Gate of God – ตอนที่ 737 ข้าจะรอต่อไป

”เมื่อไรเจ้าจะเลิกฝันกลางวันสักทีนะ…ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ ออกไปจากที่นี่? แม้ว่าเจ้าจะต้องการเช่นนั้น มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี? เจ้าเอาแต่พึมพัมพึมพัมว่าจะมีคนมารับเจ้า เจ้าไม่รู้ชื่อเสียง คุกน้ำแข็งของหอคอยหลินหยุนงั้นหรือ?” สายตาของนางมองไปที่ข้อเท้าเปล่าของ ปิง หยาง ที่ถูกล็อคไว้ด้วยโซ่อยู่
และทันใดนั้นเอง…
ร่างสีม่วงก็ค่อยๆร่อนลงมาจากท้องฟ้าจากนั้นนางก็เดินมาที่ข้างทะเลสาบเงียบๆ
”ท่านหญิงคังเยว่!” เหล่าหญิงสาวรอบๆต่างคุกเข่าทันทีเมื่อเห็นนาง
”พวกเจ้าลุกขึ้นได้”คัง เยว่ โบกมือให้พวกนางลุกขึ้น
”รับทราบ!”
สำหรับปิง หยาง… 　　นางยืนอยู่ข้างๆบ่อน้ำไม่เคลื่อนไหวดวงตาของนางไม่ได้เผยความแปลกใจออกมาแต่อย่างใด ราวกับว่านางไม่ได้เห็น คัง เยว่ อยู่ในสายตา
ท่าทีของคัง เยว่ เองก็ไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน นางค่อยๆนั่งลงที่ริมทะเลสาบ
”เจ้ายังจะรอต่อไปงั้นหรือ?”จากนั้นสักพัก คัง เยว่ ก็ถามขึ้นมา
”ใช่”ปิงหยางพยักหน้าโดยไม่ลังเล
”ถ้าเขาตายไปแล้วล่ะ?”คัง เยว่ ดูเหมือนจะไม่สนใจท่าทีของ ปิง หยาง นางยังคงถามต่อ
”เป็นไปไม่ได้!” ท่าทีของ ปิง หยาง เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความดื้อรั้น
”เจ้าคิดว่าข้าโกหกเจ้างั้นหรือ?”คัง เยว่ ยังคงพูดต่อ
ปิงหยาง ไม่ตอบกลับ นางยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมของนาง นางกัดริมฝีปากแน่นโดยไม่ส่งเสียงอะไรออกมา น้ำที่เกาะบนชายกระโปรงของนางยังคงหยดลงมาเรื่อยๆ
”ข้าสามารถให้ทางเลือกอื่นกับเจ้าได้!”คัง เยว่ พูดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากหยุดไปสักพัก “หนึ่ง เจ้าสามารถเลือกที่จะรออยู่ในคุกน้ำแข็งนี้ได้ หรือสองเจ้าเลือกทำสัญญาแห่งความตายกับข้า เจ้าต้องละทิ้งตัวตนของเจ้าไป เจ้าต้องลืมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้ากับหอคอยหลิงหยุน ต่อให้เจ้าตาย ก็ไม่มีคนที่ชื่อ ปิง หยาง อีก แล้วข้าจะพาเจ้าไปในหอคอยหลิงหยุน!”
”ข้าต้องการที่จะรอต่อไป!”ปิง หยาง ส่ายหัว
”ปิงหยาง ต่อให้ ฟาง เจิ้งจือ จะยังไม่ตาย เจ้าคิดว่าเขาจะสามารถพาเจ้าออกจากที่นี่ไปได้งั้นรึ? เลิกฝันสักที มีแค่ข้าเท่านั้นที่จะพาเจ้าออกไปจากที่นี่ได้!” สายตาของ คัง เยว่ กลายเป็นแหลมคมทันที
”เขายังไม่ตายข้าเชื่อว่าเขายังไม่ตายแน่นอน และข้าเชื่อว่าเขาต้องพาข้าออกไปจากที่นี่ได้แน่นอน ข้ายังคงต้องการเป็น ปิง หยาง คนเดิมตอนที่ได้เข้าไปในหอคอยหลิงหยุน ข้าไม่ต้องการเปลี่ยนเป็นชื่อไหนทั้งนั้น!” ปิง หยาง มองไปที่ คัง เยว่ สายตาของนางยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
”เหอะ…”รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนริมฝีปากของ คัง เยว่ ก่อนที่นางจะส่ายหน้า “งั้นข้าจะบอกอะไรให้เจ้ารู้เอาไว้ แม้เขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้เขาเป็นศัตรูกับเก้าขุนเขาและศาลาหยินหยาง มันก็เท่ากับเขาได้ตายไปแล้วครึ่งตัว มันจะคุมงั้นหรือที่ต้องรอคนแบบนี้?”
”คุ้ม!”ปิง หยาง ตอบอีกครั้ง ไอรีนโนเวล
”ทำไมเจ้าต้องใช้ตัวตนของปิง หยาง เพื่อเข้าสู่ หอคอยหลิงหยุน? พูดตามตรง ก่อนหน้านี้ข้าต้องการให้เจ้าตาย แต่เจ้ากลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะไข่มุกอสูรได้เปลี่ยนแปลงชะตาของเจ้า มันเป็นสิ่งที่ข้าไม่ได้คาดคิดเอาไว้ เจ้าสามารถเปลี่ยนชื่อและได้รับตัวตนใหม่ เจ้าจะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ มันไม่ดีงั้นรึ?” คัง เยว่ ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ　　”หลังจากข้าเปลี่ยนแปลงตัวตนเขาจะยังจำข้าได้งั้นหรือ?” ปิง หยาง ถามออกมา
”แน่นอนว่าไม่แม้เขาจะจำเจ้าได้ แต่เจ้าก็ห้ามยอมรับ เพราะเจ้าได้ทำสัญญาแห่งความตายกับข้าแล้ว!” คัง เยว่ ส่ายหัว
”แต่ข้ายังต้องการที่จะเป็นปิง หยาง ต่อไป” ปิง หยาง มองไปที่ขอบฟ้า ราวกับนางกำลังคิดบางอย่างอยู่
”ในเมื่อเจ้ายังต้องการเช่นนั้นทำไมพวกเราไม่มาพนันกันล่ะ?” เมื่อเห็นเช่นนั้นน้ำเสียงของ คัง เยว่ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
”ว่ามา”ปิง หยาง มองไปที่ คัง เยว่
”งั้นมาพนันกันภายในสามเดือน ถ้า ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถมาช่วยเจ้าไปจากที่นี่ได้ ถือว่าเจ้าแพ้ เจ้าต้องทำสัญญาแห่งความตายกับข้าและเข้าไปในหอคอยหลิงหลยุน แต่หลังจากนั้นจะไม่มีคนชื่อ ปิง หยาง อีกต่อไป! คัง เยว่
”ถ้าเจ้าแพ้?”ปิง หยาง ถามอีกครั้ง　　”หืมมันคงเป็นไปไม่ได้ ถ้าเขากล้าเหยียบเท้ามาที่นี่ ข้าจะฆ่าเขาทันที!” คัง เยว่ หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “แน่นอน ถ้าข้าแพ้ ก็ตามใจเจ้าเลย เจ้าจะทำอะไรก็ได้!”
”ได้ข้าอยากให้เจ้าคุกเข่าต่อหน้าเหมืองหลวงอาณาจักรเซี่ยเป็นเวลาสามวันสามคืน เพื่อเป็นการไถ่โทษให้กับสิ่งที่ท่านพูดกับท่านพ่อข้าและคนของอาณาจักรเซี่ย!” ปิง หยาง ยิ้มออกมาด้วยความมั่นใจ
”หึเพ้อเจ้อ ถ้าเจ้าชนะ ข้ายอมคุกเข่าสิบวันสิบคืนเลย!” เมื่อพูดจบประโยค คัง เยว่ ก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะหายตัวไปในทันที
ปิงหยาง ยังคงยืนที่เดิมเงียบๆ ท่าทีของนางยังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจ ดวงตาของนางยังคงเปล่งประกาย
ก่อนที่นางจะพุ่งลงไปในทะเลสาบอันหนาวเย็นอีกครั้ง
…
ในสวรรค์ชั้นที่เจ็ด　　ฟางเจิ้งจือ ยังคงจ้องไปที่รูปภาพที่ลอยอยู่ด้านหน้า ขณะที่เขามองไปที่รูปมังกร คิ้วของเขาขมวดแน่น
เขายังไม่สามารถเข้าใจได้
มังกรหนึ่งตัว…..
ภาพเซียนสวรรค์ภาพนี้หมายความว่าอะไรกัน?มันไม่สมเหตุสมผลเลย เป็นไปได้ไหมว่าที่นี่มันจะแตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้
ภาพแห่งการสรรค์สร้างควรเป็นภาพที่ไม่มีความแน่นอนไม่ใช่หรือ?แต่มังกรตัวหนึ่ง? เป็นไปได้ยังไง? ในชั้นแรกๆ ทุกชั้นไม่มีภาพอะไรที่เป็นลักษณะชัดเจนแบบนี้
มันเรื่องตลกอะไรกัน?
เป็นไปได้ไหมไหมว่าแนวคิดที่เขาคิดมาทั้งมดมันผิด?
ไม่ไม่ใช่!
ฉือกูเหยียน สามารถไขปริศนาภาพนี้ได้หลังจากฟังคำเตือนของเขา ถ้านางสามารถทำได้ แล้วทำไมเขาที่เป็นคนเตือนนางจะทำไม่ได้?
มังกร…..
มันหมายความว่าอะไรกัน?
ฟางเจิ้งจือ จ้องมองไปที่มังกรสีทอง มองทุกการเคลื่อนไหวของมัน ถ้าบอกว่าเขาไม่กังวลเลย มันคงเป็นเรื่องโกหก
เพราะฉือ กูเหยียน ได้เข้าไปยังสวรรค์ชั้นที่แปดแล้ว
เมื่อฉือ กูเหยียน สามารถเข้าสู่ชั้นเก้าได้ เขาจะกลายเป็นคนรับใช้นางในทันที
……………………………………..