังคงกัดฟันและพุ่งไปที่ ฉาน ยู่ และ ปิง หยาง เขาต้องทำเมินเฉยกับ เหยียน เฉียนหลี่ ที่นอนอยู่บนพื้น
ฟางเจิ้งจือ ที่ยืนอยู่ใกลๆจุดปะทะกันมองไปยังราชาอสูรด้วยความนิ่งเงียบ เขาไม่มีโอกาสหนีไปไหน
”เฒ่าเหยียนท่านเป็นอะไรไหม?” ราชาหลี่ฉิน มาถึงด้านหน้าของ เหยียน เฉียนหลี่ ก่อนจะค่อยๆพยุงเขาขึ้น
”ไปรออยู่ข้างๆเถอะข้าจัดการได้!”เหยียน เฉียนหลี่ ปัดมือของราชาหลี่ฉิน ออก
”เฒ่าเหยียนสัญญาข้าเรื่องหนึ่งได้ไหม?” ราชาหลี่ฉินกัดฟันพูดออกมา
”อะไร?.”
”ช่วยข้าปกป้องพระราชวัง!”
”ไม่มีทาง!ข้าไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนั้นหรอก! ลืมไปได้เลย!” เหยียน เฉียนหลี่ ปฏิเสธโดยไม่ลังเล
”จำสิ่งที่ท่านสัญญาไว้กับข้าให้ดี!”ราชาหลี่ฉินพยักหน้า แม้ เหยียน เฉียนหลี่ จะไม่สนใจคำพูดของเขาก็ตาม เขามองไปที่ราชาอสูร “เฒ่าเหยียน ท่านมีเวลาสิบลมหายใจ”
”สิบลมหายใจ?อย่าทำะไรบ้าๆนะ!” เมื่อได้ยินสีหน้าของ เหยียน เฉียนหลี่ แข็งค้างทันที แต่ราชาหลี่ฉินก็พุ่งออกไปแล้ว
ฝ่ามือของเขามีก้อนพลังทรงกลมสีรุ้งล้อมรอบเอาไว้อยู่
”เฒ่าหลินเจ้ามันเข้าใจยากจริงๆ ข้าไม่ได้สัญญาอะไรกับเจ้า!” เหยียน เฉียนหลี่ พูด ขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล แต่ราชาหลี่ฉิน ไม่สนใจแสงในมือของเขาสว่างขึ้นเรื่อยๆ
”หึ?”ราชาอสูรจับจ้องไปที่ราชาหลี่ฉิน เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง
ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระดับเซียนแต่ทำให้เขากลัวได้?
มันไม่น่าเชื่อเป็นอย่างยิ่ง
ราชาอสูรอยากจะถอยแต่ความภาคภูมิใจของเขาในฐานะราชาอสูรได้หยุดเขาไว้ในเวลาเดียวกันแสงสีทองที่เปล่งออกมาจากร่างกายของเขาเพิ่มความสว่างเป็นสองเท่าใน ทันที
”เปิดสวรรค์!”ราชาหลี่ฉินแผดเสียงเขายกมือความที่มีก้อนพลังสีรุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า
”ซู่ม!!”แสงพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้า
จากนั้นลำแสงเจ็ดสีที่แตกต่างกันก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าอีกครั้ง
”เจ้าคิดว่าสามารถฆ่าข้าด้วยวิชาเดิมๆงั้นรึ?”ราชาอสูรมองไปยังลำแสงทั้งเจ็ดด้วยความดูถูก เขาทั้งสองข้างเขาเปล่งแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ
”ผ่าโลก!”ขณะที่ราชาอสูรกำลังให้ความสนใจกับลำแสงทั้งเจ็ด ราชาหลี่ฉิน ก็พุ่งชนไปที่พื้นด้วยความรุนแรง
”ตูม!”
พื้นดินสั่นสะเทือนเส้นรอยแตกกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ดวงตาของราชาอสูรแข็งค้าง
เขาก้มมองลงไปด้านล่างพื้นเริ่มถล่มลงไป ทำให้เขาเริ่มทรงตัวไม่อยู่
เขาไม่ยึดติดในศักดิ์์ศรีของราชอาสูรอีกต่อไปเขารีบหลบ
แต่…มันก็สายเกินไปแล้วลำแสงทั้งเจ็ดพุ่งลงมาพร้อมๆกัน
”ตูม!”
พวกมันทะลุร่างของราชาอสูรและตรึงเขาไว้ที่พื้น
ร่างกายของราชาอสูรนอนนิ่งอยู่ที่พื้น
”เฒ่าเหยียนท่านรออะไรอยู่หา?!” ร่างที่เต็มไปด้วยเลือดตะโกนขึ้นมา
ราชาหลี่ฉิน
ผู้ที่สุขุมเยือกเย็นและเป็นคนที่สุภาพอ่อนโยนเขากลับปลดปล่อยอารมณ์โกรธแค้นใส่ เหยียน เฉียนหลี่ อย่างหยาบคาย
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมแต่ก็ไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้
”เฒ่าหลินเจ้ามันบ้าไปแล้ว!”เหยียน เฉียนหลี่ เคลื่อนไหว
ร่างของเขากลายเป็นสีแดงเลือดพุ่งเข้าหาราชาอสูรหอกสีแดงเข้มในมือของเขาแยกออกเป็นสองในทันที
บ้า?
นั่นคือคำที่เหยียน เฉียนหลี่ พูดกับราชาหลี่ฉิน
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมแต่มันเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงไม่มีใครแย้งเขาได้
หรือว่าตอนนี้ราชาหลี่ฉินบ้าไปแล้วจริงๆบ้ายิ่งกว่า เหยียน เฉียนหลี่ เสียอีก

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท