Gate of God – ตอนที่ 815 เรียกประชุม

ตอนที่ 815 เรียกประชุม

   ถ้าเจ้าคอยปกป้องปิง หยาง…ข้าก็สบายใจได้  หลิน มู่ไป่ มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และ ปิง หยาง ด้วยความซับซ้อน

  เร็วเกินไป!

  เขาไม่สามารถตอบสนองได้ทันฟาง เจิ้งจือ สามารถหลบกริชของนางได้ยังไง? เขาไปปรากฎตัวข้างๆนางได้ยังไง? หลิน มู่ไป่ ไม่สามารถมองเห็นทั้งหมดได้ชัดเจน

  พัฒนาไม่เพียงมีแค่ ปิง หยาง ที่พัฒนาเท่านั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน

  เขาจำได้ว่าไม่กี่เดือนก่อนฟาง เจิ้งจือ ยังต่อสู้กับราชาอสูรด้วยความยากลำบาก

  ตอนนี้…

  เขากลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

   หึข้าไม่ต้องการปกป้องของเจ้า!  หลังจากตกใจ ปิง หยาง ก็บ่นออมาพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย  ฟางเจิ้งจือ ไม่สนใจ ปิง หยาง

  ความจริงแล้วการที่นางเป็นแบบนี้ทำให้เขาชอบนางมากยิ่งขึ้น นี่เป็นนิสัยที่แท้จริงของนาง หัวแข็งและใจร้อน นางไม่คิดจะยอมรับความอ่อนแอของตัวเอง

   งั้นข้าจะตะโกนแล้วนะ  ฟาง เจิ้งจือ กล่าวออกมา

   ตะโกน?ตะโกนอะไร? ปิง หยาง ไม่เข้าใจ

  หลินมู่ไป่ เองก็สงสัยแต่เขาไม่ได้ถามอะไรออกมา แสดงถึงความไว้วางใจที่เขามีต่อ ฟาง เจิ้งจือ

   ในเมื่อพวกเราเป็นแขกต่อให้ข้าลงมือกับศิษย์พวกเขาไป ข้าก็ยังคงเป็นแขก หอคอยหลิงหยุนควรปฏิบัติกับพวกเราอย่างเหมาะสม ใช่ไหม? ข้าเลยจะขอให้คังเยว่ออกมาบริการน้ำชาให้ข้าสักหน่อย! 

  เสียงของปิง หยาง ดังก้องไปทั่วหอคอยหลิงหยุน เมื่อ หลิน มู่ไป่ ได้ยิน เขาก็ยิ้มออกมาอย่างไม่มีทางเลือก

  เขารู้ว่าฟาง เจิ้งจือ ไร้ยางอาย

  แต่อย่างที่เขาพูดเขาได้ทำผิดต่อศิษย์หอคอยหลิงหยุนจริง แต่เขากลับพูดให้ตัวเองกลายเป็นถูกแทน

  ความไร้ยางอายของเขานั้นมีขอบเขตบ้างไหม?

  …

  ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ศาลาเต๋าสวรรค์ บริเวณตีนเขา

   ตูม! เสียงระเบิดดังขึ้น พร้อมกับร่างสีข่าวที่รีบพุ่งออกมาจากปราสาทสีดำ

   ผู้นำศาลา! 

   อาจารย์!!! 

  เมื่อผู้อาวุโสและศิษย์ที่อยู่ด้านนอกเห็นพวกเขากังวลขึ้นมาทันที

  …

  มู่ฉิงเฟิงใช้เวลาอยู่ในปราสาทสีดำนานเกินไปเขาใช้เวลาทั้งหมดเกือบสองเดือนสำรวจในนั้น

   แกรก! ่ร่างชองเขาปะทะเข้ากับต้นไม้ด้านนอก

  เขาล้มลงคุกเข่าอยู่บนพื้นใบหน้าซีดขาว

   ผู้นำศาลาเกิดอะไรขึ้น? ผู้อาวุโสคนหนึ่งเข้ามาหามู่ฉิงเฟิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็พยายามพยุงมู่ฉิงเฟิงขึ้นมา

   มันไม่ได้พัง… มู่ฉิงเฟิงไม่ได้ตอบผู้อาวุโสสายตาของเขายังคงมองไปที่ปราสาทสีดำ

   ไม่ได้พัง? ท่าทีของผู้อาวุโสเปลี่ยนไป

  คำพูดของมู่ฉิงเฟิงทำให้เขาตกใจมาก

  สามเดือนก่อนปราสาทสีดำปรากฎขึ้นที่ตีนเขาศาลาเต๋าสวรรค์

  จนถึงตอนนี้…

  โลกทั้งใบเกิดการเปลี่ยนแปลงไปกว่าที่ใครจะนึกถึงสัตว์อสูรดุร้ายมากยิ่งขึ้น ธรรมชาติรอบๆดินแดนศักดิ์สิทธิ์เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน

  ในสายตาของศาลาเต๋าสวรรค์สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับปราสาทสีดำ

  หากปราสาทสีดำนี้ไม่ได้พัง?

  ความคิดนี้ติดอยู่ในใจผู้อาวุโส

  ด้านมู่ฉิงเฟิงเขาเช็ดเลือดที่ติดอยู่ขอบริมฝีปาก

  แล้วฉือ กูเหยียน ล่ะ? ทำไมนางถึงยังไม่ออกมา ผู้อาวุโสอดสงสัยไม่ได้

  พวกเขาเข้าไปด้วยกัน

   ตูม! ทันใดนั้นเองเสียงระเบิดได้ดังขึ้นอีกครั้ง

  จากนั้นก็มีร่างสีชมพูก็บินออกมาไมเหมือนมู่ฉิงเฟิง ร่างของนางปกคลุมไปด้วยแสงห้าสี

   กูเหยียน! 

   ศิษย์พี่ฉือกูเหยียน!  เยี่ยมมาก! 

  ความสงบปรากฎขึ้นบนใบหน้าของมู่ฉิงเฟิงศิษย์คนอื่นๆต่างแสดงความยินดีออกมา

   ผู้นำศาลาเกิดอะไรขึ้นกันแน่?  ผู้อาวุโสพยายามถามอีกครั้ง

   ถ่ายทอดคำสั่งของข้าทันทีและบอกอีกสี่สำนักว่าเราต้องมีการประชุมฉุกเฉินถ้านี่เป็นเรื่องจริงข้าเกรงว่าเรากำลังมีปัญหาใหญ่!  มู่ฉิงเฟิงโบกมือ เขาไม่ตอบคำถามของผู้อาวุโส

   ได้ข้าจะรีบจัดการทันที!  ผู้อาวุโสไม่ถามอีกต่อไป เขาเรียกสัตว์ขี่และบินออกไปจากศาลาเต๋าสวรรค์อย่างรวดเร็ว

  ทันทีที่ฉือ กูเหยียน ปรากฎตัว สายตาของนางจ้องมองไปยังใบหน้าที่ซีดขาวของมู่ฉิงเฟิง

  สีหน้าของนางไม่ได้ซีดขาวแต่มันกลับปกคลุมไปด้วยแสงห้าสีแต่เมื่อนางเดินเข้าไปหามู่ฉิงเฟิง แสงก็ค่อยๆหายไป

   ท่านอาจารย์..มำไมท่านถึงทำแบบนั้น? 

   กูเหยียน!ความหวังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเจ้า เช่นนั้นเจาไม่ควรคิดมาก ทุกสิ่งที่ข้าทำเพื่อเจ้า ก็เหมือนเป็นการที่ข้าทำเพื่อศาลาเต๋าสวรรค์! มู่ฉิงฟิงกล่าว

   แต่…  ฉือ กูเหยียน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง

   กูเหยียนข้ามีบางอย่างจะถามเจ้า  มู่ฉิงเฟิงขัดขึ้นมา

   เชิญท่านอาจารย์ถามได้เลย! 

   ตอบข้าอย่างตรงไปตรงมาเจ้าคิดว่าข้าทำเรื่องผิดพลาดกับเจ้าเด็กนั่นไปหรือไม่?  มู่ฉิงเฟิงถามขึ้นมา

   ถ้าข้าเป็นท่านอาจารย์ข้าก็คงทำเช่นเดียวกัน 

   แล้วถ้าไม่ใช่ข้าล่ะ? มู่ฉิงเฟิงถามต่อ

   คนโบราณกล่าวว่า’คนที่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์สามารถมองเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจนที่สุด’ ข้าคิดว่าตอนที่ท่านถามคำถามออกมาตัวท่านก็น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว  ฉือ กูเหยียน อธิบาย

   ฮ่าฮ่า…ถูกต้อง เจ้าพูดถูก ข้ารู้คำตอบอยู่แล้ว ข้าเพียงแค่ไม่อยากจะยอมรับเท่านั้น  มู่ฉิงเฟิง กล่าวพร้อมยิ้ม จากนั้นเขาก็มองท้องฟ้าและพูดออกมา  กูเหยียนพวกเราต้องคุยกับอีกสี่สำนัก ไปเตรียมตัวให้พร้อม 

   รับทราบ! ฉือ กูเหยียน พยักหน้า สายตาของนางก็อยู่ที่้ท้องฟ้าเช่นกัน ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือไม่แต่สายตาของนางกลับไปอยู่ที่ยอดเขาสูงของเก้าขุนเขา

  …

  หอคอยหลิงหยุน

  หลังจากเสียงตะโกนของฟาง เจิ้งจือ มีหญิงในชุดสีขาวบินออกสามคนมาจากหอคอยหลิงหยุน พร้อมกับศิษย์จำนวนหนึ่ง

  มันเป็นไปตามที่ฟาง เจิ้งจือ คาดการณ์ไว

  ทำไมเขาถึงตะโกนออกไปแบบนั้น…

  หนึ่งในเหตุผลก็คือเขาคันปากอีกเหตุผลคือเขาไม่ต้องการเสียเวลาสู้กับพวกนางทีละชั้น

  ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้การเยาะเย้ยเพื่อล่อให้พวกนางออกมา

  อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ผลตามที่เขาต้องการหลังจากกลุ่มแรกออกมา ก็ไม่มีเสียงดังออกมาจากหอคอยหลิงหยุนอีก

  ราวกับว่าคนอื่นไม่ได้ยินเขา

  มันหมายความว่าอะไรกัน?

  ฟางเจิ้งจือ ไม่เข้าใจ?

  เขาลบหลู่คังเยว่แต่นางกลับไม่ปรากฎตัวออกมา

  ครึ่งปีที่แล้วคังเยว่เห็น ฟาง เจิ้งจือ ให้สัญญากับ ปิง หยาง นางควรจะรู้เหตุผลที่เขามาที่นี่ นางไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้

  เป็นไปได้ไหมว่า…

  นางยังไม่ตื่น?

  ฟางเจิ้งจือ คิดว่าเหตุผลนี้ไร้สาระเกินไป แต่เขาคิดเหตุผลอื่นไม่ออกจริงๆ  เขาตัดสินใจตะโกนอีกครั้ง

   คังเยว่เจ้าไม่ได้บอกว่าข้าตายไปแล้วงั้นหรือ? เจ้าไม่คิดจะออกมาดูให้เห็นกับตางั้นหรือ? หรือเจ้ากำลังกลัวข้าอยู่?!  ฟาง เจิ้งจือ ตะโกน

   กล้าดียังไงเจ้ากล้าเรียกชื่อนางเฉยๆได้ยังไง?  เมื่อผู้หญิงสาวคนในชุดสีขาวได้ยิน นางโกรธทันที

  แน่นอนพวกนางโกรธเพราะหนึ่งในพวกของนางถูกจัดการไปแล้วด้วยพวกนางทำได้แค่ตกใจ

  ฟางเจิ้งจือ ไม่คิดจะมองพวกนางที่อยู่ตรงหน้า เขาเห็นแสงสีเงินแวบๆอยู่บนยอดหอคอยหลิงหยุน

  อย่างไรก็ตาม…

  มันปรากฎขึ้นไม่นานนัก

  มันกระพริบขึ้นมาก่อนจะหายไปในทันทีรอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ

  ทันใดนั้นเสียงดังขึ้นจากหอคอยหลิงหยุน

   เนื่องจากท่านเป็นแขกพวกเราก็จะปฏิบัติเหมือนท่านเป็นแขกคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามถ้าท่านอยากให้ผู้คุมหอคอยดูแลท่านด้วยตัวเอง ท่านต้องมีคุณสมบัติดังนี้! หยกเขียว อธิบายสิ! 

   รับทราบ! หนึ่งในศิษย์ด้านล่างตอบรับ  จากกฎท่านสามารถเป็นแขกอันทรงเกียรติของหอคอยหลิงหยุนได้ผ่านสองวิธี หนึ่งคือได้รับเชิญจากหอคอยหลิงหยุนโดยตรง สองคือการผ่านหอคอยหลิงหยุนขึ้นไปในแต่ละชั้น ยิ่งท่านขึ้นไปได้สูงเท่าไรก็ยิ่งได้รับการปฏิบัติดีเท่านั้น! 

   งั้นข้าควรขึ้นไปถึงชั้นไหนล่ะ? 

   จากการที่ท่านบอกว่าต้องการให้ผู้คุมหอคอยดูแลท่านเป็นการส่วนตัวท่านต้องไปถึงชั้นเก้า! 

   แล้วถ้าไม่ทำตามกฎของพวกเจ้าล่ะ? ฟาง เจิ้งจือ ถามกลับ   นั่น…คงไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีเท่าไร ใบหน้าของศิษย์คนนั้นพลันเย็นชาขึ้นมาทันที

   งั้นหรือ? ฟาง เจิ้งจือ ตอบพร้อมยิ้มออกมาอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนัก  ข้าไม่คิดแบบนั้นนะ

  ……………………………………..

  ��

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท