หลินจีกำลังบ้าคลั่ง
หลังจากโดนต่อยและเตะหน้าจากใครก็ไม่รู้ที่อยู่ดีๆก็โผล่มานางทั้งถูกเยาะเย้ยและโดนดูถูก ไม่ว่านางจะพยายามสงบใจมากแค่ไหน ตอนนี้นางไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
เพราะนางนั้นเป็นเทพอสูร
ถ้านางไม่เชื่อมั่นในอุดมการณ์ของหยุนชิงวูนางจะยอมเชื่อฟังหยุนชิงวูได้ยังไง?
แผนขององค์จักรพรรดินี้น้อยคือกำจัดดินแดนภูเขาทางใต้รวมถึงสายเลือดที่มีโอกาสจะกอบกู้ดินแดนแห่งนี้ด้วยถ้าข้าฆ่าคนที่อยู่ดีๆก็โผล่หัวออกมาองค์จักรพรรดินีน้อยคงไม่ว่าอะไรข้าหรอกใช่ไหม? หลินจีตัดสินใจว่านางจะไม่แสดงความเมตตาอีกต่อไป
ด้านหัวหน้าถิ่นฐานอีกสองคนที่ถูกล้อมไว้ด้วยทหารปีศาจพวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ช่วยฉานยู่?
ด้วยความสามารถของพวกเขามันเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตามชายที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาคือใครกันแน่ทำไมเขาถึงเลือกช่วยฉานยู่ มีเรื่องที่น่าสงสัยมากเกินไป
ตราบใดที่ยังเป็นแบบนี้โอกาสที่จะเกิดเรื่องไม่คาดฝันนั้นเป็นไปได้ตลอดเวลา
ฆ่าทหารแดนใต้ทั้งหมด! ขณะที่พวกเขากำลังลังเล เสียงตะโกนของหลินจีก็ดังขึ้น
รับทราบ! ทหารปีศาจหยิบอาวุธออกมาและโจมตีหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองทันที
หัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองมองหน้ากันพวกเขาไม่มีทางเลือก
แม้พวกเขาจะอ่อนแอแต่พวกเขาก็ไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ
การต่อสู้ระหว่างหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองและทหารปีศาจเริ่มขึ้นอีกครั้ง
ด้านฉานยู่ดวงตาของนางยังคงเต็มไปด้วยน้ำตามองร่างของเหยียนหยาที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นรวมทั้งหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองที่ถูกล้อมด้วยทหารปีศาจจำนวนมากนางต้องการเข้าไปช่วยแต่นางกลับไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้
อ้าก!! เฉียนยู่ร้องออกมาพร้อมกับไฟสีแดงในดวงตาของนาง
ในฐานะราชินีนางไม่สามารถหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสองตายลงต่อหน้านางได้
มันเจ็บปวดยิ่งกว่าตัวของนางตายเองเสียอีก
นางพยายามดึงพลังออกมาจากร่างกาย
อย่างไรก็ตามนางกลับต้องตกตะลึง
หา?!…ข้าเคลื่อนไหวได้แล้ว?! เมื่อฉานยู่รู้นางรีบเคลื่อนไหวไปด้านหน้าทันที
นางพุ่งไปหาหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามคนในทันที
นางเร็วมาก
แม้แต่ตัวของฉานยู่เองยังตกใจขณะที่นางวิ่งออกไปเส้นใยสีดำพุ่งออกมาจากร่างของนางและแข็งตัวเป็นกระจกป้องกันหัวใจสีดำที่หน้าอกของนาง
ตูม!เสียงระเบิดที่ดังขึ้นด้านหลังนั่นหมายความว่าหลินจีและชายสวมหน้ากากได้เริ่มต่อสู้กันแล้ว
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญสำหรับฉานยู่เพราะเพียงกระจกป้องกันก็ทำให้นางรับรู้ถึงพลังและความปลอดภัย…
ราวกับมีคนที่คอยปกป้องนางนางรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
เขาเป็นใครกันแน่? ฉานยู่ไม่หันหลังกลับนางพุ่งไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง กริชสีดำปรากฎขึ้นในมือของนาง
เหยียนหยาอดทนเอาไว้!
ฟุ้บ!
กริชสีดำสองเล่มหมุนวนในมือทั้งสองข้างของนางตัดหัวของทหารปีศาจที่ขวางทางนางในทันที …
หลินจีไม่สามารถอธิายออกมาเป็นคำพูดได้
ไม่ใช่เพราะพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันของฉานยู่หรือวิธีการต่อสู้ที่แปลกประหลาดของชายสวมหน้ากากแต่มันเป็นเพราะนางรู้สึกตลอดเวลาเหมือนมีคนกำลังอ่านความคิดของนางอยู่
ราวกับมีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ข้างหลัง
นี่เป็นครั้งที่สองที่หลินจีรู้สึกเช่นนี้ครั้งแรกนางฟุ้งซ่านจนไม่ระวังและโดนเตะเข้าที่ใบหน้า
คราวนี้นางไม่ฟุ้งซ่านอีกต่อไปอย่างไรก็ตามนางรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี นางเหมือนกำลังต่อสู้กับศัตรูมากกว่าหนึ่งคน
เจ้าเคยได้ยินเรื่องในตำนานไหม? ร่างนั้นลอยออกไปห่างจากหลินจีเพียงห้าก้าว เขากางมือข้างหนึ่งขณะที่อีกขว้างไขว้หลังเอาไว้
ไร้สาระ หลินจีพุ่งไปข้างหน้าและปฎิเสธจะรับฟังอย่างไรก็ตามนางสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่จากร่างตรงหน้า มันราวกับมหาสมุทรอันกว้างขวาง นางตกใจมาก
เขาเป็นใครกันแน่?
ความทรงจำมากมายไหลผ่านหัวของนางนางต้องการจะค้นหาความสามารถของชายตรงหน้าจากความทรงจำในอดีตของนาง ตัวตนระดับเทพเจ้านั้นมีทักษะเฉพาะตัว
เช่นเทพปีศาจผู้ควบคุมพื้นที่ว่างตัวของเขาสามารถหายเข้าไปในพื้นที่อันว่างเปล่าหรือมิติพิเศษและออกมาได้อย่างอิสระ
สำหรับหลินยู่ที่เป็นปีศาจก็มีทักษะเฉพาะตัวเช่นกัน…
ดังนั้นหลินจีต้องการรับรู้ความสามารถของชายตรงหน้านี้
เจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องในตำนานจริงๆงั้นหรือ? เสียงของชายสวมหน้ากากดังขึ้นอีกครั้ง มันดูผิดหวังเล็กน้อย
ตูม!
กำปั้นของหลินจีปะทะเข้ากับกำปั้นของชายตรงหน้าอีกครั้งด้วยความได้เปรียบของพลัง ร่างของชายตรงหน้าลอยออกไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามหลินจีกลับขมวดคิ้วเหมือนชายตรงหน้าไม่ได้อยากสู้กับนางจริงๆ เขาเพียงหยอกล้อนางไปมาเท่านั้น
เจ้าเคยไปที่เมืองเงาเลือดเจ้าน่าจะรู้ว่ามีรอบดาบขนาดใหญ่อยู่ที่เมืองนั้น เจ้าอยากรู้ไหมว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง? ร่างนั้นยังคงพูดต่อไป
แน่นอนว่าหลินจีรู้เรื่องที่ชายคนนั้นพูดแต่มันไร้สาระเกินไป มีแต่เด็กเท่านั้นที่เชื่อ
ชายตรงหน้าคงพยายามหลอกนางด้วยเรื่องราวในตำนานรอยดาบที่เมืองเงาเลือด โง่เง่าสิ้นดี!
เดี๋ยวก่อน!ครั้ง มันดูผิดหวังเล็กน้อย
ตูม!
กำปั้นของหลินจีปะทะเข้ากับกำปั้นของชายตรงหน้าอีกครั้งด้วยความได้เปรียบของพลัง ร่างของชายตรงหน้าลอยออกไปเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามหลินจีกลับขมวดคิ้วเหมือนชายตรงหน้าไม่ได้อยากสู้กับนางจริงๆ เขาเพียงหยอกล้อนางไปมาเท่านั้น
เจ้าเคยไปที่เมืองเงาเลือดเจ้าน่าจะรู้ว่ามีรอบดาบขนาดใหญ่อยู่ที่เมืองนั้น เจ้าอยากรู้ไหมว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง? ร่างนั้นยังคงพูดต่อไป
แน่นอนว่าหลินจีรู้เรื่องที่ชายคนนั้นพูดแต่มันไร้สาระเกินไป มีแต่เด็กเท่านั้นที่เชื่อ
ชายตรงหน้าคงพยายามหลอกนางด้วยเรื่องราวในตำนานรอยดาบที่เมืองเงาเลือด โง่เง่าสิ้นดี!
เดี๋ยวก่อน! เขารู้ได้ยังไงว่ามีรอยดาบที่เมืองเงาเลือด?
หรือว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ที่ออกมาจากประตูเทพเจ้าทั้งสองบาน?
ขณะที่หลินจีจะถามชายตรงหน้าว่าเขารู้ได้ยังไงร่างตรงหน้าก็เริ่มเคลื่อนไหว
เขาโจมตี!
หลังจากชายตรงหน้าถอยหลังไปสองครั้งเขาพุ่งเข้ามาหานางด้วยกิ่งไม้ในมือ
กิ่งไม้?! ดวงตาของหลินจีเบิกกว้างในฐานะเทพอสูร นางมีความสามารถพอที่จะหยิ่งยโสเมื่ออยู่หน้าคู่ต่อสู้
อย่างไรก็ตามนางควรจะรู้สึกเช่นไรเมื่อเห็นคู่ต่อสู้ของนางพุ่งเข้ามาพร้อมกิ่งไม้ในมือ?
ไม่มีใครรู้แต่ใบหน้าของหลินจีกลายเป็นสีดำคล้ำ
บางตำนานก็ไม่เป็นเรื่องจริง! ร่างนั้นกล่าวอีกครั้งก่อนที่เขาจะหายไป จากนั้นเขาก็ปรากฎตัวขึ้นในตำแหน่งที่ห่างออกไป
มันใกล้กับหลินจีมาก
มันห่างจากหลินจีประมาณสองก้าว
ตาย! หลินจีตกตะลึงเพราะความเร็วของชายตรงหน้านั้นเร็วมากจริงๆราวกับเขาเปลี่ยนตำแหน่งร่างของเขาอย่างไรก็ตามในฐานะที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มากมาย นางไม่ตื่นตระหนกแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นนางเป็นอสูร
นางจะกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บจากการถูกโจมตีใส่หัวใจไปทำไม?
จากนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นเกล็ดสีดำของหลินจียาวขึ้นอย่างรวดเร็ว มันยึดออกไปทุกทิศทางราวกับหนามแหลม
การต่อสู้ระยะประชิด!
เป็นสิ่งถนัดของเผ่าอสูร!
หลินจีรอโอกาสนี้มานานมากอย่างไรก็ตามนางยังคงกังวลเพราะชายตรงหน้ายังไม่แสดงจุดประสงค์ออกมาชัดเจน
อย่างไรก็ตามนางไม่ได้แปลกใจกับการกระทำของเขามากนัก
ไม่มีใครโง่พอที่จะสู้กับอสูรในระยะประชิดอย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนจะสามารถอธิบายบางอย่างได้ คู่ต่อสู้ของนางดูเหมือนจะรู้มากเกินไปราวกับเขาอยู่บนโลกนี้มานาน มันอดทำให้นางสับสนไม่ได้
แต่ตอนนี้ความสับสนของนางดูเหมือนจะถูกอธิบายแล้ว
หลินจีจะไม่แปลกใจได้ยังไงที่ฝั่งตรงข้ามเลือกการต่อสู้ระยะประชิด?
แกรก!กิ่งไม้ที่เล็งมาที่หัวใจของหลินจีหักลงเพราะเกล็ดของนางทันที
หลินจียิ้ม
บนร่างกายของนางไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อยทุกส่วนล้วนถูกป้องด้วยเกล็ดสีดำ
กิ่งไม้?
เจาะร่างของนาง? คงบอกได้ว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นแม้แต่ในความฝันก็ตาม
หลินจีหัวเราะด้วยความดูถูกแต่ก็ไม่นานนักเพราะว่ามือนั้นตรงมาที่ใบหน้าของนาง
ตบหน้า!
หลินจีอยากจะถามออกมาเหลือเกินทำไมเจ้าถึงฉวยโอกาสหลายครั้งหลายครา? เจ้าต้องไร้ยางอายขนาดไหนถึงตอบหน้าผู้หญิงได้?
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงนางย่อมกังวลเกี่ยวกับความสวยงามจึงไม่ได้ให้เกล็ดปกคลุมไปใบหน้าเอาไว้
อย่างไรก็ตามมือนั้นเร็วมากแต่นางก็สามารถหลบได้
นางถอยหลังออกมาเล็กน้อย
นางหลบอย่างไม่ลังเล
อย่างไรก็ตามทันทีที่นางหลบและปกป้องใบหน้าของตัวเองด้วยเกล็ดหน้าผากของนางกลับรู้สึกเจ็บปวด มันเป็นการโจมตีด้วยนิ้ว!ชายตรงหน้าใช้นิ้วเป็นดาบบวกกับการเคลื่อนไหวที่เหนือกว่านางทำให้เขาโจมตีนางโดน
อย่างไรก็ตามไม่จบแค่นั้นเมื่อนิ้วโดนหน้าผาก ร่างของหลินจีกลับแข็งค้างราวกับมันไม่ใช่ร่างกายของนางอีกต่อไป
งั้นข้าจะบอกชื่อของข้าให้เจ้าฟังนามสกุลของข้าคือเมิ่ง ชื่อของข้าคือเทียน!
……………………………………..