Gate of God – ตอนที่ 933 จิ้งจอกเลือดผสม?

ตอนที่ 933 จิ้งจอกเลือดผสม?

  ไป่ฉือรู้ว่าต่อให้นางไม่ทำอะไรฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนต้องอ่อนแรงลงแน่นอน

  มันเป็นเรื่องของจิตใจ

  การปรากฎตัวของนางยิ่งทำให้ความหวังของฉือกูเหยียนและฟางเจิ้งจือลดงลง

  ยิ่งนางอยู่นานเท่าไรยิ่งมีโอกาสโจมตี้พวกเขาทั้งคู่ตอนหมดความอดทน

  นี่คือสิ่งที่ไป่ฉือคิดและทำ

  เวลาผ่านไปการต่อสู้ระหว่างเทพปีศาจและฟางเจิ้งจือรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

  ทั้งฟางเจิ้งจือและเทพปีศาจคือปัจจัยที่ไป่ฉือไม่สามารถควบคุมได้

  อย่างไรก็ตามไป่ฉือขมวดคิ้วเพราะดูฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนไม่ได้กดดันเลยแม้แต่น้อยราวกับพวกเขาไม่เห็นการปรากฎตัวของไป่ฉือ

   … การที่คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญแต่ตอนนี้กลับถูกเมินเฉยนางควรจะคิดเช่นไร?

  เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!

  นี่มันบ้าบอเกินไปแล้ว!

  ไป่ฉือไม่เชื่อว่าฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนจะไม่สังเกตุเห็นนาง

  เช่นนั้นพวกเขาไม่ควรจะระวังการเคลื่อนไหวของนางหรือตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวหรอกหรือ?

  นางต้องการจะสบถออกมาเหลือเกิน’พวกแกตาบอดหรือไง?’

  แน่นอนว่านางไม่ได้ทำแบบนั้นนางรู้สึกว่ามันเป็นกับดักที่ฟางเจิ้งจือสร้างขึ้น

  ดังนั้นนางตัดสินใจที่จะรอต่อไป

  นางบอกตัวเองเรื่อยๆว่าอย่ากังวลเพราะตอนนี้นางกำลังแข่งความอดทนกับฟางเจิ้งจือ นางต้องพยายามนิ่งสงบเข้าไว้

  อย่างไรก็ตามเมื่อรอไประยะหนึ่งนางรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นบ้านางเห็นช่องว่างของฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนมากเกินไป นางไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

  ยิ่งกว่านั้นสายตาของเทพปีศาจดูเย็นชามากขึ้นเมื่อเห็นไป่ฉือไม่โจมตีทั้งๆที่มีโอกาสมากมาย

   พวกเด็กอวดดี!เจ้าบังคับให้ข้าลงมือเองนะ!  ในที่สุดไป่ฉือก็เลิกรอและคิดจะทำให้ฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนชดใช้ที่กล้าเพิกเฉิยนาง

  มันเป็นโอกาสดี!

  หลังจากตัดสินใจและเห็นโอกาสโจมตีนางไม่รออีกต่อไป

  ทั้งฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนไม่หันมามองนางแม้แต่น้อย

  ขณะที่นางเห็นฟางเจิ้งจือกำลังใช้ดาบโจมตีเทพปีศาจนางตัดสินใจจะโจมตีในทันที

   ยายแก่นั่นหมดความอดทนแล้วสินะ? ฟางเจิ้งจือสัมผัสได้ถึงจิตสังหารด้านหลังของเขา ไป่ฉือเฝ้ารอ กลับกันตัวเขาเองก็กำลังรอเช่นกัน ถ้าไป่ฉือไม่เข้าร่วมการต่อสู้เขาคงไม่มีทางเริ่มแผนการได้

  เมื่อไป่ฉือโจมตีมันทำให้เขามีความหวังที่จะได้รับชัยชนะดังคำกล่าว’ยิ่งเสี่ยงมากแค่ไหนผลที่ได้รับย่อมคุ้มค่ามากเท่านั้น’

  แน่นอนเขาต้องการเสี่ยง

  แม้จะต้องเสียสละบางอย่างไปก็ตาม….

  ตูม!ไป่ฉือโจมตีไปที่หลังของฟางเจิ้งจือด้วยพลังอันรุนแรง

   ว้าว…ยายแก่ท่านถึงกับลอบโจมตีข้าเชียวรึ?  ฟางเจิ้งจือถ่มเลือดออกมาจากปาก ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวและเจ็บปวด เห็นได้ชัดว่าเขากำลังกังวลเล็กน้อย

   ตายซะเจ้าเด็กเหลือขอ! ไป่ฉือประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่านางสามารถโจมตีฟางเจิ้งจือได้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นสัญญานแห่งชัยชนะนางก็ไม่รีรออีกต่อไป นางควบคุมหางทั้งเก้าให้โจมตีใส่ฟางเจิ้งจือ

  อย่างไรก็ตามร่างของฉือกูเหยียนและฟางเจิ้งจือกับร่วงลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว   คิดจะหนีงั้นรึ?! ไป่ฉือไม่ปล่อยโอกาสหายากเช่นนี้ไปง่ายๆ การที่ฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนหลบหนีเป็นเรื่องที่นางพอคาดเดาได้

  ไป่ฉือไล่ตามพวกเขาไปทันที

  อย่างไรก็ตามความเร็วของทั้งคู่ก็ไม่ใช่น้อยๆไป่ฉือไม่สามารถตามพวกเขาได้ทัน

  เทพปีศาจขมวดคิ้วเมื่อเห็นฉากตรงหน้า

  เขาไม่เต็มใจที่จะต่อสู้ระยะประชิดกับฟางเจิ้งจือเนื่องจากเขารู้ว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ฟางเจิ้งจือวางไว้สุดท้ายฟางเจิ้งจือต้องเป็นผู้ชนะแน่นอน

  อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อโอกาสตรงหน้าที่หายากนี้ได้

  ฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนกำลังหลบหนี!ในฐานะเทพปีศาจผู้ทรงพลังเขาต้องกลัวอะไร?

   ตาย! ในที่สุดเทพปีศาจก็เคลื่อนไหว

  เขาเข้าไปในห้วงพื้นที่ว่างเปล่าด้วยตัวเองมันเป็นพลังที่ทำให้ใครต่อใครหวาดกลัวเขา เขาสามารถปรากฎตัวบริเวณใดก็ได้รอบๆคู่ต่อสู้ของเขา

  เขาปรากฎตัวด้านหน้าของฉือกูเหยียนและฟางเจิ้งจือโดยไม่ลังเลเพื่อโจมตีพร้อมกับไป่ฉือ

  จากนั้นเขาแทงกริชสีดำไปที่ทั้งคู่โดยไม่ลังเล

  อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะโจมตีแสงสีขาวปรากฎขึ้นทันทีทำให้เขามองเห็นทุกอย่างไม่ชัดเจน

  มันสว่างจ้าจนทำให้เขาเจ็บปวดที่ดวงตาเขามองไม่เห็นอะไรแม้แต่น้อยนอกจากสีขาว

   ท่านแม่ระวัง! เสียงของหยุนชิงวูดังขึ้นทันที

  นางกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่คาดฝันอยู่ตลอดเวลายิ่งมีผู้เข้าร่วมการต่อสู้มากแค่ไหน เรื่องไม่คาดฝันย่อมมีโอกาสเกิดมากขึ้นเท่านั้น  นั่นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้

  มันเหมือนกับการที่คนเราซื้อของหนึ่งชิ้นโอกาสที่จะเจอปัญหาย่อมมีน้อยแต่ถ้าซื้อสิบชิ้นนั่นหมายถึงโอกาสที่จะเจอปัญหาย่อมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

  จริงๆแล้วนางไม่ได้อยากให้ไป่ฉือเข้าร่วมการต่อสู้

  นั่นเพราะเทพปีศาจจะชนะถ้าเขาสามารถรักษาระยะห่างจากฟางเจิ้งจือเอาไว้ได้และใช้พลังจากระยะไกลไปเรื่อยๆ

  อย่างไรก็ตามนางไม่มีเหตุผลที่ดีพอเพื่อจะหยุดไป่ฉือนางไม่สามารถพูดออกมาได้ว่า  ท่านแม่ ถ้าท่านเข้าร่วมการต่อสู้มันจะเป็นการสร้างปัญหาเพิ่ม 

  ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อลดความแข็งแกร่งของฟางเจิ้งจือ…

  มันต้องใช้เวลานานกว่านี้มาก

  อย่างไรก็ตามตอนนี้ไป่ฉือได้โจมตีออกไปแล้วหยุนชิงวูรู้ชัดเจนว่าแสงสีขาวมันคืออะไร

  ทุกคนมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจน

   เจ้าไร้ยางอายทำได้เยี่ยมมาก! วู่จวี้เอ๋อตะโกนออกมาด้วยความยินดีเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

  ในทางกลับกันนางโกรธมากนางไม่สามารถเข้าใจได้ว่าฟางเจิ้งจือกล้าใช้กลยุทธ์ไร้ยางอายเช่นนี้ได้ยังไง ในสถานการณ์เช่นนี้ฟางเจิ้งจือคิดว่าของแบบนี้จะทำให้เขาหนีไปจากศัตรูได้ง่ายๆงั้นหรือ?

  ก่อนที่ฟางเจิ้งจือจะรู้ว่าเทพปีศาจได้ขวางทางด้านหน้าเขาเอาไว้

  พวกเขาก็จะถูกโจมตีจากทั้งหน้าและหลังแล้ว?

  อย่างไรก็ตามก่อนที่นางจะโจมตีนางได้ยินเสียงเตือนของหยุนชิงวู

   ระวัง?! ร่างของไป่ฉือสั่นสะท้าน แม้นางจะมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่นางยังคงเชื่อมั่นในตัวของหยุนชิงวู  อย่างไรก็ตามนางจะถอยในสถานการณ์เช่นนี้ได้ยังไง?

  นางควรทำยังไงดี?

  ในขณะที่ไป่ฉือกำลังลังเลมันทำให้ความเร็วของนางลดลงเล็กน้อยจนทำให้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

  จากนั้นนางก็รู้สึกว่ากำลังถูกดึงด้วยแรงบางอย่าง

   ไม่!นี่มันการสลับตำแหน่ง!  ไป่ฉือรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที นางรู้ว่าฟางเจิ้งจือมีเต๋าสวรรค์ที่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งของคนอื่นได้

  อย่างไรก็ตามมันสายเกินไป….

  ร่างของนางปรากฎขึ้นอีกครั้งในตำแหน่งใหม่ในเวลาเดียวกันนางได้ยินเสียงจากข้างๆ

   เทพปีศาจข้าจะสู้กับท่านให้ตายกันไปข้างหนึ่ง! 

  ในที่สุดท่าทีของไป่ฉือก็เปลี่ยนไปนางคุ้นเคยกับเสียงนี้เป็นอย่างดี   ฟางเจิ้งจือ!!! ไป่ฉือต้องการถอยแต่มันเป็นไปไม่ได้ มีพลังมหาศาลอยู่ด้านหลังของนาง

  จากนั้นเสียงที่เย็นชาได้ดังขึ้น

   เจ้ามันรนหาที่ตาย! 

  ฉึก!ร่างของไป่ฉือแข็งค้าง เลือดไหลออกมาจากส่วนล่างของคอนาง

  มันทำให้นางหวาดกลัวถ้านางไม่ฟังหยุนชิงวูและชะลอความเร็วลง คอของนางคงถูกแทงทะลุไปแล้ว

  แต่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าความตาย

  กริชสีดำทำให้นางไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้

  แสงสีขาวหายไปจากท้องฟ้า

  โลกกลับสู่ความปกติ

  ไป่ฉือเบิกตากว้างมองเทพปีศาจขนสีขาวของนางชุ่มไปด้วยเลือด  เทพปีศาจเองก็มองไป่ฉือเช่นกัน

  เห็นได้ชัดว่าเขาทั้งตกตะลึงและไม่เชื่อ

  ในที่สุดเขาก็รู้ว่าตัวเองฆ่าผิดคน!

  อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กังวลเกินไปเขาสามารถสัมผัสได้ว่าอาการบาดเจ็บของไป่ฉือไม่ได้รุนแรงถึงชีวิต

  อย่างไรก็ตามเขาสงสัยเล็กน้อยเพราะเมื่อดวงตาของเขากลับเป็นปกติเขาเห็นดวงตาที่ราวกับอัญมณีสีน้ำเงินบนหน้าผากของไป่ฉือ

  มันทำให้เขางงงวยยิ่งกว่าเดิมไป่ฉือเป็นอสูรนางไม่ควรจะมีดวงตาปีศาจ

  เป็นไปได้ไหมว่าสายเลือดปีศาจที่ซ่อนอยู่ในตัวนางถูกปลุกให้ตื่นขึ้นหลังจากที่ถูกแทง?หรือนางจะมีสายเลือดผสม…

  เดี๋ยวก่อนนั่นไม่ใช่ดวงตาปีศาจ!

  หลังจากคิดไปสักพักเขาก็ตระหนักว่ามีระลอกคลื่นออกมาจากอัญมนีเม็ดนั้น

  ดวงตาสะกดจิต!   มันเป็นสมบัติที่แทบไม่มีใครสนใจเพราะว่ามันจะได้ผลก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามจ้องมองเป็นเวลานานอย่างน้อยสามวินาที

  สามวินาที!

  มีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นที่มองมันถึงสามวินาที!

  เทพปีศาจไม่ได้โง่เขาเพียงแปลกใจและสงสัย เขาไม่รู้ว่าจ้องดวงตาสะกดจิตไปนานแค่ไหน แต่เขารู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย

   เจ้ากล้ามากแต่เจ้าคิดว่าใช้วิธีนี้แล้วจะเอาชนะข้าได้งั้นรึ? ไร้เดียงสามาก!  หลังจากเทพปีศาจได้สติ ร่างของเขาหายไปในอากาศอีกครั้ง

  ความเร็วในการจู่โจมของเขาเร็วแค่ไหนความเร็วในการหนีของเขาก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน!

  นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเทพปีศาจคนนี้ถึงมีชีวิตในขณะที่เทพปีศาจคนอื่นๆตายไปในสงครามโบราณแน่นอนมันเป็นเหตุผลง่ายๆว่าทำไมเขาจึงมีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้

  เจ้าจะทำอะไรข้าได้ถ้าข้ารู้วิธีหนี?

  ……………………………………..

  ��

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท