Gate of God – ตอนที่ 952 เจ้ารู้ชื่อของข้าแล้วใช่ไหม?

ตอนที่ 952 เจ้ารู้ชื่อของข้าแล้วใช่ไหม?

  หลินจีกำลังบ้าคลั่ง

  หลังจากโดนต่อยและเตะหน้าจากใครก็ไม่รู้ที่อยู่ดีๆก็โผล่มานางทั้งถูกเยาะเย้ยและโดนดูถูก ไม่ว่านางจะพยายามสงบใจมากแค่ไหน ตอนนี้นางไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

  เพราะนางนั้นเป็นเทพอสูร

  ถ้านางไม่เชื่อมั่นในอุดมการณ์ของหยุนชิงวูนางจะยอมเชื่อฟังหยุนชิงวูได้ยังไง?

   แผนขององค์จักรพรรดินี้น้อยคือกำจัดดินแดนภูเขาทางใต้รวมถึงสายเลือดที่มีโอกาสจะกอบกู้ดินแดนแห่งนี้ด้วยถ้าข้าฆ่าคนที่อยู่ดีๆก็โผล่หัวออกมาองค์จักรพรรดินีน้อยคงไม่ว่าอะไรข้าหรอกใช่ไหม?  หลินจีตัดสินใจว่านางจะไม่แสดงความเมตตาอีกต่อไป

  ด้านหัวหน้าถิ่นฐานอีกสองคนที่ถูกล้อมไว้ด้วยทหารปีศาจพวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน  ช่วยฉานยู่?

  ด้วยความสามารถของพวกเขามันเป็นไปไม่ได้

  อย่างไรก็ตามชายที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาคือใครกันแน่ทำไมเขาถึงเลือกช่วยฉานยู่ มีเรื่องที่น่าสงสัยมากเกินไป

  ตราบใดที่ยังเป็นแบบนี้โอกาสที่จะเกิดเรื่องไม่คาดฝันนั้นเป็นไปได้ตลอดเวลา

   ฆ่าทหารแดนใต้ทั้งหมด! ขณะที่พวกเขากำลังลังเล เสียงตะโกนของหลินจีก็ดังขึ้น

   รับทราบ! ทหารปีศาจหยิบอาวุธออกมาและโจมตีหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองทันที

  หัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองมองหน้ากันพวกเขาไม่มีทางเลือก

  แม้พวกเขาจะอ่อนแอแต่พวกเขาก็ไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ

  การต่อสู้ระหว่างหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองและทหารปีศาจเริ่มขึ้นอีกครั้ง

  ด้านฉานยู่ดวงตาของนางยังคงเต็มไปด้วยน้ำตามองร่างของเหยียนหยาที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นรวมทั้งหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองที่ถูกล้อมด้วยทหารปีศาจจำนวนมากนางต้องการเข้าไปช่วยแต่นางกลับไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้

   อ้าก!! เฉียนยู่ร้องออกมาพร้อมกับไฟสีแดงในดวงตาของนาง

  ในฐานะราชินีนางไม่สามารถหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองตายลงต่อหน้านางได้

  มันเจ็บปวดยิ่งกว่าตัวของนางตายเองเสียอีก

  นางพยายามดึงพลังออกมาจากร่างกาย

  อย่างไรก็ตามนางกลับต้องตกตะลึง

   หา?!…ข้าเคลื่อนไหวได้แล้ว?! เมื่อฉานยู่รู้นางรีบเคลื่อนไหวไปด้านหน้าทันที

  นางพุ่งไปหาหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามคนในทันที

  นางเร็วมาก

  แม้แต่ตัวของฉานยู่เองยังตกใจขณะที่นางวิ่งออกไปเส้นใยสีดำพุ่งออกมาจากร่างของนางและแข็งตัวเป็นกระจกป้องกันหัวใจสีดำที่หน้าอกของนาง

  ตูม!เสียงระเบิดที่ดังขึ้นด้านหลังนั่นหมายความว่าหลินจีและชายสวมหน้ากากได้เริ่มต่อสู้กันแล้ว

  อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญสำหรับฉานยู่เพราะเพียงกระจกป้องกันก็ทำให้นางรับรู้ถึงพลังและความปลอดภัย…

  ราวกับมีคนที่คอยปกป้องนางนางรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

   เขาเป็นใครกันแน่? ฉานยู่ไม่หันหลังกลับนางพุ่งไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง กริชสีดำปรากฎขึ้นในมือของนาง

   เหยียนหยาอดทนเอาไว้! 

  ฟุ้บ!

  กริชสีดำสองเล่มหมุนวนในมือทั้งสองข้างของนางตัดหัวของทหารปีศาจที่ขวางทางนางในทันที  …

  หลินจีไม่สามารถอธิายออกมาเป็นคำพูดได้

  ไม่ใช่เพราะพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันของฉานยู่หรือวิธีการต่อสู้ที่แปลกประหลาดของชายสวมหน้ากากแต่มันเป็นเพราะนางรู้สึกตลอดเวลาเหมือนมีคนกำลังอ่านความคิดของนางอยู่

  ราวกับมีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ข้างหลัง

  นี่เป็นครั้งที่สองที่หลินจีรู้สึกเช่นนี้ครั้งแรกนางฟุ้งซ่านจนไม่ระวังและโดนเตะเข้าที่ใบหน้า

  คราวนี้นางไม่ฟุ้งซ่านอีกต่อไปอย่างไรก็ตามนางรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี นางเหมือนกำลังต่อสู้กับศัตรูมากกว่าหนึ่งคน

   เจ้าเคยได้ยินเรื่องในตำนานไหม? ร่างนั้นลอยออกไปห่างจากหลินจีเพียงห้าก้าว เขากางมือข้างหนึ่งขณะที่อีกขว้างไขว้หลังเอาไว้

   ไร้สาระ หลินจีพุ่งไปข้างหน้าและปฎิเสธจะรับฟังอย่างไรก็ตามนางสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่จากร่างตรงหน้า มันราวกับมหาสมุทรอันกว้างขวาง นางตกใจมาก

  เขาเป็นใครกันแน่?

  ความทรงจำมากมายไหลผ่านหัวของนางนางต้องการจะค้นหาความสามารถของชายตรงหน้าจากความทรงจำในอดีตของนาง ตัวตนระดับเทพเจ้านั้นมีทักษะเฉพาะตัว

  เช่นเทพปีศาจผู้ควบคุมพื้นที่ว่างตัวของเขาสามารถหายเข้าไปในพื้นที่อันว่างเปล่าหรือมิติพิเศษและออกมาได้อย่างอิสระ

  สำหรับหลินยู่ที่เป็นปีศาจก็มีทักษะเฉพาะตัวเช่นกัน…

  ดังนั้นหลินจีต้องการรับรู้ความสามารถของชายตรงหน้านี้

   เจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องในตำนานจริงๆงั้นหรือ? เสียงของชายสวมหน้ากากดังขึ้นอีกครั้ง มันดูผิดหวังเล็กน้อย

  ตูม!

  กำปั้นของหลินจีปะทะเข้ากับกำปั้นของชายตรงหน้าอีกครั้งด้วยความได้เปรียบของพลัง ร่างของชายตรงหน้าลอยออกไปเล็กน้อย

  อย่างไรก็ตามหลินจีกลับขมวดคิ้วเหมือนชายตรงหน้าไม่ได้อยากสู้กับนางจริงๆ เขาเพียงหยอกล้อนางไปมาเท่านั้น

   เจ้าเคยไปที่เมืองเงาเลือดเจ้าน่าจะรู้ว่ามีรอบดาบขนาดใหญ่อยู่ที่เมืองนั้น เจ้าอยากรู้ไหมว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง?  ร่างนั้นยังคงพูดต่อไป

  แน่นอนว่าหลินจีรู้เรื่องที่ชายคนนั้นพูดแต่มันไร้สาระเกินไป มีแต่เด็กเท่านั้นที่เชื่อ

  ชายตรงหน้าคงพยายามหลอกนางด้วยเรื่องราวในตำนานรอยดาบที่เมืองเงาเลือด โง่เง่าสิ้นดี!

  เดี๋ยวก่อน!ครั้ง มันดูผิดหวังเล็กน้อย

  ตูม!

  กำปั้นของหลินจีปะทะเข้ากับกำปั้นของชายตรงหน้าอีกครั้งด้วยความได้เปรียบของพลัง ร่างของชายตรงหน้าลอยออกไปเล็กน้อย

  อย่างไรก็ตามหลินจีกลับขมวดคิ้วเหมือนชายตรงหน้าไม่ได้อยากสู้กับนางจริงๆ เขาเพียงหยอกล้อนางไปมาเท่านั้น

   เจ้าเคยไปที่เมืองเงาเลือดเจ้าน่าจะรู้ว่ามีรอบดาบขนาดใหญ่อยู่ที่เมืองนั้น เจ้าอยากรู้ไหมว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง?  ร่างนั้นยังคงพูดต่อไป

  แน่นอนว่าหลินจีรู้เรื่องที่ชายคนนั้นพูดแต่มันไร้สาระเกินไป มีแต่เด็กเท่านั้นที่เชื่อ

  ชายตรงหน้าคงพยายามหลอกนางด้วยเรื่องราวในตำนานรอยดาบที่เมืองเงาเลือด โง่เง่าสิ้นดี!

  เดี๋ยวก่อน!   เขารู้ได้ยังไงว่ามีรอยดาบที่เมืองเงาเลือด?

  หรือว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ที่ออกมาจากประตูเทพเจ้าทั้งสองบาน?

  ขณะที่หลินจีจะถามชายตรงหน้าว่าเขารู้ได้ยังไงร่างตรงหน้าก็เริ่มเคลื่อนไหว

  เขาโจมตี!

  หลังจากชายตรงหน้าถอยหลังไปสองครั้งเขาพุ่งเข้ามาหานางด้วยกิ่งไม้ในมือ

   กิ่งไม้?! ดวงตาของหลินจีเบิกกว้างในฐานะเทพอสูร นางมีความสามารถพอที่จะหยิ่งยโสเมื่ออยู่หน้าคู่ต่อสู้

  อย่างไรก็ตามนางควรจะรู้สึกเช่นไรเมื่อเห็นคู่ต่อสู้ของนางพุ่งเข้ามาพร้อมกิ่งไม้ในมือ?

  ไม่มีใครรู้แต่ใบหน้าของหลินจีกลายเป็นสีดำคล้ำ

   บางตำนานก็ไม่เป็นเรื่องจริง! ร่างนั้นกล่าวอีกครั้งก่อนที่เขาจะหายไป  จากนั้นเขาก็ปรากฎตัวขึ้นในตำแหน่งที่ห่างออกไป

  มันใกล้กับหลินจีมาก

  มันห่างจากหลินจีประมาณสองก้าว

   ตาย! หลินจีตกตะลึงเพราะความเร็วของชายตรงหน้านั้นเร็วมากจริงๆราวกับเขาเปลี่ยนตำแหน่งร่างของเขาอย่างไรก็ตามในฐานะที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มากมาย นางไม่ตื่นตระหนกแน่นอน

  ยิ่งไปกว่านั้นนางเป็นอสูร

  นางจะกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บจากการถูกโจมตีใส่หัวใจไปทำไม?

  จากนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นเกล็ดสีดำของหลินจียาวขึ้นอย่างรวดเร็ว มันยึดออกไปทุกทิศทางราวกับหนามแหลม

  การต่อสู้ระยะประชิด!

  เป็นสิ่งถนัดของเผ่าอสูร!

  หลินจีรอโอกาสนี้มานานมากอย่างไรก็ตามนางยังคงกังวลเพราะชายตรงหน้ายังไม่แสดงจุดประสงค์ออกมาชัดเจน

  อย่างไรก็ตามนางไม่ได้แปลกใจกับการกระทำของเขามากนัก

  ไม่มีใครโง่พอที่จะสู้กับอสูรในระยะประชิดอย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนจะสามารถอธิบายบางอย่างได้ คู่ต่อสู้ของนางดูเหมือนจะรู้มากเกินไปราวกับเขาอยู่บนโลกนี้มานาน มันอดทำให้นางสับสนไม่ได้

  แต่ตอนนี้ความสับสนของนางดูเหมือนจะถูกอธิบายแล้ว

  หลินจีจะไม่แปลกใจได้ยังไงที่ฝั่งตรงข้ามเลือกการต่อสู้ระยะประชิด?

  แกรก!กิ่งไม้ที่เล็งมาที่หัวใจของหลินจีหักลงเพราะเกล็ดของนางทันที

  หลินจียิ้ม

  บนร่างกายของนางไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อยทุกส่วนล้วนถูกป้องด้วยเกล็ดสีดำ

  กิ่งไม้?

  เจาะร่างของนาง?   คงบอกได้ว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นแม้แต่ในความฝันก็ตาม

  หลินจีหัวเราะด้วยความดูถูกแต่ก็ไม่นานนักเพราะว่ามือนั้นตรงมาที่ใบหน้าของนาง

  ตบหน้า!

  หลินจีอยากจะถามออกมาเหลือเกินทำไมเจ้าถึงฉวยโอกาสหลายครั้งหลายครา? เจ้าต้องไร้ยางอายขนาดไหนถึงตอบหน้าผู้หญิงได้?

  ในฐานะที่เป็นผู้หญิงนางย่อมกังวลเกี่ยวกับความสวยงามจึงไม่ได้ให้เกล็ดปกคลุมไปใบหน้าเอาไว้

  อย่างไรก็ตามมือนั้นเร็วมากแต่นางก็สามารถหลบได้

  นางถอยหลังออกมาเล็กน้อย

  นางหลบอย่างไม่ลังเล

  อย่างไรก็ตามทันทีที่นางหลบและปกป้องใบหน้าของตัวเองด้วยเกล็ดหน้าผากของนางกลับรู้สึกเจ็บปวด  มันเป็นการโจมตีด้วยนิ้ว!ชายตรงหน้าใช้นิ้วเป็นดาบบวกกับการเคลื่อนไหวที่เหนือกว่านางทำให้เขาโจมตีนางโดน

  อย่างไรก็ตามไม่จบแค่นั้นเมื่อนิ้วโดนหน้าผาก ร่างของหลินจีกลับแข็งค้างราวกับมันไม่ใช่ร่างกายของนางอีกต่อไป

   งั้นข้าจะบอกชื่อของข้าให้เจ้าฟังนามสกุลของข้าคือเมิ่ง ชื่อของข้าคือเทียน! 

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท