ตาของกงฉิงเบิกโพลงด้วยความโกรธเขาเอาดาบยันไว้ที่พื้นเพื่อที่จะยืนขึ้น แต่เขาไม่สามารถทำได้…
วิชาดอกไม้โปรยปรายเป็นวิชาที่เขาได้ฝึกในศาลาเต๋าสวรรค์ แต่เขากลับโดนวานั้นโจมตีใส่เอง เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง จนกระทั่งได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ บอกว่า “แน่นอนข้าเชี่ยวชาญเต๋าสวรรค์เป็นอย่างดี!”
”เต๋าสวรรค์?!เจ้าพึ่งใช้เต๋าสวรรค์ไปอย่างนั้นรึ…” เขาต้องการที่จะพูดออกมา แต่ตอนนี้เลือดของเขากลับไหลอยู่เต็มช่องปาก..
ถ้ามีคำพูดที่กงฉิงพูดมันบ่อยที่สุดคงไม่พ้นคำว่า “เต๋าสวรรค์” ตลอดเวลาที่ผ่านมากงฉิงพยายามที่จะเข้าสู่ระดับโดยการฝึกฝนเต๋าสวรรค์ให้ได้มากที่สุด แต่ความจริงนั้นโหดร้าย เต๋าสวรรค์นั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมาก
แต่กระนั้นกงฉิงก็ใช้วิธีของตัวเองเพื่อร่นระยะระหว่างเต๋าของเขาและเต๋าสวรรค์ทำให้ผู้นำศาลาถึงกับบอกวิชาที่เขาใช้นั้นเข้าใกล้เต๋าสวรรค์มากแล้ว เขายินดีเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้…การยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าสารเลวนั่นเขากลับถูกเต๋าสวรรค์จัดการเสียเอง
ทำไม?ทำไมเจ้าสารเล่วนี่ถึงเข้าใจเต๋าสวรรค์?
กงฉิงขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมาก
ความจริงมันเห็นกันอยู่
”อืมข้าลืมถามบางอย่าง เจ้ารู้วิธีใช้เต๋าสวรรค์หรือไม่?” ฟาง เจิ้งจือ มองกงฉิงด้วยความดูแคลน
”ข้าข้า…อั้ก!”เขากระอักเลือดออกมาอีกครั้ง เขาต้องการที่จะตอบกลับ ฟาง เจิ้งจือ ว่าตัวเองรู้ แต่เขาไม่มีแรงอีกแล้ว คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขา เชี่ยวชาญเต๋าสวรรค์ เขาจะพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไงกัน?
”อ่า… ช่างอ่อนแอเหลือเกิน!” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวและถอนหายใจ
”ข้าโจมตีเจ้าเพียงสองครั้งเท่านั้น…เจ้าไม่ได้บอกว่าจะให้โอกาสข้าสามครั้งงั้นรึ?”กงฉิง ยังคงไม่ยอมแพ้
ถ้าฟาง เจิ้งจือ ทำตามที่พูดเขาคงไม่แพ้อย่างหมดรูปเช่นนี้
”สามครั้ง?เจ้าเชื่อข้าจริงๆงั้นรึ? ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าศิษย์พี่กงฉิงจะไร้เดียงสาเช่นนี้!” ฟาง เจิ้งจือ มองกงฉิงอย่างดูถูกเช่นเคย
”เจ้าเจ้า…” กงฉิง ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาล้มลงอย่างทันทีพร้อมกับสติที่ค่อยๆเลือนหายไป
”ศิษย์พี่กงฉิง!”
”เจ้าสารเลวนั่นทำให้ศิษย์พี่โกรธจนหมดสติไป?!”
”เต๋าสวรรค์เขาใช้มันได้จริงๆ!”
เต๋าสวรรค์จุดสูงสุดของหกเต๋าแห่งการจุติ เต๋าที่เข้าใกล้ระดับเซียนมากที่สุด
”เป็นเขางั้นหรือ?เต๋าสวรรค์…” หนานกง มู่ มองไปทาง เหยียน ซิว อีกครั้ง
”ไม่!”เหยียน ซิว ส่ายหัว
เหยียนซิว ตอบออกมาอย่างไม่ลังเล
”ไมใช่งั้นหรือ?แต่ตอนที่อยู่แดนใต้…” หนานกง มู่ แปลกใจเล็กน้อย
”เขาบอกข้าว่าเขาเข้าใจเต๋าสวรรค์เพียงเล็กน้อยเท่านั้นและสามารถใช้ได้แค่เพียตรึงศัตรูเอาไว้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนตำแหน่งของเขากับคู่ต่อสู้ในทันที ยิ่งไปกว่านั้นเขาอยู่ในระดับอภินิหารเท่านั้น!” เหยียน ซิว อธิบาย
”อืม”หนานกง มู่ พยักหน้า่
เขารู้ว่าเหยียน ซิว พูดความจริง ช่วงสองปีที่ผ่านมา ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้แสดงความคืบหน้าใดๆในการพัฒนาเต๋าสวรรค์ เช่นนั้นเขาจะพัฒนาเป็นอย่างมากได้ยังไง ในช่วงเวลาเพียงสองเดือนเท่านั้น?
ที่สำคัญที่สุดความแข็งแกร่งของชายคนนี้ต่างจาก ฟาง เจิ้องจือ อย่างสิ้นเชิง ชายคนนี้อยู่ในระดับจุติอย่างชัดเจน
…
”เต๋าสวรรค์เจ้าเด็กนั่น…. “ผู้อาวุโสห้ามองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ก่อนจะหันไปมองกงฉิงที่หมดสติ เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
”อืมและเข้ายังใช้วิชาสลับที่อย่างฉับพลัน หาข้าเดาไม่ผิด เขาใช้เต๋าสวรรค์เพื่อหยุดวิชาของกงฉิง จากนั้นเขาก็สลับตำแหน่งกับกงฉิงด้วยความเร็วสูงสุด เพราะเขาอยู่ใกล้กงฉิงและแต่งตัวเหมือนกันทำให้คนที่ดูสังเกตุเรื่องนี้ได้ยาก!”
”แต่เจ้านี่ไม่ใช่ว่าเขาเชี่ยวชาญแต่เต๋าชีวิตงั้นหรือ?เป็นไปได้ยังไง?” ผู้อาวุโสห้ายังคงสงสัย
”เต๋าแห่งชีวิตเป็นเพียงการคาดเดาของพวกเราเท่านั้นเรายังไม่เคยเห็นเขาใช้มันกับเจ้าเพลิงเขียวกับตาตัวเอง แต่ข้าคิดว่าการที่เขาเชี่ยวชาญเต๋าสวรรค์ การที่จะทำให้เจ้าเพลิงเขียวเชื่องนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป”ผู้อาวุโสสามอธิบายขึ้นมา
”อืมมันก็สมเหตุสมผล เต๋าสวรรค์… มันก็หมายความว่าเจ้าสารเลวนั่นก็เป็นถึงครึ่งเซียนแล้วสิ?!” ผู้อาวุโสห้าพยักหน้าและมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
”เรายังไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้บางทีเขาอาจจะเป็นแค่ผู้ที่เชี่ยวชาญเต๋าสวรรค์เท่านั้น เขาไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดในการต่อสู้กับกงฉิง เขาใช้ประโยชน์จากความถือดีและเชื่อมั่นเกินไปของกงฉิงในการเอาชนะเท่านั้น” ผู้อาวุโสสามส่ายหัวอีกครั้ง
”ผู้อาวุโสสามพูดถูกจากเสียงเจ้าสารเลวนี่ดูอายุไม่ถึงยี่สิบห้าปีด้วยซ้ำ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน เขาไม่มีทางมาจากดินแดนทั้งสี่แน่นอน”
”พรสวรรค์ของเขานั้นเหนือกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้มากและเขานั้นยังไร้ยางอายเป็นที่สุด ถ้าเขามาจากดินแดนอื่น…เขามีเป้าหมายอะไรกันแน่?”
”ไม่ว่าเขาจะมีเป้าหมายอะไรแต่ถ้ามาจากแดนอื่น เราจะให้เขาเข้าไปในศาลาเต๋าสวรรค์ไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมา มันจะเป็นหายนะ!”
”ใช่นี่เป็นวิธีเดียวเท่านั้น!”ผู้อาวุโสสามพยักหน้าและมองไปทาง ฟาง เจิ้งจือ ดวงตาของเขาส่องประกายแห่งความเย็นชาออกมาทันที มือของเขากำหมัดแน่น
ห้านิกายนั้นตั้งอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์พวกเขาแบ่งกันอยู่ในแต่ละพื้นที่ แม้ว่าจะไม่เกิดความรุนแรงระหว่างกัน แต่ก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นตลอดนับร้อยปี สาเหตุนั้นมาจากอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน
อย่างเช่นศาลาเต๋าสวรรค์เชื่อมั่นในการฝึกฝนของตนเอง ในขณะที่หุบเขาทั้งเก้าบูชาเก้ายอดเขา โดยเชื่อว่ายอดเขาทั้งเก้าถูกสร้างขึ้นเพื่อความสมดุลของสวรรค์และโลก และที่หอหยิงหยาง เชื่อว่าลูกแก้วหยิงและหยางถูกสร้างขึ้นเพื่อความสมดุลของหยิงและหยาง
อุดมการณ์ที่ต่างกันของสำนักทั้งห้าทำให้วิธีการฝึกตนของแต่ละที่ย่อมต่างกัน แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยรากฐานเดียวกัน แต่ปลายทางของการฝึกย่อมต่างกันแน่นอน
นอกจากนี้พวกเขายังได้รับทรัพยากรที่ต่างกัน
ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นกว้างใหญ่เต็มไปด้วยภูเขาลูกใหญ่และทะเลสาบลึก นอกจากสัตว์ร้ายและเหล่าปีศาจ ก็ยังมีธรรมชาติที่กว้างใหญ่และสมบัติล้ำค่าอีกมาก
แม้ว่าแต่ละสำนักจะตั้งเขตแดนของตัวเองอย่างชัดเจนหลังสงครามแต่เมื่อมีสมบัติล้ำค่าปรากฎขึ้นก็ไม่มีสำนักใดคิดจะเคารพเขตแดนเหล่านั้นแม้แต่น้อย
ผู้อาวุโสสามรู้ถึงความขัดแย้งระหว่างสำนักทั้งห้าและรู้วิธีที่สำนักอื่นใช้เป็นอย่างดี
การใช้สายลับเป็นวิธีที่ได้ประโยชน์มากและที่สำคัญที่สุดคือมีค่าใช้จ่ายน้อย ไม่ได้มีแค่สายลับในดินแดนศัตรู พวกเขายังส่งสาส์นในเส้นทางลับอีกด้วย
ผู้อาวุโสสามก้าวออกมาและเดินไปหา ฟาง เจิ้งจือ
การทดสอบศาลาเต๋าสวรรค์ถูกจัดขึ้นโดยจักรพรรดิทั้งสี่ดินแดนผู้เข้าร่วมแต่ละคนไม่เพียงแต่ถูกแนะนำว่าเป็นอัจฉริยะ แต่ภูมิหลังของพวกเขาต้องใสสะอาด นี่เป็นข้อตกลงระหว่างศาลาเต๋าสวรรค์และจักรพรรดิทั้งสี่
”เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเจ้าออกมาไม่งั้นข้าจะจัดการเจ้าเอง!”ผู้อาวุโสสามหยุดอยู่ที่ระยะห่างห้าก้าวต่อหน้า ฟาง เจิ้งจือ ชายเสื้อของขาวพริ้วไหวตามสายลม
จักรพรรดิทั้งสี่และศิษย์ทุกคนต่างเข้าใจการตัดสินใจของผู้อาวุโส
ตัวตน!ตัวตนที่แท้จริง!
ถ้าฟาง เจิ้งจือ แสดงความสามารถอย่างน่าเหลือเชื่อออกมาในการต่อสู้กับกงฉิง ผู้อาวุโสสามคงจะยอมให้เขาเข้าร่วมการทดสอบในรอบที่สาม
อย่างไรก็ตามการกระทำของฟาง เจิ้งจือ นั้นคลุมเครืออย่างเห็นได้ชัด ผู้ที่ชำนาญการใช้เต๋าสวรรค์ ไม่จำเป็นต้องสงสัยในความสามารถอีกต่อไป เชี่ยวชาญการใช้หนึ่งในหกเต๋าแห่งการจุติ นับว่าเท้าข้างหนึ่งก้าวสู่ระดับเซียนแล้ว
ดังนั้นผู้อาวุโสสามจะเพิกเฉยในตัวตนที่แท้จริงของ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยังไง?
”ดูเหมือนว่า…ผู้อาวุโสสามไม่คิดจะทำตามสัญญา?”ฟาง เจิ้งจือ ไม่ถอยหนี กลับกันเขามองไปที่ เหยียน ซิว และ หนานกง มู่ เขาค่อยๆเผยยิ้มออกมา ไอลีนโนเวล
เหยียนซิว คือเหตุผลที่เขารับคำท้าของกงฉิงอย่างไม่ลังเล และจงใจใช้เต๋าสวรรค์ เพราะ เหยียน ซิว เคยถามเขาเกี่ยวกับเรื่องของเต๋าสวรรค์มาก่อน และที่สำคัญที่สุดเขารู้จักนิสัยของ เหยียน ซิว เป็นอย่างดี ถ้าเขาเลือกจะไม่ใช่เต๋าสวรรค์ และใช้วิชาอื่นมันคงจะทำให้ เหยียน ซิว เกิดความสงสัยเป็นแน่
แต่ถ้าหาก…เขาใช้เต๋าสวรรค์ตั้งแต่ต้น เหยียน ซิว คงเชื่อว่าเขาไม่ได้ซ่อนอะไรไว้อีก วิธีนี้จะทำให้ เหยียน ซิว มั่นใจว่ากงฉิงตัวปลอมไม่ใช่ ฟาง เจิ้งจือ
”เปิดเผยตัวตนของเจ้าและข้าจะทำตาสัญญา!”ผู้อาวุโสสามดูเหมือนจะเดาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ฟาง เจิ้งจือ จะใช้เรื่องนี้มาแก้ตัว เขาไม่สะทกสะท้านกับความคิดเห็นของ ฟาง เจิ้งจือ แม้แต่น้อย
”ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์กงฉิง!”ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างไม่ตั้งใจ
”ไร้สาระ!”น้ำเสียงของผู้อาวุโสสามเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
”ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์กงฉิง!”ฟาง เจิ้งจือ ยังคงพูดซ้ำอีกครั้ง
”เจ้าเด็กเหลือขอข้าจะจัดการเจ้าซะ!”ผู้อาวุโสสามก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง ขณะที่ดวงตาของเขาเริ่มเปล่งประกายแสงสีขาวออกมา
”ท่านจะรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่างั้นหรือ?”ฟางเจิ้งจือ ตอกกลับ
”แล้วยังไงล่ะ?ศาลาเต๋าสวรรค์คงอยู่มานานนับพันปี พวกเราจะยอมให้วายร้ายอย่างเจ้าเข้ามาป่วนที่นี่ได้ยังไง? ฮ่าฮ่า…. แม้วันนี้จักรพรรดิทั้งสี่จะอยู่ด้วยก็ตาม ข้าก็ยินดีจะทิ้งศักดิ์ศรีของข้า และจะทำให้ใบหน้าจอมปลอมของเจ้าต้องหลั่งน้ำตาออกมา!”
ผู้อาวุโสสามก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวพร้อมกับแสงสีขาวที่ส่องประกายบนหน้าผาก
”ดูเหมือนว่าเหตุผลแค่ไหนก็ไม่พอสำหรับคนไม่มีเหตุผล”ฟาง เจิ้งจือ แสดงท่าทีผิดหวังออกมา
”เจ้าเด็กเหลือขอไม่ต้องพูดเรื่องไร้สาระอีกแล้ว ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเจ้าออกมาซะ แล้วข้าจะทำตามสัญญา ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าทำรุนแรงเกินไป!”ในขณะที่พูด แสงสีขาวบนหน้าผากของเขาก็ส่องสว่างมากยิ่งขึ้น
”สิบกระบวนท่า!ทำไมท่านไม่ต่อให้ข้าสักสิบกระบวนท่าล่ะ? ท่านแก่มากแล้ว แต่ข้ายังเด็กอยู่ ท่านรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ต่อให้ข้าสักสิบกระบวนท่าคงจะไม่เป็นการขอที่มากไปใช่ไหม?”ฟาง เจิ้งจือ พูดออกมาอย่างเร่งรีบ ในขณะที่เห็นแสงสีขาวบยหน้าผากของผู้อาวุโส
”เจ้า…” ผู้อาวุโสสามยืนนิ่งไปทันทีเมื่อได้ยิน เขาไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน
สิบกระบวนท่า?
”ไม่?ไม่เป็นไรงั้นเก้าก็ได้ ท่านอายุมากกว่าข้าอย่างน้อยก็หกสิบปี ท่านควรให้โอกาสข้าบ้าง ข้าจะเพิกเฉยต่อความจริงที่ท่านรังแก้ผู้ที่อ่อนแอกว่า ถ้าท่านไม่ให้ข้าโจมตีก่อน มันจะไม่เป็นการไร้ศีลธรรมเกินไปงั้นหรือ? ฟาง เจิ้งจือ ยังคงพูดออกมา
”ศีลธรรม?!”ผู้อาวุโสสามกำหมัดแน่น
ในฐานะผู้าวุโสสามที่ได้รับความเคารพแต่ตอนนี้เขากำลังถูกต่อว่าเรื่องศีลธรรมต่อหน้าองค์จักรพรรดิทั้งสี่
แต่….มันก็เป็นจริงอย่างที่ ฟาง เจิ้งจือ กล่าว เขารังแกคนที่อ่อนแอกว่าจริงๆ!
”แปดกระบวนท่าล่ะเป็นยังไง? ท่านเป็นถึงเซียนเชียวนะ แต่มารังแกเด็กตัวน้อยๆเช่นข้า ท่านยังมีศีลธรรมอยู่หรือไม่? ” ฟาง เจิ้งจือ ดูเหมือนจะไม่สังเกตุเห็นท่าทีของผู้อาวุโสสามและยังคงพูดต่อไป
Gate of God – ตอนที่ 677 รังแกคนอ่อนแอ
ตอนที่ 677 รังแกคนอ่อนแอ
Posted by ? Views, Released on กุมภาพันธ์ 17, 2022
, Gate of God
เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง