ในที่สุดหม้อทั้งเก้าใบก็หายเข้าไปในตัวเขา
ในตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ หันมองไปด้านหลัง ผู้อาวุโสหยิงยู่มองมาที่เขา จะถึงตาท่านแล้วผู้อาวุโสสูงสุด
สีหน้าของศิษย์เก้าขุนเขาเปลี่ยนไปทันทีพวกเขารู้สึกหวาดกลัวมาก
แม้แต่ใบหน้าของหยิงยู่ก็ซีดขาวเขากำหมัดแน่นเพราะเขาไม่เคยรู้สึกอัปยศแบบนี้มาก่อน
ด้วยตัวเขาและศิษย์ระดับเซียนจำนวนหนึ่งแต่กลับไม่สามารถทำอะไร ฟาง เจิ้งจือ ได้แม้แต่น้อย
เขาไม่อยากจะเชื่ออย่างไรก็ตามความจริงยังคงเป็นเช่นนั้น เขาไม่รู้ว่าศาลาหยินหยางสามารถจับตัว ฟาง เจิ้งจือ ได้ยังไง
ข้าสามารถทำอะไรได้บ้าง? ถ้าเขาปล่อยฟาง เจิ้งจือ จากไปพร้อมกับหม้อหลอมทั้งเก้า จะมีใครในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เคารพเก้าขุนเขาอีก?
เป็นไปไม่ได้!
เขาต้องจับฟาง เจิ้งจือ
ขณะที่เขาคิดทันใดนั้นเงาหนึ่งได้ปรากฎขึ้นด้านหน้าเขาแล้ว
เร็วมาก! หยิงยู่แทบยังไม่ได้หายใจ เขาไม่เคยคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะเลือกที่จะลงมือทันที
ตามความคิดของเขาฟาง เจิ้งจือ ควรเลือกที่จะป้องกันและถ่วงเวลาเพื่อหาโอกาสฝ่าวงล้อมหนีไป
แต่ฟาง เจิ้งจือ เลือกที่จะโจมตีแทน
กำปั้นขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาหาเขา
หยิงยู่ไม่มีทางพลาดเหมือนครั้งที่แล้วเขาเตรียมหลบทันที
แต่ตอนที่เขาถอยหลังไปครึ่งก้าวเขาพบว่าร่างกายของเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เต๋าสวรรค์?! หยิงยู่กัดฟันแน่นเลือดหยดออกมาจากปากของเขาก่อนจะตะโกนออกมา เสาผลึก!
แกร้ง! เสียงแก้วแตกดังขึ้น จากนั้นเสาสีเงินก็ปรากฎที่ด้านหน้าของหยิงยู่
อย่างไรก็ตามมันกลับถูกทำลายในทันที
ในเวลาเดียวกันร่างของหยิงยู่ก็ล้มลงกับพื้นจากนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้น
พื้นแยกออกจากกัน
ใบหน้าของหยิงยู่ซีดขาวเห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บหนัก
ท่านหยิงยู่! เมื่อผู้อาวุโสของเก้าขุนเขาเห็นฉากตรงหน้า พวกเขารีบพุ่งเข้าไปหาหยิงยู่ทันที
ผู้นำของเก้าขุนเขาถูกฟาง เจิ้งจือ จัดการอย่างง่ายดาย มันเป็นสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงแม้แต่น้อย
พวกเจ้ารีบช่วยข้าเร็วเข้า! หยิงยู่มองเงาสีดำด้านบน ร่างกายของเขาสั่นไม่หยุด ท่านหยิงยู่ใจเย็นก่อน!เหล่าศิษย์จงฟัง จัดทัพรูปแบบป้องกัน! เมื่อผู้อาวุโสทั้งสี่มองหน้ากันและออกคำสั่งทันที
รับทราบ! ศิษย์เก้าขุนเขาเข้าใจผู้อาวุโสทั้งสี่ดี พวกเขารีบจัดทัพทันที
พวกเขายืนเป็นแบบแผนที่แปลกมากศิษย์ยืนต่อกันเป็นวงกลมหนึ่งวงด้านนอก และด้านในยืนต่อกันเป็นทรงสี่เหลี่ยม
โดยมีหยิงยู่และผู้อาวุโสทั้งสี่ยืนอยู่ตรงกลาง
ฟางเจิ้งจือ กระพริบตา
เขารู้สึกอายเล็กน้อยเขาอ่านหนังสือมาเป็นพันๆเล่มแต่ไม่เคยเห็นการจัดทัพแบบตรงหน้าแม้แต่น้อย
มันเป็นค่ายกลแบบพิเศษของเก้าขุนเขางั้นหรือ? ดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้แล้วยังไงล่ะ?เขาไม่จำเป็นต้องหาคำตอบ ร่างขนาดใหญ่ของเขากระทืบใส่กองทัพด้านหน้าทันที
หากร่างกายของเขาใหญ่พอและกำปั้นของเขาแข็งแรงพอเขาแค่ค่ายกลตรงหน้าจะป้องกันเขาได้?
สำหรับเรื่องที่มันจะเป็นการใช้พลังอย่างสูญเปล่าหรือไม่นั้น…
ฟางเจิ้งจือ ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้น
พลังของเขานั้นมีมากมายใน 49 วันเพลิงพันปีในร่างกายของเขาได้ถูกดูดซึมอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้สมุนไพรที่เขาขโมยมาสิบไร่ได้ถูกหลอมเป็นยาอย่างแท้จริง มันหมายความว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นมาก
ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องกลัวการต่อสู้แม้แต่น้อย
โดยไม่พูดอะไรหมัดของเขาชกลงไปที่พื้นทันที
ตูม!
พื้นดินแตกเป็นเสี่ยงๆเศษซากหินอันแหลมคมลอยปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
แต่กำปั้นนั้นกลับไม่สามารถทำลายค่ายกลตรงหน้าได้ภาพบิดเบือนปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา
หรือพูดให้ถูก…
ค่ายกลตรงหน้าเขาดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมา
คล้ายกับโดมทรงกลมสีเงิน
ฟางเจิ้งจือ ถ้าเจ้าแพ้ มันเป็นเพราะความมั่นใจเกินไปของเจ้าเอง! หยิงยู่ที่ยืนอยู่ตรงกลางตะโกนออกมา
ในเวลาเดียวกันลำแสงสีเงินทั้งเก้าพุ่งออกมาจากค่ายกล
ข้าติดกับงั้นรึ? ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่แสงสีเงินทั้งเก้า แต่เขากลับยืนอยู่เฉยๆไม่ได้หลบหนี
ในเวลาเดียวกันหยิงยู่ ก็เคลื่อนไหว
แสงสีเงินค่อยๆปกคลุมร่างกายของเขา ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว…ร่างของผู้อาวุโสทั้งสี่ก็กลายเป็นสีเงินเช่นกัน
ค่ายกลเก้าผลึกปลดผนึก! หยิงยู่ตะโกน ทันใดนั้นแสงสีเงินก็ปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา
ผนึก? ฟางเจิ้งจือ ขมวดคิ้ว แล้วมองไปยังแสงสีเงินที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขาจากทุกทิศทาง เขาเข้าใจแผนของหยิงยูได้ในทันที
ฮ่าฮ่า…เจ้าคิดว่าข้าให้ผู้อาวุโสทั้งสี่มาช่วยข้างั้นรึ?ผิดแล้ว ค่ายกลเก้าผลึกนั้นเป็นวิชาที่ทรงพลังที่สุดของเก้าขุนเขา! หยิงยู่ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ในฐานะคนที่ใช่ชีวิตในแดนศักดิ์สิทธิ์มานานประสบการณ์ในการต่อสู้ของเขาย่อมมีมากกว่า ฟาง เจิ้งจือ แม้เรื่องพลังเขาอาจจะสู้ไม่ได้ แต่เขาก็มีลูกเล่นแพรวพราว
เขาจึงตัดสินใจใช้วิธีนี้เมื่อเขาขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสทั้งสี่ แผนการที่แท้จริงของเขาคือล่อลวง ฟาง เจิ้งจือ เขามั่นใจเมื่อค่ายกลสร้างเสร็จสิ้นฟาง เจิ้งจือ ต้องรีบเข้ามาโจมตีโดยไม่คิดอะไรแน่นอน
ตูม!
ทั่วทั้งพื้นที่สั่นไหวลำแสงสีเงินทั้งเก้าแตกออก ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าไปหา ฟาง เจิ้งจือ
ครืนครืน…
พวกมันหมุนรอบฟาง เจิ้งจือ ในพริบตา ก่อนที่มันจะรวมตัวกลับกลายเป็นเสาเงินเก้าเสาอีกครั้ง
ด้านในนั้นร่างกายของฟาง เจิ้งจือ กำลังถูกผนึกเอาไว้ ด้านในนั้นหนาวเย็นมากราวกับเขากำลังถูกน้ำแข็งกัดกิน
ฟางเจิ้งจือ เจ้าทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว! นี่คือเต๋าผลึกน้ำแข็งที่ข้าใช้เวลาฝึกฝนมากว่า30ปี นอกจากนี้มันยังเป็นเต๋าที่ดีที่สุดในการป้องกัน หลังจากเจ้าถูกผนึกแล้ว ต่อให้เจ้าจะแข็งแกร่งกว่าข้า แต่เจ้าก็ไม่สามารถหนีไปได้! หยิงยู่มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ที่ผนึกอยู่กลางเสาแสงทั้งเก้า
เมื่อเหล่าศิษย์เห็นฉากตรงหน้าพวกเขาถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาทันทีศัตรูของพวกเขาครั้งนี้อันตรายมากเกินไป ผู้อาวุโสสูงสุดถึงกับต้องนำค่ายกลเก้าผลึกออกมาใช้ เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์วิกฤติขนาดไหน
แต่ขณะที่พวกเขากำลังโล่งใจอยู่นั้นเองก็ได้เกิดเสียงแตกขึ้นอีกครั้ง
จากนั้นรอยแตกก็เริ่มปรากฎขึ้นที่เสาทั้งเก้าจากด้านในเพียงชั่วพริบตาเสาทั้งหมดเต็มไปด้วยรอยแตก
ตูม!
พวกมันแตกออกกลายเป็นละอองน้ำแข็งกระจายไปทั่วอากาศ
ตรงกลางมีร่างหนึ่งค่อยๆยืนขึ้นมาเงียบๆร่างสูงสามสิบเมตรได้หายไปแล้ว มีเพียงร่างสีทองยืนอยู่เท่านั้น
เมื่อกี้ท่านพูดว่าอะไรนะ?ข้าฟังไม่ทันพูดให้ข้าฟังใหม่ได้ไหม? ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังหยิงยู่ที่รอยยิ้มแข็งค้างไปแล้ว
หยิงยู่ยืนนิ่ง เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะเขาไม่อยากจะเชื่อ
เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
ไม่ใช่เขาคนเดียวผู้อาวุโสทั้งสี่และศิษย์เก้าขุนเขาก็เช่นกัน
ผนึกพัง?!
เขาทำลายค่ายกลเก้าผลึก!
เป็นไปได้ยังไงกัน?!
ไม่มีใครยอมรับความจริงตรงหน้าได้
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น…
ในมือของฟาง เจิ้งจือ มีก้อนผลึกน้ำแข็งอยู่ก้อนหนึ่ง มันคล้ายกับผลึกที่เกิดจากค่ายกลมาก
ใช้เวลาฝึก30ปีงั้นหรือ?ข้าได้ยินผิดไปหรือเปล่า? ดูเหมือนท่านผู้อาวุโสสูงสุดจะไม่ได้ฉลาดขนาดนั้นนะ ทำไมต้องใช้เวลาถึง30ปีล่ะ? ดูสิแค่แปปเดียวข้าก็ทำได้แล้ว! ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มขณะที่เล่นผลึกน้ำแข็งในมือ
แค่แปปเดียว…แปปเดียว… ริมฝีปากของหยิงยู่สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่สามารถคิดอะไรได้อีกต่อไป เขาทำได้แค่เบิกตามองผลึกน้ำแข็งในมือของ ฟาง เจิ้งจือ
อั้ก! ในที่สุดหยิงยู่ก็กระอักเลือดออกมาจากนั้นเขาก็ล้มลงบนพื้นทันที
เขาที่เป็นถึงผู้นำคนใหม่ของเก้าขุนเขาตามปกติแล้วควรจะรักษาความสงบเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้…
เขาไม่สามารถสงบสติได้อีกแล้ว
นั่นเป็นเพราะความพยายาม30ปีของเขาได้ถูกทำลายลงภายในชั่วพริบตา
……………………………………..