Gate of God – ตอนที่ 784 ไม่มีทาง

ตอนที่ 784 ไม่มีทาง

  ฟางเจิ้งจือ รู้สึกว่าท่าทีของหญิงคนนั้นเปลี่ยนไป

  เห็นได้ชัด…

  หญิงสาวทุกคนต่างให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของพวกนาง

  อย่างเช่นหยุน ชิงวู ไม่ว่าวิธีไหนก็ทำอะไรนางไม่ได้ จนได้ใช้วิธีแบบนี้

  หญิงสาวตรงหน้าเขาเองก็เช่นกันนางไม่กลัวความตาย แต่กังวลเรื่องความบริสุทธิ์อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นแบบนั้น นางก็คงไม่ได้เป็นนางสนมของเต๋าฮุน

  มันทำให้ฟาง เจิ้งจือ สงสัย

  ฟางเจิ้งจือ สงสัยในตัวตนที่แท้จริงของหญิงสาวคนนี้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้สนใจมากนัก สิ่งที่เขาต้องการคือข้อมูลของเต๋าฮุนเท่านั้น

   แค่เจ้าตอบข้ามาสักสองสามข้อข้าสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายเจ้า ตกลงไหม? ฟาง เจิ้งจือ เอ่ยถาม ในขณะที่เขายังคงเคี้ยวยาที่พึ่งหยิบมาจากชั้นล่างเล่นอยู่ในปาก

  เม็ดยาทั้งกรอบและอร่อย!

   ถ้าเจ้าตกลงก็พยักหน้าออกมา ยังไงก็ตาม ถ้าเจ้าส่งเสียง ข้าจะฆ่าเจ้าซะ จากนั้น ข้าจะเปลือยศพของเจ้าแล้วไปแขวนไว้ที่หน้าประตู! ฟาง เจิ้งจือ พูดในขณะที่มองไปยังหญิงสาว

  นางเงียบไป

  นางมองไปรอบๆและหันมอง เหยียน ซิว ที่นอนอยู่บนเตียง จากนั้น นางก็มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ จนในที่สุดก็พยักหน้าออกมา

   บอกมาเต๋าฮุน จะกลับมาเมื่อไหร่? เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เห็นแบบนั้น เขาก็คลายผ้าออกจากปากของนาง

   … ริมฝีปากของนางสั่นไหวเล็กน้อย นางอยากพูดอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม แววตาของนางเต็มไปด้วยความสงสัย และค่อยๆลดหัวลงในที่สุด

   จะไม่พูดอะไรใช่ไหม?งั้น ข้าจะฆ่าเจ้า! ฟาง เจิ้งจือ เริ่มเคลื่อนไหว

   ก่อนที่อาจารย์จะออกไปเขาบอกข้าว่าจะไปคุยเรื่องสำคัญกับผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสี่แห่งเก้าขุนเขา ดังนั้น เขาจะไม่กลับมาที่นี่สักพัก  ในที่สุดหญิงคนนั้นก็พูดออกมา ในตอนที่มือของ ฟาง เจิ้งจือ เข้าใกล้หน้าของนาง

  เสียงของนางดังชัดเจนเสียงของนางสดใสราวกับเหล่าภูติ ประโยคนี้ทำ ฟาง เจิ้งจือ แปลกใจมาก

  มือของฟาง เจิ้งจือ หยุดตรงหน้าของหญิงสาวในขณะที่คิดถึงสิ่งที่นางพูด มีเรื่องสำคัญกับผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสี่ของเก้าขุนเขา?

  เรื่องจริงหรือโกหก?

  น้ำเสียงของนางไม่ได้สั่นแม้แต่น้อยดังนั้นมันคงเป็นเรื่องจริง อย่างไรก็ตาม ถ้านั่นเป็นความจริง ทำไมนางไม่พูดตั้งแต่แรก?

  นี่มันแปลก!

   เจ้าหลอกข้าใช่ไหม่? ฟางเจิ้งจือ ขยับและชี้ดาบไร้ร่องรอยไปที่คอของนาง แสงสีม่วงส่องสว่างอยู่บนตัวดาบ

   อย่าฆ่าข้าข้าไม่ได้โกหก…  สีหน้าของหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อมองที่ดาบไร้ร่องรอยของ ฟาง เจิ้งจือ นางค่อยๆถอยไปด้านหลังด้วยความกลัว

   เจ้าชื่ออะไร? 

   ข้า…ข้าชื่อ …ซิน มู่ …  เสียงของหญิงสาวนุ่มนวลและสั่นไหว

   ซินมู่?  ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเล็กน้อย ท่าทีของหญิงสาวคนนี้เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป

  การแสดงแบบนี้…

  เห็นได้ชัดเลยว่านางยังเป็นมือใหม่

  นอกจากนี้ยิ่งแกล้งใสซื่อมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เขาสงสัยมากกว่าเดิม  เจ้าคิดจริงๆหรือว่า ข้าจะเชื่อว่าเจ้าเป็นเพียงคนรับใช้ธรรมดา? ถ้าข้าเดาถูก ซิน มู่ ไม่ใช่ชื่อจริงๆของเจ้าศาลานี้ไม่ใช่ที่อยู่ของเต๋าฮุน พูดถูกไหม? 

  ในขณะที่ฟาง เจิ้งจือ พูด เขาจ้องไปที่หญิงอย่างตั้งใจ เมื่อเขาพูดจบความหวาดกลัวในดวงตาของหญิงสาวคนนั้นก็หายไป

  การเปลี่ยนแปลงนี้ราวกับพายุทรายที่จู่ๆก็สงบลงในทันทีทั้งประหลาดและน่ากลัว

  จากนั้นหญิงสาวก็บิดร่างกายคลายเมื่อยและมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยรอยยิ้มหยาบๆและพูดขึ้น  เจ้าพูดถูก อาจารย์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เรื่องชื่อของข้า มันไม่สำคัญสำหรับเจ้า พูดถูกไหม ฟาง เจิ้งจือ? 

  ทันทีที่นางพูดจบนางก็ขยับไปข้างหน้าแล้ววางคอลงบนดาบไร้ร่องรอยของ ฟาง เจิ้งจือ

  นั่นทำให้เขาถอนดาบออกในทันที

  นางอยากตายงั้นหรือ?

  มันไม่ง่ายเลย!   ฟางเจิ้งจือ ไม่ต้องการฆ่านาง ถ้านางไม่อยากบอกชื่อ เขาก็จะไม่ถาม

  นี่เป็นเพราะนางตอบคำถามฟาง เจิ้งจือ ไปล้ว หนึ่งข้อ และนางพูดว่า ‘อาจารย์’

  นางเป็นศิษย์ของศาลาหยินหยาง!

  นอกจากนี้นางไม่ใช่ศิษย์ธรรมดา อย่างน้อยที่สุด ถ้านางเป็นเจ้าของที่นี่ นางคงเป็นศิษย์ระดับสูงหรือไม่ก็ผู้อาวุโส

  สำหรับหญิงสาวที่ตกอยู่ในมือเขา…

  สำหรับฟาง เจิ้งจือ นางเป็นสิ่งที่ใช้ต่อรองอย่างไม่ต้องสงสัย เขาต้องแน่ใจว่านางจะไม่ฆ่าตัวตาย

   หญิงสาวที่ฉลาดเกินไปไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ  ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้น จากนั้น เขายังคงเคี้ยวยาต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมาจริงๆทุกคนต่างคิดว่าเจ้าจะมาเพื่อแก้แค้น อย่างไรก็ตาม …เห็นได้ชัดว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริง! หญิงสาวคนนั้นไม่ได้คิดมากที่ ฟาง เจิ้งจือ เคี้ยวยานางไม่ได้พยายามฆ่าตัวตายอีกต่อไป กลับกันนางพยายามบิดตัวผ่อนคลายและนั่งคุกเข่าแทน

   แล้วเจ้าคิดว่าข้ามาที่นี่ทำไม? ฟางเจิ้งจือ ถามขึ้นมา

   เพื่อช่วยใครสักคนเป้าหมายที่แท้จริงของเจ้าคือพบอาจารย์เพื่อช่วย เหยียน ซิว! หญิงนั้นตอบในขณะที่มอง เหยียน ซิว

   ฮ่าฮ่าทำไมไม่บอกตรงๆล่ะว่าข้าจะใช้ประโยชน์อะไรจากเขาได้บ้าง? ฟาง เจิ้งจือ ไม่ปฏิเสธ แต่เขาไม่ยอมรับมันเห็นได้ชัดเลยว่าหญิงสาวตรงหน้าเขาฉลาดมาก

  ดังนั้นเมื่อพูดกับคนฉลาด ก็ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมกันอีกต่อไป เขาจะพูดตรงๆ

   ข้ากลัวว่าเจ้าคงจะผิดหวังเจ้าจะไม่ได้อะไรทั้งนั้นนอกจากนี้ อาจารย์จะไม่ช่วย เหยียน ซิว  หญิงสาวพูดออกมาด้วยความเย็นชา

   งั้นเจ้าก็ไม่จำเป็นต่อข้าแล้วสิ? ข้าสามารถเล่นกับเจ้าสักสองสามวันแล้วฆ่าเจ้าซะ ? ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเยาะออกมา

   ไร้ยางอาย! หญิงสาวคนนั้นสบถออกมาอย่างไรก็ตาม นางเงียบลง ไม่นานก็เงยหน้ามอง ฟาง เจิ้งจือ และพูดขึ้น  ข้าบอกได้ว่าอาจารย์อยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้เขาน่าจะพักอยู่ เจ้าต้องหาด้วยตัวเอง 

   ข้าจะเชื่อเจ้าได้ยังไง? ฟางเจิ้งจือ ถามกลับ

   เจ้าไม่มีทางเลือกแต่เจ้าต้องเชื่อข้าเหยียน ซิว ไม่เหลือเวลาอีกแล้ว เพื่อช่วยเขา เจ้าต้องใช้เวลาอย่างน้อยเจ็ดวันในการหลอมยาขึ้น 

   จากที่พูดข้ามีเวลาสามวันให้เสียไปได้ ใช่ไหม? ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกประหลาดใจ หญิงสาวคนนี้บอกได้ว่า เหยียน ซิว เหลือเวลาเท่าไหร่ พูดเรื่องที่เขาอยู่ในศาลาหยินหยาง

   ใช่! หญิงสาวหยักหน้า

   งั้นเจ้าสามารถทนต่อการถูกทรมานได้ถึงสามวันไหม? 

   หมายความว่าอะไร? 

   ข้าได้ยินว่าหลังจากจิตใจของคนถูกทำลาย พวกเขาจะอ่อนแอและยอมแพ้ไป ดังนั้น ข้าคิดว่าจะทรมานเจ้าสักสามวันแล้วค่อยถามเจ้าใหม่ ในตอนนั้น ความคิดของเจ้าคงต่างไปจากตอนนี้แล้ว? ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มเยาะออกมา

   เจ้า… ท่าทีของหญิงสาวเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

   เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือ ขยับตัวไปด้านหน้า

   เจ้า…   หญิงสาวคนนั้นกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หยุดไปก่อน จากนั้นนางก็กัดฟันแน่นและพูดว่า  เจ้าต้องการอะไรจากข้า? บอกมา! 

   บอกมาข้าจะทำให้เต๋าฮุน ช่วย เหยียนซิว ได้ยังไง? 

   เป็นไปไม่ได้!เจ้าเลือกทางผิดตั้งแต่เดินทางมาที่ศาลาหยินหยางแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรท่านอาจารย์ก็ไม่มีทางช่วย เหยียน ซิว นอกจากนี้ด้วยระดับพลังของเจ้าในตอนนี้เจ้าควรใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อบ่มเพาะพลัง เจ้าอาจจจะมีโอกาสที่จะเป็นเซียน… 

   แล้วเหยียน ซิว ล่ะจะเป็นยังไง?   ฟาง เจิ้งจือ ขัดจังหวะ

  หญิงสาวไม่ได้พูดอะไรนางไม่คัดค้านสิ่งที่เขาพูด นางมองไปที่ เหยียน ซิว ราวกับกำลังคิดบางอย่างอยู่

   ไม่มีศัตรูตลอดการถ้ามีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ข้าพูดถูกไหม?  ฟาง เจิ้งจือ กล่าวขึ้นมาทำลายความเงียบ

   อืมแต่สิ่งที่สำคัญก็คือความไว้วางใจ ศาลาหยินหยางไม่มีทางเชื่อใจเจ้า ดังนั้นพวกเราไม่มีทางร่วมมือกันได้ 

   แล้วถ้าเต๋าฮุน ไม่มีทางเลือกนอกจากช่วยเหลือ เหยียน ซิว ล่ะ? 

   เพ้อเจ้อทำไมเขาต้องทำแบบนั้นด้วย? นางพูดออกมาอย่างดูถูก

   แล้วถ้าแลกเปลี่ยนด้วยชีวิตเจ้าล่ะ? 

   ไร้เดียงสาท่านอาจารย์ไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน ชีวิตของข้าไม่ได้มีค่ากับศาลาหยินหยางขนาดนั้น!  นางพูดพร้อมหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

   แล้วถ้าเป็นสวนสมุนไพรสักสิบไร่ล่ะ? 

   ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรสวนสมุนไพรข้าจะฆ่าเจ้าซะ! 

   งั้นหรือ?แย่จัง ข้าทำไปแล้ว! 

   ไร้ยางอายที่สุด!ข้าไม่มีทางยอมปล่อยให้เจ้าเอาข้าไปต่อรองแน่ ยิ่งไปกว่านั้นยังไง เหยียน ซิว ก็ต้องตายอยู่ดี! 

   ทำไม? 

   เจ้าคิดรึว่าท่านอาจารย์จะปฏิบัติตามคำสัญญา? 

   ถ้าไม่รักษาสัญญาข้าก็แค่ฆ่าทุกคนในศาลาหยินหยาง!  จิตสังหารแผ่ออกมาจากร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ในทันที   ก่อนอื่นเจ้าต้องมีความสามารถพอที่จะทำแบบนั้นได้ก่อน!  หญิงสาวตอบกลับอย่างไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย

  ฟางเจิ้งจือ กำหมัดแน่น เขารู้ว่าสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าพูดนั้นเป็นความจริง เขาไม่มีทางมั่นใจเลยว่าเต๋าฮุนจะช่วย เหยียน ซิว จริงๆหรือเปล่า

  ต้องมีอะไรสักอย่าง…

  เขาต้องทำให้เต๋าฮุนช่วยเหยียน ซิว ด้วยความจริงใจ ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมาก

  ต่อรอง,ข้อแลกเปลี่ยน, ข่มขู่…

  วิธีการทั้งหมดเหล่านี้ไร้ประโยชน์

  ตอนแรกเขาคิดว่าสมุนไพรจำนวนมากที่เขาเอามาอาจจะมีประโยชน์หรือการที่เขาจับนางมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาแม้แต่น้อย

  ความเป็นจริงก่อนที่เขาจะเดินทางมาที่นี่เขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันไร้ประโยชน์อย่างไรก็ตามเขาต้องมา เขาไม่สามารถทนดู เหยียน ซิว ตายไปแบบนี้ได้   ก่อนอื่นเจ้าต้องมีความสามารถพอที่จะทำแบบนั้นได้ก่อน!  หญิงสาวตอบกลับอย่างไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย

  ฟางเจิ้งจือ กำหมัดแน่น เขารู้ว่าสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าพูดนั้นเป็นความจริง เขาไม่มีทางมั่นใจเลยว่าเต๋าฮุนจะช่วย เหยียน ซิว จริงๆหรือเปล่า

  ต้องมีอะไรสักอย่าง…

  เขาต้องทำให้เต๋าฮุนช่วยเหยียน ซิว ด้วยความจริงใจ ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมาก

  ต่อรอง,ข้อแลกเปลี่ยน, ข่มขู่…

  วิธีการทั้งหมดเหล่านี้ไร้ประโยชน์

  ตอนแรกเขาคิดว่าสมุนไพรจำนวนมากที่เขาเอามาอาจจะมีประโยชน์หรือการที่เขาจับนางมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาแม้แต่น้อย

  ความเป็นจริงก่อนที่เขาจะเดินทางมาที่นี่เขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันไร้ประโยชน์อย่างไรก็ตามเขาต้องมา เขาไม่สามารถทนดู เหยียน ซิว ตายไปแบบนี้ได้   ครืน! 

  ตาของฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างสมบูรณ์ ก่อนที่ละแสงสีแดงจะแผ่กระจายจากใต้เท้าเขาเช่นกัน

  เต๋าอาชูร่า!

  มันเป็นเต๋าที่เหมาะกับการต่อสู้ที่สุดในเต๋าแห่งการจุติทั้งหกซึ่งเป็นเต๋าที่ทำให้ เหยียน ซิว มีสภาพแบบนี้เช่นกัน

  ฟางเจิ้งจือ กำหมัดแน่น โซ่ห้าสีปรากฎขึ้นมาจากพื้นเช่นกัน…เต๋าชีวิต

  ลูกไฟสีดำค่อยๆลอยขึ้นมา…เต๋านรกบนหน้าผากของเขาก็มีแสงสีขาวบางๆส่องออกมาดวงตา

  บรรยากาศกดดันลอยไปทั่วห้อง

  เมื่อนางเห็นภาพนี้ดวงตาของนางหรี่ลงทันทีนางมองไปที่แสงสีแดง ลูกไฟสีดำ แสงที่ส่องออกมาจากดวงตา และโซ่ห้าเส้นที่หมุนวนอยู่รอบตัวเขา  เจ้าเชี่ยวชาญเต๋าแห่งการจุติสี่ชนิดจริงๆ!     ถ้าเจ้าไม่สามารถชวยเหยียน ซิว ได้ เจาจะทำอะไรต่อไป?  หญิงสาวยังคงถามออกมา แม้ในห้องจะน่ากลัวขนาดไหน แต่น้ำเสียงของนางยังคงเยือกเย็นอย่างน่ากลัว

   ตาย!ทุกคนที่ทำให้ เหยียน ซิว เป็นแบบนี้ ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการลอบโจมตีที่ตีนเขาศาลาศักดิ์สิทธิ์ต้องตาย! ทั้งศาลาหยินหยางและเก้าขุนเขาต้องรับผิดชอบ!!  ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่หญิงสาวตรงหน้า ดวงตาของเขากระจ่างใสแสงหมุนวนในตาเขาไม่หยุด

  มันเป็นกงล้อแห่งการจุติอยู่ที่มือของเขา

  ดวงไฟสี่สีที่แตกต่างกัน

  น้ำเงิน,เขียว, แดง, ดำ

  ฉากอันแปลกประหลาดเกิดขึ้นข้างหน้าหญิงสาวคนนี้อย่างชัดเจนมันเป็นความใกล้ชิดกับเธอปล่อยให้เธอเห็นทุกอย่างในสายตาของเขา

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท