สำนักซวนจีและนิกายเงาเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานซูเหลียงเองก็รู้ว่าวู่จวี้เอ๋อร์มีความสามารถอะไรบ้าง เขาอยากจะระบายความโกรธของเขา แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ดีนัก แต่แม้เขาจะพยายามอดกลั้นแค่ไหนก็ตาม…แต่วู่จวี้เอ๋อร์ยังคงมีท่าทีดูถูกเขาอยู่ตลอดเวลา
โง่เง่า! วู่จวี้เอ๋อร์ยังคงดูขุ่นเคือง นางเพียงด่าว่าเขาและไม่หันมาสนใจเขาอีกเลยและหันไปมองมู่ฉิงเฟิงแทน
เจ้า…
ท่านซูตอนนี้เราอยู่ในขั้นตอนการรับสมัครผู้เข้าแข่งขันที่จัดขึ้นเพื่อความสันติของโลก ไม่ว่าความขัดแย้งระหว่างสำนักซวนจีและนิกายเงาจะมากแค่ไหน ข้าหวังว่าพวกท่านจะสามารถผ่านมันไปได้ หากเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ จะมีการประชุมพันธมิตรสวรรค์ไปเพื่ออะไร? ซูเหลียงอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่มู่ฉิงเฟิงกลับพูดขัดขึ้นมาก่อน รวมถึงสายตารอบๆที่กำลังจ้องมองมาที่เขา เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปิดปากเอาไว้ เอาล่ะ ข้าขอโทษด้วยที่หยาบคายต่อท่านวู่ อย่างไรก็ตามข้าอยากรู้เหลือเกินว่านกายเงาจะรับมือสำนักซวนจีและห้าสำนักได้ยังไง! ซวนจีพยายามพูดออกมาให้สุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้เขาจะไม่ใช่คนแบบนั้นก็ตาม
มู่ฉิงเฟิงเลิกสนใจเรื่องของสำนักซวนจีและนิกายเงาเขาหันไปมองผู้คนที่ยืนดูอยู่รอบๆ
มีสำนักไหนต้องการเข้าร่วมการแข่งขันนี้อีกหรือไม่?
คนของสำนักอื่นๆมองหน้ากันพวกเขาไม่กล่าวอะไรออกมา การไม่เข้าร่วมการแข่งขัน แต่เน้นการพัฒนาในระยะยาวจะเป็นประโยชน์ต่อสำนักของพวกเขามากกว่า
ถ้าไม่มีใครอีกพวกเราก็อยากเสียเวลาอีกเลย! โม่ฉานฉือกล่าวขึ้นมา อืมข้าขอขอบคุณทุกคนจริงที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้สำนักทั้งห้า สำนักซวนจีและนิกายเงาจะเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับลำดับการต่อสู้…เราจะจับฉลากเพื่อตัดสินใจอีกที มีใครคัดค้านเรื่องนี้ไหม? มู่ฉิงเฟิงพยักหน้าและประกาศด้วยเสียงอันดังกอง
ไม่มีใครคัดค้าน!
การแข่งขันนั้นยุติธรรมมาก!
ถูกแล้วในเมื่อท่านมู่เป็นผู้ริเริ่มการประชุมครั้งนี้ ก็เหมาะสมแล้วที่ท่านจะเป็นคนตั้งกฎการแข่งขัน!
ผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆต่างสนับสนุนการตัดสินใจของมู่ฉิงเฟิง
เอาล่ะงั้นพวกเรามาเริ่มจับฉลากกันเลย! มู่ฉิงเฟิงพยักหน้า แม้ว่ากฎการแข่งขันจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากการเข้าร่วมของนิกายเงาและสำนักซวนจี เขายังคงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สำหรับการจับฉลากนั้น มู่ฉิงเฟิงได้เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้แล้ว ตามคำสั่งของมู่ฉิงเฟิง ศิษย์ของเขาได้นำแผ่นหินสีเขียวหยกเจ็ดแผ่นออกมา แผ่นหินพวกนี้มีหมายเลขหนึ่งถึงเจ็ด หนึ่งจะเจอกับสอง สามจะเจอกับสี่ และห้าจะเจอกับหก ในครั้งนี้มีสำนักที่เข้าร่วมเจ็ดสำนัก ดังนั้นผู้ที่จับได้เลขเจ็ดสามารถผ่านเข้าไปยังรอบสองได้เลย มีใครคัคค้านอะไรไหม?
ไม่มีงั้นพวกเรามาเริ่มเลยไหม! ซูเหลียง ผู้นำสำนักซวนจี
กล่าวพร้อมหันไปมองศิษย์ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาศิษย์ของเขาพยักหน้าก่อนจะก้าวเท้าไปหยิบแผ่นหินออกมาแผ่นหนึ่งแล้วยื่นให้มู่ฉิงเฟิง เลขบนแผ่นหินหยกสะท้อนแสงออกมาอย่างเจิดจ้า
5!
5ไม่เลว! ซูเหลียงพยักหน้าด้วยความพอใจ แม้เขาจะผิดหวังที่ไม่ได้เลขเจ็ดก็ตาม แต่การที่เขาได้เลขห้านั่นหมายความว่าสำนักของเขาจะได้สู้เป็นคู่ท้ายๆของการแข่งขันรอบแรก มันเป็นเรื่องดีที่เขาจะได้ศึกษาพลังของคู่ต่อสู้ก่อน
ศาลาหยินหยางได้หมายเลข1! เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง
ดูเหมือนพวกเราจะต้องเปิดงานสินะใครที่จะได้เจอกับพวกเรา? เต๋าฮุนผู้นำของศาลาหยินหยางลุกขึ้นสายตาของเขาจ้องไปที่ชายหนุ่มสวมหน้ากากลายหยินหยางที่นั่งอยู่ด้านหลังเต๋าซิน
เก้าขุนเขา!
เก้าขุนเขาได้อันดับสอง!
รอบแรกเป็นการแข่งขันระหว่างศาลาหยินหยางและเก้าขุนเขางั้นรึ?ช่างน่าติดตามเสียจริง!
เสียงฮือฮาดังขึ้นหลังจากคำพูดของเต๋าฮุนพวกเขาได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับเก้าขุนเขา
หลังจากเทียนซิงตายพวกเขาก็เป็นพันธมิตรกับศาลาหยินหยาง ตอนนี้ผู้นำคนใหม่ของเก้าขุนเขาถูกแต่งตั้งขึ้นแล้ว
พวกเขาคิดว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นต้องมีอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่มีใครรู้แน่ชัด
พวกเขากำลังรอดูคำตอบที่แท้จริงจะปรากฏในการแข่งขันรอบแรกหรือไม่
เก้าขุนเขา? เต๋าฮุนหันมองพวกเขา และไป่เฟยผู้ที่นั่งมองด้วยแววตาเปล่งประกาย
ทุกคนอาจคิดว่าศาลาหยินหยางและเก้าขุนเขากำลังร่วมมือวางแผนบางอย่าง
ในความเป็นจริงถ้ามู่ฉิงเฟิงไม่ได้ส่งคำเชิญเข้าร่วมการประชุมพันธมิตรสวรรค์ ตอนนี้เต๋าฮุนก็คงอยู่ที่เก้าขุนเขาไม่ใช่ที่นี่
ผู้นำคนใหม่ของเก้าขุนเขาเป็นใคร?
ชายหนุ่มที่สวมหน้ากาก
นอกจากนี้ผู้อาวุโสหกที่ถูกส่งไปเก้าขุนเขาเพื่อหลอมยา เขายังไม่ได้กลับมา
เต๋าฮุนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขามั่นใจอยู่เรื่องหนึ่ง เก้าขุนเขาไม่อยู่ในการควบคุมของเขา
หลังจากยืนยันการแข่งขันในรอบแรกหอคอยหลิงหยุนได้หมายเลขสาม และหุบเขาฟู่ซี่ได้หมายเลขสี่
หลังการประกาศสีหน้าของโม่ฉานฉือกลายเป็นบูดบึ้ง ก่อนที่จะกลับมายิ้มอย่างเย็นชาอีกครั้ง
ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
เขาไม่ได้กลัวเพียงแต่ไม่พอใจบางอย่าง
แผ่นศิลาหยกเหลือเพียงสองชิ้นในมือของศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์
เจ็ดข้าต้องได้หมายเลขเจ็ด! ศิษย์ของนิกายเงาพึมพำเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือออกไป
วู่จวี้เอ๋อผู้นำนิกายเงา สีหน้าของนางไม่ได้สนใจมากนัก ในขณะที่ซูเหลียงแห่งนิกายซวนจีเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
อย่าได้เลเจ็ดอย่า… ซูเหลียงพึมพำเล็กน้อย ถ้านิกายเงาได้เลขเจ็ด คู่ต่อสู้ของพวกเขาคือศาลาเต๋าสวรรค์
หก!
นิกายเงาได้เลขที่หก! การแข่งขันในรอบที่สองผู้ที่ได้ผ่านเข้ารอบไปเลยเป็นของศาลาเต๋าสวรรค์!
เหล่าศิษย์ของสำนักต่างๆเริ่มส่งเสียงฮือฮาอีกครั้งเมื่อเห็นหมายเลขหกการต่อสู้ระหว่างนิกายเงาและสำนักซวนจีเป็นอะไรที่พวกเขารอติดตามมาก
หก?!ฮ่าฮ่าฮ่า …ข้า ซูเหลียง จะทำให้นิกายเงาได้เห็น พวกเจ้าจงแสดงพลังที่แท้จริงของสำยักซวนจีให้พวกนั้นได้รู้ ซูเหลียงตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะเรียกสติกลับมาอีกครั้ง เขากำลังดีใจเป็นอย่างมาก
ใช่แล้วท่านผู้นำเราจะไม่เปิดโอกาสให้พวกนั้นแม้แต่วินาทีเดียว ศิษย์สำนักซวนจีสามคนด้านหลังตอบกลับในทันที
ดีมากฮ่าฮ่าฮ่า ซูเหลียงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เขาอดใจรอที่จะเห็นเหล่านิกายเงานอนนองเลือดอยู่บนพื้นไม่ไหวแล้ว
ผู้คนต่างหันมองหน้ากัน พวกเขารู้ดีว่านสำนักซวนจีมีความบาดหมางต่อนิกายเงามายาวนาน
ลำดับการต่อสู้ในรอบแรกเป็นที่แน่ชัดแล้วศาลาหยินหยางปะทะเก้าขุนเขา หอคอยหลิงหยุนปะทะหุบเขาฟู่ซี่ และนิกายซวนจีปะทะนิกายเงา
ในฐานะสำนักที่เรียกประชุมสวรรค์ศาลาเต๋าสวรรค์โชคดีพอที่ได้รับอันดับที่เจ็ด ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาได้เข้าสู่รอบที่สองในทันที แต่ไม่มีใครสามารถรู้ชัดว่าศิลาหยกถูกเตรียมไว้ก่อนแล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตามเรื่องนั้นจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ เพราะแม้พวกเขาจะสงสัยหรือครางแครงใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามออกมา สิงสำคัญคือศาลาเต๋าสวรรค์ได้อันดับที่เจ็ดและผ่านเข้าสู่รอบที่สองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว