ฟางเจิ้งจือก็หัวเราะเช่นกันเขาหัวเราะอย่างเหยียดหยามและล้อเลียนหลินจีราวกับนางเป็นคนโง่
เจ้าหัวเราะทำไม? หลินจีสั่นสะท้านเพราะความเปล่งประกายในดวงตาของฟางเจิ้งจือและหยุดยิ้ม
ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าแต่…
แต่อะไร?
แม้ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่ทำอย่างเช่น…ฉานยู่? ในขณะที่พูดฟางเจิ้งจือหันมองที่ปากถ้ำ ราชินีแดนใต้เข้ามานี่หน่อย
ทำไมถึงเรียกหาข้า? เสียงของฉานยู่ดังขึ้นก่อนที่จะปรากฎตัวที่ปากถ้ำ
เห็นได้ชัดว่าฉานยู่ไม่ได้ไปไหนไกลหรือยิ่งกว่านั้นนางคงไม่มีทางยอมให้คนที่ฆ่าพ่อของตัวเองหนีไปต่อหน้าอย่างต่อตาแน่นอน เจ้าต้องการแก้แค้นหรือไม่? ฟางเจิ้งจือชี้ไปที่หลินจี
เมิ่งเทียนเจ้าคิดว่าจะบังคับข้าได้ด้วยวิธีนี้งั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้! ถ้านางฆ่าข้าจริงๆเจ้าจะไม่มีทางรู้ว่าแหล่งพลังเทพเจ้าอยู่ที่ไหน! ท่าทีของหลินจีเปลี่ยนไปแต่ก็สงบลงอีกครั้ง ยกเว้นความโกรธแค้นที่อัดแน่นภายในดวงตาคู่นั้น
ฆ่านางเพื่อแก้แค้นให้กับพ่อของเจ้าในเมื่อหลุมศพของราชาคนก่อนก็อยู่ใกล้ๆนี้ก็ใช้หัวของหลินจีเคารพหลุมศพของเขาเสียเลย ฟางเจิ้งจือกล่าวอย่างใจเย็น
ผู้อาวุโส…แต่นาง… ฉานยู่ตกตะลึงเมื่อหันมองฟางเจิ้งจือและหลินจี
นั่นไม่ได้หมายความว่านางไม่ต้องการแก้แค้นแต่เพราะนางรู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดี
ตอนนี้หลินจีมีค่ามากกว่านั้น
เจ้าไม่อยากแก้แค้นหรือ? เมื่อเห็นความลังเลของฉานยู่ฟางเจิ้งจือจึงถามอีกครั้ง อยากสิข้าอยากแก้แค้นจริงๆ ข้าคิดเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่หลินจีฆ่าท่านพ่อตอนที่นางบุกเข้ามาในวัง ข้าก็อยากจะฆ่านางด้วยมือของข้าเอง! ในขณะที่พูดฉานยู่เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ นางกำมือแน่นจนกลายเป็นขาวซีด
แล้วเจ้ารออะไรอยู่?
แต่…
นางไม่มีค่าพอสำหรับข้าอีกแล้ว ฟางเจิ้งจือรู้ถึงสิ่งที่ฉานยู่กังวล
ขอบคุณท่านผู้อาวุโส! ร่างของฉานยู่ก้มโค้งและกำลังจะคุกเข่าลง
อย่างไรก็ตามนางไม่คุกเข่าลงไปเพราะฟางเจิ้งจือหยุดนางและพยุงร่างของนางเอาไว้
ในตอนนั้นหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามเดินเข้ามาจากปากถ้ำพร้อมกับเจ้าปีศาจพวกเขามองไปที่ทั้งสองคนก่อนจะหันมองกันและคุกเข่าลง ฝ่าบาทในที่สุดท่านก็ตายอย่างสงบเสียที!
ผู้อาวุโสในนามของประชากรดินแดนภูเขาทางใต้ พวกเราขอขอบคุณ …
ผู้คนต่างปรารถนาที่จะได้ฆ่าอสูรสาวตนนี้!
หัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามคุกเข่าลงด้วยความรวดเร็ว
โปรดลุกขึ้นหัวหน้าถิ่นฐานพวกเจ้าอยากจะเล่นสนุกกับอสูรสาวตนนี้ก่อนจะฆ่านางไหม? ฟางเจิ้งจือถามขึ้นหลังจากพยุงฉานยู่เอาไว้
…
…
แม้แต่ฉานยู่และเจ้าปีศาจเองก็ตกตะลึง
ต้องการเล่นสนุกกับอสูรสาว? ฟางเจิ้งจือพูดด้วยเจตนาที่ดีหลังจากได้เห็นท่าทีของหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสาม
ผู้อาวุโสท่านต้องล้อพวกข้าเล่นแน่ๆพวกข้าแค่ต้องการฆ่านางเพื่อแก้แค้นให้กับฝ่าบาท! หัวหน้าถิ่นฐานมองหน้ากันก่อนจะตอบกลับ
เมิ่งเทียนเจ้าต้องพิจารณาให้ดี ถ้าเจ้าไม่ใช้โอกาสนี้เพื่อครอบครองแหล่งพลังเทพเจ้าจะไม่มีโอกาสนั้นให้เจ้าอีกเป็นครั้งที่สองเพราะเทพอสูรและเทพปีศาจที่แท้จริงจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า! เห็นได้ชัดว่าหลินจีไม่อยากตาย
ผู้อาวุโส ฉานยู่กัดริมฝีปากหลังจากได้ยินคำพูดของหลินจีและหันมองฟางเจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือยังคงเงียบสงบเช่นเคยราวกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่หลินจีพูดแม้แต่น้อย
ฉานยู่คลายริมฝีปากและในขณะเดียวกันกริชทั้งสองก็ปรากฎขึ้นในมือของนาง
เมิ่งเทียน!!! หลินจีตะโกนด้วยความโกรธแค้น ฉานยู่ไม่ได้มองดูที่ฟางเจิ้งจืออีกต่อไปและพุ่งเข้าหาหลินจีด้วยแสงสีแดงที่ส่องประกายราวกับเปลวเพลิงบนกริชทั้งสอง
ฉานยู่เจ้ากล้าดียังไง! ถ้าฆ่าข้า มนุษย์จะไม่มี…
แกร้ง!
เห็นได้ชัดว่าหลินจีไม่ได้พูดจนจบเพราะกริชทั้งสองแทงเข้าที่หน้าอกซ้ายและขวาของนาง
อย่างไรก็ตาม…
กริชทั้งสองไม่ได้ทะลวงเข้าไปในร่างกายของหลินจี
นั่นเพราะเกล็ดสีดำหนาที่ปกคลุมทั่วร่างด้วยพลังของฉานยู่นางไม่สามารถทำร้ายหลินจีได้แม้แต่น้อย
ฮ่าฮ่าฮ่า…เจ้าอยากจะฆ่าข้างั้นเหรอ…
ฟุ่บ!
เสียงของเราะของหลินจีหยุดลงสีหน้าของนางกลายเป็นแข็งค้างเพราะกริชแทงลึกลงไปที่หน้าอกทั้งสองข้าง
หยดเลือดค่อยๆไหลท่วมกริชทั้งสอง
เจ้า…เมิ่งเทียน เจ้า… หลินจีไม่อยากจะเชื่อแต่ร่างที่ยืนอยู่ด้านหลังฉานยู่
ฟางเจิ้งจือ!
นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญสิ่งสำคัญคือเท้าของฟางเจิ้งจือกำลังกดลงบนกริชของฉานยู่!
หลินจีมองกริชที่ค่อยๆเสียบลึกลงไปที่หน้าอกจากนั้นก็หันมองฟางเจิ้งจือที่อยู่ด้านหลังด้วยแววตาที่แดงก่ำ
ฟางเจิ้งจือพยายามทำให้นางหวาดกลัวโดยใช้ฉานยู่?
เป็นไปได้ยังไง?
หลินจีมั่นใจว่าฟางเจิ้งจือจะสนใจแหล่งพัลงเทพเจ้าเพราะฉะนั้นเขาจะไม่มีทางฆ่านาง
อย่างไรก็ตามทำไม?
ฉึก!เสียงดังขึ้นอีกครั้ง กริชถูกเท้าของฟางเจิ้งจือกดลงไปลึกขึ้นมันเจาะเข้าไปในเกล็ดสีดำของนางจนถึงหน้าอกด้านใน
เลือดไหลออกมาอีกครั้ง
หัวใจไม่ใช่จุดสำคัญของเผ่าอสูรต้องทำลายไข่มุกอสูรเท่านั้นถึงจะสามารถฆ่าอสูรได้ ฟางเจิ้งจือพูดเบาๆและไม่สนใจท่าทีของหลินจีแม้แต่น้อย
ใช่แล้วผู้อาวุโส ฉานยู่โค้งคำนับและพูดขอบคุณ
เมิ่งเทียนเจ้าจะฆ๋าข้าจริงๆงันหรือ? หลินจีจ้องมองที่ดวงตาของฟางเจิ้งจือและพยายามนึกบางอย่าง
อย่างไรก็ตามนางไม่สามารถคาดเดาได้เพราะสิ่งที่เห็นมีแต่ความเงียบสงบ
หืมอสูรตัวนี้มีพลังที่แข็งแกร่งจริงๆ มันคงยากสักหน่อยที่จะทำลายไข่มุกอสูรของนางด้วยวิธีของเจ้า งั้นข้าจะผนึกพลังของนางแล้วหาตำแหน่งของไข่มุกอสูรก่อน เจ้าจะสามารถฆ่านางได้อย่างง่ายดาย ฟางเจิ้งจือพยักหน้าให้ฉานยู่โดยไม่สนใจหลินจีแม้แต่น้อย
เมิ่งเทียนข้าจะฆ่าเจ้า! หลินจีไม่สามารถทนได้อีกต่อไปหลังจากได้ยินเช่นนั้น เกล็ดหนาขึ้นปกคลุมทั่วร่างความแหลมคมบนเกล็ดเสียดสีกับโซ่ที่มัดร่างของนางจนเกิดเป็นเสียง
นอกจากนี้สีหน้าของนางเปลี่ยนไปมากดวงตากลายเป็นเขียวเข้มและมีบางอย่างที่คล้ายกับเขาสัตว์งอกขึ้นบนหัว
ฟู่!ลิ้นแยกออกเป็นสองแฉกยาวออกมาจากปากของนาง
เจ้าเป็นงูตัวเล็กงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือมองดูลิ้นในปากของหลินจีและเข้าใจรูปลักษณ์เดิมของนางอย่างรวดเร็วอย่างไรก็ตามนั่นไม่สำคัญวิธีเดียวที่จะกำราบเชลยที่ดื้อรั้นคือตบนางจนกว่าจะหยุด
ดังนั้น… ฟางเจิ้งจือตบนาง
เขาตบใบหน้าที่มีเขางอกออกมา
เพี้ยะ!
พื้นดินสั่นสะเทือนรอยแตกปรากฎขึ้นที่พื้นใต้ร่างของหลินจีและลากยาวไปถึงปากถ้ำ
ในขณะเดียวกันร่างของหลินจีก็แข็งค้างราวกับวิญญาณของนางหลุดออกจากร่างไปแล้ว
ฆ่าข้า?ยังไง? ฟางเจิ้งจือมองที่หลินจีอย่างเกลียดชัง
หลังจากพูดจบร่างของหลินจีก็ล้มกระแทกพื้นและเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ฉากนี้ทำให้เจ้าปีศาจตกตะลึงเพราะเขาพึ่งได้เห็นเป็นครั้งถึงวิธีการของฟางเจิ้งจือ
ตบเพียงครั้งเดียว?เพียงครั้งเดียว… เจ้าปีศาจจำการโจมตีของฟางเจิ้งจือที่เมืองเงาเลือดได้ เขารู้ว่า’เมิ่งเทียน’นั้นทรงพลังมาก
ไขมุกอสูรอยู่ที่ท้องของนาง ฟางเจิ้งจือไม่ได้สนใจหลินจีเขาเดินตามฉานยู่ไป
ในขณะเดียวกันเขาของหลินจีได้หายไปนางกลับสูสภาพปกติ
เมิ่งเทียน…เจ้ามันโหดร้ายจริงๆอย่างไรก็ตามถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้าจะต้องสูญเสียโอกาสสุดท้ายของมนุษยชาติ…มนุษย์ต้องหายไปจากโลกนี้ทั้งหมด! หลินจีหอบหายใจอย่างหนัก ใบหน้าอันบิดเบี้ยวของนางจ้องมองที่ฟางเจิ้งจือ
เชิญเจ้าจัดการต่อเลย ฟางเจิ้งจือไม่สนใจคำพูดของหลินจีแม้แต่น้อย
ฉานยู่พยักหน้าโดยไม่ลังเล นางแทงกริชเข้าไปที่ท้อง
ของหลินจี
อ้าก!!!…เมิ่งเทียน!!!ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไป ต่อให้ข้าตายข้าก็ไม่ยอม!!! หลินจีตะโกนร้องออกมา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ด้านฟางเจิ้งจือเขาหันหน้าไปด้านข้างอย่างสบายๆ
เขาไม่ค่อยชอบฉากแบบนี้เท่าไรนักอย่างไรก็ตามเขาสงสัยคำพูดนาง ต่อให้ตายก็ไม่ยอม? ถ้าตายแล้วนางจะไม่ยอมได้ยังไง?
แปลกจริงๆ
คนที่กำลังจะตายต้องพูดอะไรแบบนี้ออกมาเหมือนกันหมดเลยงั้นหรือ?น่าเบื่อกมาก!
ฟางเจิ้งจือส่ายหัวเขาไม่อยากสนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้มากนัก
ในขณะเดียวกันฉานยู่ดึงไข่มุกอสูรออกมาจากท้องของหลินจี
ทันใดนั้นบรรยากาศอันทรงพลังอบอวลไปทั่วถ้ำ
นี่คือไข่มุกอสูรใช่ไหม…ทรงพลังมาก!
หัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามคนมองดูไข่มุกอสูรด้วยความตกตะลึงเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคยเห็นไข่มุกอสูร
ไม่อย่าทำลายไข่มุกอสูรของข้า…ข้า…ข้ายังไม่อยากตาย ข้าจะบอกว่าแหล่งพลังเทพเจ้าอยู่ที่ไหน…ข้าจะบอกเจ้า! หลินจีที่น่าเกรงขามทรุดตัวลงบนพื้นทันทีที่ไข่มุกอสูรถูกดึงออกจากช่องท้องของนางไป
บอกมาว่าแหล่งพลังเทพเจ้าอยู่ที่ไหน! ฉานยู่ที่กำลังจะแทงไข่มุกอสูรด้วยกริชของนางหยุดรอคำตอบจากหลินจี
ข้าจะบอก…อย่างไรก็ตามเจ้าต้องสัญญากับข้า…ข้ายังไม่อยากตาย… หลินจีพยักหน้ารับร่างของนางเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ไม่!หลินจี เจ้าจะบอกตำแหน่งแหล่งพลังเทพเจ้าไม่ได้! ในที่สุดเจ้าปีศาจก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาไม่สามารถให้ส่วนหนึ่งในแผนการของหยุนชิงวู
……………………………………..