Gate of God – ตอนที่ 871 การปรากฎตัวอันน่าตกตะลึง

ตอนที่ 871 การปรากฎตัวอันน่าตกตะลึง

  หลังจากที่หนานกงมู่พูดจบต้นไม้ขนาดใหญ่ส่องแสงออกมาพร้อมกับดอกไม้ที่ผลิบานเต็มต้น

   อะไรนะ? 

   ดอกไม้บานบนต้นไม้น้ำแข็งได้ยังไง? 

   กลิ่นอายทรงพลังมาก! 

  ผู้คนต่างถอยหลังไปโดยไมรู้ตัวเมื่อเห็นดอกไม้บานบนต้นไม้น้ำแข็งกลิ่นอายที่ส่งออกมาทำให้พวกเขาอึดอัดโดยไม่รู้ตัว

  ฉือกูเหยียนเองก็ได้ยินสิ่งที่หนานกงมู่พูดชัดเจน ผลิบาน?!  หัวใจของนางเต้นรัวเมื่อมองไปบนกิ่งไม้เหนือหัวนาง

  นางไม่มั่นใจถึงจุดประสงค์ของหนานกงมู่100%แต่นางมั่นใจว่าหนานกงมู่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อชนะการประลองเท่านั้น

   ข้าต้องหยุดหนานกงมู่! แสงดวงดาวในดวงตาของนางส่องประกายยิ่งขึ้น  ก่อนที่มันจะกลายเป็นแสงห้าสีจางๆ

  แม้แต่เงาด้านหลังของนางหางบริเวณเกล็ดก็กลายเป็นห้าสีเช่นกัน

  นางพุ่งเข้าไปหาหนานกงมู่ทันที

  ดาบของนางฉีกกิ่งไม้ออกเป็นชิ้นๆ

   ฉือกูเหยียน! หนานกงมู่จ้องไปที่นางขณะที่นั่งคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่ มือของเขาสั่นเล็กน้อย

  แต่เขาก็พยายามฝืนใช้ดาบป้องกันบริเวณหน้าอกของตัวเอง

  ตูม!

  หิมะที่กองอยู่ถูกเป่ากระจุยดาบของทั้งสองคนปะทะกันอย่างรุนแรง

  แคร้ง!

  เสียงปะทะดาบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกลิ่นเลือดลอยไปทั่วลานประลอง แต่ไม่มีใครเห็นการต่อสู้ได้ชัดเจนเพราะหมอกหนาที่ลอยอยู่ แม้พวกเขาจะเห็นแค่เงาพวกเขาก็สามารถบอกได้ว่ามันเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงแค่ไหน   แข็งแกร่งมาก! 

   มันเป็นการต่อสู้ของเซียนยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเหนือชั้นกว่าเซียนทั่วไปเสียอีก ข้าไม่เคยเห็นการต่อสู้แบบนี้มาก่อน! 

  แม้ผู้คนจะเคยเห็นการต่อสู้ของเซียนมาก่อนแต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะเห็นการต่อสู้ที่รุนแรงในระดับนี้

   มู่เอ๋อร์อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้! ในที่สุดท่าทีของหนานกงเทียนก็เปลี่ยนไป ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

  ด้านมู่ฉิงเฟิงศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ ปิงหยาง กำลังมองไปที่ร่างในหมอกด้วยความกังวล

  ตูม!น้ำแข็งและหิมะถูกแรงระเบิดกระเด็นอออกมาอีกครั้ง ทำให้เกิดช่องว่างบนหมอกหนาเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยดาบจำนวนมากบนลานประลอง

  มันแสดงให้ถึงพลังจำนวนมากที่ทั้งคู่มี

   อั้ก! มีคนหนึ่งกระอักเลือดออกมา  หนานกงมู่เบิกตาวกว้างเขาไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อในผลลัพธ์ที่ออกมา อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาไม่มีแรงเหลือแล้ว

  ตึ้ง!เขาล้มลงกับพื้น ชุดเกราะสีขาวบนตัวเขาค่อยๆจางหายไปกับอากาศ

  มีคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าเขา…นางยืนอยู่โดยใช้ดาบพยุงกระโปรงสีชมพูของนางท่วมไปด้วยเลือด แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเลือดของใคร

  เห็นได้ชัดว่าฉือกูเหยียนก็ถึงขีดจำกัดเช่นกัน

  อย่างไรก็ตามหางงูด้านหลังของนางยังคงเคลื่อนไหวไปมา

  พร้อมกับบรรยากาศอันทรงพลัง

   เจ้า…เจ้าแพ้แล้ว! ฉือกูเหยียนพยายามพูดออกมา

   ไม่…ข้าไม่… หนานกงมู่พยายามยืนขึ้นร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือดเช่นกัน

   มู่เอ๋อร์!     กูเหยียน! 

   พี่เหยียน! 

  เสียงของหนานกงเทียนปิงหยาง และมู่ฉิงเฟิงดังขึ้นแทบจะพร้อมๆกัน

   ข้า…ข้ายังไม่แพ้!… หนานกงมู่ยังคงพยายามดิ้นรน

  ฉือกูเหยียนเดินเข้าไปหาหนานกงมู่ช้าๆด้วยความยากลำบาก

  ทุกคนต่างตกตะลึงกับฉากที่เห็นอย่างไรก็ตามไม่มีใครพูดอะไรออกมา

  ในที่สุดฉือกูเหยียนก็หยุดอยู่หน้าหนานกงมู่

   เจ้าแพ้แล้ว… 

   ไม่…ข้าไม่!!! 

  ฉึก!ดาบของนางแทงเข้าไปที่แขนของหนานกงมู่ เลือดสาดกระเซ็นออกมา ดาบฟ้าเขียวของหนานกงมู่ร่วงหล่นพื้น

  ครื่น  ต้นไม้ยักษ์เริ่มสั่นไหวรอยแตกเริ่มกระจายไปทั่วต้น

   เจ้าแพ้แล้ว! ฉือกูเหยียนพูดอีกครั้ง

   ฉือกูเหยียนมันเป็นไปไม่ได้..สำหรับข้า…แพ้ไม่ได้!  หนานกงมู่พูดออกมาอย่างหนักแน่น

  ฉือกูเหยียนดึงดาบออกจากแขนของหนานกงมู่และแทงไปที่เอวอีกครั้งรอยแผลปรากฎให้เห็นชัดเจน

   อ้าก!! ดวงตาของหนานกงมู่แดงก่ำขณะกรีดร้อง เขาไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เขาไม่มีพลังเหลือแล้ว

  ครืน

  ต้นไม้ยักษ์แตกออกอย่างสมบูรณ์กลายเป็นจุดแสงสีขาวกระจายไปทั่วท้องฟ้า

   เจ้าแพ้แล้ว! ฉือกูเหยียนเงยหน้ามองต้นไม้ที่ค่อยๆละลายหายไป ขาของนางสั่นราวกับพร้อมจะล้มลงทุกเมื่อ

  หนานกงมู่ไม่ได้ตอบอะไรอีกเพราะเขารู้ว่าฉือกูเหยียนพูดถูก เขาแค่ไม่อยากยอมรับเท่านั้น

   ยอมรับความพ่ายแพ้ซะไม่งั้นครั้งหน้าดาบของข้าจะแทงไปที่หัวใจของเขา  ฉือกูเหยียนกล่าว แต่สายตาของนางมองข้ามหนานกงมู่ไป

  เห็นได้ชัดว่าคำพูดของนางส่งไปให้หนานกงเทียน

  หนานกงเทียนกำมือแน่นดวงตาของเขาเยือกเย็น เขามองไปที่หนานกงมู่ที่ล้มอยู่ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา  รอบนี้พวกเราแพ้แล้ว! 

   รอบนี้?! มู่ฉิงเฟิงแปลกใจเล็กน้อย  เจ้าจะส่งคนจากตระกูลออกมาอีกงั้นหรือ?! 

   นี่เป็นการแข่ง3รอบพวกเราเสมอกันที่1-1 แน่นอนว่าพวกเราต้องส่งอีกครออกมา  หนานกงเทียนพยักหน้า

   ใคร? 

   แน่นอนว่าเป็นศิษย์ของตระกูลเรา   มู่ฉิงเฟิงพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็หันไปมองฉือกูเหยียน  ข้าเข้าใจแล้ว กูเหยียนเข้ามาพักก่อน ที่เหลือข้าจัดการเอง 

   พัก?ข้าคิดว่าคงไม่ได้?  ริมฝีปากของหนานกงเทียนขดเป็นรอยยิ้ม

   ทำไม?ตามกฎไม่ได้บังคบให้จำเป็นต้องใช้คนเดียวสู้ต่อเนื่องในทุกรอบเสียหน่อย?  มู่ฉิงเฟิงขมวดคิ้ว

   อย่ากังวลไปข้าไม่ได้หมายถึงกฎ  หนานกงเทียนส่ายหัว

   ไม่เกี่ยวกับกฎ?แล้วเจ้าหมายความว่ายังไง? 

   เฮาเอ๋อร์เจ้าแพ้ฉือกูเหยียนเมื่อหลายปีก่อน วันนี้เป็นวันที่เจ้าจะได้เอาเกียรติยศของเจ้ากลับคืนมา!  หนานกงเทียนไม่ตอบคำถามของมู่ฉิงเฟิง

   เฮาเอ๋อร์?! 

   เขาพูดว่าเฮาเอ๋อร์… 

   หรือจะเป็นหนานกงเฮา?!    ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่หนานกงเทียนพูดทุกคนรู้ข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นที่ศาลาเต๋าสวรรค์เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ทั้งการหายตัวไปของหนานกงเฮาและเทียนซิง

   หนานกงเฮา?เขาไม่ได้ตายไปพร้อมกับเทียนซิงแล้วงั้นหรือ?  ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย

  อย่างไรก็ตามทันใดนั้น..

  พวกเขาได้ยินเสียงสัตว์อสูรดังขึ้นบนท้องฟ้า

  มีคนหนึ่งยืนอยู่บนหลังของมันเขาสวมชุดสีขาว สะพายดาบสีขาวใสอยู่ด้านหลัง

   เป็นไปไม่ได้! 

   ทำไมศิษย์น้องหนานกงถึงยังมีชีวิตอยู่? 

  ถ้าเขามีชีวิตนั่นหมายความว่า…ประตูสวรรค์เปิดออกแล้วงั้นหรือ?! 

  ผู้อาวุโสศาลาเต๋าสวรรค์เบิกตากว้างเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าหนานกงเฮามีชีวิตรอดมาได้ยังไง?

   พี่ใหญ่…พี่ใหญ่ยังไม่ตาย?! หนานกงมู่เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะหันไปมองหนานกงเทียน  พี่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ท่านพ่อรู้ได้ยังไง…หรือว่าท่านพ่อจะรู้มาตลอดว่าพี่ใหญ่ยังไม่ตาย?! 

   หนานกงเฮายังไม่ตายงั้นหรือ? ฉือกูเหยียนขมวดคิ้ว

  แน่นอนเขาได้ยินสิ่งที่หนานกงมู่พูด

  มันทำให้นางสับสนงงงวย

  ’หนานกงมู่เองก็ไม่รู้เรื่องนี้งั้นหรือ?’

  ’แต่ดูเหมือนหนานกงเทียนจะรู้มาตลอด’

  ’เป็นไปได้ยังไงเกิดอะไรขึ้นที่ศาลาเต๋าสวรรค์กันแน่?’

  ในใจของนางเต็มไปด้วยความสับสนนางไม่สามารถหาคำตอบของสิ่งตรงหน้าได้

  อย่างไรก็ตามหนานกงเฮากระโดดลงมาจากท้องฟ้าแล้วจากนั้นเขาก็รีบเข้าไปช่วยหนานกงมู่และอุ้มไปหาหนานกงเทียน   ดูเหมือนเจ้าจะโต้ขึ้นมากในช่วงเวลาแค่ไม่กี่เดือน! หนานกงเทียนกล่าวกับหนานกงเฮา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

   ท่านพ่อท่านไม่คิดจะสนใจอาการบาดเจ็บของน้องมู่หน่อยงั้นหรือ?  หนานกงเฮาถามกลับอย่างสงบ

   แน่นอน…ในฐานะพ่อข้าต้องกังวลอนู่แล้วใครก็ได้เร็วเข้า… 

   ท่านพ่อท่านควรดูแลมู่เอ๋อร์ด้วยตัวเอง!  หนานกงเฮาขัดหนานกงเทียน

   ได้ข้าเข้าใจแล้ว!  หนานกงเทียนดูอึกอักเล็กน้อย แต่เขาพยักหน้าและรีบรับหนานกงมู่ไปอย่างรวดเร็ว

  ผู้อาวุโสศาลาเต๋าสวรรค์ต่างมองหน้ากัน

   หนานกงเฮาเจ้าออกมาจากประตูสวรรค์ได้ยังไง? เกิดอะไรขึ้นที่ศาลาเต๋าสวรรค์?  เสียงของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยความกังวล

   ศาลาเต๋าสวรรค์ไม่ควรกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันก่อนงั้นหรือ? หนานกงเฮาตอบกลับอย่างสงบ

   นี่เจ้า!ถ้าเจ้ามาที่นี่ได้ทำไมศาลาเต๋าสวรรค์ถึงไม่แจ้งอะไรพวกเราเลย? 

   ถ้าท่านเอาชนะข้าได้ข้าจะบอก  หนานกงเฮายิ้มออกมา

   กล้าดียังไง! ผู้อาวุโสโกรธมาก โดยไม่ลังเลเขาพุ่งเข้าไปโจมตีหนานกงเฮาทันที

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท