Gate of God – ตอนที่ 981 แผนอันเยี่ยมยอด

ตอนที่ 981 แผนอันเยี่ยมยอด

   งั้น…ผู้นำนิกายวู่พวกเราเปิดกล่องที่สองเลยดีไหม เผื่อผู้อาวุโสเมิ่งเทียนแนะนำอะไรเพิ่มเติม?  มู่ฉิงเฟิงลังเลเล็กน้อย

  เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของมนุษยชาติ

  แม้ว่าการมาถึงของวู่จวี้เอ๋อจะเป็นการพิสูจน์ตัวตนของเมิ่งเทียนแต่นอกจากนางแล้วก็ไม่มีใครเห็นหน้าตาเขาจริงๆ

  มันจึงเป็นเรื่องยากที่กลุ่มพันธมิตรสวรรค์จะทำตามคำสั่งของเขาโดยสมบูรณ์

   ไม่ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนกล่าวว่ากล่องที่สองให้เปิดตอนที่เจออันตรายในซากปราสาทสีดำเท่านั้น  วู่จวี้เอ๋อกล่าวปฎิเสธมู่ฉิงเฟิงตรงๆ

   เผชิญหน้ากับอันตราย? 

   … 

  มู่ฉิงเฟิงโม่ฉานฉือ และผู้นำสำนักอื่นๆต่างขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด   แล้วยังไง?ตาเฒ่ามู่ท่านคิดยังไง?  โม่ฉานฉือไม่สามารถตัดสินใจเองได้ เขาจึงหันไปถามมู่ฉิงเฟิง

   ในเมื่อเรามาถึงที่นี่แล้วพวกเราไม่สามารถกลับไปมือเปล่าได้  มู่ฉิงเฟิงกัดฟันแน่น

   แล้วท่านคิดเช่นไร? 

   ทำตามคำแนะนำแรกสร้างกลุ่มเซียนสี่กลุ่มโจมตีทั้งสี่ทิศของศาลาเต๋าสวรรค์ ส่วนการเข้าไปในซากปราสาทสีดำเราต้องตัดสินใจหลังจากเห็นสถานการณ์จริงก่อน 

   อืมข้าคิดว่าสิ่งที่รองผู้นำมู่พูดมีเหตุผล! 

   ใช่แล้วมันเป็นแผนที่น่าเชื่อถือที่สุดแล้ว! 

   งั้นทำตามแผนนี้บอกกองกำลังทั้งสี่ทิศให้จัดตั้งกลุ่มเซียนขึ้นมาเพื่อโจมตี!  โม่ฉานฉือพยักหน้า

   รับทราบ! 

  …   ในศาลาเต๋าสวรรค์กองทัพปีศาจและอสูรเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้มานานแล้ว ไม่เพียงแต่พวกเขาจะปกป้องเส้นทางทั้งสามจากด้านจากภูเขาที่ขนาบศาลาเต๋าสวรรค์ แต่ส่วนหน้าผาที่อยู่ด้านหน้าพวกเขาก็ส่งทหารมาคุ้มกันอย่างดี

  ไม่มีทางค่ำคืนนี้จะเป็นค่ำคืนที่เงียบสงบอีกต่อไป

  โชคร้ายที่กองทัพของปีศาจและอสูรนั้นต้องแบ่งออกเป็นสามส่วนนอกจากที่ศาลาเต๋าสวรรค์แล้ว พวกเขาต้องปกป้องทั้งหุบเขาฟู่ซี่และเก้าขุนเขา

  เช่นนั้นที่นี่จึงไม่ได้มีราชาอสูรอยู่มากนัก

  แม้จะเป็นเช่นนั้นที่นี่ก็มีราชาอสูรอยู่ไม่ต่ำกว่าสิบห้าคน

  นอกจากนั้นยังมีกองทัพปีศาจและตัวตนระดับเทพเจ้าเช่นโจวฉีอยู่ด้วย

  ขุมกำลังของพวกมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อกร  แค่ราชาอสูรคนเดียวก็เทียบได้กับเซียนสองถึงสามคนแล้วขณะที่ตัวตนระดับเทพเจ้าหนึ่งคนอาจฆ่าล้างมนุษย์ทั้งหมดทิ้งได้

   ถ่ายทอดคำสั่งของข้าออกไปเมิ่งเทียนพวกนั้นเป็นตัวปลอมทั้งหมด ถ้าพวกมันกล้าโจมตีพวกเราก็ไม่ต้องแสดงความเมตตาต่อพวกมัน!  ดวงตาของราชาอสูรเต็มไปด้วยความกระหายเลือด หน้าที่สำคัญของพวกเขาคือปกป้องศาลาเต๋าสวรรค์

   รับทราบ! หนึ่งในทหารปีศาจตอบรับ

  ไม่นานคำสั่งของราชาอสูรก็รับรู้กันทั่วกองทัพเห็นได้ชัดว่ากองทัพปีศาจมีระเบียบวินัยอย่างมากภายใต้การปกครองของหยุนชิงวู

  โดยเฉพาะด้านการหาข้อมูลข่าวกรองและการถ่ายทอดคำสั่งทางทหารพวกเขาทำได้ดีกว่ากองทัพหลักของสี่อาณาจักรเสียอีก

  ไม่เกินสิบห้านาทีร่างที่มีหน้ากากสีดำได้ปรากฎขึ้นที่ป่าทางตะวันตกของศาลาเต๋าสวรรค์

   เมิ่งเทียน?! 

   เขามาแล้วงั้นรึ? 

   เขากล้าที่จะบุกศาลาเต๋าสวรรค์…ด้วยตัวคนเดียว! 

   มันต้องเป็นตัวปลอมแน่นอน! 

   ฆ่ามัน! 

  เมื่อเห็นอีกฝั่งเดินออกมาคนเดียวตอนแรกพวกเขาหวาดกลัว

  อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขานึกถึงคำสั่งของราชาอสูรทุกคนยกหอกในมือและก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล

  ’เมิ่งเทียน’ที่เดินออกจากป่าไม่คิดว่าจะเจอฉากเช่นนี้

  เมิ่งเทียน?

  เขาคือเทพสงครามเป็นไปได้งั้นหรือที่ทหารปีศาจธรรมดาจะไม่กลัวความตาย

  อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักเขาโจมตีก่อนที่ทหารปีศาจจะมาถึง ประกายสีทองอมดำสว่างขึ้น ก่อนที่ดาบยาวสี่ทองจะปรากฎขึ้นกลางอากาศก่อนที่มันจะพุ่งลงบนพื้นในทันที

  ตูม!

  รอยแยกขนาดใหญ่ปรากกฎขึ้นบนพื้น

  ทหารปีศาจมากกว่าสิบคนล้มลงในทันที

   เขาเป็นตัวปลอมงั้นรึ?! 

  เมื่อมองเห็นรอยแตกบนพื้นทหารปีศาจทำได้แค่เบิกตากว้างมองเมิ่งเทียน

   หยุด!หยุดเดี๋ยวนี! 

   นั่นคือเมิ่งเทียนตัวจริง! 

   … 

  ท่ามกลางคนโง่ที่หวาดกลัวความตายย่อมมีคนที่มีสติปัญญาพอที่จะมองสถานการณ์ออก

   ตัวจริง?! 

   คนนี้คือตัวจริง?    ดวงตาของทหารปีศาจเบิกกว้าง

   ฮ่าฮ่าฮ่า… เมิ่งเทียนหัวเราะก่อนที่เขาจะหันหลังหายเขาไปในป่าอีกครั้ง

  ที่เหลืออยู่คือ…

  มีเพียงทหารปีศาจที่มองไปมาด้วยความสับสน

  ยังไม่จบแค่นั้นเมิ่งเทียนอีกคนเดินออกมาจากป่า ต่างกันที่ดาบของเขาไม่ใช่สีทองแต่เป็นดาบสีแดง

  ดาบสีแดงสะดุดตาราวกับเปลวเพลิงโจมตีใส่ทหารปีศาจพร้อมกับเปลวไฟที่เผาไหม้บนพื้น

   เขาเป็นตัวจริงใช่ไหม? 

   เขามีพลังมากกว่าเซียนทั่วไปแน่นอน! 

   หรือมีเมิ่งเทียนสองคน? 

  ทหารปีศาจรู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดเมิ่งเทียนทั้งสองคนปรากฎตัวเพียงช่วงเวลาสั้นๆเกินกว่าที่พวกเขาจะรวบรวมข้อมูลอะไรได้ทัน  จากนั้นเมิ่งเทียนคนที่สามก็ปรากฎตัวขึ้น

   … 

  เขาพุ่งออกมาจากป่าและสังหารทหารปีศาจไปกว่าสิบคนก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปในป่าแทบจะในทันที

   เมิ่งเทียนสามคน?เป็นไปไม่ได้! 

   แต่พวกเขาทั้งสามคนล้วนทรงพลังเช่นเดียวกัน! 

   มันอาจจะเป็นแผนของเมิ่งเทียน! 

   พวกไร้ประโยชน์! เสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นร่างหนึ่งที่น่าเกรงขามก็เดินออกมาจากกลุ่มทหารปีศาจ

   ท่านราชาอสูร! 

  ทหารปีศาจต่างหลีกทางให้เขาทันที

  พวกเขาเป็นเพียงทหารปีศาจธรรมดา

  พวกเขาจะต่อสู้กับ’เมิ่งเทียนตัวจริง’ได้ยังไง?

   พี่ใหญ่จินคิดเช่นไรเกี่ยวกับเรื่องนี้? ชายร่างผอมและมีเขาสีทองบนหน้าผากอีกคนเดินออกมา

  เขาเองก็เป็นราชาอสูรเช่นกัน

   ข้าคิดว่ามันเป็นกลลวง! ชายที่ชื่อจินยืนยัน

   พวกมันคิดจะล่อพวกเราเข้าไปในป่า? ชายร่างผอมพยักหน้าเบาๆ

   ใช่ถ้าข้าคิดถูก คงมีพวกมนุษย์ระดับสูงจำนวนมากซ่อนอยู่ในป่า ถ้าพวกเราเข้าไปโดยไม่คิดอะไรคงติดกับพวกมันในทันที! 

   งั้นพวกเราก็ควรรอ? 

   ใช่รอ! 

   งั้นพวกเราจะทำตามที่พี่ใหญ่จินว่า ชายร่างผอมพยักหน้าอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองทหารปีศาจ  ถ่ายทอดคำสั่งของข้า คอยป้องกันอย่างเดียวเท่านั้น ห้ามเข้าไปในป่า! 

   รับทราบ! 

  …   ศาลาเต๋าสวรรค์เป็นสถานที่ที่ใหญ่มาก

  ในฐานะหนึ่งในห้าสำนักใหญ่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใครก็ตามที่เป็นศิษย์ของที่นี่ย่อมได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูง

  นอกจากพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่แล้วบริเวณรอบๆยังเต็มไปด้วยอันตราย

  แนวรบด้านหนึ่งทอดตัวยาวเกินกว่าที่ราชาอสูรสองคนจะดูแลไหว

  ทันใดนั้นเมิ่งเทียนอีกคนได้ปรากฎตัวขึ้นณ จุดหนึ่ง

  ผ่านไปอีกสักพักเมิ่งเทียนได้ปรากฎตัวขึ้นห่างออกไปจากที่เดิม

  วงจรนี้เกิดขึ้นซ้ำกว่าสิบครั้งทหารปีศาจต่างโกรธเกรี้ยวเพราะพวกเขามากกว่าสองร้อยคนถูกฆ่าตายไปแล้ว

  กองทัพปีศาจนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน?

  อย่างน้อยก็มีทหารสองสามแสนนาย!

  อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ต้องการตายอย่างไร้ค่าเช่นนี้ ปีศาจไม่ได้มีจำนวนมากมายเช่นมนุษย์ พวกเขาไม่สามารถทนต่อการสังหารหมู่เช่นนี้ได้

   ท่านราชาอสูรพวกเราจะอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้!  หนึ่งในรองแม่ทัพปีศาจกล่าวขึ้นมาด้วยความเหลืออด

   พวกเราต้องหาวิธีรับมือ! 

  รองแม่ทัพปีศาจจำนวนหนึ่งเห็นด้วย

  ไม่มีใครทนการต่อสู้เช่นนี้ได้!

  พวกเขารู้สึกราวกับกำลังโดนดูถูก

  เมิ่งเทียนที่ปรากฎตัวมีพลังมากกว่าระดับเซียนทั่วไปแน่นอนการปรากฎตัวของเขาสามารถฆ่าทหารปีศาจได้อย่างน้อยสิบคน

  นอกจากนี้เมิ่งเทียนเหล่านั้นไม่คิดจะต่อสู้มากไปกว่านั้น

  หลังจากฆ่าทหารปีศาจสิบคนพวกเขาก็หนีไปทันที

   พวกเจ้ากล้าขัดคำสั่งพวกข้างั้นรึ?! ชายร่างผอมเตะไปที่รองแม่ทัพปีศาจคนแรกทันที  อย่างไรก็ตามเขาแค่เตะแต่ไม่ได้ฆ่า

  ไม่ใช่เพราะอสูรและปีศาจเป็นพันธมิตรกันแต่เป็นเพราะเขาค่อนข้างรำคาญกับเมิ่งเทียนที่ปรากฎตัวออกมาไม่หยุดหย่อน

  เขาและไป่จินจะสามารถป้องกันพื้นที่ทั้งหมดได้ยังไง

   ไม่ต้องกังวลพี่ใหญ่จิน แม้จะมีกับดักอยู่ในป่า ข้าได้สังเกตุอย่างรอบคอบว่าเมิ่งเทียนที่ปรากฎตัวจะมีวิธีโจมตีแบบเดียวกัน ในเรื่องของพลังถ้าข้าเดาไม่ผิดมีอย่างน้อยสามคนที่อยู่ในระดับเซียนขึ้นไป!  ชายร่างผอมกล่าวออกมา

   ข้าเองก็คิดเช่นเดียวกันมนุษย์มาที่นี่เพื่อเข้าไปในปราสาทสีดำที่ตีนเขา เช่นนั้นกองกำลังหลักของพวกมันน่าจะอยู่ด้านหน้า ข้าคิดว่าพวกมันพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเราไปที่ทางด้านตะวันตก พวกมันไม่มีทางส่งเซียนจำนวนมากมาที่นี่! 

   ถูกต้องแล้วมนุษย์มักใช้แผนการแบบนี้มาตลอด พวกเขาจะให้กองกำลังหลักรอคอยและจะถอยทัพทันทีที่สถานการณ์ดูไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้นพวกเรายังมีตัวตนระดับเทพเจ้าอยู่พวกมันจะกล้าเปิดศึกเต็มกำลังกับพวกเราได้ยังไง? 

   น้องหลินคิดว่าเช่นไร? 

   ถ้าพี่ใหญ่จินตกลงข้าต้องการจะเข้าไปตรวจสอบในป่าด้วยตัวคนเดียวเพื่อตรวจสอบตำแหน่งกับดักของพวกมัน จากนั้นพี่ใหญ่จินก็ตามไปพร้อมกับพวกทหาร พวกเราสามารถจัดการพวกมันได้ทั้งหมด! 

   แผนที่ดีแต่มันจะอันตรายเกินไปไหมที่เจ้าจะเข้าไปคนเดียว ถ้าเกิดมีเรื่อง… ไป่จินยังคงกังวล

   ไม่ต้องกังวลแม้ข้าจะไม่ได้ทรงพลังเท่าพวกเทพอสูร ข้าสามารถป้องกันตัวเองได้ถ้าเจอเซียนสามถึงสี่คน ไม่มีทางที่พวกมันจะส่งเซียนมายังด้านตะวันตกมากถึงสิบยี่สิบคนหรอก 

   ฮ่าฮ่าใช่แล้วไม่มีทางที่มันจะเป็นเช่นนั้น ตอนนี้อสูรและปีศาจได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดพวกมันคงกำลังหวาดกลัวกันอยู่ ส่งเซียนสามคนมาก่อกวนพวกเราคงเป็นขีดจำกัดของพวกมันแล้ว! 

   พี่ใหญ่จินคิดเช่นเดียวกับข้า! 

   อืมดูเหมือนจะไม่มีวิธีอื่น ในเมื่อเจ้าจะเข้าไปดู ข้าก็ขะรอฟังข่าวอยู่ที่นี่  ไป่จินพยักหน้า

   พี่ใหญ่จินรอฟังข่าวดีจากข้าได้เลย ดวงตาของชายร่างผอมสว่างขึ้น ทั่วร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีขาวบางๆ

  แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าฝ่ายตรงข้ามมีเซียนสามคนและมนุษย์ระดับต่ำอีกจำนวนหนึ่งซ่อนอยู่ในป่าแต่เขาก็ควรจะระมัดระวัง

  เขาเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นเกล็ดสีขาวบนตัวของเขายกที่ดาบธรรมดาๆจะฟันเข้า

  นอกจากว่าพวกนั้นจะเป็นมู่ฉิงเฟิงหรือโม่ฉานฉือ!

  แต่พวกนั้นไม่มีทางอยู่ที่นี่แน่นอน!   แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้!

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท