Gate of God

มันเป็นแสงสีทองอันอบอุ่นท่ามกลางความมืดมิด
แต่เทียนซิงไม่สนใจมันแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าเขาได้ยินมู่ ฉิงเฟิง แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นเขาเลือกที่จะลงมือแล้ว เขาจะหยุดได้ยังไง?
”จะมีชีวิตอยู่อีกสี่เดือนแล้วไง?ใครสนกัน? เจ้าต้องตาย ต่อให้เจ้าจะเหลือชีวิตอีกแค่วันเดียวก็ตาม!” เทียนซิง พูดออกมาด้วยความเย็นชา
”ดินแดนศักดิ์สิทธิ์… ยอดเยี่ยมจริงๆ!”ฟาง เจิ้งจือ จ้องมองไปที่เทียนซิง ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมา
เขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายตั้งแต่ได้เกิดมาบนโลกนี้
บนโลกนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ…ความแข็งแกร่ง　　ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอด
ในแดนศักดิ์สิทธิ์ที่วุ่นวายทั้งห้าสำนักต่างแบ่งพื้นที่กันปกครอง
เขารู้ความดีถึงความโหดร้ายของดินแดนนี้แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าเขาประเมินดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่ำเกินไป
เทียนซิงผิดคำพูดของเขา
เขาทำมันอย่างไม่ลังเลด้วยซ้ำ
มันไม่แปลกที่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายในอนาคตเขาจะกำจัดมัน
สมกับที่เขาเป็นคนที่ปกครองสำนักหนึ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์
แน่นอนว่าฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดว่าการกระทำของเทียนซิงเป็นเรื่องที่ผิด
หมัดอันทรงพลังพุ่งมาที่อกของเขา
คนปกติคงไม่สามารถต้านทานหมัดนี้ได้อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ นั้นต่างออกไป เขากลับพุ่งเข้าหาเทียนซิง　　เลือดไหลออกจากร่างของเขา
กงล้อแห่งการจุติหมุนวนด้วยความรวดเร็ว
เขาไม่คิดจะลีลาอะไรอีกเพราะพลังของเขาแทบไม่มีแล้ว
มันเป็นหมัดที่ธรรมดาไม่ได้ดูรุนแรงหรือน่ากลัวแต่อย่างใด แต่มันเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดที่ ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถรวมได้
”ตูม!”เสียงระเบิดอันดังก้องปะทุขึ้น ตามมาด้วยเสียงกระดูกที่แตกหัก
ฟางเจิ้งจือ ตกตะลึง
เหล่าศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์และเก้าขุนเขาก็ตกตะลึงเช่นกัน
ความสนใจทุกคนพุ่งไปที่หมัดของฟาง เจิ้งตือ
หมัดที่…
ปะทะเข้ากับหน้าของเทียนซิง อีกครั้ง
ฟางเจิ้งจือ สามารถสัมผัสได้ถึงกระดูกแก้มของเทียนซิง แต่เขาไม่เข้าใจ…
เขาโจมตีสำเร็จได้ยังไง
เพราะโชค?หรือพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน? เป็นไปไม่ได้ เขาบาดเจ็บหนัก เขาจะมีพลังเพิ่มขึ้นได้ยังไง?
ฟางเจิ้งจือ งงงวย คนอื่นๆก็เช่นกัน
เทียนซิงไม่ได้ตอบโต้อะไร มือข้างหนึ่งของเขาเหมือนถูกดึงเอาไว้ด้านหลัง
ช่างแปลกประหลาด
ยิ่งกว่านั้นเทียนซิง ไม่ได้แสดงความเจ็บปวดหรือความแปลกใจอะไรออกมา
เขาหันหลังแล้วมองไปที่มือข้างหนึ่งที่ถูกตรึงเอาไว้
”ในที่สุดเจ้าก็ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์?”เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของเทียนซิงสายตาของเขายังคงเย็นชา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้แปลกใจ แต่เขาโกรธมาก
อย่างไรก็ตามคำพูดเหล่านั้นกลับทำให้ทุกคนผงะไป　　ก่อนที่พวกเขาจะเห็นแสงบางอย่างแวววาวหมุนวนอยู่รอบแขนของเทียนซิง
ตั้งแต่แขนจนถึงฝ่ามือเป็นแนวยาว
ที่สำคัญแสงนั้นมีลักษณคล้ายเกล็ดสีชมพู
”ตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์?พูดเรื่องอะไรกัน?” ฟาง เจิ้งจือ เองก็ตกใจเช่นกัน เพราะเกล็ดสีชมพูดนั้นปกคลุมไปทั่วตัว ฉือ กูเหยียน หรือพูดให้ถูกคือมันปกคลุมไปทั่วร่างของหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังของ ฉือ กูเหยียน
นี่เป็นฉากที่แปลกประหลาดจริงๆ
ผู้หญิงคนนี้…มีหาง?
”พลังของนางตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แล้วงั้นหรือ?!”
”ไม่คำพยากรณ์ยังเดินทางมาไม่ถึงเลยมันต้องเป็นเพราะเพลิงพันปีแน่นอนที่ทำให้พลังของนางตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์!”
”หรือบางที่นางอาจจะสัมผัสได้ถึงคำพยากรณ์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว?!”
เมื่อเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์มองเห็นฉือ กูเหยียน พวกเขาเต็มไปด้วยความยินดี
แต่ศิษย์เก้าขุนเขานั้นต่างออกไป
พวกเขาไม่ได้ตื่นเต้นเลยในทางกลับกันพวกเขากลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
”แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!” คัง เยว่ เองก็แปลกใจในตอนแรก ไม่มีใครเป็นปกติได้เมื่อเห็นกงล้อแห่งการจุติ แต่ตอนนี้สายตาของนางกลับมองไปที่ ฉือ กูเหยียน “ผู้ถูกเลือก นางคือผู้ถูกเลือกจริงๆ! ดูเหมือนกงล้อแห่งการจุติจะเป็นตัวที่กระตุ้นให้พลังของนางตื่นขึ้น? หึ ยังไงก็ตามในทางกลับกันเขาก็ยังคงเหลือเวลาอยู่สี่เดือนเท่าเดิม!”
คังเยว่ มอง ฟาง เจิ้งจือ อย่างเยาะเย้ย
จากนั้นก็เกิดลำแสงล้อมรอบตัวของคัง เยว่ เอาไว้
ก่อนที่นางจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
ก่อนที่สักพักหนึ่งแสงนั้นจะหาย
”นางไปแล้วงั้นหรือ?”ผู้อาวุโสกู่ หยวน รู้สึกแปลกเล็กน้อย เพราะ คัง เยว่ นั้นมาพร้อมกับว่าน เล่ย
แต่ตอนนี้ว่าน เล่ย ได้ตายไปแล้ว คัง เยว่ ก็ไม่อยู่
ก่อนที่เขาจะส่ายหัวออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
…
การหายตัวไปของคัง เยว่ นั้นไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนัก
เพราะตอนนี้สายตาของทุกคนกำลังจับจ้องไปที่ฉือ กูเหยียน
ฉือกูเหยียน เริ่มเคลื่อนไหว
นางพุ่งขึ้นมาจากด้านล่างไปหาเทียนซิง อย่างไม่ลังเล
”กูเหยียนระวัง!” เสียงของ มู่ ฉิงเฟิง ดูเป็นกังวล เขาพุ่งขึ้นไปบนฟ้าเพื่อจะหยุดนางเช่นกัน
แต่มันก็สายเกินไป
เพราะฉือ กูเหยียน เร็วมาก
”ฉือกูเหยียน พลังของเจ้าตื่นขึ้นแล้วยังไง? เจ้าไม่สามารถหยุดข้าได้!” ท่าทีของเทียนซิง เต็มไปด้วยความเกรงขามขณะเตรียมรับมือกับ ฉือ กูเหยียน
”ตึง!”แสงที่แขนของเทียนซิงแตกสลาย
ราวกับถูกงูกัด
เดี๋ยวก่อน!
งู?!
ฟางเจิ้งจือ ตกตะลึงอีกครั้ง เขารู้สึกสงสัยบางอย่าง และทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ
”หางงู?!หญิงสาว …ร่างของหญิงสาวกับหางของงู?”เป็นไปไม่ได้เลยที่ ฟาง เจิ้งจือ จะไม่ตกใจ “นั้นอะไร? ปีศาจงู?! ไม่ เมดูซ่างั้นรึ? หืม ดูเหมือนนางจะต่างออกไป ยิ่งไปกว่านั้น เมดูซ่าต้อมีงูอยู่บนหัวสิถ้างั้น…นั่นมันอะไรกัน?”
ฟางเจิ้งจือ ยังคงครุ่นคิดอยู่กับสิ่งนั้น … ไอลีนโนเวล
เทียนซิงพุ่งเข้ามาอีกครั้ง
เป้าหมายของเขาคือฟาง เจิ้งจือ มาตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม ฉือ กูเหยียน หยุดเขาไว้จากด้านหลัง
”ทำไมถึงเกลียดข้านัก?”ถ้าฟาง เจิ้งจือ มีชีวิตรอดไปได้ในวันนี้ ก็คงดี
เขาจะดื่มฉลองทั้งวันให้ตายกันไปข้างหนึ่งแต่นั่นจะเกิดขึ้นเมื่อเขารอดเท่านั้น…
เขาหนีไม่ได้แล้ว
เทียนซิงอยู่ใกล้เกินไปเขาจะวิ่งไปได้ไกลสักแค่ไหน?
ฟางเจิ้งจือ ไม่จำเป็นต้องคิด เขารู้ว่าโอกาสเดียวที่จะรอดคือรับการโจมตีของเทียนซิง แต่เขาไม่สามารถรับมันได้อีกแล้ว
ถ้างั้น…
ตอนที่เทียนซิงปล่อยหมัดออกมา…
ฟางเจิ้งจือ จะใช้พลังทั้งหมดที่เหลืออยู่
”ทลายสวรรค์!”
ในตอนนั้นเองแสงสีฟ้าทั้งหกส่องสว่างขึ้นเหนือท้องฟ้าร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ที่ยืนอยู่ด้านหน้าเทียนซิงค่อยจางหายไป　　”เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!”ตาของเทียนซิงจ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจากนั้นก็มีบางอย่างปรากฎขึ้นด้านหลังของเขา และห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้
นับรบในเกราะสีดำและมีเส้นผมสีแดง
มันเป็นวิชาแรกที่เทียนซิงใช้กับฟาง เจิ้งจือ ความโกรธของสวรรค์
”ตูม!”
”ตูม!”
และหลังจากการระเบิดครั้งที่สอง…
ไม่ต้องคิดถึงครั้งที่สามเลยเพราะหมัดของเทียนซิง ทำลายแสงสีฟ้าจนหมดสิ้น และพุ่งเข้าหา ฟาง เจิ้งจือ
นี่คือความต่างของพลังระหว่างพวกเขา
และด้วยอาการบาดเจ็บของฟาง เจิ้งจือ เขาไม่มีทางหลบพ้น
เขาจ้องมองหมัดยักษ์ที่พุ่งเข้าหาตัวครั้งนี้มันคงกระแทกที่อกด้านซ้ายของเขา　　”แกรก!”เสียงปะทะกับโลหะดังขึ้น
ร่างของฟาง เจิ้งจือ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ในขณะเดียวกัน เลือดก็พุ่งออกจากปากของเขา กระเซ็นโดนใบหน้าและย้อมสีชุดของเทียนซิงจนกลายเป็นสีแดงเลือด
ราวกับฝนเลือดที่ตกจากฟ้า
สีหน้าของเทียนซิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
”กระจกป้องกันใจ?!”เห็นได้ชัดว่าเทียนซิงไม่สนใจเลือดที่สาดกระเซ็นแม้แต่น้อยความคิดเดียวของเขาคือชกไปที่โลหะบางอย่าง
ความจริงแล้วเขาเคยชกไปที่อกด้านซ้ายของฟาง เจิ้งจือ แล้วครั้งหนึ่ง
แต่ว่า…
เขาไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าฟาง เจิ้งจือ ในทันที
ดังนั้นกระจกป้องกันใจจึงไม่ส่งผลออกมา
แต่คราวนี้มันแตกต่างกันหมัดอันทรงพลังของเขาปะทะเข้ากับหน้าอกของ ฟาง เจิ้งจือ เขาจึงสัมผัสได้ถึงความแข็งของหน้าอก ฟาง เจิ้งจือ　　เขาต้องการที่จะชกอีกครั้ง
แต่มันก็สายเกินไปฉือ กูเหยียน มาถึงแล้ว ดาบของนางพุ่งตรงมาที่หน้าอกเขา
สีหน้าของเทียนซิงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
”ฉือ กูเหยียน ข้าบอกแล้ว เจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้!” เทียนซิง ไม่คิดจะเมตตา เขาไม่สามารถแสงความเมตตาออกมาได้
เขาเหวี่ยงหมัดไปหาดาบที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา
แต่ทันใดนั้นดาบกลับเปลี่ยนทิศทางและเงาดำได้ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้า
เงายักษ์มหึมา
มันเกิดขึ้นเร็วมาก
แต่เทียนซิงก็ยังคงเป็นเทียนซิง
ผู้นำแห่งเก้าขุนเขาโรงไฟฟ้าในภูมิภาคศักดิ์สิทธิ์
โดยไม่ลังเล
เมื่อเงาดำปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าหมัดอีกข้างก็พุ่งไปหามันอย่างไม่ลังเล
”ท่านถูกหลอกแล้ว!”เสียงของ ฉือ กูเหยียน ดังขึ้น
ทันใดนั้นเทียนซิงสัมผัสได้ว่าร่างมนุษย์ได้มาปรากฎบนหัวเขาในเวลาเดียวกันเงาดำยักษ์กลับไปปรากฎด้านล่างเขาแทน
”สลับที่อย่างฉับพลันงั้นรึ?!”เทียนซิง ตัวแข็งค้าง แต่หมัดของเขาเคลื่อนไหวไปแล้ว มันปะทะเข้ากับหลังของ ฉือ กูเหยียน
……………………………………..