Gate of God – ตอนที่ 673 ความพอใจ

ตอนที่ 673 ความพอใจ

ฟางเจิ้งจือ มองไปที่ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์พร้อมยิ้มออกมาเล็กน้อย
”คุกเข่า?”ฟางเจิ้งจือ ตอบสนองทันทีที่ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์เตะเท้าออกมา
ถึงศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์เร็วแล้วแต่ ฟาง เจิ้งจือ นั้นเร็วยิ่งกว่า
”หมับ!”ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ไม่สามารถขยับร่างได้
เพราะมีมือข้างหนึ่งได้จับเข้าที่คอของเขาจนเขาไม่สามารถขยับร่างกายได้ มันยากมากที่เขาจะหายใจออกมาได้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
ที่จริงถ้าเขาถูกตีที่หัวใจหรือศีรษะเขาต้องตายทันทีแต่ที่คอนั้นก็ไม่ต่างกัน แค่เพิ่มความทรมารเข้ามา…
”เขาเร็วมาก!”
“โหดเหี้ยม!”
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างมองไปที่ฟาง เจิ้งจือด้วยความหวาดกลัว เพราะแม้แต่ในหมู่ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ ยังมีเพียงไม่กี่คนที่มีความเร็วขนาดนี้
อย่างไรก็ตามความหวาดกลัวนั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาลังเล
”ฉับ!ชิ้ง ชิ้ง!”
”…
ดาบและมีดสั้นนับไม่ถ้วนถูกดึงออกจากฝักจากนั้นไม่นานศิาย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ก็พุ่งเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ
”ปล่อยศิษย์ของข้าไป!”
”ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายพวกเขาอย่าหวังว่าเจ้าจะรอด!”!
เสียงของเหล่าผู้อาวุโสดังขึ้น
”เจ้าคิดว่าพวกเราไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ถ้ามีตัวประกันงั้นรึ?”ผู้อาวุโสสามจ้องมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความเย็นชา
”ข้าไม่ได้ต้องการตัวประกันเสียหน่อย”ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว
”?”ผู้อาวุโสสามสับสนเล็กน้อย เจาสังหรไม่ดีเมื่อเห็นเหล่าศิษย์พุ่งเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าฟาง เจิ้งจือ แค่อ้างไปเท่านั้นว่าไม่ต้องการตัวประกัน เพราะสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำอยู่ตอนนี้มันต่างออกไป
”อืมข้าไม่ต้องการ” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
จากนั้นเขาก็เตะศิษย์ที่เขาจับคออยู่ทันที
”ตึ้ง!”ศิษย์คนนั้นตัวงอทันที
มันทำให้เขารู้สึกอับอายมากเขาไม่คิดว่าเขาจะถูกจับตัวง่ายขนาดนี้ คู่ต่อสู้ของเขาเร็วเกินไป แม้จะยังไม่ใช้เต๋าแห่งการสรรค์สร้างออกมาด้วยซ้ำ
นี่มันเป็นไปได้ยังไง?
ยิ่งแย่ไปกว่านั้นหัวของเขาราวกับถูกกระแทกอย่ารุนแรงจนสติของเขาค่อยๆหายไป
”ตึง!”ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ล้มลงหัวฟาดพื้นทันที
ฟางเจิ้งจือ ยิ้มเยาะ ก่อนที่เขาจะถอยไปทางแผ่นหินสีดำ จากนั้นเขาก็เตะศิาย์ที่สลบอยู่บนพื้นจนกระเด็นไปไกล
คนอื่นๆไม่อยากจะเชื่อว่าฟาง เจิ้งจือ จะปล่อยตัวประกันจริงๆ
ผู้อาวุโสสามและห้ามองหน้ากันด้วยความสงสัย
”เจ้าต้องการที่จะแลกชีวิตของเจ้ากับเขาหรือไง?”ผู้อาวุโสห้าตัดสินใจถามขึ้นมา
”ไม่”ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว
”แล้วความหมายของสิ่งที่เจ้าทำคืออะไร?”
”ไม่มีอะไรมากข้าแค่อยากบอกว่าถ้าศาลาเต๋าสวรรค์คิดจะสู้กับข้าจริงๆ ไม่ควรส่งคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกว่านี้ออกมางั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มที่มุมปาก
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความโกรธเกรี้ยว
”ให้ข้าได้สั่งสอนเจ้าเด็กเหลือขอนี่!”
”เข้ากล้าท้าทายศาลาเต่าสวรรค์ได้ยังไง?”
”หลบออกไปข้าจะไปจัดการเขา!”
ทันใดนั้นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์แปดคนก็เดินออกมาจากฝูงชนด้วยใบหน้าอันโกรธเกรี้ยว
”พวกเจ้าจะผลัดกันโจมตีข้างั้นหรือ?หรือจะโจมตีใส่ข้าพร้อมกันเลย? ดูเหมือนศาลาเต๋าสวรรค์จะนิยมวิธีหมาหมู่สินะ?” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มอย่างเหยียดหยามไปที่คนเหล่านั้น
”เกินไปแล้ว!”
”เขาคิดว่าจะสามารถเหยียบย่ำศาลาเต๋าสวรรค์ได้งั้นหรือ?”
”เขาเป็นใครกันแน่?”
เหล่าศิษย์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าจ้องมองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ที่ใบหน้าไม่ปรากฎความหวาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย พวกเขาประหลาดใจ ศาลาเต๋าสวรรค์นั้นแทบเป็นชื่อที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์แปดคนยังคงยืนนิ่งพวกเขานั้นถูกยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะการที่จะเข้าไปโจมตีพร้อมกันนั้นพวกเขาไม่สามารถทำได้
”พวกเจ้ายอมแพ้แล้วหรือ?งั้นเรามาพูดคุยอย่างมีมารยาทกันก่อนดีไหม?” ฟาง เจิ้งจือ ยังคงมองไปทางทั้งแปดคนด้วยความดูถูก
สงครามน้ำลายนั้นดูเหมือนจะได้ผลเป็นอย่างดีกับเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ที่ยึดถือในความยุติธรรมสุภาพและถ่อมตน
ผลัดกันโจมตี?โจมตีพร้อมกัน? ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้โง่และไม่คิดจะให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น
ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าต่างเข้าใจความต้องการของฟาง เจิ้งจือ การเห็น ฟาง เจิ้งจือ ยังคงใจเย็นท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ มันทำให้พวกเขาประทับใจไม่น้อย
การกระทำของฟาง เจิ้งจือ นั้นสามารถสะกดคนหมู่มากได้
แน่นอนว่าความสำเร็จนี้มาจากการตัดสินใจปล่อยตัวตัวประกันหาก ฟาง เจิ้งจือ ปฎิเสธที่จะปล่อยตัวประกัน และนั่นจะเป็นใบเบิกทางให้ศาลาเต๋าสวรรค์จะลงมือยังไงก็ได้
แต่ฟาง เจิ้งจือ ปล่อยตัวประกันออกมาโดยไม่มีข้อเรียกร้องอะไรแม้แต่น้อย
ในตอนแรกมันดูเหมือนเป็นการกระทำที่โง่เขลาแต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นกลับตรงกันข้ามมันเทียบเท่ากับการวางตำแหน่งตัวเองให้มีความยุติธรรมและมีศีลธรรม ด้วยวิธีนี้ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์จะไม่โจมตีเขาโดยใช้ความได้เปรียบด้านจำนวน Aileen-novel
”เด็กเหลือขอนี่ฉลาดจริงๆ!”ผู้อาวุโสสามมองหน้าผู้อาวุโสห้า ก่อนจะพูดออกมาด้วยความชื่นชม
อย่างไรก็ตามต่อให้ชื่นชมไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะให้อภัยในสิ่งที่ฟาง เจิ้งจือ ทำกับศาลาเต๋าสวรรค์ได้
”เจ้าจะพูดถึงมารยาทไปทำไมในเมื่อเจ้าเองก็ปลอมตัวเป็นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์และรบกวนการทดสอบของศาลาเต๋าสวรรค์?”
”ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าข้าไปรบกวนตอนไหน?” ฟาง เจิ้งจือ ตอบไปอย่างปกติ
”เจ้าคัดผู้เข้าสอบในรอบแรกออกอย่างไม่มีเหตุผลนั่นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง!” ”
”ไม่มีเหตุผล?ท่านไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของข้างั้นหรือ? ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมผู้อาวุโสสามและห้าถึงไม่หยุดข้าเสียตั้งแต่ตอนนั้นเลยล่ะ?” ฟาง เจิ้งจือ ถามกลับ
”เอ่อ…” ผู้อาวุโสสามพูดไม่ออก
”หรือจะลองเรียกคนที่ข้าคัดออกไปกลับมาถามดูว่าเขาพึงพอใจกับการตัดสินใจของข้าหรือไม่?”ฟาง เจิ้งจือ ถามอีกครั้ง
”พวกเราไม่จำเป็นต้องตามพวกเขากลับมาพวกเขาไม่มีทางที่จะพอใจอยู่แล้ว!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างมั่นใจ
ใบหน้าของผู้อาวุโสทั้งสองคนดำมืดลงไม่มีใครเชื่อคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ แต่มันเป็นความจริง ผู้เข้าสอบที่ถูกคัดออกไปไม่มีใครไม่พอใจแม้แต่น้อย
”ใช่ข้าลืมไปเรื่องหนึ่ง กงฉิง เองก็ได้คัดใครบางคนออกไปด้วย รู้สึกจะเป็นองค์ชายหกของจักรวรรดิแสงจันทร์ ทำไมเราไม่ลองเรียกเขากลับมาถามว่าพอใจไหม? ตอนเขาคัดใครออกก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรแม้แต่น้อย บอกว่าข้ารบกวนการทดสอบ พวกเจ้ามั่นใจแล้วหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ยังคงพูดต่อ
”เจ้าเด็กเหลือขอข้ายอมรับว่าเจ้านั้นยอดเยี่ยม และคนที่เจ้าคัดออกไปไม่มีใครไม่พอใจแม้แต่น้อย แต่เจ้าก็ต้องรับความผิดที่ปลอมตัวเป็นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์!”ผู้อาวุโสสามพยักหน้า
”พวกเขาถูกคัดออกแต่กลับพอใจ?”
”เป็นไปได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินผู้อาวุโสคนสามยอมรับศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ไม่อยากจะเชื่อ แต่ไม่มีใครกล้าถามออกมา
”ทำไมข้าต้องรับผิดด้วย?ท่านมีหลักฐานว่าข้าปลอมตัวเป็นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ ท่านมีหลักฐานงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจความคิดของเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์
”หลักฐาน?เจ้ายังต้องการหลักฐานอีกงั้นหรือ? เจ้าได้ยอมรับมาแล้วนี่ว่ากงฉิงตัวจริงได้คัดองค์ชายหกของจักรวรรดิแสงจันทร์ไป! เจ้ายังกล้าจะบิดเบือนความจริงอีกงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสสามไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ข้อเท็จจริงได้ถูกวางลงบนโต๊ะแล้วแต่เขายังต้องการการพิสูจน์? ผิวหน้าของเขาทำมาจากอะไรกันแน่? ทำไมถึงหนายิ่งกว่ากำแพงเสียอีก?!
”ข้ายอมรับว่ากงฉิงคัดผู้เข้าสอบออกไปแต่ไม่ได้ยอมรับว่าข้าปลอมเป็นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์เสียหน่อย!”
”หมายความว่ายังไง?เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์งั้นหรือ?” ผู้อาวุโสสามประหลาดใจ
”แน่นอน!”ฟางเจิ้งจือ พยักหน้า
”เจ้ามันไร้ยางอายยังกล้าโกหกหน้าด้านๆงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสสามถามกลับ
”ไม่เลย!ข้าไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย สวรรค์ต้องเข้าใจข้าแน่นอน!” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว
”….” ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้าต่างพูดไม่ออก
”เขายังคงไม่คิดจะยอมรับ?”
”ไร้ยางอายที่สุด!”
”ข้าไม่เคยเห็นใครหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน!”
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างด่าทอฟาง เจิ้งจือ มีใครที่ไร้ยางอายมากกว่านี้อีกหรือไม่?
”ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่แต่ความจริงที่เจ้าปลอมตัวเป็นกงฉิงก็ไม่มีทางหักล้างได้!” ผู้อาวุโสสามเงียบไปนานก่อนจะพูดออกมา
”จริงแล้วข้าชื่อกงฉิง”ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมาด้วยท่าทีที่จริงใจที่สุด
”….” ปากผู้อาวุโสสามอ้าค้าง เขาไม่เข้าใจว่าเด็กคนนี้ไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง
ชื่อกงฉิง?
ใครจะไปเชื่อ?
”เจ้าไม่ใช่กงฉิงอย่างแน่นอน!”ขณะที่ทุกคนกำลังจ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ เสียงอันโกรธเกรี้ยวก็ดังมาจากที่ไกลๆ

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท