Gate of God – ตอนที่ 897 จักรพรรดินีอสูร

ตอนที่ 897 จักรพรรดินีอสูร

   เจ้า… สีหน้าของหลินมู่ไป่เปลี่ยนไปหลังจากได้ยินคำพูดของหนานกงเทียน

  นั่นเพราะสิ่งที่หนานกงเทียนพูดจักรพรรดิไทซูได้ทิ้งบันทึกเอาไว้และนั่นเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องระหว่างความสัมพันธุ์ของพวกเขาและตระกูลหนานกง

  อย่างไรก็ตามเนื้อหาในบันทึกเขียนไว้ว่าจักรพรรดิของอาณาจักรเซี่ยต้องปฏิบัติต่อตระกูลอย่างดีและไม่สามารถฆ่าล้างตระกูลหนานกงได้

   งั้นเหรอ? หนานกงเทียนหัวเราะด้วยความเย็นชา

   ถ้าข้าบอกเจ้าว่ามีการกล่าวถึงตระกูลหนานกงแต่เป็นวิธีที่ควรปฏิบัติต่อตระกูลหนานกงอย่างดี และข้าจะช่วยเหลือเท่าที่ทำได้เจ้าจะเชื่อข้าไหม? หลินมู่ไป่พูดอย่างหนักแน่น   ฮ่าฮ่า…นั่นแสดงว่าให้เห็นว่าจักรพรรดิไทซูฉลาด เขารู้ว่าเขาจะไม่กลายเป็นศัตรูกับตระกูลของจักรพรรดิหยาน ดังนั้นเขาจึงหวังใช้โอกาสรับคนของพวกเราไปทำงาน ยังไงก็ตามเขาไม่รู้ว่าคนในตระกูลของจักรพรรดิหยานจะไม่มีวันทรยศ หนานกงเทียนหัวเราะอีกครั้ง

   หนานกงเทียนเจ้า…  หลินมู่ไป่กัดฟันแน่น เขาอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

  นั่นเพราะเขารู้ว่าหนานกงเทียนเต็มไปด้วยความกลียดชังความหวังในการรวมเป็นหนึ่งกับตระกูลหนานกงของจักรพรรดิไทซูอาจเป็นเพียงความฝันที่เป็นไปไม่ได้

  อย่างไรก็ตามมันนานมากแล้ว เขาไม่สามารถจำได้ว่ามีการสืบทอดบัลลังก์มากี่ครั้ง ไม่มีใครจำเรื่องในอดีตได้

   ตระกูลของจักรพรรดิหยานพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ภัยพิบัติโจมตีพวกเราแต่พวกเราได้อะไรตอบแทน?  หนานกงเทียนเต็มไปด้วยความรู้สึกปั่นป่วนและพูดต่อ  มันเป็นแค่บันทึกในประวัติศาสตร์ ความสำเร็จของจักรพรรดิหยานและจักรพรรดิฮวง ยังไงก็ตามแม้แต่ประวัติศาสตร์คนตระกูลฮวงก็ลบความสำเร็จของตระกูลหยาน ไม่หลงเหลืออะไรให้กับลูกหลานแม้แต่น้อย! ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ? 

  ในที่สุดหนานกงเทียนก็ปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมาสัญลัษณ์บางอย่างปรากฎขึ้นที่หน้าผากของเขา สิ่งที่บ่งชี้พลังระดับเซียน

  ในขณะเดียวกันเหล่าศิษย์ต่างนิ่งเงียบ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด

  ใครจะบอกความจริงที่เกิดขึ้นเมือหลายพันปีก่อนได้

  แม้พวกเขากำลังคิดว่าหนานกงเทียนอาจพูดความจริงแต่ก็เป็นเพียงเรื่องราวด้านเดียว ในฐานะลูกหลานของหยานฮวง พวกเขาไม่กล้าลบหลู่บรรพบุรุษตัวเอง

  อย่างไรก็ตามพวกเขาจำเป็นต้องสงสัยเรื่องหนึ่ง ตระกูลหนานกงต้องการอะไร? และหนทางแก้ไขเรื่องราวระหว่างสองตระกูลคืออะไร?

   เอาล่ะถ้าตระกูลของจักรพรรดิฮวงไม่ได้ต้องการทำเช่นนั้น งั้นก็ให้พวกเราพวกเราตระกูลของจักรพรรดิหยานได้เปิดประตูเทพเจ้า พวกเราจะต้อนรับการกลับมาของนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลจัรพรรดิหยาน!  ท่าทีของหนานกงเทียนเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่งหลังจากบรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบ

   เปิดประตูเทพเจ้า? 

   ต้อนรับการกลับมาของนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดขอตระกูล… 

   นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจากหลายพันปีก่อน?! 

  เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าศิษย์จากทุกสำนักก็เข้าใจได้ในที่สุด สิ่งที่หนานกงเทียนต้องการคือเปิดประตูเทพเจ้าที่ครั้งหนึ่งถูกปิดผนึกไป  อย่างไรก็ตามนั่นคือประตูเทพเจ้าที่ถูกผนึกโดยภัยพิบัติธรรมชาติ!

  หากประตูเทพเจ้าถูกเปิดอีกครั้งภัยพิบัติธรรมชาติที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน จะอุบัติขึ้นอีกครั้งไหม?

  ไม่มีใครรู้คำตอบอย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

   ไม่ประตูเทพเจ้า จะเปิดมันไม่ได้!  มู่ฉิงเฟิงกังวลอย่างที่สุด

  อย่างไรก็ตามมันสายเกินไป

  ในขณะที่หนานกงเทียนเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์อยู่นั้นรอยแยกขนาดใหญ่สามรอย ก็ปรากฎขึ้นบนยอดต้นไม้เทพเจ้า

  มันคือรอยแยกของดินแดนทั้งสามแสงสว่างส่องอยู่ภายในเป็นสีทองสีเขียวและดำ

  ในขณะนั้นหนานกงเฮาก็เคลื่อนไหว หลังจากยกมือซ้ายขึ้นลำแสงก็พุ่งสู่ท้องฟ้า หลอมรวมแสงสีทองเหนือหัวในทันที

  มันคือประตูหินยักษ์โบราณสีเขียว  อย่างไรก็ตามหลังจากที่แสงสีทองส่องกระทบประตูหินยักษ์ แสงสีทองก็ไหลผ่านลวดลายบนประตูในทันที

  แสงสว่างที่งดงามส่องประบนฟากฟ้า

  มันดูเรียบง่ายแสงสว่างไหลผ่านลวดลายบนประตูหินราวกับมีชีวิต

   มันคือประตูสวรรค์! 

   ทำไมประตูสวรรค์ของศาลาเต๋าสวรรค์ถึงอยู่กับหนานกงเฮา? 

   หนานกงเฮาฆ่าผู้คุ้มกันประตูสวรรค์ไปลแล้วหรือ? 

  เมื่อมองไปที่ประตูหินยักษ์สีหน้าของเหล่าศิษย์ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

  ทุกคนเคยเห็นประตูหินยักษ์มาก่อนมันควรจะอยู่ที่แท่นบูชาของศาลาเต๋าสวรรค์

   ประตูสวรรค์รึ?ไม่ นี่คือประตูแห่งดินแดนพระเจ้า! เป็นตำนานที่บรรพบุรุษของตระกูลหนานกงทิ้งเอาไว้ เพื่อปลดปล่อยประตูแห่งดินแดนพระเจ้าจากตระกูลของจักรพรรดิฮวง บรรพบุรุษของตระกูลหนานกงพยายามอย่างมากเพื่อบันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ใหม่ เพื่อให้ลูกหลานของตระกูลจักรพรรดิฮวงได้ตระหนักถึง ‘ชิ้นส่วนแผนที่สู่สวรรค์ทั้งสามสิบหก’ ในขณะที่ละเลยการมีอยู่ของประตูแห่งดินแดนพระเจ้า บรรพบุรุษของพวกเราจึงสามารถเอามันมาในระหว่างช่วงสงครามใหญ่ระหว่างตระกูลหยานและตระกูลฮวง! 

  หลังจากได้ยินคำพูดของศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์หนานกงเทียนก็ส่ายหัวในขณะที่ยิ้มอย่างเย็นชา ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความภูมิใจอย่างมาก

   เขียนประวัติศาสตร์ใหม่?! 

   ปลดปล่อยประตูแห่งดินแดนพระเจ้า… 

  เหล่าศิษย์ทั้งหมดต่างเข้าใจในความหมายของหนานกงเทียน

  ถ้าพวกเขาเดาถูกก่อนที่มารดาแห่งโลกจะตายลง นางมอบประตูเทพเจ้าให้กับตระกูลฮวงและต้นไม้เทพเจ้าให้กับตระกูลหยาน  อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากตระกูลหนานกงพยายามเขียนประวัติศาสตร์ใหม่เพื่อซ่อนการมีอยู่ของประตูแห่งดินแดนพระเจ้า นั่นทำให้ลูกหลานของจักรพรรดิฮวงค่อยๆสูญเสียความเข้าใจในประตูแห่งดินแดนพระเจ้าไป ผลที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามใหญ่สองตระกูลก็คือ ประตูแห่งดินแดนพระเจ้าตกอยู่ในมือของตระกูลจะกรพรรดิหยาน

  อย่างไรก็ตาม

  ทำไมถึงมีประตูแห่งดินแดนพระเจ้าสามบาน?!

  เดี๋ยวก่อน!

  สาม?!

  เหล่าศิษย์ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติหลังจากที่ประตูหินยักษ์ปรากฎขึ้นเหนือหัวหนานกงเฮา ประตูยักษ์สองบานที่เหมือนกันปรากฎขึ้นในรอยแยกทั้งสอง มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างกัน…

  ประตูหินทั้งสองบานถูกสร้างขึ้นจากวัสดุที่แตกต่างกันบานหนึ่งถูกสร้างด้วยโลหะสีดำอย่างสมบูรณ์ ส่วนอีกบานหนึ่งถูกสร้างขึ้นจากทองแดง

  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกมันกำลังส่องแสงสว่าง

  เกิดอะไรขึ้น?

  มันเป็นฉากที่แปลกตาอย่างมาก

  ไม่ใช่แค่เหล่าศิษย์ที่สับสนแม้แต่มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือเองก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

   หรือว่า…หรือว่าทั้งสอง…  หนานกงเทียนเองก็ตกตะลึง ท่าทีของเขาแข็งค้าง เขาจ้องมองไปที่ประตูสีดำและสีทองแเง เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ประหลาดใจเช่นกัน

  และแน่นอนในฐานะผู้เฝ้ามองฟางเจิ้งจือรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นประตูที่ปรากฎขึ้น

  นั่นเพราะเขาตระหนัก…

  ประตูที่สร้างจากทองแดงนั่นเกือบจะเหมือนกับประตูชีวิตของเขา

   อะไรกัน?หนานกงเฮาขโมยประตูชีวิตของข้าไปงั้นเหรอ? เดี๋ยวก่อน แต่มันยังอยู่กับข้า?! ฟางเจิ้งจือกำลังต่อว่าหนานกงเฮาว่าเป็นขโมย แต่ก็ตระหนักในทันทีว่าประตูชีวิตยังอยู่กับเขา

  ถ้าอย่างนั้นประตูสีทองแดงนั่นมันคืออะไร?

  เป็นคู่กับประตูชีวิต?

  ในขณะที่กำลังคิดหนักฟางเจิ้งจือก็เห็นร่างในชุดคลุมสีดำที่ยืนอยู่ข้างหยุนชิงวูเรื่มเคลื่อนไหว

  อย่างไรก็ตามเขาออกมายืนขวางหยุนชิงวูอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าสลับบทบาทกันในทันที เขาเปลี่ยนจากคนรับใช้กลายเป็นนายใหญ่

  ในขณะเดียวกันผ้าคลุมหัวของเขาก็ค่อยๆผ่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง ใบหน้าของนางงดงามมาก

  ฟางเจิ้งจือพบเจอหญิงสาวมามากมายหลายคนที่แต่งหน้าอย่างปราณีต หลายคนก็บำรุงผิวชุบน้ำหอม

  อย่างไรก็ตามหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ามีความงดงามมากแม้แต่ฉือกูเหยียนหรือหยุนชิงวูก็สู้ไม่ได้

  อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับความเย่อหยิ่งของฉือกูเหยียนหรือความเย็นชาของหยุนชิงวูแล้ว หญิงสาวคนนี้เต็มไปด้วยความเย้ายวน

  สวยงามนุ่มนวล มีเสน่ห์

  คำสามคำนี้ยังไม่เหมาะที่ใช้กับนางแม้แต่น้อยแต่ฟางเจิ้งจือนึกออกเพียงเท่านั้น

   ช่างเป็นหญิงสาวที่น่าดึงดูดอะไรเช่นนี้! ความคิดนี้แล่นผ่านจิตใจของฟางเจิ้งจือ

  อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนนี้ดูคล้ายกับหยุนชิงวูมาก เว้นแต่นางโตกว่าเล็กน้อย พี่สาวของหยุนชิงวูงั้นหรือ?

  ในตอนนั้นเองฟางเจิ้งจือก็ได้ยินเสียงที่น่าตกใจ

   ไป่ฉือ! 

   จักรพรรดินีอสูรไป่ฉือ!    นั่นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือ

  ฟางเจิ้งจือไม่แน่ใจว่าทำไมมู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือถึงมีเวลามาสังเกตุหญิงสาวด้านล่างแต่เขามั่นใจว่าพวกเขาต้องออกความเห็น

  จักรพรรดินีอสูร?!

  นั่นหมายความหญิงสาวที่ยืนอยู่นั่นเป็นอสูรที่มีอายุนับศตวรรษ?

   … ฟางเจิ้งจืออยากจะพูดว่าอสูรที่มีอายุขนาดนี้ควรอยู่บ้านแทนที่จะออกมาเสนอหน้าเช่นนี้

  แน่นอนว่าเป็นเพียงความคิดของเขา

  ในทางกลับกันสำหรับเหล่าศิษย์โดยรอบคำว่าจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือ ไม่ได้หมายถึงอสูรอายุมากเท่านั้น

  นั่นเพราะพวกเขามั่นใจว่าการปรากฎตัวของจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือเป็นเหตุว่าทำไมพวกอสูรถึงยังไม่ถูกทำลายโดยสำนักทั้งห้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์  มู่ฉิงเฟิงหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

  โม่ฉานฉือเองก็เช่นกัน

  อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็กล้าเรียกตัวเองเพียงแค่หนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น ไม่มีใครกล้าอ้างว่าแข็งแกร่งที่สุด

  เหตุผลนั่นเพราะ…

  ในส่วนลึกของบึงน้ำใหญ่มีอสูรสาวอาศัยอยู่ที่วังแห่งหนึ่ง นางคือจิ้งจอกขาวเก้าหาง

  และจิ้งจอกขาวเก้าหางตนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไป่ฉือ!

   จักรพรรดินีอสูรไป่ฉือ! 

   จิ้งจอกขาวเก้าหางอสูรในตำนาน แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์?! 

   งดงามงดงามมาก… ทุกคนบอกว่าจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือมีความงดงามเป็นพิเศษ แต่การได้เห็นตัวจริงนั้นยิ่งกว่าตำนานเสียอีก! 

  เหล่าศิษย์ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดพวกเขารู้สึกถูกดึงดูดด้วยพลังลึกลับบางอย่างเพียงแค่มองไปที่ไป่ฉือ

   จักรพรรดินีอสูรไป่ฉือประตูทั้งสาม.. โอ้ไม่!  ต่างกับคนอื่น หนานกงเทียนสั่นเทาเมื่อเห็นจักรพรรดินีอสูร

  จากนั้นเขารู้สึกกังวลยิ่งกว่าเดิม

   เกิดอะไรขึ้น?! เสียงของหยานหยิงดังขึ้น ในฐานะที่เขาก็เป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขารู้ดีว่าความน่ากลัวของจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือเป็นเช่นไร

  อย่างไรก็ตามพลังซ่อนเร้นของหนานกงเทียนนั้นแข็งแกร่ง ไม่มีใครสามารถจัดการเขาได้ในเวลาอันสั้น

   ข้าไม่รู้แต่ข้ารู้ว่าเราต้องหยุดนาง! ประตูสองบาน …ไม่ใช่ประตูแห่งดินแดนพระเจ้า! เสียงของหนานกงเทียนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

   ไม่ใช่ประตูแห่งดินแดนพระเจ้า?! ความสนใจของหยานหยิงถูกดึงไปที่ประตูทั้งสองบานทันที แสงทีกำลังส่องสว่างทำให้เขารู้สึกถึงลางไม่ดีอย่างมาก

  ยิ่งกว่านั้นความรู้สึกที่เป็นลางร้ายนี้ มันแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก ราวกับว่ามีดกำลังแทงเข้ามาที่แผ่นหลังของเขา

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท