Gate of God – ตอนที่ 621 ร่างที่แท้จริง

ตอนที่ 621 ร่างที่แท้จริง

เมื่อหอกสีแดงเข้าใก้ลราชาอสูรมากขึ้นเรื่อยๆเหล่าทหารต่างเต็มไปด้วยความกังวล
”สวบ!”
หอกทั้งสองแทงทะลุร่างกายของราชาอสูรที่แยกออกเป็นสองส่วน
ร่างของราชาอสูรหยุดนิ่งปล่อยให้หยาดฝนร่วงหล่นกระทบร่างของเขา ขณะที่แสงสีแดงจากหอกทั้งสองค่อยๆกลืนกินไปทั่วร่าง
”ตาย?”
”เขาตายแล้วจริงๆหรือ?”
”น่าจะใช่นะ”
ทุกคนยังคงไม่มั่นใจ
”ฟิ้ว!”ในตอนนั้นเองร่างที่เต็มไปด้วยเลือดก็ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า ใบหน้าของเขาซีดขาว
”ฟางเจิ้งจือ!”เหยียน เฉียนหลี่ พุ่งเข้าไปรับร่างนั้นไว้ในทันที แต่เขายังคงไม่ละสายตาจากราชาอสูร
จนกระทั่ง…
ร่างทั้งสองส่วนของราชาอสูรถูกออร่าสีแดงเลือดปกคลุมอย่างสมบูรณ์
”คราวนี้เขาคงตายจริงๆแล้ว!”
ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความยินดี
”เราชนะ!”
”ในที่สุดราชาอสูรก็ตายแล้ว!”
”ราชาเหยียนราชาเหยียน ….”
”ฟางเจิ้งจือ ฟาง เจิ้งจือ … …”
กองทัพทลายภูผาและกองทหารเมฆาต่างโห่ร้องให้กับชัยชนะในขณะเดียวกันเหล่ากองทัพคนเถื่อนกลับยืนนิ่งงัน การตายของราชาอสูร นั่นหมายความได้ว่าการต่อสู้รู้ผลแล้ว
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่น้อย
เสียงโห่ร้องของความยินดีดังก้องไปทั่ว
แววตาของเหยียน เฉียนหลี่ ก็ค่อยๆผ่อนคลายลง แววตาคู่นั้นเต้มไปด้วยความเชื่อมั่น
ร่างของราชาอสูรถูกปกคลุมไปด้วยเลือด
แม้จะเป็นราชาอสูร
ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรอด
เหยียนเฉียนหลี่ หันกลับมามอง ฟาง เจิ้งจือ เขารู้สึกได้ว่าแขนขาของ ฟาง เจิ้งจือ ชาไปหมด ร่างกายไร้เรี่ยวแรง
”กินนี่เข้าไป!”เหยียนเฉียนหลี่ พึมพำขึ้นในขณะที่หยิบขวดเล็กๆขึ้นมาเขาเทน้ำสีแดงสองหยดลงในปากของ ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตาม…
ในตอนที่เขากำลังเทน้ำจู่ๆก็มีการโจมตีพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง ทำให้ทั้งสองกระเด็นออกไป
”โฮกกก!”เสียงคำรามดังกึกก้อง
เหยียนเฉียนหลี่ ผลัก ฟาง เจิ้งจือ ออกไป พลังทำลายรุนแรงปะทะเข้ากับร่างของเขาอย่างจัง
”เป็นไปได้ยังไง?!”เหยียนเฉียนหลี่ หันกลับไปและเห็นร่างๆหนึ่ง เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองแม้แต่น้อย
เพราะนั่นคือราชาอสูร
เขาไม่ได้อยู่ในร่างยักษ์อีกต่อไปเขากลับมาอยู่ในร่างของมนุษย์ที่สวมชุดสีขาว
เขาสีทองส่องประกายเจิดจ้ามากกว่าเดิม
”เขายังไม่ตาย?!”
”ราชาอสูรยังมีชีวิตอยู่?”
”เป็นไปได้ยังไงร่างของเขาขาดเป็นส่องท่อน… .. เดี๋ยวก่อน ร่างของเขายังลอยอยู่บนท้องฟ้านี่?!”
กองทัพทลายภูผาและกองทหารเมฆาต่างมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าและสิ่งที่ทำให้ตกตะลึงก็คือร่างสองท่อนของเขายังคงลอยอยู่ในอากาศ
ปกคลุมไปด้วยแสงสีแดง
เกิดอะไรขึ้่น?
ราชาอสูรมีถึงสองร่างได้ยังไง?
ทุกคนสับสน
แล้วเหยียน เฉียนหลี่
ราชาอสูรนั้นแข็งแกร่งแต่มันก็แค่ความเร็วในการฟื้นฟูของเขา แต่ตอนนี้เขากลับสามารถแยกออกเป็นสองร่างได้?
ฟางเจิ้งจือ ไม่สามารถเข้าใจสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และอีกทั้งตอนนี้ เหยียน เฉียนหลี่ ก็รับการโจมตีที่รุนแรงเข้าไปอีก
ร่างของเซียนจะแข็งแกร่งได้แค่ไหนกัน?
ไม่มีใครสามารถอธิบายสิ่งนี้ได้
อย่างที่เหยียน เฉียนหลี่ พูดร่างของราชาอสูรมีกระดูกที่แข็งมาก เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ผลตอนที่เขาถูกผลักออกมา เขารู้สึกว่ากระดูกของเขาหัก
”พรวด!”เขาสำลักยาอมฤตของเหยียน เฉียนหลี่ ออกมา เขาไม่สามารถกลืนมันลงไปได้
ในเวลาต่อมา…
ฟางเจิ้งจือ เห็นราชาอสูนเคลื่อนไปด้านหลัง เหยียน เฉียนหลี่ เพียงแต่คราวนี้เขาพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
ในเวลาไม่นานเขาก็หายไป
”ไม่จริงราชาอสูรกำลังหนีไป!”
”หนี?!ไม่ เขาไม่ได้กำลังหนี …ดูเหมือนว่า …เขา”
”นั่น…เป็นไปได้ยังไงกัน!?”
”หรือว่าเขาคิดจะยืมพลังของธรรมชาติ?!”
เหล่าทหารเบื้องล่างตาจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ
การกระทำของราชาอสูรสร้างความหวาดกลัวไว้ในจิตใจของทุกคน
”ตูม!”ร่างของ เหยียน เฉียนหลี่ และ ฟาง เจิ้งจือ ร่วงลงมาสู่พื้นดิน
”พรวด… ” เหยียน เฉียนหลี่ กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ เขามองไปที่ท้องฟ้า “ข้าจะขึ้นไปก่อน คราวนี้เจ้าคุ้มกันด้านหลัง!”
ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็พุ่งออกไปทันที
เขาพุ่งขึ้นไปบรรยากาศอันเยือกเย็นแผ่ออกมารอบๆตัวเขา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความแน่วแน่แม้จะบาดเจ็บสาหัส
”ยาอายุวัฒนะ!”ฟางเจิ้งจือ ยิ้มออกมาที่มุมปาก
ขวดเล็กๆของเขากระเด็นออกมาจากชุดที่สวมอยู่
ฟางเจิ้งจือ หยิบขวดขึ้นมาและกลืนเข้าไปถึง 10 เม็ด
มันมีทั้งรสหวานและขมในขณะที่กำลังเคี้ยว
รสชาติของมันทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
แน่นอนว่า….ไอรีนโนเวล.
นั่นเป็นเพียงคำอธิบายรสชาติ
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
ราชาอสูร!
เขามีพลังมากกว่าที่คิดแม้พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นสองเท่า แม้จะยืมพลังจากธรรมชาติแล้วก็ตาม เขายังคงไม่สามารถจบเรื่องนี้ได้
นี่มันเรื่องใหญ่เกินไป
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่เสียใจกับการตัดสินใจของเขา เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะชนะ เขาแค่จะทำให้เต็มที่ที่สุดเท่านั้น …
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
หลังจากกินเข้าไปเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกายที่เพิ่มขึ้นมหาศาล
ดวงตาของเขาสามารถมองผ่านสายฝนและความมืดได้อย่างชัดเจน
”ฉือกูเหยียน ผู้ชายของเจ้า…คงไม่รอด…!”ฟาง เจิ้งจือ ชักดาบออกมา แสงสีม่วงส่องสว่างขึ้นที่ด้านหลัง

เหยียนซิว ที่ยืนอยู่บนกำแพงกำมือแน่น
ฉานยู่ เองก็ยืนกัดริมฝีปากอยู่ข้างๆเขา
”ข้าจะไปเจ้าจะห้ามข้าไหม?”ฉาน ยู่ เอ่ยถาม
”ให้ข้าปกป้องเจ้า!”เหยียนซิว เลือกที่จะไม่ตอบนางตรงๆ
”เข้าใจแล้ว”ฉาน ยู่ พยักหน้า แต่นางกลับกระโดดออกไปทันที
เหยียนซิว จ้องมอง ฉาน ยู่ ที่กระโดดออกไป
เขาไม่ได้หยุดนาง
เขาเองก็กระโดดตามออกไปเช่นกัน
”องค์ราชินี!”
”องค์หญิงแดนใต้!”
หลังจากที่เห็นเหยียน ซิว และ ฉาน ยู่ กระโดดออกไปกองทหารเมฆาและกองทัพทลายภูผาก็เรียกพวกเขาทันที
เงาทั้งสองพุ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันไม่มีใครสังเกตุเห็นร่างเงาในชุดกระโปรงสีดำที่ยืนอยู่กลางสายฝน

”ปึ้ง!”
ฟ้าผ่าไปทั่วขอบฟ้ามันไม่ใช่การผ่าแบบปกติ มันส่องแสงสีทองสว่าง
ดวงตาของเหยียน เฉียนหลี่ เบิกกว้าง
เขาตั้งใจจะหลบแต่ขนาดของสายฟ้าทั้งกว้างและใกล้เกินกว่าที่จะหลบได้พ้น
”ตูม!”สายฟ้าผ่าลงบนฝ่ามือของเหยียน เฉียนหลี่ แขนของเขาถูกโจมตีอย่างจัง
”อ๊าอ๊าก… ” ท่าทีของ เหยียน เฉียนหลี่ เปลี่ยนไปเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาพยายามเคลื่อนตัวไปด้านหน้าเพื่อหลบการโจมตี
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เงาที่อยู่ด้านบนกำลังถูกปกคลุมด้วยแสงสีทอง ภายในพริบตาเขาก็มาปรากฎตัวที่ด้านข้างของ เหยียน เฉียนหลี่
”ราชาเหยียนระวัง!”
”ราชาอสูร!”
”หน้าผากของเขา….?!”
ทุกคนต่างจ้องมองไปด้วยความสับสนหน้าผากของราชาอสูรเปิดออกเผยให้เห็นดวงตา
นั้น…
ไม่ใช่ดวงตาปกติ
มันคือไข่มุกไข่มุกทองคำที่โปร่งใส
”ไข่มุกอสูร!”
”นั่นหรือว่าจะเป็นไข่มุกอสูรของราชาเซี่ยโหลว?”
”ไร้สาระถ้าไข่มุกอสูรอยู่บนหน้าผากของราชาเซี่ยโหลว ถ้างั้นการโจมตีครั้งแรกของราชาเหยียนก็น่าจะโดนไปแล้ว?”
ทุกคนจ้องมองไข้มุกอสูรด้วยความสับสน
”ฮ่าฮ่าฮ่า…ถ้าข้าบอกว่า ร่างกายที่พวกเจ้าพยายามฆ่านั่นเป็นร่างของสัตว์ร้ายของข้าเท่านั้น พวกเจ้าจะเชื่อข้าไหม?”เสียงของราชาอสูรดังก้อง
”สัตว์ร้าย?!”สีหน้าของเหยียน เฉียนหลี่ ยังคงเจ็บปวดกับมือที่พึ่งถูกทำลายไปจากการโจมตีเมื่อครู่ ร่างที่ผ่าออกเป็นสองส่วนไม่ใช่ร่างของราชาอสูร?
ในตอนนั้นเองความคิดในหัวของทุกคนดูเหมือนจะเปลี่ยนไป
ไม่เพียงแค่สีหน้าของเหยียน เฉียนหลี่ ที่เปลี่ยนไป
ทหารทั้งหมดก็เช่นกัน
”มันเป็นไปไม่ได้!”
”ถ้าเป็นแค่สัตว์ร้ายมันจะทรงพลังขนาดนั้นได้ยังไง?”
”ไม่มีทางที่จะมีพลังในการฟื้นฟูได้รวดเร็วขนาดนั้นอีกอย่างเหล่าสัตว์ร้ายไม่สามารถถูกควบคุมได้ แม้จะเป็นราชาอสูร … ”
”เว้นแต่ว่าราชาอสูรช่วยฟื้นฟูพวกมันในตอนที่ถูกโจมตี แสงสีทองที่ส่องประกายอยู่ตลอดเวลาตอนนั้นต้องเป็นพลังของราชาอสูรแน่ๆ!”
ถึงตอนนี้กองทัพทลายภูผาและกองทหารเมฆาก็รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วแต่ก็ไม่มีใครเลือกที่จะยอมรับความจริง
หลังจากการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่กลับเป็นเพียงสัตว์ร้ายที่ถูกฆ่าตาย?!
ใครจะเชื่อได้ลงกัน?
”ดูเหมือนว่พวกเจ้าคงทำใจยอมรับได้ยาก!”ราชาอสูรเผยรอยยิ้มเล็กน้อยสายตาของเขาจ้องมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ที่อยู่กลางอากาศ “เจ้าหนู ข้าต้องยอมรับเลยว่าเจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆ จากนี้ …เจ้าจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของข้า!”
”ตัวตนที่แท้จริง?”
”นั่นยังไม่จริงอีกเหรอ?”
”เป็นไปไม่ได้!”
เสียงเริ่มดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อแสงสีทองส่องประกายไปทั่วท้องฟ้า
และในเวลาเดียวกัน…
มีร่างโผล่ออกมาจากแสงสีทอง
ไม่ใช่ร่างขนาดใหญ่ยักษ์ไม่มีคบเขี้ยวที่แหลมคม มันเป็นแค่ร่างกายที่พบเห็นได้ทั่วไป
อย่างไรก็ตามร่างกายนั้นสร้างแรงกดดันให้กับทุกคน และดูอันตรายยิ่งกว่าร่างใหญ่ยักษ์ของสัตว์ร้ายเสียอีก
ร่างของชายหนุ่มที่งดงามและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแสงสีทองห้อมล้อมไปทั้งร่างกายของเขาตั้งแต่หัวจรดหาง
สี่กรงเล็บห้านิ้ว
ที่เล็บเป็นสีฟ้าสว่างราวกับท้องฟ้าที่สดใส
เขาสองข้างบนหัวส่องประกายเป็นสีทองผมสีขาวยาวประบ่าหางลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง
ดวงตาสีทองแวววาวดูสง่างามและเย่อหยิ่งเหมือนเช่นเคย
และที่น่าตกตะลึงที่สุดคือไข่มุกอสูรสีทองกลางหน้าผากมันโปร่งใสราวกับดวงตา
สายฟ้าไหลวนอยู่ภายในไข่มุกนั้น

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท