Gate of God – ตอนที่ 970 ตาเฒ่าไร้ยางอาย!

ตอนที่ 970 ตาเฒ่าไร้ยางอาย!

  ตั้งแต่สงครามที่ภูเขาสวรรค์เวลาได้ผ่านมาห้าเดือนแต่กลับไม่มีสัญญานว่าฉือกูเหยียนจะตื่นขึ้นมาแม้แต่น้อย

  สมองนางตายไปแล้ว?หรือนางจะเป็นอัมพาตทั้งร่างกาย?

  ฟางเจิ้งจือคิดว่านางอาจจะอยู่ในสภาวะจำศีลอย่างไรก็ตามเขาไม่มั่นใจว่ามันจะกินเวลานานเท่าไร

  นี่ก็ผ่านมาห้าเดือนนางควรจะออกจากการจำศีลแล้วหรือเปล่า?

  ฟางเจิ้งจือพิจารณาฉือกูเหยียนอย่างระมัดระวังทั้งขนตา จมูก ริมฝีปาก เขาพยายามจับการเคลื่อนไหวแม้จะเป็นเป็นเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่เขากลับต้องพบกับความผิดหวัง

  เวลาผ่านไปช้าๆ

  ในไม่ช้าวู่จวี้เอ๋อร์ได้กลับมาพร้อมกับศิษย์ที่สวมชุดสีฟ้าเหมือนกับฟางเจิ้งจือ

   พวกเราพร้อมจะไปแล้วหรือยัง? วู่จวี้เอ๋อไม่พอใจเล็กน้อยที่เห็นฟางเจิ้งจืออยู่กับฉือกูเหยียน

   อืม ฟางเจิ้งจือพยักหน้าและเตรียมพร้อมจะออกจากห้องอย่างไรก็ตามทันทีที่เขาก้าวออกมาจากห้องเขากลับหยุดเดิน  รอข้าข้างนอกสักครู่ 

   เจ้าคิดจะฉวยโอกาสกับฉือกูเหยียนงั้นรึ? วู่จวี้เอ๋อหรี่ตามองฟางเจิ้งจือด้วยความไม่พอใจ

   แค่กๆ…ออกไปก่อน ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะตอบ

   ก็ได้ วู่จวี้เอ๋อตอบด้วยความไม่พอใจเท่าไรนักแต่นางก็เดินออกไปรอลานนอกบ้านแต่โดยดี

  ฟางเจิ้งจือหยุดอยู่ด้านข้างของฉือกเหยียนจากนั้นเขาก็หยิบบางอย่างที่มีความงดงามพร้อมกับแผ่พลังอันมหาศาลออกมา  มันคือไข่มุกอสูรของหลินจี!

  เขาไม่รู้ว่ามันมีพลังมากแค่ไหนตอนแรกเขาต้องการจะกินมันด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามเขากลับเปลี่ยนใจ

  มีสองเหตุผลสำหรับเรื่องนี้หนึ่งคือพิษยังถูกขับออกจากร่างของฉานยู่ไม่หมด เขาจึงเก็บไข่มุกอสูรไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน

  เหตุผลที่สองคือเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองถ้ากินไข่มุกอสูรเข้าไป

  ถ้าเขาใกล้ตายเขาคงไม่ลังเลที่จะกินมันเข้าไป อย่างน้อยผลลัพธ์ที่ออกมาน่าจะดีกว่าตาย

  กลับกันถ้าเขามีชีวิตที่เป็นสุขแล้วมีคนเสนอไข่มุกอสูรให้กับเขามันไม่แปลกที่เขาจะลังเล

  ฟางเจิ้งจือไม่ได้โง่เขาไม่อยากเสี่ยงอันตรายจากการกินไข่มุกอสูรระดับเทพเจ้าเข้าไป อย่างไรก็ตามฉือกูเหยียนนั้นไม่เหมือนกัน  นางใช้พลังจนหมดสิ้นตอนที่อยู่บนภูเขาสวรรค์

  พูดง่ายๆนางใช้พลังมากเกินไปจนร่างกาย’ว่างเปล่า’ยิ่งไปกว่านั้นนางได้ฝืนทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนโดยขาดรากฐานที่มั่นคง ทำให้สภาพของนางเป็นดังเช่นปัจจุบัน

  ฟางเจิ้งจือลูบไข่มุกอสูรในมือและมองฉือกูเหยียนที่นอนอยู่บนเตียงเขาคิดว่ามันเหมาะสมกว่าที่จะทิ้งไข่มุกอสูรไว้ให้นาง

  อย่างไรก็ตาม…

  มีอยู่ปัญหาหนึ่ง

  เขาจะทิ้งมันไว้ให้นางได้ยังไง?

  ให้ฉือกูเหยียนกินมันเข้าไปเลย?แม้มันจะเป็นวิธีที่เรียบง่ายที่สุด แต่มันก็อาจจะทำให้ฉือกูเหยียนตายได้

  ฟางเจิ้งจือนึกถึงความเป็นไปได้ทุกหนทาง

  เขาอาจจะวางไว้ที่หน้าอกของนางหรือในปาก?   ฟางเจิ้งจือค่อยๆถอดเสื้อของฉือกูเหยียนออกแต่ทันใดนั้นเสียงของวู่จวี้เอ๋อกลับดังขึ้น

   เจ้าคิดจะฉวยโอกาสจากนางจริงๆด้วย! 

   ไร้สาระ!ข้าเป็นสุภาพบุรุษเต็มตัว ข้าจะฉวยโอกาสจากฉือกูเหยียนได้ยังไง?  ฟางเจิ้งจือถอยออกมาและรีบเปิดปากของฉือกูเหยียนออก

  ฝ่ามือของเขาสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่ออกมาจากปากของนาง

  มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะยัดไข่มุกอสูรเข้าไปในริมฝีปากเล็กๆของฉือกูเหยียน

   เยี่ยม!ถ้าข้าไว้แบบนี้นางไม่น่าจะกลืนมันเข้าไป  ฟางเจิ้งจือปรบมือและปิดปากของฉือกูเหยียนลง ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้อง

  ด้านฉินซูเหลียนและฟางเฮ่าเตอที่กำลังรออยู่ด้านหน้ากำลังมองฟางเจิ้งจือที่เดินออกมาด้วยสายตาแปลกๆ

   … จากท่าทีของทั้งสองคนฟางเจิ้งจือรู้ทันทีว่าต้องมีเรื่องเข้าใจผิด เขากำลังจะอธิบายแต่ฉินซูเหลียนกลับขยิบตาให้เขาก่อน

   จวี้เอ๋อรอเจ้าอยู่ด้านนอกมั่นใจได้ข้าจะไม่บอกนางเรื่องนี้ ฉินซูเหลียนกล่าวเบาๆ

   ท่านแม่…ข้าเป็นลูกแท้ๆของท่านนะ! ฟางเจิ้งจือพูดไม่ออกจริงๆ จะไม่บอกอะไรวู่จวี้เอ๋อได้ยังไง ในเมื่อยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อยเลย?

  เดี๋ยวก่อน!

  ทำไมเขาต้องกลัววู่จวี้เอ๋อด้วย?

  แค่หมาน้อยตัวเดียวเขาต้องกลัวอะไร?

  ฟางเจิ้งจือรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

   เจิ้งเอ๋อร์เจ้าไปเถอะ ในฐานะพ่อข้าเข้าใจ  ฟางเฮ่าเตอต้องการจะปลอบฟางเจิ้งจือที่มีท่าทีกระอักกระอวน

   เข้าใจงั้นรึ?! ฉินซูเหลียนหรี่ตามองเมื่อได้ยินที่ฟางเฮ่าเตอพูดสายตาของนางคมกริบ เจ้าหมายความว่ายังไง? เจ้าไปเห็นหญิงสาวที่ไหนมางั้นรึ? นางอยู่หมู่บ้านไหน? 

   … สีหน้าของฟางเฮ่าเตอเปลี่ยนไปทันที

  ฟางเจิ้งจือไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไปเขาพุ่งออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ไม่ลืมกล่าวกับฟางเฮ่าเตอ  ท่านพ่อ ระวังตัวด้วย! 

   เจิ้งเอ๋อร์…โอ้ย!…อย่าใช้หม้อสิ!…โอ้ย! 

  …

  ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์สิบวันต่อมา ร่างที่ปกคลุมด้วยผ้าคลุมสีดำปรากฎตัวขึ้นที่ภูเขาหลิงเซียว ใบหน้าของเขาสวมหน้ากากที่เขียนคำว่า’เทพเจ้า’เอาไว้

   เมิ่งเทียน?!เมิ่งเทียนมาถึงภูเขาหลิงเซียวแล้ว! 

   เร็วเข้ารีบงานให้ผู้นำกลุ่มพันธมิตรทราบ! 

  หลังจากเห็นร่างสวมหน้ากากเหล่าศิษย์ที่ซ่อนตัวอยู่ที่ตีนเขาต่างเคลื่อนไหวในทันที

  อย่างไรก็ตามดินแดนศักดิ์สิทธิ์กลับตกอยู่ในความวุ่นวายมีรายงานว่าพบเมิ่งเทียนที่เก้าขุนเขา ศาลาเต๋าสวรรค์ หุบเขาฟู่ซี่ และสถานที่อื่นๆอีกเล็กน้อย

  เมิ่งเทียนสี่ถึงห้าคน?

  มันเป็นเรื่องตลกอะไรกัน?

  อย่างไรก็ตามมันคือความจริงไม่เพียงแต่มีเมิ่งเทียนหลายคนทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มีข่าวว่าพบเมิ่งเทียนในหลายๆที่นอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยเช่นกัน

   ท่านเทพสงครามข้าฉิงเหยียน ศิษย์ของศาลาเต๋าสวรรค์ผู้ทำหน้าที่ต้อนรับท่าน!  เด็กหนุ่มสวมชุดสีขาวคนหนึ่งกล่าวทักทายเมิ่งเทียนทันที

   เจ้าเป็นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์งั้นรึ? เมิ่งเทียนกล่าวถาม

   ใช่แล้วข้าขอทราบได้ไหมว่าท่านมาที่นี่เพื่ออะไร?  ฉิงเหยียนพยักหน้าด้วยความเคารพ

   ขึ้นไปด้านบนก่อน เมิ่งเทียนไม่ใส่ใจที่จะตอบคำถาม

   ขอรับแต่โปรดรออยู่ที่นี่สักครู่ ท่านมู่และท่านผู้นำกลุ่มพันธมิตรเต๋าต้องการจะทำการต้อนรับท่านด้วยตัวเอง ท่านสามารถพักผ่อนอยู่ตรงนี้ก่อนได้ ข้าได้เตรียมอาหารหลากหลายอย่างให้ท่านได้ลิ้มลอง  หลังจากพูดจบ ฉิงเหยียนโบกมือไปทางมุมหนึ่ง

  จากนั้นศิษย์จำนวนหนึ่งก็ปรากฎกายขึ้นพร้อมกับขนมขบเคี้ยวและผลไม้ที่วางอยู่ในจาน

   เจ้าหมายความว่ายังไง?เจ้าต้องการให้ข้ารอพวกนั้นอยู่ตรงนี้งั้นรึ?  ท่าทีของเมิ่งเทียนกลายเป็นเยือกเย็นเมื่อเห็นศิษย์ที่ถือจานอาหารเข้ามา

   ท่านเทพสงคราม… 

  ฟุ้บ!ก่อนที่ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์จะได้พูดอะไร ลำแสงที่ปล่อยออกมาจากดาบได้พุ่งผ่านสายตาของเขาไป

  มันเร็วมากจนศิษย์ทุกคนตกตะลึงพวกเขาคิดว่าไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการเสียมารยาทต่อเมิ่งเทียนแม้แต่น้อย

  แต่เมิ่งเทียนกลับโจมตี?

  และ…

  หัวของฉิงเหยียนกำลังกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยดวงตาที่เบิกกว้างจนเขาตายไปแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเมิ่งเทียนถึงโจมตีเขา

   เขาเป็นอสูร! 

   เขาต้องเป็นตัวตนระดับเทพเจ้าของปีศาจและอสูรแน่อน! 

   หนี! 

  สีหน้าของเหล่าศิษย์เปลี่ยนไปพวกเขาวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

  อย่างไรก็ตามพวกเขาช้ามากเมื่อเทียบกับเมิ่งเทียน…

  ฉั๊วะ!

  ฟุ้บ!

  แสงดาบที่ปล่อยออกไปตัดผ่านร่างของศิษย์เหล่านั้นอย่างรวดเร็วเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วตีนเขา

   เมิ่งเทียน!!! หัวหน้าสำนักที่ลงมาจากด้านบกเต็มไปด้วยความตกใจ เขากำหมัดแน่นเมื่อเห็นเลือดบนพื้น

  …

  สามวันถัดมา…

  เทียบกับเหตุนองเลือดที่ภูเขาหลิงเซียวณ หอคอยหลิงหยุนที่ห่างใกล้จากสนามรบ สถานที่นี้ยังคงมีความสงบสุขราวกับตัดขาดจากโลกภายนอก

  มันคงจะสงบสุขแบบนี้ต่อไปถ้าไม่มีเสียงระฆังที่หน้าทางเข้าหอคอยหลิงหยุน

  ความเงียบถูกทำลายลง

  ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชายที่สวมหน้ากากและผ้าคลุมที่มีคำว่า’เทพเจ้า’

   เมิ่งเทียน?! ศิษย์คนหนึ่งที่ทำหน้าที่ดูแลทางเข้าหอคอยหลิงหยุนแปลกใจกับการปรากฎตัวของเขา  เดี๋ยวก่อน ผู้นำหอคอยได้บอกไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับหอคอยหลิงหยุน ถ้าท่านผู้อาวุโสคิดจะมาหาผู้นำหอคอย โปรดกลับไป 

   กลับ? เมิ่งเทียนตกใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะได้สติอย่างรวดเร็ว  ข้ามาที่นี่เพื่อชมพิวทัศน์เท่านั้น เจ้าไม่ควรจะต้อนรับข้าด้วยเหล้าและอาหารชั้นเลิศงั้นหรือ? 

   เหล้าและอาหารชั้นเลิศ?ฮ่าฮ่า ไม่ใช่ว่าที่ภูเขาหลิงเซียวท่านได้รับการต้อนรับอย่างดีแล้วงั้นรึ? แต่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นสิ!  หลังจากกล่าวจบ ศิษย์ได้โบกมือไปทางหอคอยหลิงหยุน ศิษย์สิบกว่าคนกระโดดออกมาจากพุ่มไม้ทันที

  เห็นได้ชัดว่าหอคอยหลิงหยุนเองก็ได้ทำการต้อนรับเมิ่งเทียนเป็นอย่างดี

   หืมมมข้ารู้เรื่องที่ภูเขาหลิงเซียวดี อย่างไรก็ตามข้าไม่ได้เป็นผู้ลงมือ  เมิ่งเทียนไม่ใส่ใจกับการปรากฎตัวของศิษย์จำนวนมาก

   แน่นอนว่าไม่ใช่ท่านเรื่องที่เกิดขึ้นที่ภูเขาหลิงเซียวพึ่งผ่านมาไม่ถึงสองวัน แม้ด้วยความสามารถอันเหลือล้นของท่านก็ไม่สามารถมาถึงที่นี่ได้ภายในเวลาสามวัน  ขณะที่เขาพูด ศิษย์ทั้งสิบคนได้ยืนเรียงกันเป็นค่ายกล

   ฉลาดมากในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าไม่ได้เป็นผู้ลงมือ ทำไมไม่ต้อนรับข้าด้วยเหล้าและอาหารชั้นเลิศ? หรือเรียกผู้นำหอคอยเฉียนยู่มาสนทนากับข้าเสียหน่อย และ…ข้าได้ยินว่าเฉียนยู่มีลูกสาวนามปิงหยาง ข้าค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับเด็กคนนั้นเล็กน้อย ถ้านางช่วยทำให้ข้าเพลิดเพลินได้เล็กน้อยก็คงดี  เมิ่งเทียนพยักหน้าและกล่าวออกมา

  อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขากล่าวไม่ใช่คำชมอย่างเห็นได้ชัด

   ตาเฒ่าไร้ยางอายเจ้ากล้ากล่าวล่วงเกินผู้นำหอคอยและท่านปิงหยางได้ยังไง? โจมตี!  ศิษย์หอคอยหลิงหยุนไม่ลังเลอีกต่อไปและเริ่มโจมตีทันที

   โจมตี? ดวงตาของเมิ่งเทียนสว่างขึ้นดาบสิบเอ็ดเล่มหมุนวนรอบตัวเขา มันเปล่งแสงออกมาเหมือนๆกัน

  มันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากวิชาลับของหอคอยหลิงหยุนที่สามารถเปลี่ยนดาบเล่มเดียวให้กลายเป็นดาบนับล้านได้

  อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัด…

  ศิษย์จำนวนแค่นี้ไม่สามารถจัดการเมิ่งเทียนได้

  พลังอันรุนแรงไหลทะลักออกมาจากร่างของเมิ่งเทียนโจมตีศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนที่อยู่รอบๆเขา

  จากนั้นในชั่วพริบตาดาบในมือของศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนหลุดออกจากมือของพวกเขาเข้าสู่มือของเมิ่งเทียนทันที

   อืมม…ดาบที่ดี เมิ่งเทียนก้มมองดาบสิบเอ็ดเล่มในมือและเอ่ยชมออกมา

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท