Gate of God – ตอนที่ 653 กงล้อแห่งการจุติ

”ไม่จริงฉือ กูเหยียน อยู่ที่ศาลาเต๋าสวรรค์!” ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกเจ็บปวดในหัวเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันเสียงเครื่องสายก็เริ่มดังขึ้น
มันฟังดูอ่อนโยนราวกับแม่น้ำที่ไหลเอื่อยทันใดนั้นภาพด้านหน้าของเขาก็เริ่มพร่ามัว ทั้งโลกเริ่มสั่นสะเทือน
…
หยุนชิงวู กำลังเล่น กู่เจิ้งอย่างอ่อนโยน
แต่กลับมั่นคงและหนักแน่น
แต่หยุน ชิงวู นั้นไม่ได้นอนมาห้าวันห้าคืนอย่างต่อเนื่องเพราะต้องคอยจับตาดู ฟาง เจิ้งจือ มันทำให้ร่างกายของนางเหนื่อยล้า ดวงตาของนางค่อยๆปิดลง
อย่างไรก็ตามทันใดนั้น…
ความผันผวนแปลกๆดูเหมือนจะบังคับให้นางเปิดตาขึ้นอีกครั้ง
ราวกับมีอะไรบางอย่างจะโผล่ออกมาจากพื้นดินโลกทั้งใบสั่นสะท้าน โลกไม่ได้เงียบสงบอีกต่อไป
”หือ?”หยุน ชิงวู เปลี่ยนความสนใจไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ทันที
นางรู้ถึงความมั่นคงของมิติที่สร้างจากศิลาเซียนถึงสิบสามชิ้นดีไม่ควรถูกรบกวนด้วยมิติภายนอก
เว้นแต่….
สิ่งรบกวนเกิดขึ้นภายในมิตินี้
”ปึ้ง!”แผ่นดินสั่นไหวอีกครั้ง
จากนั้นมีกิ่งไม้ยักษ์โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินใบไม้ใสราวกับแก้วสะท้อนแสงอาทิตย์แวววาวเต็มต้น
มันยังไม่จบ
หลังจากกิ่งแรกก็ตามได้กิ่งที่สองและสาม…
ด้วยความรวดเร็วต้นไม่สูงกว่าสิบห้าเมตรก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของฟาง เจิ้งจือ
มันเป็นภาพที่แปลกมาก
หยุนชิงวู หยุดเล่นกู่เจิ้งทันที
ดวงตาของฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ มันเป็นดวงตาที่แจ่มใส แต่ดูราวกับไร้วิญญาน
แต่ต้นไม้ขนาดยักษ์สามารถมองเห็นสะท้อนจางๆได้ในดวงตาของเขา
”หยุนชิงวู?” ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกมึนงงเล็กน้อยแต่เขาก็ได้สติอย่างรวดเร็ว
กลับมา?
หรือเขาพึ่งตื่น?
ฝัน?
ฟางเจิ้งจือ ไม่แน่ใจ มันเป็นความฝันที่ดูเหมือนจริงจนเกินไปจนแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกัน
”เจ้าตื่นอยู่หรือ?”หยุน ชิงวู พยายามยืน แต่ขาของนางกลับชาไปหมด ร่างกายของนางเอียงขึ้นเรื่อยๆจนเกือบจะล้มตัวลงไปกับพื้น
ทันใดนั้นมือของนางก็ถูกตรึงไว้กับพื้น้เงาหนึ่งปกคลุมเหนือร่างนาง
”เร็วมาก!”หยุน ชิงวู ตกตะลึง นางรู้ดีว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนจับนางเอาไว้
หยุนชิงวู กำลังจะดิ้นรน แต่นางกลับพบว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ลวงเกินนาง แต่เขากลับช่วยพยุงนางขึ้นด้วยซ้ำ
..
หยุนชิงวู ยืนขึ้น
”เจ้านั่งมานานแล้วงั้นหรือ?”เป็นเรื่องแปลกสำหรับ ฟาง เจิ้งจือ มากที่เห็น หยุน ชิงวู เหนื่อยล้า
”อืม”หยุน ชิงวู พยักหน้าเบาๆ
แต่ทันใดนั้นเหมือนนางจะได้สติ
นางรีบปล่อยมือฟาง เจิ้งจือ และเดินถายหลังไป
”หึหึ… ” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มบางๆ เขาไม่ตกใจกับท่าทีของนาง
”เจ้า….ไขปริศนามันได้แล้วงั้นรึ?”หยุน ชิงวู ถอยหลังไปยืนนิ่ง ก่อนจะเหลือบมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่ไม่คิดจะโจมตีนางอีก
นางรู้ว่าได้เปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจก่อนหน้านี้
นางเหนื่อยจนเกินไปจน ฟาง เจิ้งจือ จับจุดอ่อนนางได้
แต่น่าแปลกใจ…
ฟางเจิ้งจือ กลับไม่คิดจะฉวยโอกาส เขาปล่อยให้นางหนีไปง่ายๆ
”ข้าไม่รู้”ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว
เขาไม่แน่ใจแม้แต่น้อยว่าเขาไขปริศนาได้หรือเข้าสู่ระดับจุติแล้วหรือไม่?เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นใน “ความฝัน” ของเขา
”เข้าใจ”หยุน ชิงวู ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม นางเพียงเช็ดเศษหญ้าที่ติดตามชุด
มันเป็นปฏิกริยาทั่วไป
แต่เมื่อฟาง เจิ้งจือ เห็นการกระทำนั้น ดวงตาของเขาก็กระตุกทันที ภาพร่างสีขาวดูเหมือนจะซ้อนทับเข้ามาในใจของเขา
”เมล็ดเมล็ด!” ฟาง เจิ้งจือ พึมพัม “เมล็ดคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง จุดเริ่มของชีวิตใหม่!”
”เมล็ดพันธุ์?”หยุน ชิงวู ถามด้วยความสงสัยหลังจากได้ยินสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ พูด
อย่างไรก็ตามมันเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจอย่างรวดเร็ว
เพราะมือของฟาง เจิ้งจือ จู่ๆก็มีแสงออกมา
แต่แน่นอน…
แสงเล็กๆน้อยๆ นั้นไม่เพียงพอที่จะสร้างความประทับใจให้ หยุน ชิงวู สิ่งที่ทำให้นางแปลกใจเพราะแสงนี้ดูเหมือนจะค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆราวกับเมล็ดพันธุ์ที่กำลังโต
มันเร็วมาก
สิ่งที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือเมื่อแสงเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่ก็เริ่มมีแสงร่วงหล่นลงมาจากต้นไม้
เหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่น
จากนั้นต้นไม้ต้นใหม่ก็ปรากฎขึ้นที่ฝ่ามือเขาอีกครั้งแต่มันไม่ได้มีเพียงต้นไม้อีกต่อไป
มีทั้งภูเขาหิน ต้นไม้ น้ำ ดวงดาว
มันเหมือนจะถูกสร้างขึ้นจากแสงที่ร่วงหล่นเหล่านั้น
”วูม!”ทันใดนั้นต้นไม้ใหญ่หิน ดอกไม้ ดวงจันทร์และดวงดาวก็หายไปหมดเหลือเพียงแสงที่หมุนวนอยู่ตลอดเวลา
ดวงแสงถูกแยกออกเป็นหกส่วน
แต่ละส่วนล้วนมีรูปร่างเป็นทรงกลมหมุนวนรอบมือของฟาง เจิ้งจือ
ในตอนนั้นเองหยุน ชิงวู มีความรู้สึกแปลกๆ
นางรู้สึกว่าสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ ถืออยู่ดูไม่เหมือนดวงแสงขนาดเล็ก ความจริงแล้วมันดูเหมือนโลกทั้งใบ ที่เต็มไปด้วยสสารต่างๆมากมาย เพียงแต่ยังไม่ได้ก่อตัวรวมกันเท่านั้น
เป็นแค่ทรงกลม
”มันคืออะไรกัน?”หยุนชิงวู อ่านตำราทุกเล่มตั้งแต่ยังเด็ก แต่ไม่เคยอ่านเจออะไรแบบนี้มาก่อน จากนั้นก็มีบางอย่างที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น
ดวงแสงแสงหยุดหมุนทันที
ในตอนนั้นเองพื้นดินทั้งหมดสั่นไหว
”ปึ้ง!”.Aileen-novel.
หยุนชิงวู มองขึ้นไปด้านบนและเห็นแสงสว่าง มันเป็นแสงสีฟ้าที่ตกลงมาจากฟ้า มันเป็นสีฟ้าบริสุทธิ์
”ตูม!”แสงสีฟ้าตกใส่ดวงแสงทั้งหกของฟาง เจิ้งจือ
จากนั้นก็หายไป
หลังจากแสงสีฟ้าหายไปดวงแสงแสงก็เริ่มส่องสว่าง ราวกับว่าแสงสีฟ้าได้มากระตุ้นให้มันทำงาน
มันเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำเงิน
นอกจากนี้ยังมีอักขระสีทองที่ซับซ้อนปรากฎขึ้นเปล่งแสงประกายอยู่ตรงกลางดวงแสง
”หรือว่า… ” ดวงตาของ หยุน ชิงวู เปิดกว้างขณะที่นางมองดูอักขระสีทอง คำๆหนึ่งปรากฎขึ้นในใจของนาง คำที่นางเคยรู้สึกมาก่อน
ใบหน้าของนางกลายเป็นสีขาวซีด
นี่เป็นครั้งที่หยุน ชิงวู รู้สึกกดดัน
สิ่งที่น่าตกใจก็คือเมื่อแสงเริ่มสว่างมากขึ้น พื้นดินก็ยิ่งสั่นไหวแรงขึ้นไปอีก ราวกับว่ามันจะแตกสลาย
รอยแตกเริ่มปรากฎขึ้นที่พื้นดินต้นไม้ต่างสั่นไหวไปมา
”มันเกิดขึ้นได้ยังไง?”หยุนชิงวู มองไปรอบๆและมองไปทางแสงสีส่องสว่างด้วยความไม่เชื่อ คาถาที่สร้างขึ้นโดยศิลาเซียนถึงสิบสามก้อน กำลังสั่นคลอน?
นางไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น
แม้ว่ามันเป็นความจริง?
หยุนชิงวู ขยับปากเล็กน้อยราวกับว่าพยายามพูดอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตามก่อนที่นางจะอ้าปากพูด แสงอีกดวงก็ตกลงมาจากท้องฟ้า
”ปึ้ง!”
ครั้งนี้มันเป็นแสงสีเขียวเป็นสีเขียวมรกต
แสงสีเขียวตกลงสู่ดวงแสงในมือของฟาง เจิ้งจือ
และหายไปทันที
จากนั้นแสงสีเขียวก็เริ่มสว่างขึ้นอีกครั้งและหนึ่งในดวงแสงทั้งหกก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ในเวลาเดียวกัน….
อักขระสีทองอีกอันหนึ่งก็ลอยขึ้นพร้อมกับส่องสว่างด้วยแสงสีเขียว
”ตูม!”
พื้นดินแตกแขนงก้อนกรวดมากมายลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า รอยแยกขนาดยักษ์ดูดกลืนต้นไม้ใหญ้อย่างรวดเร็ว
”นั่นมัน…กงล้อแห่งการจุติ!”ใบหน้ากังวลที่เห็นสิ่งรอบข้างพังทลายเปลี่ยนไปในทันที นางยังไม่แน่ใจตอนที่เห็นดวงแสงทั้งหก แต่เมื่อเห็นแสงที่ส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง นางก็มั่นใจได้ในทันที
กงล้อแห่งการจุติ
มันถูกเรียกอย่างนั้น
หยุนชิงวู จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องนี้ในบันทึกของเผ่าปีศาจ มันเป็นรูปแบบโบราณ
หรือพูดให้ง่ายขึ้น
มันรู้จักกันในชื่อ’เส้นทางสู่การจุติทั้งหก’ หรือกงล้อของความเป็นและความตาย
ความจริงแล้วกงล้อแห่งการจุติ จะไม่เหมือนกับ พลังในระดับจุติ
นั่นเพราะกงล้อแห่งการจุติไม่ได้จัดอยู่ในระดับพลังมันมีหกระดับที่ต่างกันไป และในแต่ละระดับจะมีเต๋าที่แตกต่างกัน
เต๋าแห่งสวรรค์เต๋าแห่งอาชูร่า เต๋าแห่งมนุษย์ เต๋าแห่งชีวิต เต๋าแห่งนรก และเต๋าแห่งภูติผี
นั่นคือวิชาเต๋าทั้งหกในกงล้อจุติ
ดวงแสงนั้นแสดงให้เห็นพลังของเต๋าที่อยู่ในตัวเขาและแต่ละดวงแสงก็มีตัวอักษรที่แตกต่างกันไป
มันแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในเต๋าทั้งหกมันต้องใช้ทักษะที่สูงกว่าการเข้าสู่ระดับจุติทั่วไป
ถ้าอย่างนั้นจะเป็นไปได้ไหมที่จะมีดวงแสงมากกว่าหนึ่งวง?
หรือมันจะมีถึงหกล้อ?!
เพราะเต๋าพิเศษนั้นมีหกอย่าง
แต่มันก็เป็นแค่การสันนิษฐานเท่านั้นไม่มีใครเคยเห็นของจริงมาก่อน
กงล้อแห่งการจุติ!
กงล้อแห่งการจุติ?!
มันถูกเปิดใช้งานแล้วดวงไฟถูกจุดขึ้นมาสองดวง
หากมันเป็นเรื่องจริง…
หยุนชิงวู ไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เพราะรอยแตกได้เข้ามาใกล้แล้ว นางทำได้แค่ถอยไป
แต่ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฎต่อนหน้านางทันที
”ฟางเจิ้งจือ ข้าไม่มีทางให้เจ้าออกไปจากที่นี่เด็ดขาด ต่อให้ข้าจะต้องเอาตัวเข้าแลกก็ตาม!” หยุน ชิงวู รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะทำอะไร
มันเกือบจะเกิดขึ้นทันทีที่มือของฟาง เจิ้งจือ จับเข้าที่มือและเอวของนาง
”จริงรึ?เจ้าอยากสูญเสียความบริสุทธิ์ของเจ้าที่นี่งั้นหรือ? แต่พูดตามตรงแล้ว … สภาพแวดล้อมไม่เลวเลยทีเดียว ท้องฟ้าซีดๆ โลกที่แตกออก ยอดเยี่ยม…อืมถ้ามีต้นท้อสีแดงก็คงดีกว่าเดิมไม่ใช่น้อย…” ฟาง เจิ้งจือ จับ หยุน ชิงวู เอาไว้แน่น
”ไร้ยางอาย!”หยุน ชิงวู สบถ ก่อนที่นางจะหายไปทันที จากนั้นก็ปรากฎตัวห่างจาก ฟาง เจิ้งจือ ประมาณเมตรหนึ่ง
แต่หลังจากถูกจับโดยฟาง เจิ้งจือ เหมือนนางยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้ดีนัก ใบหน้าและลำคอของนางกลายเป็นสีแดงก่ำ
ทันใดนั้นเองฟาง เจิ้งจือ ก็ปรากฎด้านหน้านางอีกครั้ง มันใกล้มากจนนางสามารถได้ยินเสียงหายใจของเขาไดด้
”คิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ไม่อยากจะบีบบังคับ แต่เขาไม่มีทางเลือก
เขาต้องออกไปจากที่นี่
ถูกขังอยู่ที่นี่เป็นเวลาครึ่งเดือน…นี่เป็นโอกาส
นี่อาจเป็นหนทางสุดท้ายของเขาแล้ว