Gate of God – ตอนที่ 962 สองตัวเลือกของหลินจี

ตอนที่ 962 สองตัวเลือกของหลินจี

   นังแพศยา! เป็นฉานยู่ที่ตะโกนออกมา นางไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

  แม้ดินแดนภูเขาทางใต้จะมีอิสระทางความคิดแค่ไหนแต่การกระทำของหลินจีนั้นเกินไปกว่านั้นมาก

  ในทำนองเดียวกันเมื่อเห็นการกระทำของหลินจีหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามแสดงความดูถูกออกมาชัดเจน

  ฟางเจิ้งจือกลับตรงกันข้าม…

  เขาไม่ได้สนความคิดของหลินจีแต่เขาก็อดพูดสิ่งที่เขาคิดออกไปไม่ได้

   เจ้าแก่เกินไป! ฟางเจิ้งจือส่ายหัวหลังจากเห็นหน้าอกที่นางยกขึ้นมา

   เมิ่งเทียน!งั้นข้าขอดูหน้าของเจ้าหน่อย! เจ้าลืมแล้วหรือไงว่าตัวเองก็อายุหลายร้อยปีแล้ว?!  หลินจีพยายามลุกขึ้นจากพื้น

  อย่างไรก็ตามนางก็ถือเป็นผู้หญิงคนหนึ่งแม้นางจะมีอายุมานานจริงๆ แต่ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่อยากถูกบอกว่าตัวเอง ‘แก่’

   ข้าหมดหวังกับเจ้าจริงๆ…ช่างมันเถอะข้าแค่อยากจะถามว่าเจ้าต้องการเป็นอิสระไหม?  ฟางเจิ้งจือโบกมือด้วยความเหนื่อยหน่าย

   ฮ่าฮ่าฮ่า…ฝันไปเถอะถ้าคิดจะให้ข้าทรยศจักรพรรดินีน้อย! หลินจีรู้ความคิดของฟางเจิ้งจือนางปฏิเสธในทันที

   เจ้าคงพึ่งออกมาจากประตูเทพเจ้าของเผ่าอสูรไม่นานใช่ไหม? ฟางเจิ้งจือดูไม่แปลกใจกับคำตอบของหลินจี

   ถ้าใช่แล้วเจ้าจะทำไม? หลินจีไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย

   เจ้ามีสองตัวเลือกหนึ่งข้าจะผนึกเจ้าไว้ เจ้าน่าจะรู้ว่าข้ามีความสามารถพอที่จะทำเช่นนั้น เจ้าอาจจะต้องหลับไหลไปอีกสักพันหรือหมื่นปี…. ฟางเจิ้งจือเหลือบมองหลินจีขณะพูด  เห็นได้ชัดว่าท่าทีของนางเปลี่ยนไปมาก

  ฟางเจิ้งจือรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของนาง

  หลินจีที่พึ่งได้อิสระมาจะยอมถูกผนึกกลับไปสู่ความมืดอีกงั้นรึ?

   แล้วตัวเลือกที่สองล่ะ? หลินจีเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะถามออกมาด้วยความเร่งรีบ

   เจ้าคิดว่าตัวเลือกที่สองคืออะไร? ฟางเจิ้งจือถามนางกลับไป

   ถ้าเจ้าคิดจะให้ข้าเป็นทาสของเจ้ามันเป็นไปไม่ได้แน่นอน! 

   ฮ่าฮ่าข้าไม่คิดจะให้เจ้าเป็นทาสของข้าหรอก ข้าแค่มีข้อตกลงง่ายๆ แค่เจ้าบอกแผนการของหยุนชิงวูแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป ฟางเจิ้งจือยิ้มออกมาเล็กน้อย

   จริงรึ? 

   แน่นอน 

   เจ้าอยากจะรู้เรื่องอะไร?     มีอะไรนอกเหนือจากค่ายกลห้าธาตุในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกไหม? 

   เจ้ารู้เรื่องค่ายกลห้าธาตุ?! หลินจีแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด

  ด้านเจ้าปีศาจที่ถูกมัดอยู่ก็เบิกตามองฟางเจิ้งจือด้วยความไม่เชื่อเช่นกัน

  ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะอธิบายตัวเองเขาโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ  บอกข้าถึงแผนการอื่น 

   ข้าตกลงก็ได้แต่ข้าจะมั่นใจได้ยังไงว่าหลังจากข้าบอกแล้วเจ้าจะไม่ฆ่าข้า? หลินจีกำหมัดพร้อมมองฟางเจิ้งจือ จากนั้นท่าทีของนางก็ผ่อนคลายลงแล้วถามออกมา

  เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้โง่แม้นางจะเป็นตัวประกัน นางก็รู้ค่าของตัวเอง ถ้านางไม่มีค่าแล้วเท่ากับนางจะถูกฆ่าทิ้งเมื่อไรก็ได้

   ง่ายมากข้าขอยืนยันด้วยชื่อของเมิ่งเทียน? ฟางเจิ้งจือพูดอย่างสบายๆ

   ชื่อของเมิ่งเทียน?เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้างั้นรึ? หลินจีหัวเราะ   แล้วเจ้าต้องการอะไร? 

   ปล่อยข้าก่อนแล้วข้าจะบอกเจ้า 

   เจ้าคิดว่าข้าจะตกลง? 

   ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้าแล้วทำไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย? หลินจีมีท่าทีสงบลงหลังจากเห็นท่าทีของฟางเจิ้งจือ

   อืม…ได้งั้นเจ้าบอกรายละเอียดบางอย่าง จากนั้นข้าจะปล่อยเจ้าก่อนเป็นยังไง?  ฟางเจิ้งจือกล่าวออกมาหลังจากคิดอยู่ชั่วครู่  อย่างไรก็ตามสิ่งที่เจ้าพูดต้องเป็นเรื่องที่ข้าไม่รู้และมีค่ามากพอ 

   เจ้าไปปล่อยข้าจริงๆงั้นรึ? ดวงตาของหลินจีสว่างขึ้นทันที

   ข้าจะปล่อยเจ้าถ้าเจ้าบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ 

  ในขณะเดียวกันฉานยู่และหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามมองหน้ากันด้วยความกังวล

  อย่างไรก็ตามฉานยู่ไม่ได้รบกวนหรือขัดขวางฟางเจิ้งจือนางเพียงกัดฟันแน่นอยู่ด้านข้าง

  หัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามต้องการจะพูดบางอย่างแต่เมื่อเห็นท่าทีของฉานยู่พวกเขาก็เลือกที่จะเงียบ

  หลินจีที่เห็นท่าทีของพวกเขาจากท่าทีอึมครึมกลายเป็นสดใสมากขึ้น

  แม้นางจะไม่เชื่อฟางเจิ้งจือแต่มันเป็นโอกาสสำหรับนาง

  ตราบใดที่นางทำตามคำขอของฟางเจิ้งจือนางก็มีโอกาสที่จะหนี นางมั่นใจมากว่านางสามารถหนีได้แน่นอน ถ้าฟางเจิ้งจือลดการระวังตัวลงเล็กน้อย

   เอาล่ะข้าจะเชื่อเจ้าเมิ่งเทียน  หลินจีดูลำบากใจเล็กน้อยจากนั้นนางก็หันไปมองเจ้าปีศาจ  แต่ข้าจะพูดเรื่องนี้แค่กับเจ้า เข้ามาใกล้ๆหน่อย ข้าสัญญาว่ามันเป็นเรื่องที่เจ้าต้องสนใจแน่นอน 

   ใกล้แค่ไหน? ฟางเจิ้งจือเดินเข้าไปหาหลินจีอีกสองก้าว   อีกนิดข้าไม่อยากให้ใครได้ยิน 

   ได้ ฟางเจิ้งจือเดินไปนั่งข้างๆหลินจี ร่างของพวกเขาห่างกันไม่ถึงหนึ่งนิ้ว

  หลินจียิ้มอย่างยั่วยวนนางมองไปที่ฉานยู่และหัวหน้าถิ่นฐานด้วยท่าทีไม่มีความสุขมากนัก

   ทำไมไม่ให้พวกเขาออกไปด้านนอกก่อน หลินจีมีท่าทีเขินอายพร้อมกับเอนตัวพิงฟางเจิ้งจือ

   หืมมันคงไม่สะดวกสำหรับพวกเจ้าเท่าไรนัก ฉานยู่กับหัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามพาเจ้าปีศาจออกไปรอด้านนอกถ้ำก่อน ฟางเจิ้งจือพยักหน้า

   ผู้อาวุโส! 

   ท่านผู้อาวุโสเมิ่งเทียนนางเจ้าเล่ห์มาก ท่านควรจะระวัง… 

   ไปกันเถอะ ฉานยู่ขัดคำพูดของหัวหน้าถิ่นฐาน ก่อนที่นางจะเดินนำออกไป อย่างไรก็ตามนางหันมามองฟางเจิ้งจือด้วยความสงสัยเล็กน้อย ก่อนที่นางจะเดินออกไป

  หลังจากได้ยินคำพูดของฉานยู่หัวหน้าถิ่นฐานทั้งสามไม่มีทางเลือกนอกจากพาตัวเจ้าปีศาจออกไป

  ไม่นานในถ้ำก็เหลือเพียงฟางเจิ้งจือและเทพอสูรหลินจี

   สรุปแล้วเจ้ามีอะไรจะบอกข้า? หลังจากคนอื่นๆออกไป ฟางเจิ้งจือเอนหลังลงไปบนพื้นหญ้า

  การกระทำของเขาทำให้หลินจีปแปลกใจ

  ตอนแรกดูเหมือนฟางเจิ้งจือจะหลงกลนางแต่นางรู้ในทันทีว่ามันไม่ง่ายแบบนั้น นางรู้สึกว่าเขาแค่เล่นตามน้ำนางไปเท่านั้น

  ร่างของหลินจีค่อยๆนอนลงข้างๆหลินจีต้นขาของนางแนบชิดกับต้นขาของฟางเจิ้งจือ

   ถ้าข้าจำไม่ผิดเทพสงครามนั้นคือคนของอาณาจักรเซี่ย พลังของเจ้าอยู่ในระดับสูงสุดเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว ทำไมเจ้าถึงตาย?  หลินจีพูดพร้อมกับหน้ามาทางฟางเจิ้งจือ ท่าทางของนางเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงไหล

   ตายข้าไม่ได้ตายข้าแค่เก็บตัวจากโลกภายนอกเท่านั้น  ฟางเจิ้งจือปล่อยให้หลินจีเล่นสนุกได้ตามใจชอบ

   เก็บตัว? ดวงตาของนางเย็นชาขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะกลับเป็นปกติอีกครั้ง  ตอนนี้พลังของเจ้าอยู่ในระดับไหน? 

   มากกว่าเจ้าพูดตรงๆตอนที่สู้กับเจ้าข้าใช้พลังไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ  หน้าของฟางเจิ้งจือนั้นหนามาก ตอนเขาพูดโกหกออกมาสีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนไปเลยด้วยซ้ำ

   ครึ่งหนึ่งของพลังทั้งหมด?ฮ่าฮ่า…  หลินจีหัวเราะพร้อมเลียริมฝีปากเล็กน้อย จากนั้นนางก็พูดออกมาเบาๆ  เทพสงคราม เจ้าเคยได้ยินเรื่อง ‘แหล่งพลังเทพเจ้า’ไหม? 

   แหล่งพลังเทพเจ้า?แน่นอน  ฟางเจิ้งจือพูดโดยที่ท่าทีไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย   งั้นรึ? 

   … 

   งั้นเจ้ารู้ไหมว่า’แหล่งพลังเทพเจ้า’คืออะไร? 

   ถ้าข้าเดาไม่ผิดเจ้าพยายามจะบอกข้าเกี่ยวกับตำแหน่งของ’แหล่งพลังเทพเจ้าใช่ไหท? แม้ฟางเจิ้งจือไม่รู้ว่าแหล่งพลังเทพเจ้าคืออะไร แต่เขาแสดงท่าทีออกไปราวกับตัวเองรู้จักมัน

   ใช่เจ้าอยากจะรู้ไหม? หลินจีกล่าวพร้อมพิงหัวไปที่ไหล่ของฟางเจิ้งจือ

   แน่นอน ฟางเจิ้งจือลุกขึ้นจากพื้นในทันทีเขาดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก  บอกข้าเกี่ยวกับมัน 

   … หลินจีดูหงุดหงิดเล็กน้อยดูเหมือนฟางเจิ้งจือจะไม่สนใจนางแม้แต่น้อย

  นางปรับอารมณ์เล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืนเช่นกัน

   อื้อ…ดูเหมือนโซ่ที่รัดข้าจะแน่นเกินไปข้าหายใจไม่ค่อยออกเลย เทพสงครามไม่คิดจะสงสารข้าหน่อยหรอ? 

   แน่นเกินไป? ฟางเจิ้งจือดูโซ่ที่รัดตัวหลินจี

   ใช่แน่นมากข้ารู้สึกอึดอัด อ้า…ข้าหายใจไม่ค่อยออกเลย…อื้อ..เทพสงคราม…ช่วยข้าหน่อย…  หลินจีบิดร่างกายไปมา ขณะที่พูดใบหน้าของนางเป็นสีแดงก่ำราวกับนางหายใจไม่ออกจริงๆ

   งั้นข้าเพิ่มโซ่อีกเส้นให้เจ้าเป็นยังไง? ฟางเจิ้งจือตอบกลับหลังจากพิจรณาอย่างจริงจัง

   … หลินจีไม่สามารถตอบโต้ได้ท่าทีของนางแข็งค้าง

   เพิ่มโซ่เข้าไปอีกเส้นเพื่อความสมดุลไงเจ้าไม่เคยได้ยิเรื่องนี้งั้นรึ?  ฟางเจิ้งจือพูดอย่างไม่สนใจมากนัก

   … หลินจีพูดไม่ออกกับความไร้ยางอายของฟางเจิ้งจือ   วันนี้อากาศดีจริงๆ เนื่องจากหลินจีเงียบไปเป็นเวลานานฟางเจิ้งจือจึงพูดเพื่อทำลายความเงียบ

   เมิ่งเทียนเจ้าไม่ต้องการรู้หรือว่าแหล่งพลังเทพเจ้าอยู่ที่ไหน?เจ้าควรจะรู้ไว้ว่าเจ้าสามารถเอาชนะได้แค่ข้าคนเดียวเท่านั้น ถ้ามีตัวตนระดับเทพเจ้าหลายคนเจ้าไม่มีทางเอาชนะได้แน่นอน! ยกเว้นถ้าเจ้าได้รับแหล่งพลังเทพเจ้า! เจ้าจะกลับไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้งหนึ่ง!  หลินจีกัดฟันพูดออกมา

   ข้ารู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ฟางเจิ้งจือกล่าวออกมา

   เจ้ารู้?! หลินจีตกใจ อย่างไรก็ตามผ่านไปสักพักนางก็หัวเราะออกมา  เป็นไปไม่ได้ ถ้าเจ้ารู้เจ้าคงไม่มาอยู่ที่นี่หรอก! 

  หลินจีไม่เชื่อ

   ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มันอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์?  ฟางเจิ้งจือไม่ได้สนใจจะเถียงกับนาง   ฮ่าฮ่า…แน่นอนว่ามันอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จริงๆต่อให้เจ้าเดาถูกข้าก็ไม่แปลกใจ อย่างไรก็ตามเจ้ารู้งั้นรึว่ามันอยู่ที่ไหน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ออกจะใหญ่ขนาดนั้น?  หลินจีหัวเราะออกมาอย่างดูถูก

   งั้นรึ?เจ้ามั่นใจเหลือเกินนะว่าข้าไม่รู้? 

   แน่นอน 

   เจ้าควรรู้ไว้ว่านี่เป็นโอกาสรอดชีวิตสุดท้ายของเจ้าถ้าเจ้าพูดออกมาข้าอาจจะปล่อยเจ้าไปแบบมีชีวิตก็ได้  ฟางเจิ้งจือหันไปมองนางช้าๆ

   เจ้าไม่กล้าฆ่าข้า! หลินจีพูดอย่างมั่นใจ

   ทำไมข้าจะไม่กล้? 

   ฮ่าฮ่าฮ่าเพราะเจ้าจะไม่ฆ่าข้าจนกล่าจะรู้ว่าแหล่งพลังเทพเจ้าอยู่ที่ไหน!  หลินจีหัวเราะด้วยความมั่นใจ

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท