ทั้งหวานและอร่อย…
ผลไม้ชั้นดีงั้นหรือ?!
ชุดคลุมสีน้ำเงินโบกสะบัดไปตามสายลมเสียงสายลมช่างนุ่มนวลราวกับอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ
อย่างไรก็ตามทุกคนต่างยืนตัวแข็งทื่อ
ไม่ว่าจะเป็นมู่ฉิงเฟิงโม่ฉานฉือ เฉียนยู่ หยานหยิง ทุกคนต่างยืนแข็งค้างในตำแหน่งเดิมของพวกเขา
บรรยากาศกลายเป็นเงียบเชียบ
แม้แต่จักรพรรดินีอสูรไป่ฉือก็แข็งค้างนางไม่สามารถตอบสนองได้
เหล่าศิษย์เบื้องล่างรู้สึกราวกับถูกหินยักษ์หล่นกระแทก
พวกเขาเวียนหัวและนิ่งงัน
หลังจากไม่นานโม่ฉานฉือก็ตอบสนองและพูดขึ้น เขากิน … กินเข้าไปงั้นเหรอ?!! เจ้าเด็กนั่นกินผลไม้เทพเจ้า!!
เสียงของเขาดังก้องไปทั่วภูเขาสวรรค์
เด็กนั่นกินมันเข้าไปจริงๆ!
ผลไม้เทพเจ้า…เขากลืนเข้าไปในคำเดียว?!
เขาไม่กลัวตายหรือไงทำไมเขาถึงกล้าทำแบบนั้น กล้ากินผลไม้เทพเจ้าเข้าไปได้ยังไง?
ไม่มีใครเข้าใจ
การกระทำของฟางเจิ้งจือจะสามารถเข้าใจได้ถ้าเขาไม่เคยสัมผัสผลไม้เทพเจ้ามาก่อนอย่างไรก็ตามเขาทรมานหลังจากสัมผัสมัน ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะกล้ากินหลังจากเกิดเรื่องเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญ เพราะฟางเจิ้งจือกลืนผลไม้สีทองเข้าไปแล้ว
ไม่! ในตอนนั้นเสียงทีสิ้นหวังก็ดังขึ้น มันเป็นเสียงของหนานกงเทียน ท่าทีของเขาสิ้นหวังราวกับโลกทั้งใบได้พังทลายลง
หนานกงเทียนไม่ได้สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากกินผลไม้เทพเจ้า
เขากังวลเรื่องการเปิดประตูแห่งดินแดนพระเจ้า!
ฟางเจิ้งจือกินผลไม้เข้าไปแล้วเขาจะเปิดประตูแห่งดินแดนพระเจ้าได้อย่างไร? ถ้าไม่มีกุญแจ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปิดประตูแห่งดินแดนพระเจ้าได้
หนานกงเทียนสิ้นหวังอย่างสมบูรณ์เขาอยากจะบุกทะลวงราชาอสูรเข้าไป เพื่อล้วงผลไม้ออกจากท้องของฟางเจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำได้…
เจ้าโจรไร้ยางอาย… ริมฝีปากของฉือกูเหยียนกระตุกเล็กน้อย แม้จะไม่ได้่อสู้กับไป่ฉือ แต่นางเห็นพลังของไป่ฉืออย่างชัดเจน
ระดับความอันตรายของการต่อสู้ในครั้งนี้เกินกว่าที่นางคิดไว้มากนางอยากจะร่วมสู้กับฟางเจิ้งจือ แต่นางบาดเจ็บสาหัสแม้จะได้พักฟื้นแต่ก็ยังไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้
ในตอนนี้นางเห็นฟางเจิ้งจือกระพริบตาให้ด้วยรอยยิ้มที่สดใส
เจ้าไร้ยางอายหรือว่าเจ้า… ฉือกูเหยียนตกใจ ก่อนที่จะคิดอะไรเพิ่มนางเห็นฟางเจิ้งจือกระโดดเข้าหาผลไม้ที่เหลือ
ยังจะกินอีกเหรอ?!
กระโดดหาผลไม้เทพเจ้า?!
ทุกคนตอบสนองพร้อมกันเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือเคลื่อนไหวมันทำให้พวกเขาตกตะลึงมากขึ้น
จะกินผลไม้เทพเจ้าอีกจริงๆหรือ?
ขณะที่พวกเขากำลังคิดหางยักษ์สีขาวก็ฟาดขัดขวางฟางเจิ้งจือด้วยความรวดเร็ว
หืม?ขัดขวางข้าหรือ? ฟางเจิ้งจือตัวอย่างรวดเร็วพร้อมชูนิ้วกลางให้กับไป่ฉือ
ก่อนที่เขาจะกินผลไม้เทพเจ้าไป่ฉือหัวเราะเย้ยหยันเขาอย่างสะใจ อย่างไรก็ตาม…
ไป่ฉือกังวลอย่างชัดเจน
ยิ่งนางกังวลมากเท่าไหร่ฟางเจิ้งจือก็ยิ่งมั่นใจ ในที่สุดโชคก็เข้าข้างเขา หลังจากที่กินผลไม้เข้าไป ไม่มีอันตรายเกิดขึ้นกับเขาแม้แต่น้อย
มันให้ความรู้สึกที่ดีมาก!
แม้เขาจะพูดเกินจริงถึงรสชาติของผลไม้เทพเจ้าแต่ก็อร่อยไม่น้อย
อย่างน้อยมันก็เย็นและให้ความรู้สึกสดชื่นเล็กน้อย
เพราะมันอร่อยดีฟางเจิ้งจือจึงตัดสินใจพุ่งไปที่ผลไม้อีกสองลูกและจะกินพวกมันเข้าไปด้วย
ไป่ฉือข้าเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้า! เฉียนยู่พูดขึ้นและโจมตีอย่างไม่ลังเล
นอกจากเฉียนยู่มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือเองก็ตอบสนองเช่นเดียวกัน การกระทำของฟางเจิ้งจือทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้า แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจมากนัก
หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดขึ้น
การกระทำของเจ้าเด็กเหลือขอนั่นมันแปลกประหลาดเสียจริงยังไงก็ตามข้าประทับใจจริงๆ! โม่ฉานฉือสงบใจลงและเตรียมฟาดค้อนใส่ไป่ฉืออีกครั้ง
ไม่สำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฟางเจิ้งจือสามารถกินผลไม้ทั้งสามลูกได้สำเร็จมันจะช่วยพวกเขาได้มาก
ถ้าไม่มีผลไม้เทพเจ้า…
พวกเขาไม่จำเป็นต้องสู้อีกต่อไป!
มู่ฉิงเฟิงโม่ฉานฉือ เฉียนยู่และหยานหยิงตัดสินใจโจมตีอีกครั้ง เพื่อถ่วงเวลาให้ฟางเจิ้งจือ
ขณะที่พวกเขากำลังรอฟางเจิ้งจือกินผลไม้ที่เหลือก็สังเกตุเห็นว่าเขาหยุดเคลื่อนไหว
หยุดเคลื่อนไหว?!
เขาคิดจะทำอะไรอีก? เขาไม่เข้าใจหรือว่าพวกเรากำลังลำบากแค่ไหน?
ทั้งสี่คนจ้องมองที่ฟางเจิ้งจืออย่างสับสนจากนั้นก็ตระหนักว่าไม่ใช่แค่หยุดเคลื่อนไหว แต่สีฟน้าของฟางเจิ้งจือก็แข็งทื่อราวกับรูปปั้น
…
…
ยังไงกันแน่?
เมื่อรู้สึกสิ้นหวังแต่เขากลับทำได้มากกว่าที่คิดอย่างน่าอัศจรรย์
แต่เมื่อเริ่มคาดหวังเขากลับแข็งค้างเป็นก้อนหิน
อย่าบอกนะว่าเจ้าเด็กเหลือขอ ..ตายแล้ว? ด้วยร่างกายที่แข็งทื่อของฟางเจิ้งจือ ทำให้โม่ฉานฉือสงสัย
เขากลืนผลไม้เทพเจ้าลงท้อง
ตูม!หลังจากโม่ฉานฉือพูดจบ เสียงระเบิดก็ดังขึ้น จู่ๆแสงสีทองก็ระเบิดออกจากร่างของฟางเจิ้งจือ ราวกับว่าพลังงานมหาศาลกำลังไหลออกจากร่างกายเขา
ฟุ่บ!ร่างของฟางเจิ้งจือส่องสว่างเกือบจะในทันที เป็นแสงสีทองที่ให้ความรู้สึกแสบร้อน
เกิดอะไรขึ้น?
ระเบิด!
มันกินไม่ได้จริงๆด้วย!
ท่าทีของเหล่าศิษย์เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นแสงสีทองบนร่างของฟางเจิ้งจือพวกเขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจ
ฮ่าฮ่าฮ่าฟางเจิ้งจือ? ฮ่าฮ่าฮ่า ไป่ฉือหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาสีเขียวเข้มส่องประกาย
ในขณะที่ไป่ฉือหัวเราะร่างของฟางเจิ้งจือก็ค่อยๆเอนไปด้านหน้า และชนเข้ากับกิ่งของต้นไม่เทพเจ้า
ตุบ!
เจ้าไร้ยางอาย!!!! เสียงของฉือกูเหยียนดังก้องไปในอากาศอย่างไรก็ตามดูเหมือนฟางเจิ้งจือจะไม่ได้ยินแม้แต่น้อย ร่างของเขายังคงถูกเผาไหม้ด้วยแสงสีทอง
…
ในตอนนี้ฟางเจิ้งจืออยากจะสาปแช่งยัยจิ้งจอกนั่น
มันเจ็บ มันร้อนเหมือนอยู่ในนรก!
ฟางเจิ้งจือไม่รู้ว่าตอนผู้หญิงคลอดลูกมันเจ็บแค่ไหนอย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังจะระเบิดออก
หลังจากตกลงสู่ท้องความเย็นของผลไม้เทพเจ้าในตอนแรกกลับกลายเป็นความร้อนรุ่มที่เผาไหม้
ในตอนนั้นฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าเขาตายไปแล้ว
ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงเกินกว่าเขาจะคิดอะไรได้โลกของเขามืดมัวและไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกแล้ว
เขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนหรือตายไปแล้วทุกอย่างเต็มไปด้วยความสับสน
ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่รู้เลยว่าตกอยู่ในสถานการณ์นี้นานแค่ไหนแล้ว เขารู้สึกว่าเป็นชั่วเวลาพริบตา แต่เหมือนกับผ่านไปหลายพันปีแล้ว
เขาตายแล้วงั้นหรือ?
หรือยังมีชีวิตอยู่?
ติ๋งติ๋ง… เสียงหยดน้ำดังขึ้นในหัวของฟางเจิ้งจือ เหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างจิตวิญญาณและสายน้ำ
จากนั้นเสียงหยดน้ำก็เปลี่ยนเป็นเสียงของกระแสน้ำกระแสน้ำที่ไหลในลำธาร มันไหลผ่านหัวของเขาอย่างนุ่มนวลและมีชีวิตชีวา
จากนั้นกระแสน้ำไหลเร็วขึ้นกว้างขึ้น จนรวมกันเป็นแม่น้ำ
ฟู่!
ทันใดนั้นโลกที่มืดมิดก็เริ่มมีแสงสลัวๆส่องสว่าง
แสงส่องสว่างมากขึ้นเรื่อยๆจากสีขาวกลายเป็นสีทอง จากสีทองกลายเป็นสีแดง มันคือดวงอาทิตย์!
อย่างไรก็ตามดวงอาทิตย์หายไปอย่างรวดเร็วและกลายเป็นความมืดอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นท้องฟ้าที่มืดมิดก็ส่องสว่างด้วยแสงของดวงดาว
นอกจากนั้นยังมีดวงจันทร์ที่ส่องสว่างท่ามกลางหมู่ดาว
แสงจันทร์สาดส่องลงพื้นดินและส่องประกายราวกับว่ามีดวงดาวนับพันเคลื่อนที่ผ่านอย่างต่อเนื่อง
นั่นมันอะไร? ฟางเจิ้งจือเบิกตากว้างโดยไม่รู้ตัวเขาตระหนักว่ามีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ระลอกคลื่นซัดกระทบฝั่ง
ความรู้สึกที่น่าหลงไหลเกิดขึ้นในจิตใจของเขาเขารู้สึกว่ามันคือภาพของมิติพิเศษในใจของเขา
นับตั้งแต่จบสงครามแดนใต้เขาแทบจะไม่ได้เข้ามาในมิติพิเศษเลย
นั่นเพราะหลังจากสงครามมิติพิเศษของเขาพังทลายลงและว่างเปล่า
แม้เขาจะเข้าสู่สถานะเซียนและสร้างร่างกายขึ้นใหม่แต่มิติพิเศษในใจของเขาก็ยังคงว่างเปล่า
แม้ว่าจะมีขนาดเล็กแต่ก็ไม่มีอะไรอยู่เลย
ทว่าทะเลสาบตรงหน้าให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยมากราวกับว่าเป็นทะเลสาบในมิติพิเศษของเขาเมื่อก่อน
อย่างไรก็ตามต้นไม้ยักษ์ที่อยู่ใจกลางทะเลสาบได้หายไป
ทะเลสาบกระเพื่อมเล็กน้อยภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องทำให้มันดูกว้างกว่าแต่ก่อนไม่น้อย
จากนั้นดวงจันทร์ก็ตกลงและดวงอาทิตย์ขึ้นอีกครั้ง
แสงสีทองส่องประกายบนทะเลสาบเมื่อสายลมพัดผ่าน คลื่นทรงกลมก่อตัวขึ้นบนผิวน้ำ
อาทิตย์ขึ้นอาทิตย์ตก ดวงจันทร์ขึ้น ดวงจันทร์ตก
ฟางเจิ้งจือจำไม่ได้ว่าผ่านไปกี่วันกี่คืนแล้ว
เขาเห็นแค่ทะเลสาบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและคลื่นทะเลสาบยังคงกระเพื้อมอย่างต่อเนื่อง
สายลมแรงสร้างระลอกคลื่นมากขึ้นเมื่อพัดผ่านทะเลสาบ
มันอาจไม่ใช่ทะเลสาบอีกแล้วมันคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่!
……………………………………..