ใช่ว่าผู้ที่เก่งกาจทุกคนจะต้องการเป็นวีรบุรุษกลับกันวีรบุรุษมักจะมีผู้ติตดามที่เก่งกาจอยู่เบื้องหลัง
ฉิงยี่เป็นคนแบบนี้
หลังจากเข้าสู่นิกายเงาความปรารถนาเดียวของนางคือช่วยเหลือวู่จวี้เอ๋อและยินดีที่จะเป็นดาบให้กับวู่จวี้เอ๋อ
ดังนั้นตอนที่วู่จวี้เอ๋อถามออกมาว่าใครเต็มใจที่จะทำภารกิจอยู่ที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือฉิงยี่จึงเสนอตัวโดยไม่ลังเล
เหตุผลนั้นง่ายมาก…
วู่จวี้เอ๋อต้องการให้นางเป็นคนอาสารับงานนี้
อย่างไรก็ตามทุกอย่างย่อมเกิดความผิดพลาดได้เสมอ การตัดสินใจของนางใช้ว่าจะหมายถึงความสำเร็จ
อา… เสียงของบางอย่างถูกฉีดขาดดังขึ้นขณะที่ฉิงยี่เหวี่ยงดาบแม้อาการบาดเจ็บของนางจะรุนแรง แม้นางจะเห็นโอกาสเพียงเล็กน้อย แต่นางก็ไม่สนใจ
โจมตี! ทหารปีศาจตะโกน
ในฐานะกองทัพชั้นยอดของเผ่าปีศาจพวกเขานั้นเก่งกาจกว่ากองทัพของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของประสบการณ์และจำนวน ดังนั้นพวกเขาจะต้องเกรงกลัวอะไร?
ฉั้วะ!
ฉึก!
ทหารปีศาจสองนายล้มลงกับพื้นในเวลาเดียวกันอย่างไรก็ตามดาบยาวในมือของพวกเขาเจาะเข้าไปในแขนของฉิงยี่พร้อมๆกัน
แกร้ง!ดาบของฉิงยี่ร่วงลงกับพื้น
…
ดวงอาทิตย์ค่อยๆลอยขึ้นเหนือขอบฟ้า
ณประตูทิศตะวันออกของเมืองฮวายอันมีถนนขนาดใหญ่ตรงไปหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ มันพึ่งถูกสร้างไม่กี่ปีโดยฟางเจิ้งจือและถูกตั้งชื่อว่า ‘ถนนเจิ้งจือ’
ความหมายของมันคือให้เหล่าศิษย์เรียนรู้และเอาฟางเจิ้งจือเป็นแบบอย่างหลังจากถนนถูกก่อสร้างมันกลายเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญสำหรับพ่อค้า
อย่างไรก็ตามวันนี้มีคนเดินอยู่บนถนนไม่มากนักนั่นเป็นเพราะมีทหารจำนวนมากอยู่ที่ประตูตะวันออก
ในความเป็นจริงประตูนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่พรมแดนที่สำคัญที่สุดของอาณาจักรเซี่ยมันถูกคุ้มกันโดยทหารอย่างแน่นหนา ยิ่งข่าวลือเกี่ยวกับปีศาจและอสูรมากขึ้นแค่ไหน พวกเขาก็ยิ่งต้องป้องกันแน่นหนามากเท่านั้น
โฮก!เสียงของสัตว์ร้ายดังขึ้นพร้อมกับเงาดำขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นที่ประตูเมือง เหล่าทหารต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นสัตว์ขี่สองตัวที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีขาวพร้อมทั้งปีกขนาดใหญ่ราวกับสามารถปกคลุมท้องฟ้าได้ทั้งหมด อะไร…มันคืออะไร? ทหารที่เฝ้าประตูตื่นตระหนกเมื่อเห็นสัตว์ร้ายสองตัวบินผ่านประตูเข้าไป
มันเป็นสัตว์ขี่หรือเปล่า?
พวกปีศาจใช่ไหม?…ดูสิมีใครบางคนยืนอยู่บนหลังพวกมัน!
เดี๋ยวก่อนนะ…คนนั้นดูเหมือนจะอุ้ม…ธิดาของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์?!
ธิดาของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์?ทำไมนางถึงถูกอุ้มอยู่ล่ะ?
เดี๋ยวก่อนคนที่อยู่ด้านหน้าใส่ชุดสีฟ้า…
ฟางเจิ้งจือ!
นั่นมันองค์ชายคังฟางเจิ้งจือ!
โอ้ดีแล้วที่องค์ชายกลับมาที่มณฑลฮวายอันเร็วเข้า…รีบไปรายงานท่านหลี่! หลังจากมองเห็นชัดเจน พวกเขาสามารถระบุตัวตนของฟางเจิ้งจือและวู่จวี้เอ๋อที่กำลังอุ้มฉือกูเหยียนได้ในทันที
คนจำนวนมากในเมืองต่างตกใจ ฟางเจิ้งจือ?!
เขาคือฟางเจิ้งจือ?
และธิดา…
เร็วเข้านั่นองค์ชายคังคุกเข่า!
พวกเขารีบคุกเข่าลงและเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
ตอนนี้อาณาจักรเซี่ยค่อนข้างต่างออกไปจากอดีต
ฟางเจิ้งจือและฉือกูเหยียนเป็นหนึ่งในผู้ทรงพลังที่สุดในแดนเหนือพวกเขาจะไม่แปลกใจได้ยังไงที่ทั้งคู่ปรากฎตัวขึ้นมาพร้อมๆกัน
…
บนหลังของสัตว์ขี่สีขาวฟางเจิ้งจือมองทหารและผู้คนที่คุกเข่าอยู่ด้านล่างพร้อมขมวดคิ้ว เขาพบฉากแบบนี้ตลอดการเดินทาง
เขาเป็นที่รู้จักในทุกๆเมืองที่เขาเดินทางผ่านอย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องเหล่านี้ เขากำลังรีบ จริงๆแล้วเขาได้พูดคุยเรื่องเหล่านี้กับเหยียนเฉียนหลี่และเซียนสวรรค์พักพิงหลังจากที่ลงมาจากภูเขาสวรรค์พวกเขาบอกว่ามันยังไม่สายเกินไปที่จะล้างแค้น
รวมถึงบอกฟางเจิ้งจือถึงแผนการมากมายในอนาคต
เหยียนเฉียนหลี่แนะนำให้เขาไปที่ดินแดนเหลียงตะวันตกห่างไกลผู้คนเซียนสวรรค์พักพิงบอกให้เขากลับไปที่นิกายเงาก่อนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของฉือกูเหยียน
อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือปฏิเสธเขาต้องการไปที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ
เหตุผลนั้นง่ายมากเขาไม่ต้องการหลบซ่อนอยู่ในที่กำบังเขาต้องการอยู่อย่างเปิดเผยในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือฟางเฮ่าเตอและฉินซูเหลียน แม้วู่จวี้เอ๋อจะมอบหมายให้ฉิงยี่ปกป้องพวกเขาแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในตอนนี้เปลี่ยนไป… ในอดีตเขาอาจจะไม่กังวลมากนักฉิงยี่ทรงพลังมากพอยกเว้นว่านางจะเจอศัตรูที่อยู่ในระดับเซียนขึ้นไป
อย่างไรก็ตามหลังกลับมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฟางเจิ้งจือเปลี่ยนใจ
มีตัวตนที่ทรงพลังอยู่บนโลกใบนี้มากเกินไปยิ่งกว่านั้นเผ่าอสูรและเผ่าปีศาจกำลังร่วมมือกัน เช่นนั้นแล้วพื้นที่ต้องห้ามบริเวณภูเขาคังหลิงจะยังเป็นพื้นที่ต้องห้ามอยู่งั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือเป็นกังวลเขาไม่ต้องการให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
สำหรับการบาดเจ็บของฉือกูเหยียนดูไม่หนักเท่าที่คิดนอกจากนี้เขารู้ว่าสภาพร่างกายของฉือกูเหยียนไม่ได้ต้องการการพักฟื้นหรือใช้ยาวิเศษอะไร
มันเป็นความรู้สึกที่แปลก
ราวกับนางได้เข้าสู่สภาวะจำศีลการเต้นของหัวใจนางช้ามาก อุณหภูมิในร่างกายก็ต่ำมาก อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือรู้สึกว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีกว่าถ้าจะนำฉือกูเหยียนกลับไปยังหมู่บ้านภูเขาทางเหนือที่เงียบสงบ
แน่นอว่าเขาไม่แปลกใจที่วู่จวี้เอ๋อจะตามเขามาด้วย
รีบหน่อย! ฟางเจิ้งจือกล่าวกับสัตว์ขี่อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถเร็วไปกว่านี้ได้แล้ว เวลาครึ่งเดือนที่พวกมันเดินทางมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์สู่แดนเหนือของอาณาจักรเซี่ย พวกมันเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก
เจ้าไร้ยางอายพวกเราไม่พบปัญหาอะไรตลอดการเดินทาง มันคงไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น… วู่จวี้เอ๋อเข้าใจฟางเจิ้งจือดี
อืม ฟางเจิ้งจือพยักหน้า
ข้าคิดว่าเจ้าจะมั่นใจมากขึ้นถ้ามาถึงที่นี่เพราะสิ่งใดที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านทางเหนือข่าวย่อมมาถึงเมืองฮวายอันด้วย
ฟางเจิ้งจือพยักหน้าอีกครั้ง
ถ้าเจ้าอยากไปเร็วกว่านี้ข้ามีคำแนะนำ อืม…อืม?อะไรนะ? ฟางเจิ้งจือที่กำลังพยักหน้าอีกครั้งพึ่งเข้าใจสิ่งที่วู่จวี้เอ๋อพูด
สัตว์ขี่พวกนี้เหนื่อยล้าเกินไปแล้วถ้าเจ้าทนไม่ไหวข้าแนะนำให้เจ้าไปด้วยตัวเอง พวกเราผ่านเมืองฮวายอันมาแล้วเส้นทางค่อนข้างเงียบสงบ เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉือกูเหยียน
เจ้าอ่อนแอมากจะดูแลนางได้ยังไง? ฟางเจิ้งจือกังวลเล็กน้อย
หา?เจ้าบอกว่าข้า…ได้ แม้ข้าจะไม่ได้แข็งแกร่งเช่นเจ้า ข้ายังสามารถรับมือกับศัตรูได้สักพัก เจ้าควรไปก่อนถ้ามีอะไรเกิดขึ้นข้าจะส่งสัญญานให้เจ้า มันไม่สายเกินไปหรอกที่เจ้าจะมาช่วยข้าที่หลัง วู่จวี้เอ๋อพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด
อืม…เจ้าพูดถูก! ฟางเจิ้งจือพยักหน้าจากนั้นก็กระโดดลงไปจากหลังสัตว์ขี่ทันที
จากนั้นแสงสีฟ้าก็เปล่งออกมาจากร่างฟางเจิ้งจือเขาหายไปจากนั้นตำแหน่งเดิมก่อนจะปรากฎขึ้นในตำแหน่งที่ไกลออกไปทันทีเขาเร็วกว่าสัตว์ขี่เสียอีก
เห้อฟางเจิ้งจือ…เจ้าไม่แม้แต่จะกล่าวลาข้า? น่าหงุดหงิดนัก…ไม่กล้ามีใครเคยกล้าปฏิเสธข้าแท้ๆ! วู่จวี้เอ๋อพึมพัมกับตัวจากนั้นก็ก้มลงมองฉือกูเหยียนที่นางอุ้มอยู่เงียบๆ
….
ในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือร่างกายของฉิงยี่เปื้อนไปด้วยเลือด นางคุกเข่าอยู่บนพื้น เลือดและเหงื่อไหลท่วมใบหน้า
ตาย! ทหารปีศาจคำรามพร้อมแทงหอกไปที่ฉิงยี่
อย่างไรก็ตามทันทีที่หอกแตะคอของนางร่างของนางก็หายไปและมีเสียงบางอย่างดังขึ้น
ตูม!ทหารปีศาจล้มลงบนพื้นด้วยความไม่เชื่อ เขามองฉิงยี่ที่ตอนนี้ยืนอยู่ด้านหลังเขา
นั่นเป็นเพราะดาบของฉิงยี่หล่นลงไปแล้ว
แม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถฆ่าฉิงยี่ได้และยังโดนหมัดที่รุนแรงของฉิงยี่ต่อยจนเลือดไหลออกมาจากร่างของเขาราวกับน้ำพุ
ร่างของเขาทรุดลงกับพื้น
เห็นฉากนี้รองแม่ทัพปีศาจมองด้วยความแปลกใจ
เป็นไปได้ยังไงที่นางจะทำแบบนี้อาการบาดเจ็บของนางไม่ใช่น้อยๆ?
มันเป็นเพราะการตัดสินใจอันแน่วแน่ของนางงั้นรึ?หรือนางยังไม่ยอมตาย? ทหารปีศาจส่ายหัว เขาไม่รู้คำตอบ
ท้ายที่สุดด้วยพลังของนางสามารถหนีออกจากหมู่บ้านภูเขาทางเหนือโดยไม่มีทหารปีศาจค้นพบ
ดังนั้นเหตุผลของนางคืออะไร?
ภารกิจ?หรือเพื่อปกป้องใครบางคน?
รองแม่ทัพปีศาจมองผู้ชายและผู้หญิงรวมถึงเด็กชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังฉิงยี่
ฟางเฮ่าเตอฉินซูเหลียนและไชเท้าน้อย ต้องเป็นเพราะพวกมัน? รองแม่ทัพปีศาจหรี่ตา เขารู้วิดีที่สุดที่จะทำให้ฉิงยี่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย
ถ้าคนที่ต้องการปกป้องตายงั้นนางจะสู้ต่อไปเพื่ออะไร?
จริงๆแล้วตั้งแต่ที่เขารู้ว่าที่นี่คือหมู่บ้านของฟางเจิ้งจือเขาก็มีความคิดนี้อยู่แล้ว
จับฟางเฮ่าเตอและฉินซูเหลียน
มีวิธีมากมายที่จะทำให้ฉินซูเหลียนและฟางเฮ่าเตอสูญเสียความทรงจำ
อย่างไรก็ตามเขาล้มเลิกแผนนี้มันวุ่นวายและมีตัวแปรมากเกินไป
ต่อให้เขามีเหตุผลมากมายมาอ้างย่อมมีคนไม่เชื่ออยู่ดีแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือฟางเจิ้งจือ
เขาไม่ได้กลัวฟางเจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามเขาไม่อยากเสี่ยงด้วยชีวิตของตัวเองที่สำคัญใช่ว่าจับตัวฉินซูเหลียนและฟางเฮ่าเตอแล้วเขาจะได้เปรียบ มีคนแบบเดียวที่ไม่สามารถพูดได้…คนที่ตายไปแล้ว! รองแม่ทัพปีศาจปล่อยจิตสังหารออกมา การที่ปีศาจเช่นข้าลงมือฆ่าพวกเจ้าด้วยตัวเองก็ถือเป็นเกียรติสำหรับชาวบ้านธรรมดาๆแล้ว
……………………………………..