Gate of God – ตอนที่ 654 หนึ่งวัน

ตอนที่ 654 หนึ่งวัน

ที่สำคัญกว่านั้นคือ ฟาง เจิ้งจือ รู้นิสัยของ หยุน ชิงวู
ต่อรอง?
เป็นไปไม่ได้!
หยุนชิงวู ไม่เคยคิดจะเจรจาต่อรองกับใคร เมื่อนางตัดสินใจแล้วก็ไม่มีอะไรมาขัดขวางนางได้ นิสัยที่เด็ดเดี่ยวของนางช่างน่ากลัว
ดังนั้นจึงเหลือหนทางเดียวคือการใช้กำลัง
แต่หยุน ชิงวู ไม่กลัวความตาย วิธีปกติจึงใช้กับนางไม่ได้ มันทำให้ ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกไม่มีหนทางอื่น
”เจ้า…เจ้าปล่อยข้านะ!”หยุน ชิงวู พยายามหนีจากเขา แต่ก็ถูกจับตรึงเอาไว้
และสิ่งที่ทำให้นางกังวลก็คือเมื่อฟาง เจิ้งจือ จับนางเอาไว้ นางไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย
เต๋าสวรรค์!
นั่นเป็นสิ่งที่ปรากฎขึ้นในใจของนาง
นางรู้จักเต๋าสวรรค์มาตั้งแต่เด็กนั่นเพราะ คัง หยาง ใช้เต๋าสวรรค์จนกลายเป็นครึ่งเซียน
”ไม่ปล่อย!”ฟางเจิ้งจือ ตอบกลับอย่างไม่คิด
เขาจะปล่อยได้ยังไง?
ถ้าเขาปล่อยเขาจะต้องติดอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน แม้ความเร็วของเขาจะเหนือกว่ามาก
แต่ถ้าหยุน ชิงวู สามารถหนีไปได้ล่ะ?
เต๋าสวรรค์…
ความจริงแล้วเมื่อกงล้อแห่งการจุติเริ่มหมุนเขาก็รู้ทันทีว่าเต๋าสวรรค์อยู่ใต้การควบคุมของเขาแล้วไม่ใช่แค่นั้น เพราะเขาสามารถควบคุมเต๋าแห่งชีวิตได้ด้วย
และนั่นคือ”เมล็ดพันธุ์”
มันเริ่มต้นด้วยเมล็ดเล็ก ๆ ที่กำลังเติบโต
ก่อนหน้านี้ฟาง เจิ้งจือ เข้าถึงเต๋าสวรรค์ เขาสามารถเข้าใจมันได้ แต่เมื่อเขารู้วิธีการเติบโตของเมล็ดพันธุ์
มันแตกต่างออกไป
และเขาสามารถนำไปใช้กับเต๋าแห่งชีวิตได้
”ฟางเจิ้งจือ ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าออกไปจากที่นี่ เจ้าหยุดเพ้อฝันได้แล้ว ข้าต้องทำตามที่สัญญาเอาไว้!”หยุน ชิงวู จ้อง ฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนหน้าเข้ามาใกล้ ใบหน้าของนางซีดขาว แต่น้ำเสียงยังคงหนักแน่น
”งั้นอย่าว่ากันเลย”ฟาง เจิ้งจือ ดึงนางขึ้นมา และร่างของ หยุน ชิงวู อยู่เหนือร่างเขา ฟาง เจิ้งจือ สามารถสัมผัสได้ถึงร่างอันอบอุ่นของนาง
ลมหายใจรดหูทั้งสองข้าง
เห็นได้ชัดว่านางกำลังประหม่าอย่างมากแม้ว่าท่าทีของนางจะสงบมากแค่ไหน แต่ร่างกายของนางก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
”เจ้ากล้า…ถ้า ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรข้า ข้า… ข้าจะ ….ข้าจะฆ่าตัวตาย!”หยุน ชิงวู หายใจแรงขึ้นเมื่อได้สัมผัสกับลมหายใจของ ฟาง เจิ้งจือ
”ฆ่าตัวตายงั้นเหรอ?”ฟางเจิ้งจือ หยุดเคลื่อนไหวและจ้องไปที่หน้าของ หยุน ชิงวู เขารู้สึกได้ถึงความเด็ดเดี่ยวและความดื้อรั้นจากตัวนาง
เขาใช้กำลังกับหยุน ชิงวู เพราะครึ่งหนึ่งเขามั่นใจว่าสามารถทำให้นางยอมแพ้ได้และจะปล่อยเขาไป
เพราะหยุน ชิงวู ไม่ใช่คนธรรมดา นางเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของเหล่าปีศาจ นางต้องทำเพื่อพวกเขา
และนั่นจะเป็นจุดอ่อนของหยุน ชิงวู
อย่างไรก็ตามเขามีความมั่นใจแค่ครึ่งเดียวนิสัยของ หยุน ชิงวู ดื้อรั้นเกินไป
ควรใช้ความไร้เดียงสาของนางเพื่อเดิมพันกับความมั่นใจครึ่งๆกลางๆแบบนี้ดีแล้วหรือ?
ฟางเจิ้งจือ อาจจะไร้ยางอาย
แต่เขาก็ยังคงนึกถึงผลประโยชน์ที่จะได้เขาจะทำเมินเฉยต่อความรู้สึกของนางได้ยังไงเมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้?
เขาคลายมือออกจากหยุน ชิงวู และถอยออกไป
”สองเดือนข้าขอแค่สองเดือน ข้าจะกลับมา!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถทำได้ แม้เขาจะรู้ว่าตัวเองอาจจะต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดไปก็ตาม
”ฟุ้บ!”หยุนชิงวู หายไปในทันที
นางไม่ทันได้ตอบคำถามของฟาง เจิ้งจือ ด้วยซ้ำ
”เชี่ย…เชี่ยเอ้ย!”ฟาง เจิ้งจือ ผงะเล็กน้อย
ทำดีไปแล้วได้อะไรกัน?เขาถูกทิ้งไว้ที่นี่?
หนี!
หมายความว่ายังไง?
ไม่ควรทำดีเลยจริงๆ
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกเสียใจที่เสียโอกาสสุดท้ายไปแล้ว เพราะอย่างน้อยถ้าเขาทำเช่นนั้นคงจะตายอย่างเป็นสุข แทนที่จะติดอยู่ที่นี่ตลอดไป
”หนึ่งวันข้าให้เวลาเจ้าออกไปแค่หนึ่งวัน” เสียงของ หยุน ชิงวู่ ดังสะท้อนมากจากระยะไกลก่อนที่จะปรากฎตัวขึ้นมาอยู่ห่างจากเขาไปประมาณเมตรครึ่ง
หยุนชิงวู ดูสงบลงมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้
ฟางเจิ้งจือ จ้องมองนาง
เขาจะทำอะไรได้กับเวลาแค่หนึ่งวัน?
เขาจะเดินทางจากหมู่บ้านไปถึงศาลาเต๋าสวรรค์ในหนึ่งวันได้ยังไง?ทำการประลองกับ ฉือ กูเหยียน แล้วรีบวิ่งกลับมาที่นี่?
นั่นมันบ้ามาก
เดี๋ยวนะ!
มันน่าแปลก
หนึ่งวัน?
ถ้าเขาหลุดจากที่นี่ไปได้ทำไมเขาต้องโง่กลับมาอีกครั้งด้วย? สมองของ หยุน ชิงวู ได้รับการกระทบกระเทือนหรือไง?
”เจ้าจะปล่อยข้าไปหนึ่งวันจริงๆหรือ?”ฟางเจิ้งจือ ไม่อยากจะเชื่อ
”ใช่”หยุน ชิงวู พยักหน้าเหมือนกับว่านางลืมไปแล้วว่าเขาอาจจะไม่กลับมา
”ดี”ฟาง เจิง้จือ ตอบกลับเกือบทันที
ไม่นานพื้นดินโดยรอบก็หยุดสั่นไหว ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาสงบดังเดิมอีกครั้ง
”เจ้าไปได้แล้ว”หยุนชิงวู ค่อยๆหันหลังไป นางไม่แม้แต่จะมอง ฟาง เจิ้งจือ และหายไปในอากาศ
ฟางเจิ้งจือ รู้ดีว่า หยุน ชิงวู จะกลับมาอีก แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงยอมปล่อยเขาไป
การกระทำของเขาได้ผลงั้นหรือ?
เป็นไปไม่ได้!
ฟางเจิ้งจือ มั่นใจว่าการแสดงของเขานั้นยอดเยี่ยม แต่สติปัญญาของ หยุน ชิงวู อยู่ในระดับสูง
หลอกหยุน ชิงวู?
นั่นมันไร้สาระที่สุด
เว้นแต่…
นางยอม!
”ผู้หญิงคนนี้…ยอมโดนข้าหลอกจริงๆงั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ สับสนมากแต่เขาไม่คิดอะไร เขาหันกลับมาช้าๆแล้วมองไปด้านหน้า
หมู่บ้านภูเขาทางเหนือที่คุ้นเคย!


แสงแดดจ้าส่องลงมาจากท้องฟ้าเป็นแสงสีทองประกายส่องสว่างไปทั่วหมู่บ้าน
”ท่านฟาง?ไม่… …องค์ชายคัง!”
”องค์ชายคังกลับมาแล้ว!”
”หา?องค์ชายคังกลับมาแล้วงั้นหรือ?!”
เมื่อเขาปรากฎตึวขึ้นในหมู่บ้านชาวบ้านต่างพากันตื่นตระหนก บรรยากาศที่วิตกังวลเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
”เจิ้งจือกลับมาแล้ว!”
”เจ้ากล้าเรียกเขาว่าเจิ้งจือได้ยังไง?เรียกเขาว่าองค์ชายคัง!”
”โอ้ใช่ ใช่ ตอนนี้เจิ้งจือของพวกเราคือองค์ชายคังผู้ยิ่งใหญ่”
ชาวบ้านต่างมายืนเบียดกันเพื่อที่อยากจะได้สัมผัสตัวเขา
เขาสามารถเข้าใจความอบอุ่นจากชาวบ้านได้.ไอรีนโนเวล
แต่สายตาของเขายังคงมองหาคนๆหนึ่งอย่างต่อเนื่องคนที่เขารอพบมากที่สุดไม่ได้อยู่ในฝูงชน
”พ่อกับแม่ของข้าอยู่ที่ไหน?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”นั่น…เรื่องนั้น…” ชาวบ้านคนหนึ่งมีท่าทีเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำถามของ ฟาง เจิ้งจือ
”มันเป็นความผิดของพวกเราเองพวกเราไม่ดูแลนางให้ดี พี่ซูเหลียน …นาง …นาง …”
”อะไร?!”หัวใจของฟาง เจิ้งจือ เต้นรัวในทันที เขากวาดสายตามองหาไปรอบๆ เหงื่อเริ่มออกมาเต็มหน้าผาก
เขาหันกลับมาแล้วพุ่งตัวออกจากฝูงชาวบ้านเขาพุ่งไปทางบ้านของตระกูลฟาง
”เร็วมาก?!”
”เร็วขนาดไหนกัน?”
”พระเจ้าเจิ้งจือ …ช่างน่าทึ่งจริงๆ”
ชาวบ้านจ้องมองเขาที่กระโดหายไปพวกเขาต่างตกตะลึง ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยใช้พลังให้พวกเขาได้เห็นมาก่อน
เมื่อเขากลับมาที่หมู่บ้านเขาจะทำตัวราวกับแค่เป็นคนธรรมดาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม…
เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาก็เข้าใจว่า ฟาง เจิ้งจือ แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขาคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะได้เป็นราชาที่อายุน้อยที่สุดของอาณาจักรเซี่ย

”ปั้ง!”ประตูบ้านฟางเปิดออกอย่างแรง
ร่างสีดำพุ่งมาที่หน้าบ้านอย่างรวดเร็วใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและมีความสุข
วู่จวี้เอ๋อ สวมชุดไหมสีดำ
นางเป็นคนแรกที่เร่งรีบอย่างมากเมื่อรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือกลับมาแล้ว
”ฟางเจิ้งจือ … ”
”วู่จวี้เอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกับแม่ของข้า? เจ้าไม่ดูแลนางหลังจากที่ข้าหายตัวไปอย่างนั้นหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ถามโดยที่ไม่รอให้นางพูดจบประโยค
”ข้า…” ความตื่นเต้นหายไปในทันที นางเห็นสีหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ และกลืนคำพูดกลับไปในทันที
ในฐานะผู้นำของนิกายเงานางไม่เคยถูกซักถามเชิงสอบสวนเช่นนี้?
แต่เมื่อฟาง เจิ้งจือ ถามขึ้นมา หัวใจของนางก็เต้นแรงมากขึ้น ให้ความรู้สึกราวกับนางเป็นอาชญากร
ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆจากข้างใน
มันไม่ควรเป็นเช่นนี้เขาเป็นคนที่หายตัวไปเป็นเวลานาน นางควรจะเป็นคนที๋โกรธ? แต่ทำไมดูเหมือนว่านางเป็นคนผิด?
นางกำลังจะเปิดปากพูด
แต่ตอนนั้นเองนางก็ตระหนักว่า ฟาง เจิ้งจือ ที่อยู่ตรงหน้าแตกต่างไปจากเดิม
เห็นได้ชัดว่าเขายังดูเหมือนเดิม
แต่มันให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป
”หรือว่าเขา… ” ดวงตาของ วู่ จวี้เอ๋อ ส่องประกายขึ้นเมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ
ในตอนนั้นเองมีเสียงไอของใครบางคนดังขึ้นมาจากนั้นก็เป็นเสียงพูด
”เจิ้งเอ๋อร์… …เจิ้งเอ๋อร์ …กลับกลับมาแล้วเหรอ?”เสียงที่อ่อนแอดังขึ้นมา มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและหวาดกลัว แต่ก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน
”ท่านแม่!”ฟางเจิ้งจือ ตัวแข็งค้าง สีหน้าที่มู่ทู่ของเขาเปลี่ยนไปเป็นความสุขทันที “ท่านแม่ยังไม่ตาย? แล้วท่านพ่อล่ะ?”
”เจ้ามาแช่งพวกข้าหรือไงกัน?!”เสียงที่อ่อนแอแบบเดียวกันดังขึ้นมาอีกครั้งแต่คราวนี้เป็นเสียงที่หงุดหงิดเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกันมีคนที่สวมชุดคลุมปรากฎตัวขึ้นที่หน้าประตูบ้านใบหน้าของเขาออกซีดขาว แต่ร่างกายเต็มไปด้วยความกำยำ
”…..” ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ผิดไป
แต่เขาก็ตั้งสติในทันทีสิ่งที่ชาวบ้านพูดหมายความว่าพวกเขาทั้งสองกำลังป่วย นั่นเป็นการแสดงออกด้วยความรู้สึกผิดและพูดไม่ออก
นั่นทำให้ฟาง เจิ้งจือ รู้อะไรบางอย่าง
การหายตัวไปของเขาได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของฉิน ซูเหลียน และ ฟาง เฮ่าเตอ
”ท่านพ่อ!”
”ฮืมมมมม… ..ดีใจที่เจ้ากลับมา!”ฟาง เฮ่าเตอ เอามือปาดน้ำตาแล้วหันหนีเล็กน้อย “คราวหน้าจะไปไหน ช่วยบอกพวกเราด้วย..”
”ครับท่านพ่อ”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า และไม่ได้อธิบายเหตุการณ์ที่ถูก หยุน ชิงวู จับตัวเอาไว้เขาเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
เขาถูกกอดอย่างรวดเร็ว
ความอบอุ่นที่ออกมาจากร่างกาย
เห็นได้ชัดเลยว่าฉิน ซูเหลียน ไม่มีแรงจะลุกออกจากเตียง ร่างกายของนางดูอ่อนแอ มือที่อ่อนแอของนางกอด ฟาง เจิ้งจือ ไว้อย่างแน่นหนา
”ในที่สุดเจ้าก็กลับมาเจิ้งเอ๋อร์ลูกแม่ แม่…..แม่กลัวมาก กลัวว่าเจ้าต้องเจอกับเรื่องอันตราย …” ร่างของ ฉิน ซูเหลียน สั่นเทาก่อนจะมีน้ำตาไหลออกมา
”แม่ไม่ต้องกังวลแล้วข้าสบายดี”
”ดีดีแล้ว …แม่จะไม่กังวลแล้ว เจ้าไม่ต้องไปต่อว่า วู่ จวี้เอ๋อ เลย นางคอยดูแลพวกเราอยู่ตลอด ในตอนเช้านางออกไปตามหาเจ้า ตอนกลางคืนก็พาแม่เข้านอน ถ้าไม่มีนาง แม่คงไม่ได้พบเจ้าอีก …” ฉิน ซูเหลียน พูดในขณะที่เช็ดน้ำตา
”นางดีขนาดนั้นเลย?”ฟางเจิ้งจือประหลาดใจเล็กน้อย
เขาไม่คิดเลยว่าวู่ จวี้เอ๋อ จะมีด้านที่อ่อนโยนและเอาใจใส่กับเขาด้วย ทุกๆคืนคอยพูดกับแม่ คอยดูแลแม่อยู่ข้างเตียง? ดูแลอย่างตั้งใจ?
ความจริงแล้วผู้หญิงคนนี้มีความสามารถในการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก
”ใช่แล้วจวี้เอ๋อ ดีกับแม่จริงๆ!”ฉิน ซูเหลียน ตอบกลับจากนั้นนางก็ดึงเขาให้ลงมานั่งที่ข้างเตียง “แม่โล่งใจที่ได้เห็นเจ้ากลับมา แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ … แม่ไม่สามารถปล่อยไว้ได้”
”อะไรหรือ?”ฟาง เจิ้งจือ ถาม
”แม่อยากมีหลาน!”ฉินซูเหลียน พูดออกมา นางมองไปที่ วู่ จวี้เอ๋อ ที่ยืนอยู่ข้างประตูในตอนนั้นเอง พวกนางก็พยักหน้าหากันราวกับรู้ว่าต่างกำลังคิดอะไรอยู่

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท