Gate of God – ตอนที่ 927 มอบชีวิต

ตอนที่ 927 มอบชีวิต

   ลอบโจมตี? เทพปีศาจกระตุกริมฝีปากและมองมือขวาที่พึ่งยกขึ้นก่อนจะประหลาดใจครู่หนึ่ง

  ในฐานะผู้ที่แข็งแกร่งจนถูกเรียกในนามพระเจ้าทำไมถึงต้องลอบโจมตีผู้ที่อ่อนแอราวกับมดปลวก

  อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยคำว่า’สวะ’

  เทพปีศาจไม่สามารถตอบสนองได้ชั่วขณะเขาคิดว่ามันอาจเป็นแรงกดดันที่เย็นเยือกของเขาที่ปล่อยออกไปโดยไม่ตั้งใจทำให้ฟางเจิ้งจือเข้าใจผิด

  ในขณะที่กำลังคิดเขาก็ตระหนัก…

  ฟางเจิ้งจือหนีไปแล้ว!

  นอกจากนี้เขายังหนีด้วยความรวดเร็วเขาไม่หันหน้ากลับมามองด้านหลังแม้แต่น้อย!

   …    … 

  ถ้ารู้ว่าถูกลอบโจมตีจากด้านหลังควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไร?จิตใต้สำนึกควรจะก้มหลมโดยธรรมชาติ

  ไม่ใช่การหลบหนี

  ฟางเจิ้งจือวิ่งหนีในทันทีโดยที่ไม่ก้มหลบแม้แต่น้อยหากมองไปที่เขาคงพูดได้แค่ว่าเขาอยากได้ขาเพิ่มอีกเพื่อที่จะวิ่งได้เร็วขึ้น

  หยุนชิงวูพูดไม่ออกเมื่อมองฟางเจิ้งจือที่กำลังหนีด้วยความเร็วสูง

  เทพปีศาจเองก็หมดคำพูดเช่นกันเขาคือปีศาจที่มีประกบการณ์ต่อสู้มากมาย และเจอกับอุบายหลอกล่อนับไม่ถ้วน แต่ในตอนนี้ ดูเหมือนเขา…

  หลงกลฟางเจิ้งจือเสียแล้ว!

  อย่างน้อยเขาก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งแต่ในช่วงเวลาสั้นๆแค่นั้นฟางเจิ้งจือก็หนีไปไกลกว่ายี่สิบก้าวแล้ว

  เกือบจะทันทีที่กริชดำปรากฎขึ้นอีกครั้งในขณะเดียวกันก็สังเกตุท่าทีของหยุนชิงวู

  สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจอย่างไรก็ตามมันหายไปในพริบตาและกลับสู่ความสงบเยือกเย็นอีกครั้ง

  เทพปีศาจเผยยิ้ม!

  ใช่แล้วเขายิ้ม

  ความจริงแล้วในตอนที่เขาเห็นหยุนชิงวูครั้งแรกก็รู้แล้วว่านางอ่อนแออ่อนแอเสียจนไม่ควรปรากฎตัวขึ้นในที่แบบนี้

  นอกจากนี้เขายังสามารถสัมผัสได้ถึงความเคารพและความหวาดกลัวจากเหล่าปีศาจอาวุโสและราชาอสูร

  ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะเคารพนางแต่ความกลัวเหล่านั้นทำให้เทพปีศาจอยากรู้

  ด้วยความอยากรู้ที่เกิดขึ้นในใจทำให้เขายินดีจะเสียเวลาเดิมพันกับหยุนชิงวูและด้วยความเต็มใจนี้เขาจะแพ้นางได้อย่างไร?

  เขาเก็บกริชดำในทันที

  เทพปีศาจไม่ได้เคลื่อนไหวเพราะกฎของการเดิมพันห้ามเคลื่อนไหวออกจากตำแหน่งเดิมอย่างไรก็ตามรอยแผลสีทองบนหน้าผากของเขาเริ่มส่องสว่าง

  ปีศาจทุกตนจะมีดวงตาที่สามบนหน้าผากดวงตาปีศาจแสดงให้เห็นถึงพลังของพวกเขา

  ดวงตาสีแดงแสดงให้เห็นว่ามีพลังในระดับจุติในขณะที่ดวงตาสีทองแสดงให้เห็นว่ามีพลังในระดับเซียน!

  ถ้าพูดให้ถูกเทพปีศาจเองก็ควรมีดวงตาปีศาจเช่นกันแต่เขากลับมีเพียงรอยแผลสีทองบนหน้าผากเท่านั้น

   กลับมา! เมื่อแสงสีทองเริ่มส่องสว่างจากรอยแผลเทพปีศาจก็ตะโกนด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   กลับไป?มีแต่คนโง่ที่ทำเช่นนั้น! ฟางเจิ้งจือตอกกลับ เขาไม่ใช่คนโง่ ไม่ต้องพูดถึงวิธีต่อสู้กับเทพปีศาจแม้แต่น้อย เขารู้แค่ว่าพลังของเขาอาจจะไม่สามารถสู้กับไป่ฉือโดยลำพังได้  มู่ฉิงเฟิงโม่ฉานฉือและเฉียนยู่หนีไปหมดแล้ว

  ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว?

  ฟางเจิ้งจือไม่ได้โง่ถ้าเขามีโอกาสที่จะหนีเขาจะทำและไม่คิดจะนั่งรอความตายอยู่ที่นี่แม้แต่น้อย

  แต่การที่ฉือกูเหยียนและวู่จวี้เอ๋อไม่ได้หนีทำให้เขาพูดไม่ออก

  ค่อนข้างโล่งใจ

  แต่มันทำให้เขาผิดหวัง

   หนีพวกเขาโง่หรือไง… ก่อนที่เขาจะพูดจบ ท่าทีของฟางเจิ้งจือก็แข็งค้างด้วยความตกตะลึง

  เขาตระหนักว่า…

  เขากลับมาที่จุดเดิมอีกครั้ง!

  ใช่แล้วเขากลับไปอยู่จุดเดิมตรงหน้าเทพปีศาจและหยุนชิงวู

   …    เกิดอะไรขึ้นกัน?! 

  ฟางเจิ้งจืออยากจะถามออกไปแต่มันไม่ใช่เวลามาสงสัยเพราะความเย็นเยือกจ่อที่คิของเขาแล้ว

  ต่างจากความเย็นเยือกก่อนหน้านี้มันคมเหมือนใบมีดและเขาถึงตัวเขาเกือบจะทันที

  มันเร็วมากจนเขาไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

   เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงถูกเรียกว่าเทพปีศาจผู้ควบคุมพื้นที่ว่าง? เทพปีศาจเผยยิ้มอย่างเย็นชาและไม่แปลกใจที่เห็นฟางเจิ้งจือโผล่มา

   … ฟางเจิ้งจือไม่มีเวลาตอบกลับ

  นั่นเพราะตอนที่รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่โจมตีเข้ามาเขาก็รู้สึกปวดคอ ความหนาวเย็นที่รวดเร็วโจมตีคอของเขาโดยตรง

  หรือพูดอีกอย่าง…

  หลังจากที่ความหนาวเหน็บถูกปล่อยออกมาจากเทพปีศาจมันไม่ได้พุ่งผ่านอากาศแล้วเข้าถึงคอของเขาโดยตรง

   ! ฟางเจิ้งจือไม่มีโอกาสพุ่งหนีหนทางเดียวคือก้าวไปด้านข้างสามก้าวแล้วใช้เต๋าสวรรค์

  แสงสีฟ้าส่องประกายออกมา

  ร่างของฟางเจิ้งจือปรากฎขึ้นไม่ไกลพร้อมกับเลือดที่ไหลหยดจากคอเล็กน้อย

   ระดับจุติ?น่าประหลาดใจจริง เทพปีศาจตกใจเล็กน้อยเมื่อเขามองไปที่ฟางเจิ้งจือ

  ในขณะเดียวกันฟางเจิ้งจือก็รู้สึกถึงความหนาวจากด้านหลัง

  ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมแม้แต่หยานหยิงถึงบาดเจ็บจากกริชดำของเทพปีศาจโดยไม่ทันได้ป้องกัน

  นั่นเพราะความเร็วในการโจมตีของเทพปีศาจรวดเร็วเป็นพิเศษความจริงแล้วมันไม่ควรจะใช้แค่คำว่า ‘เร็ว’

  วิชาเต๋าแบบไหนกัน…   ฟางเจิ้งจือจับดาบไร้ร่องรอยแน่น

  ฉากที่กริชดำของเทพปีศาจกระพริบในอากาศสองครั้งเข้าโจมตีหยานหยิงผุดขึ้นในใจของฟางเจิ้งจือ

  ควบคุม?

  เดี๋ยวก่อน!

  พื้นที่ว่าง!

  เหงื่อไหลลงจากหน้าผากของฟางเจิ้งจือ

   มันคือพื้นที่!การแยกพื้นที่ออกจากกัน! ถึงจะเป็นการคาดเดาแต่มันก็อธิบายสิ่งที่หยานหยิงและฟางเจิ้งจือเจอกับตัวได้

  ไม่มันไม่ใช่แค่การแยกพื้นที่…

  เขาสามารถควบคุมพื้นว่างที่ได้ด้วย!

  จู่ๆฟางเจิ้งจือก็นึกขึ้นได้ว่ามีพื้นที่เล็กๆปรากฎขึ้นต่อหน้าเขาในตอนที่เทพปีศาจตะโกนว่า’กลับมา’

  เขาไม่ได้กังวลทั้งเรื่องพื้นที่หรือการวิ่งไปรอบๆเขากังวลแค่การหลบหนี   … ฟางเจิ้งจือเข้าใจได้ในที่สุดแต่ก็หมดคำพูดนี่หมายความว่าเขาไม่สามารถเอาชนะเทพปีศาจตนนี้ได้อีกต่อไป

  ความจริงแล้วเขาจะเอาชนะคนที่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ยังไง? ส่งผ่านช่องว่างและโจมตี?

  ความรวดเร็วของเทพปีศาจทำให้ฟางเจิ้งจือนึกถึงสโลแกนในโลกก่อนหน้าของเขา’ส่งด่วนถึงมือด้วย…’

  ปัญหาก็คือ

  เขาจะหลบการโจมตีจากการส่งด่วนได้ยังไง?

  …

  ในขณะเดียวกันนั้นในที่สุดหนานกงเฮาก็ได้รับความช่วยเหลือจากหนานกงเทียนและเหล่าขุนนางตระกูลหนานกง

   เฮาเอ๋อร์เฮาเอ๋อร์! หนานกงเทียนกระวนกระวายอย่างมาก

   แค่ก… หนานกงเฮากระอั่กเลือดออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดขาว ในที่สุดดวงตาของเขาก็ค่อยๆเปิดออก

   เฮาเอ๋อร์เจ้าเป็นอะไรไหม? 

   ท่านพ่อ… หนานกงเฮามองไปที่หนานกงเทียนและเงยหน้ามองประตูสีเขียวและประตูสีดำที่เปิดออกบนท้องฟ้า  พวกเราแพ้ พวกเราแพ้แล้ว 

   ไม่พวกเราไม่ได้แพ้! หนานกงเทียนส่ายหน้า  ถ้าฟางเจิ้งจือตายผลไม้เทพเจ้าจะปรากฎขึ้นอีกครั้ง และเราจะสามารถ… 

   ท่านพ่อ! 

   เฮาเอ๋อร์เจ้าจะยอมแพ้ตอนนี้ไม่ได้! 

   ท่านพ่อข้าเหนื่อยแล้ว… 

   เหนื่อยหรือ?งั้นพักผ่อนซะหลังจาก …หลังจากฟางเจิ้งจือตาย… เราจะ… 

   ไม่ท่านพ่อ… ข้าหมายถึงข้าไม่ไหวแล้วจริงๆ หนานกงเฮาส่ายหัวและหันมองหนานกงมู่ที่นอนนิ่งอยู่ไม่ไกล  น้องมู่..ข้าขอโทษ 

   เฮาเอ๋อร์อย่าพูดแบบนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับมู่เอ๋อร์คือการตัดสินใจของข้าไม่ใช่เจ้า พวกเราต้องรออีกหน่อย รอโอกาส… 

   ท่านพ่อท่านคิดว่ายังมีโอกาสอยู่จริงๆหรือ? หนานกงเฮาพูดแทรกขึ้นและชี้ไปยังเทพปีศาจบนต้นไม้เทพเจ้า

   … หนานกงเทียนกระตุกริมฝีปากเล็กน้อยราวกับอยากพูดบางอย่างอย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดออกมา

  ในขณะเดียวกันสมาชิกตระกูลหนานกงต่างก้มหน้าลงและไม่พูด

  พวกเขาทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เรียกว่า’โอกาส’ …

  มันไม่มีอยู่จริง

  แม้ว่าผลไม้เทพเจ้าจะกปรากฎขึ้นอีกครั้งหลังจากฟางเจิง้จือตายเทพปีศาจและไป่ฉือจะไม่เอามันไปได้ยังไง?

   ท่านพ่อข้าล้มเหลว ตามกฎของตระกูลหนานกงข้าต้องถูกลงโทษ! หนานกงเฮาพูดอีกครั้งด้วยท่าทีน่าสงสาร   เฮาเอ๋อร์…เจ้าพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว พวกเราทุกคนเห็นความพยายามของเจ้า คนที่สมควรถูกลงโทษมันคือข้า …ข้าไม่สามารถ… 

   ความปรารถนาสุดท้ายของข้า…ท่านพ่อสัญญากับข้าเรื่องหนึ่ง! 

   เฮาเอ๋อร์อย่าพูดเช่นนั้น… 

   ท่านพ่อสัญญากับข้า! 

   …เจ้า…พูดมา 

   ช่วยน้องมู่! 

   นี่..แน่นอนข้าต้องการช่วยมู่เอ๋อร์ ยังไงก็ตามหัวใจของมู่เอ๋อร์… เจ้าควรรู้ไว้ว่าตระกูลหนานกงมีพลังสายเลือด ในรุ่นของเจ้ามีแค่เจ้ากับมู่เอ๋อร์ที่มีสายเลือดของตระกูลหนานกง …ศิษย์คนอื่นไม่สามารถสืบทอด… 

  แครก!เสียงที่แตกร้าวดังออกมา

  จากนั้นดวงตาของหนานกงเทียนก็เบิกกว้าง

  นั่นเพราะมือข้างหนึ่งจมลึกลงไปที่หัวใจของหนานกงเฮาเลือดไหลออกเต็มหน้าอกของเขา

   ท่านพ่อ…ถ้าท่านไม่ยอม ข้า ..ข้าจะทำลายหัวใจของข้าทันที! 

   เฮาเอ๋อร์เจ้า ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้! ร่างของหนานกงเทียนสั่นไหว ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่หนานกงเฮาต้องการ

   ข้าพ่ายแพ้ข้าควรได้รับการลงโทษ …ข้าเพียงแต่หวังว่าท่านพ่อจะทำตามความปรารถนาสุดท้ายของข้า เพื่อแลกกับชีวิตของน้องมู่ ในขณะที่หนานกงเฮาหันมองหนานกงมู่ แทนที่เขาจะรู้สึกเจ็บปวดแต่กลับเผยรอยยิ้มอย่างแผ่วเบา

   น้องมู่… 

   ข้ารู้ว่าเจ้าพยายามอย่างหนักมานานกว่าสิบปีข้ารู้ว่าเจ้าอยากเอาชนะข้าจริงๆ แต่ข้าไม่สามารถทำตามความปรารถนาของเจ้าได้ นั่นเพราะหากเจ้าเอาชนะข้าแล้ว เจ้าจะต้องแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมดและทุกข์ทนกับความเจ็บปวด…     ข้าไม่สามารถทำอะไรให้เจ้าได้มากแต่อย่างน้อยข้าขอมอบชีวิตให้กับเจ้า… 

   ข้ารักเจ้ามากที่สุดน้องชายข้า! 

  ริมฝีปากของหนานกงเฮาสั่นไหวไม่มีใครสามารถได้ยินเสียงของเขาได้ชัดเจน แต่พวกเขาได้เห็นหนานกงเฮาผู้ที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกกำลังหลั่งน้ำตาออกมา

   เฮาเอ๋อร์! หนานกงเทียนคร่ำครวญเขามองดูที่หนานกงเฮา ก่อนจะหันมองเทพปีศาจที่อยู่ด้านบนและกัดฟันแน่น  ไปเถอะ! 

   รับทราบ! หลังจากพวกเขาเห็นหนานกงเทียนอุ้มหนานกงเฮาขึ้นเหล่าขุนนางก็อุ้มหนานกงมู่อย่างระมัดระวังและหนีตามหนานกงเทียนออกไป

  สายลมบนยอดเขาสวรรค์ทำให้อากาศหนาวเย็นยิ่งขึ้น

  หนานกงเทียนและคนในตระกูบหนีไปพร้อมกับหนานกงเฮาและหนานกงมู่บนยอดเขาสวรรค์เหลือเพียงฉือกูเหยียน วู่จวี้เอ๋อ เหยียนเฉียนหลี่และเซียนสวรรค์พักพิงเท่านั้น

   จวี้เอ๋อไม่เหลือความหวังอีกแล้ว 

   ข้าไม่เชื่อ! วู่จวี้เอ๋อกัดริมฝีปากคิ้วของนางขมวดแน่นฉายาของเทพปีศาจสามารถมีความหมายได้หลายอย่าง ฟางเจิ้งจือตระหนักถึงความหมายหนึ่งแล้วในตอนนี้

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท