หากเรื่องนี้เกิดขึ้นในสภาเหล่าเจ้าหน้าที่คงจะลุกขึ้นเพื่อกล่าวว่านางไปแล้วอย่างไรก็ตาม หลังจากที่นางพูดจบกลับไม่มีทหารคนใดก้าวออกไปแม้แต่คนเดียว
นั่นเพราะรอยสักบนหน้าอกของนางเป็นรอยสักรูปหอคอยที่มีตัวอักษรสองตัวอยู่ด้านบน
หอคอยหลิง หยุน!
มันดูแสนธรรมดาแต่เมื่อเหล่าทหารเห็นรอยสักรูปนี้ต่างก็ไม่กล้าเอ่ยถามแม้แต่คนเดียว
เหยียนเฉียนหลี่ ขมวดคิ้ว ก่อนจะก้าวออกมาข้างหน้า เขาพูดขึ้น “องค์จักรพรรดิอยู่ที่พระราชวัง!”
”โอ้ะเขายังไม่ตายงั้นหรือ?”หญิงสาวพยักหน้า นางมองไปยังทิศทางที่พระราชวังตั้งอยู่และพูดขึ้นว่า “ข้าจะรอเขาอยู่ที่นี่ ข้าให้เวลาแค่สามสิบนาที!”
สามสิบนาที
นั่นคือสิ่งที่นางพูดอย่างไรก็ตาม นางไม่คิดจะส่งใครมาบอก หลิน มู่ไป่ ว่านางจะมา
”ท่าน…ท่านคือท่านแม่งั้นหรือ?”เสียงของ ปิง หยาง ดังออกมาลมหายใจของนางแผ่วลงเรื่อยๆ ใบหน้าซีดขาวราวกับคนตาย แต่นางยังคงจ้องไปที่หญิงสาวผู้นั้น
จากนั้นหญิงสาวก็มองกลับมาที่ปิง หยาง ก่อนจะหันไปทางอื่น นางไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
”ข้า…ข้าคือ ปิง หยาง ท่านแม่บอกว่าจะมาหาข้า เป็น …เป็นท่านใช่หรือไม่? หรือนางส่งท่านมา?”ปิง หยาง จ้องมองและถามนางอีกครั้ง
หญิงสาวไม่ได้หันมานางเพียงแต่ยืนอยู่เฉยๆราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
สายฝนทำให้ชุดของปิง หยาง เปียกปอนจนสะดุดตา
บรรยากาศเงียบสงบ
เหยียนเฉียนหลี่ กำมือของเขาแน่นแม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไรออกมา
ฟางเจิ้งจือ โอบ ปิง หยาง ไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เขารู้ดีว่า ปิง หยาง รู้สึกอย่างไร
ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดว่า ปิง หยาง กำลังโกหกแต่อย่างใดปิง หยาง พูดว่านางเห็นแม่ และนางกำลังมาหา ปิง หยาง ทำไมหญิงสาวคนนี้กลับทำท่าทีไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งนั้น?
ปิงหยาง กำลังเข้าใจผิด?
เป็นไปไม่ได้
เพราะหญิงสาวคนนี้รู้จักหลิน มู่ไป่ กับ เหยียน เฉียนหลี่ เกิดอะไรขึ้น?
”ข้า…ข้าคือปิง หยาง … ”
”ปิงหยาง พอได้แล้ว นางไม่ใช่แม้ของเจ้า!”ฟาง เจิ้งจือ กดมือของเขาลงบนไหล่ของ ปิง หยาง
”แต่นาง…” ปิง หยาง กัดริมฝีปากของนางอย่างผิดหวัง
”เขาพูดถูกแล้วข้าไม่ใช่แม่ของเจ้า อีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าเจ้าอยากจะพบพ่อของเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ข้าแนะนำให้เจ้าหุปปากเสีย” ในที่สุดหญิงสาวก็ตอบกลับ
”พบพ่อเป็นครั้งสุดท้าย…ข้าจะได้พบท่านแม่ไหม?”
”เจ้าเกือบตายไปแล้วทำไมถึงอยากพบแม่ของเจ้าอีก?” หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงสงบ และไม่นานดูเหมือนนางจะนึกอะไรขึ้นได้ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าเจ้าหวังจะให้แม่มาช่วยเจ้า ข้าแนะนำให้เลิกคิดซะ”
”ไม่…ข้าก็แค่อยากพบนาง ข้าไม่ได้อยากให้นางมาช่วย …” ปิง หยาง กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
”ถ้าเจ้าอยากเจอแม่ทำไมเจ้าถึงยอมทิ้งชีวิตไปง่ายๆ?เจ้ายังมีโอกาสที่จะได้เจอนาง ต่อให้ตอนนี้ทุกอย่างจะศูนย์เปล่าก็ตาม” หญิงสาวตอบกลับ
”ข้า… ข้า … ” ปิง หยาง รู้สึกอยากจะอธิบาย แต่อาการบาดเจ็บของนางกลับทำให้ร่างกายของนางสั่นเทา ริมฝีปากที่เคยอมชมพูเริ่มกลายเป็นสีม่วง
”ชีวิตของเจ้าเต็มไปด้วยความสุขและความสบายในฐานะที่เป็นองค์หญิง เจ้าไม่ต้องกังวลทั้งเรื่องเสื้อผ้า หรืออาหาร เจ้ายังต้องการอะไรอีก? เจ้าอยากมีชีวิตแบบไหน ก็ลงมือทำเสียทำไมต้องเดินตามรอยคนอื่น? ไม่แปลกไปหน่อยหรือ ที่เจ้าใช้ชีวิตตัวเองเพื่อแลกกับการปกป้องจากแม่ แม้จะอ่อนแอแต่ก็ไม่ใช่ความผิด อย่างไรก็ตาม ทำไมคนที่อ่อนแออย่างเจ้าถึงต้องฝืนขีดจำกัดของตัวเองด้วย?”
หลังจากที่นางผู้เสร็จนางก็หันไปมองทางวัง
ฟางเจิ้งจือ ตัวสั่นขณะที่ฟังผู้หญิงคนนั้นพูด นางหมายความว่ายังไง ปิง หยาง เป็นคนอ่อนแอ? หมายความว่ายังไงที่ว่า ปิง หยาง รนหาที่ตายเอง?.Aileen-novel.
”ท่านมาที่นี่นานแล้วหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ นึกบางอย่างออก
”ใช่”นางแค่พยักหน้าอย่างไร้อารมณ์แล้วตอบกลับ
”มาถึงเมื่อไรกัน?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”ตอนที่ดวงดาวสว่างขึ้น”หญิงสาวตอบขณะที่คิดสักพัก
”ดาว?หมายถึงตอนที่จี้บนคอของ ปิง หยาง สว่างขึ้นใช่ไหม?” ฟาง เจิ้งจือ จ้องที่คอของ ปิง หยาง ขณะที่ถามออกมา จี้ที่คอของนางตอนนี้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้ว
”ใช่”ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า
”เข้าใจแล้วท่านมาที่นี่เพื่อรับ ปิง หยาง ใช่ไหม?”
”ถูกต้อง”
”ถ้าปิง หยาง ไม่ใช่ดวงดาวเหล่านั้นเพื่อโจมตีราชาอสูรนางคงไม่ตาย?” ฟาง เจิ้งจือ เงียบไปสักครู่ก่อนจะถามออกมา
”ใช”
”แล้วทำไมท่านถึงไม่หยุดนาง?ยกเว้นว่าท่านต้องการให้ปิง หยาง ตาย?” ฟาง เจิ้งจือ ขมวดคิ้ว
”เจ้าเป็นคนฉลาดจริงๆ”ในที่สุดหญิงสาวคนนั้นก็หันมามอง ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะยิ้มเยาะขึ้นมา” ช่างน่าเศร้าทื่พวกเจ้าทั้งคู่ต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกัน ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าคงมีอายุเหลือน้อยกว่าครึ่งปีใช่ไหม?”
”น้อยกว่าครึ่งปี?”
”นางกำลังพูดอะไรออกมากัน?”
”เกิดอะไรขึ้น?”
ทหารทุกคนที่ได้ยินต่างตกใจพวกเขาจ้องมอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยสีหน้าสับสน
แม้แต่เหยียน ซิว, ฉาน ยู่, เหยียน เฉียนหลี่ และ ซิงหยวนกัว เองก็สับสนเช่นกัน
น้อยกว่าครึ่งปี?
ฟางเจิ้งจือ จะเหลือชีวืตอยู่อีกเท่านั้นได้ยังไง?
”ใครบอกว่าฟาง เจิ้งจือ เหลือชีวิตอยู่น้อยกว่าครึ่งปี?” ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ก่อนที่ร่างหนึ่งจะมาหยุดยืนอยู่ข้าง ฟาง เจิ้งจือ
เป็นวู่ จวี้เอ๋อ ในมือของนางมีไข่มุกสีทองอยู่ในมือ
มันเป็นไข่มุกปีศาจ
ของราชาอสูรเซี่ย โหลว
”โอ้ให้ข้าคิดดูก่อน…”นางจ้องมอง วู่ จวี้เอ๋อ ก่อนจะพูดออกมา “ต้นไม้แห่งเต๋าของเจ้าไม่มีผลไม้แห่งเต๋าอีกต่อไปแล้ว โลกของเจ้าถูกทำลายจนย่อยยับ อาจจะเป็นไปได้ที่จะยืดชีวิตของเจ้าด้วยกลืนกินโลก อย่างไรก็ตามพลังของเจ้าไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้อีกต่อไป มันน่าจะหายไปหมดแล้ว”
นางหยุดพูดก่อนจะเหลือบมองฟาง เจิ้งจือ และพูดต่อ “อืม เจ้าอาศัยยาวิเศษเพื่อฝืนสร้างพลังขึ้นมา มันเป็นความพยายามที่ดี อย่างไรก็ตามพลังจากกลืนกินโลกไม่ใช่พลังของเจ้า ถ้าเจ้าใช่ไข่มุกอสูรเพื่อให้พลังงานกับกลืนกินโลก เจ้าจะทีอายุได้ถึงสามปี”
”แม้มันจะเป็นไปได้ยากหากเจ้าเข้าถึงระดับเซียนได้ภายในสามปี เจ้าอาจจะมีชีวิตรอดต่อไป
”นอกจากนี้เจ้าเป็นคนที่มีความสามารถมาก มันอาจจะพอเป็นไปได้ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ในช่วงครึ่งปีใช่ไหม? ฮ่าฮ่า มันก็มากกว่าสองสามพันปีมาแล้วล่ะนะ ที่ใครจะสามารถพัฒนาจากระดับอภินิหารไปสู่ระดับเซียนในช่วงสั้นๆ ลืมมันไปเถอะ”
นางหัวเราะเบาๆมันฟังทั้งดูเจ็บปวดและประชดประชันในเวลาเดียวกัน ราวกับนางแค่กำลังก้อมลงมองสิ่งมีชิวตที่ต่ำต้อยตัวหนึ่ง
ทหารต่างเงียบพวกเขาไม่ชอบทัศนคติของนางแต่มันก็เป็นจริงตามที่นางพูด่
การเข้าถึงระดับเซียนโดยใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งปี
มันเป็นไปไม่ได้นอกจากนี้ต้นไม้แห่งเต๋าของ ฟาง เจิ้งจือ ได้ตายไปแล้ว
เขาเป็นอัจฉริยะ
อย่างไรก็ตามถ้าเขาเข้าสู่ระดับเซียนได้ง่ายๆป่านนี้คงมีเซียนเดินอยู่เต็มถนนแล้ว
อย่างไรก็ตามในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเซี่ยเคยมีเซียนแค่ห้าคนเท่านั้นนอกจากความสามารถแล้วโชคก็มีผลเช่นกัน
เช่นเหยียน เฉียนหลี่ ที่พึ่งเข้าถึงระดับเซียนเร็วๆนี้
อีกด้านราชาหลี่ฉินเขาแข็งแกร่งมากรวมทั้งมีทรัพยากรที่ไม่จำกัดจากอาณาจักรเซี่ย แต่เขากลับเป็นได้แค่ครึ่งเซียน
มันยากเกินไป!
ฟางเจิ้งจือ อยู่เพียงระดับอภินิหาร ต่อให้เขาอยู่ในระดับจุติก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าสู่ระดับเซียนในครึ่งปี
”นี่มันไม่ตลกเลย!”เสียงของ วู่ จวี้เอ๋อ ดังขึ้นขณะที่ชุดของนางพัดไปตามสายลม ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ก่อนที่นางจะตะโกนออกมา ” ฟาง เจิ้งจือ ต่อให้ไม่มีใครทำได้ ข้าก็เชื่อในตัวเจ้า ข้าเชื่อในตัวเจ้า!”
”ข้าเชื่อในตัวเจ้าเช่นกันเจ้าทำอะไรก็ได้ถ้าเจ้าตั้งใจ” ฉาน ยู่ พยายามโน้มน้าวเช่นกัน
Gate of God – ตอนที่ 628 ท่านแม่?!
ตอนที่ 628 ท่านแม่?!
Posted by ? Views, Released on ธันวาคม 30, 2021
, Gate of God
เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง