”เจ้า…” หน้าของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว จะมีเรื่องไหนอัปยศยิ่งกว่าลูกชายถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา และยังโดนตะโกนใส่หน้าอีก?
สายตาของเขาจ้องไปที่ดาบของฟาง เจิ้งจือ ตอนนี้เขาต้องการเพียงล้างแค้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งตะโกนขึ้น
”ท่านพ่อท่านทำแบบนี้ไม่ได้!”
”ทำไม่ได้?”เขารู้ดีว่านี่เป็นเสียงลูกชายอีกคนหนึ่งของเขา นอกจากนี้เขายังเข้าใจว่าทำไมเข้าต้องยับยั้งตัวเองเอาไว้
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทนเรื่องนี้ได้
เขาจะยอมให้คนที่ฆ่าลูกชายของเขายงมีชีวิตอยู่ได้ยังไง?
บรรยากาศอันทรงพลังปกคลุมร่างกายของเขามันทั้งปั่นป่วนและน่ากลัว อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าอีกเพราะเขารู้ว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในจักรวรรดินักรบศักดิ์ิสิทธิ์ แต่เป็นศาลาเต๋าสวรรค์
”อาณาจักรเซี่ยไม่ใส่ใจหรอกนะ ถ้าจะต้องก่อสงครามอีกครั้งเพื่อ ฟาง เจิ้งจือ ใช่ไหม?” เสียงของ หลิน มู่ไป่ ดังขึ้น เขาพูดโดยตรงกับจักรพรรดิแห่งจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์
”ใช่พวกเราพร้อมที่จะช่วย ฟาง เจิ้งจือ!” หลิน หยุน พูดเสริมขึ้นมา
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างรู้สึกเย็นยะเยือก
สงครามเพื่อคนเพียงคนเดียว
นอกจากนี้เขากำลังจะตายในอีกไม่กี่เดือน
ต้องบอกว่าการกระทำของหลิน มู่ไป่ นั้นได้ผล
”อ้าก!!”จักรพรรดิแห่งจักรวรรดินนักรบศักดิ์สิทธิ์ ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว เขารู้สึกขมขื่นเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อนึกถึงประชาชนของเขา ที่สำคัญที่สุดคือเขาได้แพ้ไปแล้วครั้งหนึ่งเขาไม่สามารถจะสูญเสียได้อีก
”คืนร่างลูกชายข้ามา!”เขาตะโกนออกมาอย่างไม่มีทางเลือก
จากนั้นร่างของเฉียน วู่ ก็กลิ้งมาโดนเท้าของเขา
ฟางเจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไร
เป้าหมายของเขาไม่ใช่จักรพรรดิของจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์เขาสนใจเพียง เฉียน วู่ เท่านั้น
ผู้ที่ทำให้ราชาหลี่ ฉิน ต้องตาย ทำให้ ปิง หยาง ต้องถูกพาตัวไปที่หอคอยหลิง หยุน ความตายของเขานั้นสาสมแล้ว
จักรพรรดิแห่งจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์กับหมัดแน่นจนเล็บจิกลงไปบนเนื้อเขาไม่รอช้ารีบยกร่างของลูกชายขึ้นและเดินออกจากศาลาเต๋าสวรรค์ไป
เขาไม่คิดจะอยู่ที่นี่อีก
เพราะลูกชายที่เขารักที่สุดได้ตายไปแล้ว ความหวังทั้งหมดของอาณาจักรถูกทำลายลงสิ่งเดียวที่เขาทำได้ตอนนี้คือป้องกันการเกิดกบฎจากถายใน และภัยคุกคามจากดินแดนใกล้เคียง
เขาดูโดดเดี่ยวและเศร้าโศกแต่มันก็เป็นความจริงที่โหดร้ายของโลกใบนี้
ฟางเจิ้งจือ ไม่สนใจจักรพรรดิอีกต่อไป ในสายตาของเขาตอนนี้มีเพียงผู้อาวุโสห้าเท่านั้น
”หนุ่มน้อยเจ้าช่างไร้ความปราณีเหลือเกิน!” ผู้อาวุโสห้าจ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ถ้าเขาเป็น ฟาง เจิ้งจือ ก็จะทำแบบเดียวกัน
เหมือนกับที่เขาโจมตีหนานกง มู่ เขาไม่คิดจะปล่อยให้ใครมาลอบโจมตีเขาอีก ความเห็นอกเห็นใจมีแต่จะเป็นหนทางนำไปสู่ความตายเท่านั้น
ผู้ชนะถึงอยู่รอด
นี่คือกฎของโลก
โดยเฉพาะในดินแดนเซียน
ผู้อาวุโสห้าก็ปฏิบัติตามกฎนี้เช่นกันการฆ่าฟาง เจิ้งจือ เท่านั้นที่จะสามารถช่วยกอบกูชื่อเสียงของเขากลับคืนมาได้
ตูม!เสียงดังก้องปะทุขึ้นจากด้านหลังของเขา
ผู้อาวุโสห้าไม่ได้สนใจมากนักเขารู้ว่ามันเป็นเสียงการต่อสู้ระหว่าง หยาน ฉิง และ หนานกง มู่
ตอนนี้เป้าหมายของเขามีเพียงฟาง เจิ้งจือ เท่านั้น
ใช้เต๋าสวรค์ได้
ใช้เต๋าแห่งชีวิตได้
นอกจากนี้เขาสู้มาเป็นเวลานานแต่กลับไม่มีอาการเหนื่อยล้าแม้แต่น้อย เขาเป็นสัตว์ประหลาดหรือไงกัน?
”ตาย!”ผู้อาวุโสห้าพุ่งเข้าไปโดยไม่ลังเล
ดาบเถาวัลย์ของเขาส่องแสงสีเขียวก่อนจะแทงออกไป้านหน้า
”ตาย!”ฟาง เจิ้งจือ ตวัดดาบเข้าสู่เช่นกัน แต่เมื่อเขาจะก้าวไปข้างหน้า
ความเจ็บปวดที่แหลมคมสามารถรู้สึกได้จากหน้าอกของเขามันรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาเต้นในอัตราที่รวดเร็วอย่างบ้าคลั่ง มันทำให้เขาเจ็บปวดและเสียสมาธิเป็นอย่างมาก
และเวลาที่เขาเสียสมาธินั้นมันก็เพียงพอ…
ผู้อาวุโสห้าอยู่ด้านหน้าของเขาแล้ว
พลังอันรุนแรงปะทะเข้าใส่ร่างกายของเขาทันที
ตูม!เสียงระเบิดดังขึ้น
ร่างกายของฟาง เจิ้งจือ กระเด็นออกไปไกล อาการเจ็บปวดที่หน้าอกของเขาทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
”อั้ก…” เขากระอักเลือดออกมา เสียงหัวใจที่เต้นอันบ้าคลั่งของเขาสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
”เกิดอะไรขึ้น?”
”หรือพลังของเขาจะหมดแล้ว?”
”ดูเหมือนว่าเขาจะถึงขีดจำกัดแล้วนะ!” ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ก็แปลกใจเช่นกันฟาง เจิ้งจือ ไม่น่าพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
อย่างน้อยก็ไม่ใช่แบบนี้
เขาตั้งใจเปิดเผยจุดอ่อนต่อหน้าผู้อาวุโสห้างั้นหรือ?
นี่คือสิ่งที่เหล่าศิษย์ต่างกำลังคิดอย่างไรพวกเขาเปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นสภาพของ ฟาง เจิ้งจือ
ใบหน้าของเขาซีดมากและแสงสีม่วงรอบตัวของเขาก็สั่นไหวอย่างไม่สามารถหยุดได้
มันเป็นภาพที่น่ากลัว
ผู้อาวุโสห้าก็ประหลาดใจเช่นกันการโจมตีก่อนหน้านี้เขาไม่ได้รับแรงปะทะจาก ฟาง เจิ้งจือ เลยแม้แต่น้อย
มันชัดเจนว่าฟาง เจิ้งจือ อ่อนแอลงมาก
เกิดอะไรขึ้นกัน?
เขาสูญเสียพลังไปอย่างกระทันหันงั้นหรือ?
ผู้อาวุโสห้าคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆมันอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้
ผู้อาวุโสห้าจำได้อย่างหนึ่งทันทีว่า ฟาง เจิ้งจือ เหลือเวลาไม่นานแล้ว มันอาจจะเป็นอาการอะไรบางอย่างที่เป็นสัญญานบ่งบอกว่าความตายของ ฟาง เจิ้งจือ ใกล้มาถึงแล้ว
”ตายซะ!”ผู้อาวุโสห้าไม่ลังเล
เขาไม่สามารถปล่อยโอกาสดีๆเช่นนี้ไปได้
เขาพุ่งเข้าหาฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง
ฟางเจิ้งจือ อยากจะสบถออกมา
นั่นเป็นเพราะเขาจำบางอย่างได้เขาลืมใช้ยา
ภายใต้สถานการณ์ปกติ… ไอรีนโนเวล
เขาไม่จำเป็นต้องทานยา
อย่างไรก็ตามความเจ็บปวดที่คมชัดจากหัวใจมันบ่งบอกชัดเจนว่าร่างกายของเขาต้องการยา
เกิดอะไรขึ้น?
เป็นเพราะเขาใช้พลังงานมากเกินไปหรือไม่?หรือเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เมืองหลวงเขากินยามากไป จนยาเสื่อมสภาพลง?
ความเป็นไปได้ทั้งสองนั้นน่าจะถูกต้อง
การกินมากเกินไปเริ่มทำให้เขาดื้อยา
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ…..เขาไม่มียา
นั่นเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงทำให้วู่ จวี้เอ๋อ ไม่วางใจให้ยาเขาเป็นจำนวนมากอีกต่อไป
รวมถึงยาสำรองกรณีฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตามมันทำให้เกิดปัญหาอื่นขึ้น
ฟางเจิ้งจือ จำเป็นต้องใช้ยาตอนนี้ กว่า วู่ จวี้เอ๋อ จะมาถึงอย่างน้อยก็สามถึงสี่วัน
เขาควรทำยังไง?
ขอหยุดการต่อสู้ชั่วคราว?
มันจะเป็นไปได้งั้นรึ?
ไม่มีใครจะโง่เห็นด้วยแน่นอน มันจบแล้ว
เขากำลังจะแพ้
ฟางเจิ้งจือ รู้ว่าจุดจบของเขาใกล้มาถึงแล้ว
เป็นเพราะเขาไม่สามารถควบคุมพลังจากกลืนกินโลกได้อีกต่อไปมันกำลังเกิดการต่อต้านกับร่างกายของเขา
ความเจ็บปวดอันรุนแรงทำให้ร่างกายของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เขากำลังจะตายใช่ไหม?
ฉือกูเหยียน คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมที่เขาผิดสัญญา? เขามาถึงที่นี่แล้ว แต่นางกลับยังไม่โผล่หน้าออกมา นางไปไหนกัน?
เขาไม่ผิดนี่เพราะนางไม่ยอมออกมาเอง
สำหรับปิง หยาง…
รอข้าอยู่ที่หอคอยหลิงหยุน?
ฟางเจิ้งจือ จำฉากนั้นได้ มันยิ่งทำให้อารมณ์ของเขาปั่นป่วน ความเจ็บปวดของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้อาวุโสห้าพุ่งเข้ามาแล้ว
สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือพยายามหลบการโจมตี
ตูม!
แสงสีฟ้าสาดส่องไปทั่วพริบตา ฟาง เจิ้งจือ ก็ปรากฎขึ้นห่างจากจุดเดิมประมาณครึ่งเมตร สถานที่ที่เขายืนอยู่ตอนนี้ราวกับอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่
ผู้อาวุโสห้ามองไปที่ฟาง เจิ้งจือ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
เขาหลบมัน
เขาโชคดี
อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสห้าไม่คิดหยุดเขาโจมตีอีกครั้ง ฟาง เจิ้งจือ มองด้วยความขมขื่น เขาไม่สามารถใช้วิชาทลายสวรรค์ได้อีกแล้ว
ดาบไร้ร่องรอยเปล่งแสงสีม่วงแห่งความขมขื่นออกมาอีกครั้ง
ความขมขื่นแบบเดียวกับที่ฟาง เจิ้งจือ รู้สึก โลกนี้มันโหดร้าย…
หลินมู่ไป่ และ หลิน หยุน ต่างกังวลเป็นอย่างมาก
แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้
พวกเขาสามารถทำสงครามกับจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์ได้แต่นี่คือศาลาเต๋าสวรรค์
พวกเขาจะเข้าไปยุ่งได้อย่างไร?
”ฟางเจิ้งจือ!” เสียงของ หนานกง มู่ ดังขึ้น อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถละสายตาจากการต่อสู้กับ หยาง ฉิง ได้ กำปั้นของ หยาง ฉิง พุ่งเข้ามาที่หน้าเขาอีกครั้ง
ตูม!มีรอยแยกปรากฏขึ้นบนพื้น
หนานกงมู่ กระโดดหลบไปอีกด้านทันที ….
”เจ้าหนุ่มยอมแพ้ซะ!ไม่มีใครช่วยเจ้าได้!” ผู้อาวุโสห้าพูดขึ้น ขณะที่จ่อดาบไปที่หน้าอกของ ฟาง เจิ้งจือ
”ท่านพูดถูกข้าควรจะกินยา… ” ฟาง เจิ้งจือ มองดาบที่หน้าอกของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็ค่อยๆหลับตาลง เขากำลังรอดาบแทงทะลุอกของเขา
มันเจ็บปวดมาก
จนถึงจุดที่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าดาบได้ทะลุผ่านหน้าอกของเขาไปแล้วหรือยัง
ฟางเจิ้งจือ ไม่รู้ แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
หน้าอกของเขามีกระจกป้องกันหัวใจทำมาจากพลังของกลืนกินโลก
ภายใต้สถานการณ์ปกติ…
ก่อนอื่นจะต้องถอดกระจกป้องกันหัวใจออกก่อนถึงจะสร้างความเสียหายให้เขาได้ อย่างน้อยที่สุดควรจะได้ยินเสียงกระจกที่พังทลาย…
.
Gate of God – ตอนที่ 690 พลาดพลั้ง
ตอนที่ 690 พลาดพลั้ง
Posted by ? Views, Released on มีนาคม 2, 2022
, Gate of God
เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง