Gate of God – ตอนที่ 1002 อัจฉริยะ!

ตอนที่ 1002 อัจฉริยะ!

ตอนที่ 1002 อัจฉริยะ!

  ไม่ใช่เรื่องเกินจริงหากจะเรียกกำแพงห้าชั้นของตัวตนเทพเจ้าทั้งห้าว่าเป็นปราการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด

  หลินยู่จะเชื่อได้ยังไงว่าฟางเจิ้งจือสามารถฝ่ากำแพงแสงเข้ามาได้โดยใช้ดาบธรรมดาเพียงไม่กี่เล่ม?

  แม้ว่าเมิ่งเทียนจะแข็งแกร่งกว่าเขาจริงๆแม้ว่าดาบของเมิ่งเทียนจะยอดเยี่ยม มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะฝ่าการป้องกันระดับนี้ได้

  แคร้ง!ดาบยาวทั้งสามเล่มแตกออกเนื่องจากไม่สามารถทนต่อการปะทะที่รุนแรงได้

  อย่างไรก็ตามยังคงมีดาบเล่มที่สี่ห้า..

  ตูม!ดาบเล่มที่สี่ฟาดฟันใส่กำแพงแสงห้าชั้นในตำแหน่งเดิมอีกครั้งด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น

  เสียงที่คมชัดของดาบดังขึ้นยิ่งกว่าครั้งก่อน

  แคล้ง!เสียงไม่ได้ดังมากนัก แต่นั่นก็ทำให้ท่าทีของตัวตนเทพเจ้าเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์

  นั่นเพราะเมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นรอยเล็กๆได้ปรากฎขึ้นบนกำแพงแสงเหนือหัวพวกเขา แม้จะเล็กมากแต่มันแตกออกจริงๆ

  ยิ่งไปกว่านั้นรอยแตกค่อยๆขยายกว้างขึ้น

  ตูม!ลำแสงปะทะเข้ากับดาบยาวเล่มที่สี่และส่งพวกมันลอยออกไป นั่นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉินเซียนที่เป็นคนโจมตี

  อย่างไรก็ตามเมื่อดาบเล่มที่สี่ถูกส่งลอยออกไป…

  ดาบเล่มที่ห้าไม่ได้โจมตีใส่จุดเดิมอย่างที่พวกเขาคิด!

   หืม?!ดาบเล่มสุดท้ายอยู่ที่ไหน? หลินยู่ประหลาดใจเพราะเขาจำได้ชัดเจนว่าฟางเจิ้งจือมีดาบทั้งหมดห้าเล่ม  อย่างไรก็ตามทำไมถึงมีแค่สี่?

  ดาบเล่มที่ห้าอยู่ไหน?

  เมื่อความคิดนี้แล่นผ่านจิตใจของของหลินยู่มันทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นเพราะประสบการณ์อันมากมายในสนาบรบของเขา

   ด้านล่าง?! สีหน้าของหลินยู่ซีดขาวในทันที

  มันซ่อนอยู่ใต้ดิน!

  ตูม!พื้นดินแยกออกออก ดาบเล่มที่ห้าพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินพร้อมกับแสงสีเงินที่ส่องประกาย

   หลบเร็วนายน้อย! หลินยู่หันกลับไปผลักหยุนชิงวูอย่างไม่ลังเล

  ในช่วงเวลาที่วิกฤตเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโจมตีหยุนชิงวูโชคยังดีที่เขาสามารถควบคุมพลังของตัวเองไว้ได้

  หยุนชิงวูกระเด็นออกไปเพราะหลินยู่แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสความจริงแล้วไม่มีเลือดไหลออกมาจากร่างของนางแม้แต่น้อย  โชคดีที่ผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้

  หลินยู่เป็นถึงตัวตนระดับเทพเจ้าในขณะที่หยุนชิงวูมีพลังในระดับผนวกดาราเท่านั้น พลังของพวกเขาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

  ฟุ่บ!ดาบเล่มที่ห้าพุ่งผ่านใบหน้าของหลินยู่ มันพุ่งเข้าหากำแพงแสงห้าชั้นด้วยความรวดเร็วอย่างมาก

  นี่ควรจะเป็นความโชคดี

  อย่างไรก็ตามท่าทีของหลินยู่แข็งค้างและมองไปยังดาบเล่มที่ห้าด้วยความไม่เชื่อ

  นั่นเพราะเขาไม่คิดว่าตัวเองจะหลบการโจมตีของดาบเล่มนั้นได้

  ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ตอนนี้คือตำแหน่งของหยุนชิงวูก่อนถูกผลักออกไป

  ดังนั้นเขาควรจะถูกโจมตี

  ทำไมดาบถึงพลาดเป้า?!

  บังเอิญ?

  หลินยู่ไม่ชอบทำให้ตัวเองดูแย่แต่เขาก็ไม่โง่พอที่จะคิดว่าการโจมตีพลาดครั้งนี้เป็นความบังเอิญ

  นั่นหมายความว่าเมิ่งเทียนตั้งใจให้เป็นแบบนี้

  อย่างไรก็ตามทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น

  เว้นแต่เมิ่งเทียนใช้พลังไปอย่างมากในการต่อสู้กับหยุนชิงวูและตัวตนระดับเทพเจ้าทำให้เขาคำนวณผิดพลาด?

  เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่

  ตูม!ในขณะที่หลินยู่ตกอยู่ในความสับสน ดาบเล่มที่ห้าก็พุ่งโจมตีกำแพงแสงห้าชั้นในตำแหน่งเดียวกันกับดาบเล่มที่สี่

  อย่างไรก็ตามความแตกต่างก็คือดาวทั้งสี่เล่มก่อนหน้าแทงเข้ามาจากด้านนอกแต่ดาบเล่มนี้แทงออกไปจากด้านใน

  แกร้ง!เกือบในทันทีกำแพงแสงห้าชั้นถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ด้วยแรงปะทะของดาบเล่มที่ห้า

  รอยร้าวเป็นเหมือนใยแมงมุมที่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

  สีหน้าของหลินยู่กลายเป็นสีม่วง

  นอกจากเขาแล้วใบหน้าของมู่ซิง ตัวตนระดับเทพเจ้าอีกสองคนรวมถึงฉินเซียนพลันกลายเป็นอัปลักษณ์ทันที

  พวกเขาไม่ได้ใส่สงสัย

  แม้ฉากที่เกิดขึ้นจะทำให้พวกเขาตกใจแต่พวกเขาก็รู้เหตุผลเบื้องพลังดี

  ความจริงเมื่อดาบทั้งห้าเล่มปะทะเข้ากับเขตแดนป้องกันกำแพงห้าชั้นพวกเขาก็ได้รับผลกระทบบางส่วนจากความกดดันของพลังอันรุนแรง

  แรงกดดันทำให้ชั้นกำแพงเริ่มบิดเบี้ยวแต่ยังไม่พังทลายลงง่ายๆ

  อย่างไรก็ตามเมื่อดาบเล่มที่ห้าแทงขึ้นไปจากด้านใน…

  ผลลัพธ์นั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

  มันเหมือนกับประตูที่ถูกกระแทกจากด้านนอกซ้ำๆจนบิดงอเข้ามาด้านในหากอยู่ดีๆมีใครจากด้านในเตะใส่ประตูที่บิดงอมันจะพังทลายลงทันที

  กำแพงแสงทั้งห้าชั้นก็มีลักษณะคล้ายๆกัน

  แรงที่เกิดจากการโจมตีทั้งสี่ครั้งด้านนอกและการโจมตีหนึ่งครั้งจากด้านในทำให้เกิดรอยแตกขึ้นแม้แต่ปราการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่สามารถทนรับการโจมตีนี้ได้

   เขาทำมันโดยมีเป้าหมายตั้งแต่แรกเมิ่งเทียนไม่ได้คิดจะทำร้ายหยุนชิงวู เขาเล็งกำแพงแสงทั้งห้าชั้นไว้แต่แรก!  หลินยู่นึกออกในทันที

  เขานึกออกตอนที่ดาบพลาดเป้าจากหยุนชิงวู

  นั่นเพราะดาบเล่มที่ห้าไม่ได้เล็งไปที่หยุนชิงวูแต่ต้น

  กำแพงแสงทั้งห้าชั้นพังทลายลง!

  แล้วเมิ่งเทียนโจมตีมาจากที่ไหน?   นายน้อย…

  เดี๋ยวก่อน!

  นายน้อยถูกส่งกระเด็นออกไปเพราะแรงผลัก?!

   เมิ่งเทียน!!! หลินยู่เบิกตากว้าง ดวงตาของเขาแดงก่ำเมื่อเห็นหยุนชิงวู

  ความหวาดกลัวก่อตัวขึ้นในใจของเขาเมื่อเห็นร่างที่ยืนอยู่ข้างๆหยุนชิงวู

  มีรอยฉีกขาดบนหน้ากากสีดำที่เขาสวมใส่เล็กน้อยแต่ทุกคนสามารับรู้ได้ทันทีเมื่อเห็น

  เทพสงครามเมิ่งเทียน!

  ตัวอักษร’เทพเจ้า’ขนาดใหญ่วาดอยู่บนหน้ากากของเขา

   ว่าไง?แปลกใจหรือเปล่า?  ฟางเจิ้งจือเหยียดมือออกไปด้วยความขี้เกียจและคว้าจับตัวหยุนชิงวูเอาไว้ด้วยมือเดียว

   … 

   …   เห็นแบบนี้เหล่าตัวตนระดับเทพเจ้ารวมถึงศิษย์ฝ่ายมนุษย์ต่างตกตะลึง

  พวกเขาไม่สามารถเชื่อได้ว่าฟางเจิ้งจือจับตัวหยุนชิงวูได้จริงๆ

  นอกจากนี้ดูเหมือนเป็นหลินยู่ที่ตั้งใจผลักหยุนชิงวูไปให้ฟางเจิ้งจือเองกับมือ

  มันแปลก

  แปลกจนไม่น่าเชื่อ

  อย่างไรก็ตามมันเป็นความจริงหยุนชิงวูลอยเข้าไปในมือของฟางเจิ้งจือ ใบหน้าของนางซีดขาว

  ศิษย์ฝ่ายมนุษย์ไม่สามารถเชื่อสายตาตัวเองได้เช่นกัน

  แม้พวกเขาจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดพวกเขาก็ยังทำใจเชื่อไม่ได้

  มีตัวตนระดับเทพเจ้าอยู่หน้าฟางเจิ้งจือถึงห้าคน

  ยิ่งไปกว่านั้นทั้งห้าคนไม่เคยออกห่างจากหยุนชิงวูเป้าหมายหลักของพวกเขาคือปกป้องนาง

  ด้วยสถานการณ์เช่นนั้น…

  หยุนชิงวูยังคงถูกจับเพราะหลินยู่ที่ผลักนางออกไป

  ใครจะเชื่อเรื่องนี้!

   เป็น…เป็นไปไม่ได้ยกเว้นแต่ว่า..เจ้า…  หลินยู่สูญเสียความเยือกเย็น

  เมื่อถึงจุดนี้เขานึกถึงอย่างที่เกิดขึ้นออก

  ฟางเจิ้งจือใช้ดาบสี่เล่มโจมตีจากด้านบนเพื่อดึงความสนใจของตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งหมดและจงใจทำให้พวกเขาเข้าใจผิดว่าดาบเล่มที่ห้าต้องมาจากด้านบนเช่นนั้นการป้องกันจากด้านล่างจะอ่อนแอลง ใต้ดินคือจุดที่อ่อนแอที่สุดของการป้องกัน

  ใช้จุดนี้ฟางเจิ้งจือสามารถส่งดาบเล่มที่ห้าผ่านกำแพงแสงทั้งห้าชั้นเข้าไปได้

  และแน่นอนแทบจะในทันทีตัวตนระดับเทพเจ้าต้องปกป้องหยุนชิงวูก่อนเป็นอย่างแรก  หลินยู่ได้ทำมัน

  เขาผลักนางให้พ้นจากดาบ

  อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาสำคัญนั้นเองหยุนชิงวูได้หลุดออกจากการป้องกันของตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งห้า

  แน่นอนว่ามันยังไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุด

  สิ่งสำคัญที่สุดคือเวลาถ้ากำแพงแสงทั้งห้าชั้นยังอยู่ หยุนชิงวูไม่มีทางหลุดออกไปด้านนอกแน่นอน แม้นางจะถูกผลักแต่ก็ต้องชนกับกำแพงแสงก่อน

  แต่เรื่องสำคัญที่สุดคือ…

  กำแพงแสงทั้งห้าชั้นได้พังทลายลงในช่วงเวลานั้นพอดี!

  ทุกอย่างลงตัวอย่างเหมาะเจาะตามแผนที่ฟางเจิ้งจือวางไว้อย่างดีเยี่ยม

  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาพลังในการโจมตีทุกอย่างถูกคำนวณอย่างแม่นยำและไร้รอยต่อ

   เขาทำได้เขาทำมันได้จริงๆ!  ในที่สุดปิงหยางก็ได้สติหลังจากตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งความสุข ความตื่นเต้น ความยินดี อารมณ์มากมายเกิดขึ้นในตัวของนาง นางกระโดดโลกเต้นด้วยความดีใจ

  นั่นไม่ใช่ว่าการโจมตีของฟางเจิ้งจือทรงพลังแต่เป็นเพราะความคิดอันชาญฉลาดที่อยู่เบื้องหลังต่างหาก

   เจ้าสามารถจับข้าได้โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงไม่ต้องใช้เต๋าแห่งการจุติ ไม่เลวเลย…ในที่สุดเจ้าก็ชนะข้าครั้งหนึ่ง…  หยุนชิงวูมองชายที่อยู่ด้านหน้า แทนที่จะมองมือหรือคอ นางมองไปที่ดวงตาของฟางเจิ้งจือหวังว่าจะเห็นบางอย่างจากในนั้น

  แน่นอนว่าฟางเจิ้งจือเห็นความภูมิใจและความตื่นเต้นในดวงตาของเขา

  ฟางเจิ้งจือรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

  เขามีความสุขมากจนมือสั่น

  เขาสามารถจับตัวหยุนชิงวูได้โดยไม่ต้องใช้เต๋าสวรรค์!   ’อัจฉริยะข้าเป็นอัจฉริยะ!’

  ไม่เดี๋ยวก่อน!

  ควรเรียกข้าว่าพ่อมดมากกว่า!

  พ่อมดอัจฉริยะ!

  ฮ่าฮ่า…

  ฟางเจิ้งจือหัวเราะด้วยความสุขจนเกือบจะตะโกนใส่ตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งห้า’ข้าไม่ได้คิดจะฝ่าเข้าไปแต่แรก แต่พวกเจ้ามันห่วยเลยไม่รู้!’

  อย่างไรก็ตามเขาไม่ลืมที่จะทำตัวสุขุมเข้าไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าหยุนชิงวู

   นับร้อยปีไม่เคยมีคำว่า’พ่ายแพ้’อยู่ในพจนานุกรมของข้าตราบใดที่ข้ามีดาบข้าสามารถฆ่าได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นอสูรและปีศาจหน้าไหนก็ตาม เจ้าหมายความว่าอะไรที่บอกว่าในที่สุดข้าก็ชนะเจ้า ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้าพูดจริงๆ  ฟางเจิ้งจือยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ขณะพูด

  อย่างไรก็ตามเพราะมีหน้ากากปิดบังใบหน้าหยุนชิงวูจึงไม่เห็นการแสดงออกของเขาชัดเจนนัก

   ตราบใดที่ข้ามีดาบข้าสามารถฆ่าได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นอสูรและปีศาจหน้าไหนก็ตาม? 

   ไม่เคยมีคำว่า’พ่ายแพ้’อยู่ในพจนานุกรม? 

   นับร้อยปี… 

  ศิษย์ฝ่ายมนุษย์และตัวตนระดับเทพเจ้ารวมถึงโม่ฉานฉือต้องการจะก่นด่าถึงความไร้ยางอายของเขาทันทีที่กล้าพูดอะไรเช่นนี้ออกมาแต่พวกเขาไม่สามารถพูดออกมาได้

  เมิ่งเทียนนั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นตำนานที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของมนุษยชาติ

  ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถเอาชนะตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งหาและจับหยุนชิงวูไว้ได้

  เช่นนั้นพวกเขาจะกล่าบอกว่าเมิ่งเทียนไร้ยางอายได้เช่นไร?

  สำหรับตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งห้า  พวกเขาแพ้การต่อสู้ครั้งนี้จริงๆ

  อย่างไรก็ตาม

  เมิ่งเทียนต้องแสดงความหยิ่งยโสขนาดนี้ออกมาด้วยงั้นหรือ?

  เมื่อความคิดนี้แล่นผ่านหัวตัวตนระดับเทพเจ้าต่างกำมือแน่น เส้นเลือดแทบจะปรากฎขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท