Gate of God – ตอนที่ 968 เมิ่งเทียนสามคน!

ตอนที่ 968 เมิ่งเทียนสามคน!

  ค่ำคืนที่เงียบสงบ

  อย่างไรก็ตามเหตุการณ์แบบเดียวกันได้เกิดขึ้นที่เก้าขุนเขา

   อะไรนะ?!เขาจากไปแล้ว? ปีศาจและอสูรระดับสูงต่างมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง

  เปรียบเทียบกับศาลาเต๋าสวรรค์เก้าขุนเขานั้นอยู่ไกลจากอาณาจักรเซี่ยเกินกว่าที่จะบอกว่าเมิ่งเทียนแค่ผ่านทางมา…

   จากไปทันทีหลังจากที่มาถึงเมิ่งเทียนคิดจะทำอะไรกันแน่? 

   ข้าไม่มั่นใจนักรู้สึกน่าจะเป็นภูเขาหลิงเซียว เพราะเขาหายไปตรงบริเวณที่ใกล้กับภูเขาหลิงเซียว 

   ภูเขาหลิงเซียว?ส่งคนไปตรวจสอบ อย่าลืมว่าห้ามเข้าใกล้เขาเกินไปเด็ดขาด 

   รับทราบ! ร่างจำนวนหนึ่งพุ่งออกไปจากเก้าขุนเขาในทันที

  ด้านคนที่เหลือ พวกเราต้องรายงานเรื่องนี้ให้นายน้อยทราบ! 

   ใช่สงข้อมูลไปยังหนองน้ำยักษ์ให้เร็วที่สุด! 

  ….

  ศาลาหยินหยางนั้นตั้งอยู่ในแนวเขาที่สลับซับซ้อนทำให้มันเหมาะกับการเป็นที่ซ่อนตัวเป็นอย่างยิ่ง

  ขณะเดียวกันภูเขาหลิงเซียวเป็นภูเขาลูกที่สูงที่สุดเป็นการยากที่จะถูกบุกโจมตี แต่ละด้านของภูเขาเป็นหน้าผาสูงชัน ด้านบนสุดเป็นพื้นที่วงกลมขนาดใหญ่

  เสาหยกขาวสี่ต้นตั้งอยู่บนยอดเขาแต่ละต้นมีโซ่สีดำผูกไว้ลากยาวไปจนถึงตีนเขา แน่นอนว่ามันเป็นโซ่สำหรับให้ผู้คนใช้เดินทางขึ้นยอดเขา

  พวกมันถูกดูแลอย่างเข้มงวดโดยศิษย์และผู้อาวุโสของทั้งสามสำนัก  สายลมยามค่ำคืนพัดผ่าน

  นกตัวหนึ่งบินลงมาจากท้องฟ้า

   รายงานด่วน! สีหน้าของศิษย์ศาลาหยินหยางผู้ทำหน้าที่ป้องกันเสาต้นหนึ่งเปลี่ยนไปทันที เขารับกระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุจดหมายมาจากนกตัวนั้นและรีบวิ่งไปยังวังที่ถูกสร้างขึ้นใหม่จากหินสีดำ มันตั้งอยู่ใจกลางของลานขนาดใหญ่บนยอดเขา

  กองทหารเดินเข้าไปในวังหินดำจากทุกทิศทางแต่ละก้าวของเขาทั้งรวดเร็วและจริงจัง

  ตั้งแต่เกิดการต่อสู้ที่ภูเขาสวรรค์ตัวตนระดับเทพเจ้าของเผ่าอสูรและเผ่าปีศาจก็ออกมาจากประตูเทพเจ้าเรื่อยๆ มนุษยชาติได้จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรขึ้นโดยมีเต๋าฮุนเป็นผู้นำสูงสุด ส่วนเต๋าซิงนั้นเป็นที่ปรึกษาด้านการทหาร

  ด้านผู้นำศาลาเต๋าสวรรค์มู่ฉิงเฟิงและผู้นำหุบเขาฟู่ซี่รวมถึงผู้นำหอคอยหลิงหยุนเฉียนยู่รับตำแหน่งเป็นรองผู้นำของกลุ่มพันธมิตรอย่างไรก็ตามเฉียนยู่ไม่ตกลง นางเพียงกล่าว  สงครามนั้นยังไม่สิ้นสุด ผลลัพธ์ยังไม่ได้ถูกตัดสิน!  นางจากไปพร้อมกับศิษย์หอคอยหลิงหยุน ทิ้งมู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือไว้เบื้องหลัง

  อย่างไรก็ตามตำแหน่งรองผู้นำกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ของเฉียนยู่ยังคงอยู่

  ทั้งสี่สำนักรวมเป็นหนึ่งจัดตั้งเป็นสี่กองทัพตั้งชื่อตามชื่อของสี่สำนักใหญ่ที่ยังเหลืออยู่ ศาลาเต๋าสวรรค์ ศาลาหยินหยาง หอคอยหลิงหยุนและหุบเขาฟู่ซี่

  สำหรับผู้นำสำนักอื่นๆถูกจัดตั้งให้เป็นแม่ทัพในกองทัพทั้งสี่ส่วนศิษย์จำนวนมากก็ถูกกระจายไปในทุกๆกองทัพ

  แน่นอนว่าในขณะที่เฉียนยู่นั้นละทิ้งตำแหน่งของนางเหยียนเฉียนหลี่ที่เป็นรองแม่ทัพใหญ่จึงต้องรับหน้าที่ในการดูแลกองทัพหอคอยหลิงหยุนแทน

  เรื่องนี้ไม่ได้มีใครมีปัญหามากนักชื่อเสียงของเหยียนเฉียนหลี่ผู้ปกครองดินแดนเหลียงตะวันตกนั้นทุกคนย่อมรู้จักกันดี

   ผู้นำกลุ่มพันธมิตรท่านมีเรื่องเร่งด่วนอะไรจึงเรียกหาข้า? โม่ฉานฉือถามเต๋าฮุนทันทีหลังจากที่นั่งลง

  จริงๆแล้วโม่ฉานฉือไม่ได้เต็มใจยอมรับตำแหน่งผู้นำของเต๋าฮุนเท่าไรนักแต่เขาไม่มีทางเลือก สถานการณ์ในปัจจุบันสำหรับฝ่ายมนุษย์สามารถเรียกได้ว่าย่ำแย่จริงๆ

  ทุกคนต้องรวมพลังกันเพื่อป้องกันอสูรและปีศาจ!

  นั่นเป็นสิ่งที่มู่ฉิงเฟิงพูดและโม่ฉานฉือก็ไม่อยากจะคัดค้านนั่นนับเป็นหนึ่งในเหตุผลที่หอคอยหลิงหยุนจากไปเช่นกัน รวมถึงหุบเขาฟู่ซี่ก็ไม่ได้เต็มใจเท่าไรนัก พวกเขาเองก็ต้องการจะจากไปเช่นกัน

  อย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือกับอสูรและปีศาจด้วยตัวคนเดียว

   พวกเราจะชนะถ้ารวมพลังกันและความสูญเสียจะลดลง   นั่นคือสิ่งที่เต๋าซิงกล่าวตอนที่เฉียนยู่และศิษย์กำลังจะจากไป

  เพราะตอนนี้…

  ศาลาเต๋าสวรรค์ถูกบุกยึด

  หุบเขาฟู่ซี่ก็เช่นกัน

  สามในห้าสำนักใหญ่ถูกบุกยึดอย่างไรก็ตามดินแดนของหอคอยหลิงหยุนยังไม่ถูกบุกยึด

  แม้โม่ฉานฉือจะไม่ได้จากไปแต่เขาก็ไม่ได้เชื่อคำพูดสวยหรูที่ว่า’เมื่อรวมพลังกันเราจะชนะ’

   รอสักครู่รองผู้นำโม่ข้าจะประกาศหลังจากทุกคนมาครบ  เต๋าฮุนนั้นรู้ถึงความหัวแข็งและใจร้อนของโม่ฉานฉือดี อย่างไรก็ตามเขายังคงยกมือเป็นการขอให้โม่ฉานฉือใจเย็นและรอคอย

  อย่างไรก็ตามหลังจากโม่ฉานฉือได้ยินคำว่า’รองผู้นำ’ที่ราวกับเป็นเข็มทิ่มแทงใจ ใบหน้าของเขากลายเป็นดำมืดทันที  แต่ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากได้มีมือข้างหนึ่งมากดไหล่เขาเอาไว้

   เรียงลำดับความสำคัญพวกเราต้องมองการณ์ไกล  มู่ฉิงเฟิงส่ายหัวให้โม่ฉานฉือ

  แม้ตัวมู่ฉิงเฟิงเองก็ไม่ได้ยินดีนักแต่อย่างน้อยมนุษย์ก็มารวมตัวกันอยู่ที่ภูเขาหลิงเซียวและยังไม่พบกับการสูญเสียที่มากนัก

  ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการรักษาขุมกำลังของมนุษย์เอาไว้มู่ฉิงเฟิงปลอบใจตัวเอง

  สำหรับศาลาเต๋าสวรรค์…

  แม้ว่ามันจะถูกยึดไปโดยพวกอสูรและปีศาจแล้วแต่เขาก็สามารถเอาคืนได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

  คนเราต้องอดทนเพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า

   เยี่ยมเจ้าคิดว่าข้าไม่รู้จักลำดับความสำคัญงั้นรึ ถ้าข้าเป็นแบบนั้นคงไม่ทนอยู่ในที่บัดซบเช่นนี้!  โม่ฉานฉือกล่าวออกมา สายตาของเขาเหลือบมองไปยังเต๋าฮุน  ด้านผู้นำสำนักอื่นๆพวกเขาต่างปิดปากเงียบพวกเขาคุ้นชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว

  ไม่นานที่นั่งในโถงก็ถูกเติมเต็มนั่นหมายความว่ารองแม่ทัพใหญ่ของกองทัพพันธมิตรได้มาอยู่ที่นี่ครบแล้ว ยกเว้นเฉียนยู่

  เต๋าฮุนลุกขึ้นยืนทันทีและหยิบกระดาษสีเหลืองสามใบออกมาจากแขนเสื้อของเขาก่อนที่จะวางมันลงบนโต๊ะด้านหน้า

  อย่างไรก็ตามไม่มีใครเห็นสีหน้าของเต๋าฮุนชัดเจนเพราะเขาสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าอยู่พวกเขาสามารถเห็นได้แค่ที่ราวกับมีเปลวไฟลุกโชนออกมา

   เมิ่งเทียนปรากฎตัวและเขาอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว! เต๋าฮุนกล่าวพร้อมกับมองไปที่กระดาษทั้งสามใบ

  หลังจากเขาพูดจบสีหน้าของโม่ฉานฉือ มู่ฉิงเฟิง รวมถึงหัวหน้าสำนักอื่นๆเปลี่ยนไปทันที

  ข่าวการปรากฎตัวของเมิ่งเทียนกระจายไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นช่วงเวลาหนึ่งแล้ว

   เขาอยู่ที่ไหน? โม่ฉานฉือถาม

   ศาลาเต๋าสวรรค์! เต๋าฮุนกวาดสายตามองทุกคนจากนั้นเขาก็พูดต่อ และ…เก้าขุนเขาหุบเขาฟู่ซี่… 

  ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความสับสน

   ข้าหมายความว่าเมิ่งเทียนได้ปรากฎตัวขึ้นที่ศาลาเต๋าสวรรค์เก้าขุนเขาและหุบเขาฟู่ซี่ในเวลาเดียวกัน  เต๋าฮุนชูกระดาษทั้งสามใบขึ้น

   เมิ่งเทียนสามคน?! 

   มันจะเป็นไปได้ยังไง? 

   เกิดอะไรขึ้น? 

  สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความสับสน

   เขาพยายามทำให้พวกเราสับสน! ขณะที่คนส่วนใหญ่กำลังสับสน เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างหนึ่งที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้

  ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากที่ปรึกษาการทหารเต๋าซิง

   ทำให้พวกเราสับสน?ท่านหมายความว่าเมิ่งเทียนทำไปเพราะมีเป้าหมายงั้นหรือ?  หนึ่งในหัวหน้าสำนักถามออกมาทันที

   ทำไมเมิ่งเทียนต้องทำแบบนี้? 

   เขาจะทำไปเพื่ออะไร? 

   ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องธรรมดาด้วยพลังของเมิ่งเทียน ถ้าเขาไม่เปิดเผยร่องรอยก็ไม่มีทางที่เผ่าอสูรและปีศาจจะหาตัวเขาเจอ 

  ในไม่ช้าเหล่าผู้นำสำนักเริ่มหันหน้าพูดคุยกัน

   ถ้าเขาคาดการณ์ไม่ผิดเมิ่งเทียนตัวจริงน่าจะมาถึงภูเขาหลิงเซียวในเวลาไม่นาน ข้าจึงเรียกทุกคนมาที่นี่  เสียงของเต๋าฮุนดังขึ้นหยุดการพูดคุยภายในห้องโถง

   ทำไมข้ารู้สึกว่าเมิ่งเทียนจะไม่มาที่ภูเขาหลิงเซียว โม่ฉานฉือไม่เห็นด้วยกับเต๋าฮุน

   ตาเฒ่าโม่! มู่ฉิงเฟิงรู้ว่าโม่ฉานฉือนั้นตั้งใจหาข้อแย้งเต๋าฮุน   ก็ได้ก็ได้! งั้นผู้นำกลุ่มพันธมิตรคิดจะทำยังไงถ้าเมิ่งเทียนตัวจริงมาถึงที่ภูเขาหลิงเซียว เราควรทำยังไงกับตำแหน่งผู้นำกลุ่มพันธมิตร?  โม่ฉานฉือโบกมือ

   … 

  ไม่มีใครตอบโม่ฉานฉือรวมถึงเต๋าฮุน

  นั่นเพราะแม้การมาถึงของเมิ่งเทียนเป็นข่าวดีของพวกเขาแต่ปัญหาเรื่องหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรจะปะทุขึ้นในทันที

  สี่สำนักย่อมคุ้นเคยกับสภาพภูมิศาสตร์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่เมิ่งเทียนเองครั้งหนึ่งก็เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเอาชนะเทพอสูรหลินจีและจับตัวเจ้าปีศาจได้อย่างง่ายดาย

  ด้วยความสำเร็จของเขาจะด้อยกว่าสี่สำนักได้ยังไง?

   ถ้าเขาเป็นเทพสงครามเมิ่งเทียนตัวจริงข้าจะมอบตำแหน่งของข้าแก่เขาแน่อน แต่เมิ่งเทียนนั้นลึกลับและเขาไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง พวกเราจะเชื่อใจเขาได้ยังไง?  หลังจากเงียบไปนานเต๋าฮุนกำหมัดและกล่าวออกมา

   ทำไมเล่า? โม่ฉานฉือถามย้ำ

   จะเป็นยังไงถ้ามันเป็นแผนร้าย? เต๋าฮุนถาม

   แผนอะไร? 

   หากเมิ่งเทียนเป็นเทพปีศาจหรือเทพอสูรการจัดการหลินจีและจับตัวเจ้าปีศาจอาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนหยุนชิงวู นางอาจจะต้องการสร้างความวุ่นวายให้กลุ่มพันธมิตรและควบคุมมนุษยชาติ!  เต๋าฮุนกล่าว

   … โม่ฉานฉือขยับปากราวกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาก็เงียบไป

  การปรากฎตัวของเมิ่งเทียนนั้นกระทันหันและแปลกเกินไป

  เทพสงครามเมิ่งเทียนตายไปหลายร้อยปีแต่อยู่ดีๆก็โผล่ออกมาจากที่ไหนไม่รู้ จากนั้นก็จัดการหลินจีรวมถึงจับตัวเจ้าปีศาจได้ภายในแค่เวลาหนึ่งเดือน

  ทุกอย่างดูน่าเหลือเชื่อเกินไป

  ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครเห็นเรื่องเหล่านั้นกับตาตัวเอง คนที่เห็นมีเพียงฉานยู่ราชินีดินแดนภูเขาทางใต้

  ยิ่งไปกว่านั้นเมิ่งเทียนยังเขียนคำว่า’เทพเจ้า’ไว้บนหน้ากากของเขา

  ถ้าเต๋าฮุนคาดเดาถูกและมันเป็นแผนของหยุนชิงวูจริงๆการมาถึงของเมิ่งเทียนเท่ากับฝันร้าย

   ท่านพูดถูกก่อนที่จะส่งตำแหน่งผู้นำกลุ่มพันธมิตรให้กับเมิ่งเทียน พวกเราต้องพิสูจน์ตัวตนของเขาให้ได้ก่อน! 

   ใช่แล้วพวกเราไม่ควรเสี่ยงอะไรทั้งนั้น! 

   ถ้าเขาเป็นเทพสงครามเมิ่งเทียนจริงๆตำแหน่งผู้นำกลุ่มพันธมิตรอาจจะไม่จำเป็นสำหรับเขา ข้าคิดว่ามอบตำแหน่งรองผู้นำกลุ่มพันธมิตรให้เขาก่อนเป็นเยี่ยงไร?     แล้วถ้าเขาไม่ใช่เมิ่งเทียนตัวจริงล่ะ?พวกเราจะทำยังไงหลังจากเขามาถึงภูเขาหลิงเซียว? แค่เพียงดาบเดียวเขาสามารถแยกหอคอยปีศาจออกเป็นสองส่วนได้! 

  ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องโถง

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท