มันเกิดขึ้นเร็วมากตั้งแต่เสียงเริ่มดังขึ้นจนถึงตอนที่แสงสีม่วงพุ่งเข้ามา
ทหารปีศาจโดยรอบไม่สามารถตอบสนองได้ทันพวกเขาทำได้แค่จ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
นายน้อย!
นายน้อยหลบเร็วเข้า! เสียงที่ตกใจของรองแม่ทัพปีศาจดังขึ้นพร้อมกับแสงสีแดงที่ส่องสว่างออกมาจากร่างของเขา
ดาบของเขาชูขึ้นบนท้องฟ้าและฟาดลงที่แสงสีม่วงอย่างไม่ลังเล
ด้วยพลังของเขาไม่สามารถเอาชนะแสงสีม่วงนั้นได้อย่างไรก็ตามเนื่องจากแสงดาบพุ่งมาจากทางเข้าหมู่บ้านจึงทำให้มีโอกาสป้องกันหยุนชิงวูได้
ข้าไม่ยอมให้เจ้าทำร้ายนายน้อย! รองแม่ทัพปีศาจร้องคำรามและฟาดดาบไปที่แสงสีม่วงด้วยพลังทั้งหมด
อย่างไรก็ตามในขณะที่ฟาดดาบลงเขาก็ตระหนักถึงความน่าสะพรึงกลัวลำแสงสีม่วงที่พุ่งเข้ามาเร็วกว่าที่เขาคิดไว้มาก
ก่อนที่ดาบจะฟาดฟันแสงสีม่วงก็เข้ามาถึงตรงหน้าเขาแล้ว
ฟุ่บ!แสงสีม่วงตัดผ่านเปลวไฟบนร่างของรองแม่ทัพปีศาจ
ฮึ่มม!!เสียงร้องคำรามเหมือนมังกรดังก้องไปทั่วภูเขา มันเป็นเสียงที่ตื่นเต้นและโกรธเกรี้ยว
หยุนชิงวูตกตะลึงและดูประหลาดใจเล็กน้อยอย่างไรก็ตามนางไม่ได้หลบตามที่พวกปีศาจเตือน
ใกล้เข้ามาแล้ว!
ในตอนที่แสงสีม่วงอยู่ห่างจากลำคอหยุนชิงวูเพียงหนึ่งนิ้วมันก็ถูกหยุดเอาไว้โดยแขนเรียวยาวข้างหนึ่งแขนที่ที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำ แขนข้างนั้นเร็วกว่าแสงสีม่วงมาก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนโดยรอบตกตะลึงความแหลมคมของแสงสีม่วงสามารถทะลุผ่านร่างของรองแม่ทัพปีศาจไปได้อย่างง่ายดาย
มันเป็นฉากที่เหนือความเป็นจริงอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นแขนที่ปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำสามารถหยุดแสงสีม่วงที่พุ่งเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
หืม?? เสียงที่สับสนและประหลาดใจดังขึ้นในขณะเดียวกันสายลมแรงที่พัดผ่านทำให้ผ้าคลุมหน้าของนางโบกสะบัด
ร่างนั้นคือผู้หญิงที่ดูน่าหลงไหลและดูมีอายุน้อยกว่ายี่สิบปี ดวงตาข้างหนึ่งเป็นสีแดงส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นสีเขียว
ดูเหมือนจะมีคน…… อีกเสียงหนึ่งกล่าวออกมาจากนั้นอีกร่างหนึ่งปรากฎตัวขึ้นด้านขวาหยุนชิงวู ใต้ผ้าคลุมหน้าเผยให้เห็นใบหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งและท่าทีที่ทำให้ผู้คนต้องสั่นกลัว
เขาคือเป็นผู้ชาย
นอกจากนี้เหมือนว่าชายคนนั้นจะมีท่าทีเยาะเย้ยผู้หญิงอีกคนอยู่
ในขณะที่เยาะเย้ยเขาปล่อยหมัดไปยังแสงสีม่วงที่พันอยู่บนแขนของหญิงคนนั้น
ฟุ่บ!แสงสีม่วงหลุดออกจากฝ่ามือที่ปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำ
ตูม!แสงสีม่วงกลายเป็นดาบยาวและปักลงบนพื้นดิน
…
ทหารปีศาจตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
พวกเขาคืออัจฉริยะที่ผ่านการฝึกฝนอันโหดร้ายแต่ก็ไม่คิดเลยว่าดาบนั้นจะแข็งแกร่งขนาดนี้
มันเร็วมาก! และแข็งแกร่งมาก!
ใครกัน?ดาบของใคร?!
เหล่าหทารปีศาจสั่นกลัวอย่างไม่สามารถควบคุมได้พวกเขาจ้องมองไปที่ดาบยาวบนพื้น
ดาบที่พุ่งมากจากทางเข้าหมู่บ้านแม้จะอยู่ในระยะไกลแต่ก็สามารถเจาะผ่านร่างรองแม่ทัพปีศาจได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังทำให้ผู้ชายและผู้หญิงคนนั้นต้องช่วยกัน
นี่เป็นความคิดที่พุ่งผ่านจิตใจเหล่าปีศาจในทันที
อย่างไรก็ตามในไม่ช้าพวกเขาก็เห็นรูปร่างที่แท้จริงของดาบเล่มนั้นมันคือดาบที่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก
ดาบไร้ร่องรอย!
ดาบของฟางเจิ้งจือ!
ฟางเจิ้งจือกลับมาแล้ว?!
คนที่เหล่าปีศาจคุ้ยเคยมากที่สุดไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฟางเจิ้งจือตำนานในสนามรบแดนใต้
ด้วยพลังของเขาเพียงคนเดียวฟางเจิ้งจือสามารถเปลี่ยนกระแสสงครามแดนใต้ได้ อีกทั้งยังทำให้ครึ่งเซียนอย่างคังหยางต้องตายลง
ความหวาดกลัวและความประหลาดใจ
นั้นคือความรู้สึกของเหล่าปีศาจเพราะในเวลาเพียงสองปีเด็กหนุ่มที่ต่อสู้ในสนามรบแดนใต้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้งด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัว
และอีกเหตุผลที่ทำให้พวกเขาตกใจก็คือผู้หญิงที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนกลับคว้าดาบนั้นได้ด้วยมือเปล่า
หรือว่าพวกเขาคือเทพปีศาจ! แม้พวกเขาจะรู้เรื่องการกลับมาของเทพปีศาจแต่ด้วยสถานะที่ต่ำต้อยทำให้พวกเขาไม่อาจรู้ถึงวามจริงทั้งหมดได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ถึงจำนวนและตัวตนของยุคโบราณที่เดินออกมาจากประตูเทพเจ้า ข้าบอกไปแล้วว่าไม่อยากมาแต่เจ้าก็ยังลากข้ามาแล้วดูตอนนี้เจ้าพวกนั้นทำเหมือนข้าเป็นปีศาจ! เห็นได้ชัดว่าข้าคืออสูรชั้นสูงต่างหาก! ผู้หญิงคนนั้นดูไม่พอใจอย่างมากในขณะที่มองลงไปยังทหารปีศาจเบื้องล่าง
ข้าลากเจ้ามางั้นหรือ? ผู้ชายข้างหยุนชิงวูตอบกลับด้วยความเย็นชา
โอ้เจ้าคิดจะปฏิเสธงั้นหรือ?!
… ชายคนนั้นนิ่งเงียบ
ในขณะเดียวกันทหารปีศาจโดยรอบก็ประหลาดใจอย่างสมบูรณ์
อสูร?!
นั่นคืออสูรโบราณที่ออกมาจากประตูเทพเจ้างั้นหรือ?!
…
ทหารปีศาจไม่รู้จะตอบสนองยังไงแต่แน่นอนว่าปัญหาพวกนี้ไม่สำคัญแม้แต่น้อย
นั่นเพราะดาบไร้ร่องรอยเริ่มลอยขึ้นอีกครั้งและพุ่งกลับไปที่ทางเข้าหมู่บ้าน ในขณะเดียวกันร่างๆหนึ่งก็ปรากฎตัวตรงหน้าทหารปีศาจ
ชุดสีฟ้าพริ้วไหวไปตามสายลมดวงตาคู่นั้นแดงก่ำด้วยความโกรธ
ดวงตาที่กวาดมองหยุนชิงวูก่อนจะหันมองทหารปีศาจและเหล่าชาวบ้านที่ล้มอยู่กับพื้น
ในที่สุดดวงตาคู่นั้นก็จับจ้องไปที่ศพร่างหนึ่ง
ศพที่คอของเขาถูกแทงด้วยดาบใบหน้าที่แก่ชราและดวงตาที่ยังคงเบิกกว้างไรร่องรอยของสัญญานชีวิต
ลุงหยางปิง!!!หยุนชิงวู …หยุนชิงวู เจ้ากล้านำกองทัพปีศาจมาฆ่าล้างคนในหมู่บ้านของข้าได้ยังไง! จิตสังหารพวยพุ่งออกจากร่างของฟางเจิ้งจือราวกับคลื่นยักษ์
เขาไม่ได้พูดอะไรมากนัก
เพราะมังกรทุกตัวย่อมมีจุดที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หมู่บ้านภูเขาทางเหนือคือแดนศักดิ์สิทธิ์ในใจของฟางเจิ้งจือเขาเติบโตขึ้นมากับครอบครัวและเหล่าชาวบ้านที่หมู่บ้านแห่งนี้
ระหว่างทางกลับมาเขารู้สึกมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้จริงจังมากนัก
ฟางเจิ้งจือคิดเสมอว่าจุดที่แตกต่างเดียวของเขาและหยุนชิงวูคือเผ่าพันธุ์เขาคือมนุษย์และหยุนชิงวูคือปีศาจ
นั่นเป็นความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลง
เขาต้องกลายเป็นศัตรูกับนางเพราะเรื่องนี้เขาต้องการฆ่าหยุนชิงวูและนางก็สามารถฆ่าเขาได้เช่นกัน นี่คือความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเพราะเผ่าพันธุ์ที่ต่างกัน
ฟางเจิ้งจือเกลียดหยุนชิงวูอย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพราะการต่อสู้ระหว่างเผ่าพันธ์ุ
เขาคิดอยู่เสมอว่าเขาและหยุนชิงวูมีความคล้ายกันมาก
พวกเขาต่อสู้ พวกเขาไร้ยางอายและจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
อย่างไรก็ตามพวกเขาจะไม่เข่นฆ่าอย่างเช่นตอนที่ฟางเจิ้งจือเจอกับหยุนชิงวูนอกหมู่บ้านและเขาไม่ได้ฆ่านาง
เมื่อฟางเจิ้งจือเข้าถึงศิลาเซียนทั้งสิบสามเขามีโอกาสที่จะฆ่าหยุนชิงวูแต่ก็ไม่ได้ทำ
นั่นเพราะเขาได้ประโยชน์จากเรื่องนั้น
หยุนชิงวูมอบศิลาเซียนสิบสามก้อนให้กับเขาแม้จะไม่รู้ว่าอะไรคือเหตุผลที่แท้จริงแต่เขาก็ไม่สามารถฆ่านางได้เมื่อได้ประโยชน์จากสิ่งที่นางทำ
อย่างไรก็ตามตอนนี้…
ฉากตรงหน้าจะยังทำให้คิดว่าเขาคล้ายกับนางอยู่ได้ยังไงเมื่อมองไปที่ศพของจางหยางปิงและชาวบ้านที่นอนอยู่บนพื้น?
เจิ้งจือ!
เจิ้งจือกลับมาแล้ว!
เจิ้งจือ…แข็ง …แข็งแกร่งขนาดนี้?! ฟางเจิ้งจือเป็นความภาคภูทิใจของหมู่บ้านภูเขาทางเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับตำแหน่งองค์ชายคังแห่งอาณาจักรเซี่ยตั้งแต่อายุสิบแปด
อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกภาคภูมิใจ
ชาวบ้านไม่สามารถรู้ถึงพลังที่แท้จริงของฟางเจิ้งจือได้กลับกันแล้วเขายังคงทำตัวเหมือนชาวบ้านทั่วๆไปตอนที่อยู่ในหมู่บ้าน
ดังนั้นชาวบ้านจึงรู้แค่ฟางเจิ้งจือเป็นคนที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่งเท่านั้น
ซึ่งรวมไปถึงฟางเฮ่าเตอและฉินซูเหลียนด้วย
แต่ตอนนี้..พวกเขารู้แล้ว
พวกเขารู้แล้วว่าทำไมคนอายุสิบแปดถึงได้รับตำแหน่งองค์ชายอีกทั้งได้รับแต่งตั้งให้ดูแลพื้นที่รอบหมู่บ้านและภูเขาคังหลิง
พวกเขายังรู้อีกว่าทำไมกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือถึงต้องลดเสียงตอนที่คุยกับฟางเจิ้งจือ
เขาแข็งแกร่งเกินไปมีพลังมากจนสามารถจัดการทหารปีศาจที่แข็งแกร่งได้ แม้จะเป็นกองทัพกว่าหมื่นตนก็ตาม
เจิ้งเอ๋อร์..
เจิ้งเอ๋อร์ไม่ต้องห่วงข้าแล้วหนีไป! ฟางเฮ่าเตอรู้ถึงพลังของฟางเจิ้งจือ แต่ในฐานะพ่อเขาจะทนดูฟางเจิ้งจือเอาชีวิตไปเสี่ยงตายได้ยังไง?
พ่อ..แม่ วางใจเถอะ ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยพวกท่านและจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพวกท่านได้อีก ไม่ว่าใครก็ตาม! ฟางเจิ้งจือกำดาบไร้ร่องรอยแน่นจนข้อมือเปลี่ยนเป็นขาวซีด
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เคลื่อนไหวทันทีเพราะหยุนชิงวูอยู่ห่างจากฟางเฮ่าเตอและฉินซูเหลียนไม่ถึงหนึ่งก้าว
ยิ่งกว่านั้นด้านหน้าหยุนชิงวูก็มีชายหญิงที่สามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้
ฟางเจิ้งจือกำลังโกรธแค้นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าเสี่ยงพันว่าหยุนชิงวูจะไม่ทำร้ายฟางเฮ่าเตอและฉินซูนเหลียน
เด็กเหลือขอคนนี้คือฟางเจิ้งจือ?ผู้ควบคุมพื้นที่ว่างถูกฆ่าโดยเด็กคนนี้งั้นหรือ? หญิงสาวที่ยืนตรงหน้าหยุนชิงวูพูดขึ้นเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือ เขาดูโกรธมากเลย!
อือดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น ชายคนนั้นพยักหน้ารับ
พลังของเขาไม่เลวเลยข้าคงจะสนุกไม่น้อยถ้าได้รับมือกับพลังของเขา เจ้าไม่ต้องเข้ามายุ่ง ข้าต้องการจัดการเขาด้วยตัวเอง เข้าใจไหม? หญิงสาวพูดอีกครั้งพร้อมปล่อยกลิ่นอายที่น่ากลัวออกมา
ข้าเข้าใจแต่ข้าควรถามความเห็นนายน้อยก่อน ชายคนนั้นส่ายหัวอย่างไม่ตั้งใจและหันมองหยุนชิงวู
ใช่ใช่ ข้าเกือบลืม …ตอนนี้เผ่าอสูรเองก็มีจักรพรรดินีน้อยเช่นกัน จักรพรรดินีน้อยชิงวู ท่านว่ายังไงหรือ? หลังจากได้ยินนางก็หันมองหยุนชิงวู ในขณะเดียวกันหยุนชิงวูกำลังจ้องมองฟางเจิ้งจือที่กำลังปล่อยจิตสังหารออกมาริมฝีปากของนางสั่นไหวเล็กน้อย
เจิ้งจือฆ่านาง นางคือนายน้อยของเหล่าปีศาจ ถ้านางตายพวกเราคงนอนตายตาหลับ! ชาวบ้านตะโกนออกมา
ใช่แล้วไม่ต้องกังวลเรื่องของพวกเรา!
ฆ่านายน้อยของเหล่าปีศาจเพื่อแก้แค้นให้หัวหน้าหมู่บ้านของพวกเรา!
เมื่อได้ยินเสียงแรกชาวบ้านที่เลหือก็เริ่มตะโกนออกมาเช่นกัน
เจิ้งเออร์… ริมฝีปากของฉินซูเหลียนสั่นไหว นางอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา นางกัดริมฝีปากและกอดไชเท้าน้อยแน่น
จักรพรรดินีน้อยท่านจะไม่ฆ่าเด็กเหลือขอนี่หรือ? แต่เขาจะฆ่าท่านนะ มองจากแววตาที่โกรธแค้นคู่นั้น ข้าเริ่มกลัวขึ้นมานิดหน่อยแล้วสิ… หญิงสาวยิ้มพร้อมพูดอีกครั้งเมื่อนางเห็นหยุนชิงวูเงียบสนิท
……………………………………..