Gate of God – ตอนที่ 1013 ความทรงจำของเหยียนซิว

ตอนที่ 1013 ความทรงจำของเหยียนซิว

ตอนที่ 1013 ความทรงจำของเหยียนซิว

  แสงดาบเปล่งประกาย

  ดาบแต่ละเล่มราวกับสายฟ้าเกือบจะทันทีที่ฟางเจิ้งจือจับดาบของเต๋าฮุน พวกมันก็มาถึงฟางเจิ้งจือแทบจะในเวลาเดียวกัน

   เศษสวะ! เสียงอันเย็นชาดังขึ้น

  ขณะเดียวกันสายฟ้าสีม่วงพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้าราวกับมังกรจำนวนมากแหวกว่ายอยู่ในอากาศ

  มันเป็นฉากที่น่าหวาดกลัว

  มังกรสีม่วงสร้างบาดแผลให้แก่ร่างของเหล่าผู้อาวุโสจากศาลาหยินหยางพวกมันฉีกกระชากเสื้อผ้าของเหล่าผู้อาวุโสด้วยฟันอันแหลมคม

  ตูม!

  ตูม!

   …   ร่างของเหล่าผู้อาวุโสล้มลงกับพื้น

  ฉากนี้ทำให้เต๋าฮุนประหลาดใจและโกรธเกรี้ยวในเวลาเดียวกัน

  เขาประหลาดใจที่เมิ่งเทียนมีพลังมากขนาดนี้และเขาโกธเพราะเขารู้สึกได้ถึงความดูถูกจากการโจมตีของเมิ่งเทียน

  แกร้ง!ดาบในมือของเต๋าฮุนถูกหักเป็นสองส่วน จากนั้นเขาก็เห็นลำแสงสีเงินพุ่งเข้ามาที่หน้าผากของเขา

  เขาต้องการหลบแต่มันเป็นไปไม่ได้

  มันเร็วมากจนเขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง

  ฉึก!

  ภาพลวงตาปรากฎขึ้นด้านหน้าของเต๋าฮุนเขาคิดว่าเห็นตัวเองถอยออกไปห้าก้าว แต่แท้จริงแล้วเขายังคงยืนอยู่ด้านหน้าเมิ่งเทียน

  จิตวิญญาน?!

  จิตวิญญานของเขาออกมาจากร่าง?!

   เต๋า…เต๋าวิญญานมันเป็นเต๋าวิญญาน! เต๋าฮุนต้องการตะโกน แต่ไม่มีเสียงดังออกมาจากร่างกายของเขาแม้แต่น้อย

  เขาต้องการเคลื่อนไหวแต่ไม่สามารถทำได้ร่างกายของเขาถูกตรึงไว้ด้วยพลังบางอย่างที่แข็งแกร่งมาก จากนั้นพลังของเขาก็ค่อยๆหมดลง

  ทำไม?!

  ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้น?

  เต๋าฮุนดูตกใจมากขณะที่เมิ่งเทียนยังมองเขาอย่างเย้ยหยันราวกับมองมดปลวกตัวหนึ่ง

  ฟุ้บ!จากนั้นโลกข้างหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ฉากตรงหน้าของเต๋าฮุนกลับเป็นปกติ

  เขาอยู่ใกล้กับเมิ่งเทียนมากห่างกันไม่ถึงครึ่งเมตรแต่เขากลับรู้สึกว่ามันห่างกันราวกับสวรรค์และโลก มันเป็นระยะทางที่เขาไม่สามารถผ่านมันไปได้ หน้าผากของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ  ตึง!เต๋าฮุนล้มลงกับพื้นและคุกเข่าลงต่อหน้าฟางเจิ้งจือ ดาบของเขาร่วงหล่นบนพื้น

   เจ้า…เจ้า… ขาของเต๋าฮุนสั่นไม่หยุด

  มันเป็นอาการบาดเจ็บทางจิตใจ

  เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองแม้เขาจะมีพลังแต่ราวกับพลังนั้นไม่ใช่ของเขา

   ก่อนหน้านี้ไม่นานนักหลีนจีก็เคยคุกเข่าต่อหน้าข้าเช่นนี้  ฟางเจิ้งจือยกขาข้างหนึ่งขึ้นขณะที่กล่าวกับเต๋าฮุน

  ตูม!

  ฟางเจิ้งจือเหยียบลงบนหัวของเต๋าฮุนร่างของเขานอนราบไปกับพื้นทันที

   เจ้า…เจ้ากล้าฆ่าข้า…กลุ่มพันธมิตรสวรรค์…ไม่มีทางปล่อย…เจ้าไปแน่นอน… เต๋าฮุนต้องการจะดิ้นรนแต่เขาไม่สามารถต้านทานแรงของฟางเจิ้งจือที่เหยียบลงมาได้

  ฉากตรงหน้านี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป

  ตั้งแต่ที่เต๋าฮุนเริ่มโจมตีพร้อมกับเหล่าผู้อาวุโสศาลาหยินหยางจนถึงตอนที่ผู้อาวุโสทั้งสิบคนล้มลงและฟางเจิ้งจือเหยียบลงบนใบหน้าของเต๋าฮุน

  มันเกิดขึ้นเร็วมาก

  กลุ่มพันธมิตรสวรรค์ไม่สามารถตอบโต้ได้ทัน

  แต่สิ่งสำคัญที่ฟางเจิ้งจือแสดงให้เห็นคือพลังที่เขามีนั้นมากกว่าเต๋าฮุน

  เขาแข็งแกร่งมาก!

  เต๋าฮุนไม่ใช่เซียนทั่วๆไปแต่เขาอยู่บนจุดสูงสุดของระดับเซียน เขามีพลังพอที่จะปกป้องตัวเองต่อให้ต้องเจอกับตัวตนระดับเทพเจ้าก็ตาม

  อย่างไรก็ตามต่อหน้าฟางเจิ้งจือ…

  เขาพ่ายแพ้โดยไม่สามารถปกป้องตัวเองได้แม้แต่น้อย

   เทพสงครามเมิ่งเทียน… 

   แข็งแกร่งมาก! 

   นี่คือพลังของเทพสงครามงั้นหรือ?!    เหล่าศิษย์ไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่เห็นตรงหน้ายังไงพวกเขาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์

  ฟางเจิ้งจือกวาดตามองไปมองยังกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ทั้งเหยียนซิว เหยียนเฉียนหลี่และเซียนสวรรค์พักพิง

  เขาเห็นความประหลาดใจในดวงตาของวู่จวี้เอ๋อเหยียนเฉียนหลี่และดวงตาของเซียนสวรรค์พักพิง

  บางที…

  แม้แต่วู่จวี้เอ๋อและเหยียนเฉียนหลี่เองก็ไม่คาดคิดว่าฟางเจิ้งจือจะทรงพลังขนาดนี้

   เจ้าเด็กนั่น.. เซียนสวรรค์พักพิงต้องการจะพูดบางอย่างแต่เขาเลือกที่จะกลืนคำพูดกลับไป

  เขาเห็นฟางเจิ้งจือล่าสุดคือที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือตอนนั้นฟางเจิ้งจือทั้งอ่อนแอและดูหดหู่

  แม้เขาจะได้ยินวู่จวี้เอ๋อเล่าว่าฟางเจิ้งจือได้ฆ่าหลินจีที่ดินแดนภูเขาทางใต้แต่การเห็นกับตานั้นต่างออกไปจากการได้ยิน

   แม้แต่เทพปีศาจที่ออกมาจากประตูเทพเจ้ายังไม่ทรงพลังเช่นนี้ เหยียนเฉียนหลี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา เขามีประสบการณ์ในการต่อสู้มามากมาย

  แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวเขาสามารถจัดการผู้อาวุโสทั้งหมดของศาลาหยินหยางได้

  ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด…

  ฟางเจิ้งจืออาจจะมีพลังเพียงพอที่จะล้มทั้งห้าสำนักในดินแดนศักดิ์สิทธิ์!ทั้งๆที่เขาอายุไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำ!

  แน่นอนว่านอกจากความประหลาดใจวู่จวี้เอ๋อ เหยียนเฉียนหลี่และเซียนสวรรค์พักพิงต่างรู้สึกยินดีกับการเติบโตของฟางเจิ้งจือ

   ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนเต๋าฮุนอาจจะโง่เขลาและทำเรื่องผิดพลาดได้บ้าง อย่างไรก็ตามเขาเป็นผู้นำของกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ โปรด…โปรดไว้ชีวิตเขาด้วย…  มู่ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน แต่เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นมนุษย์เข่นฆ่ากันเองทั้งๆที่ภายนอกยังมีศัตรูที่แข็งแกร่งรออยู่

   ไว้ชีวิตเขา? หลังจากที่ได้ยินมู่ฉิงเฟิงพูด ฟางเจิ้งจือก็ก้มลงมองเต๋าฮุนอีกครั้ง

   เมิ่งเทียน…เจ้า…เจ้าไม่กล้าฆ่าข้า…แม้เจ้าจะเป็นเทพสงครามตัวจริงเจ้าก็ไม่สามารถเป็นศัตรูของมนุษยชาติได้… เต๋าฮุนกล่าวออกมาด้วยความเคียดแค้น เขาไม่เคยถูกดูหมิ่นเช่นนี้มาก่อน

  อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้

  ฟางเจิ้งจือรู้ว่าเต๋าฮุนคิดอะไรอยู่

  สำหรับเต๋าฮุนการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับอสูรและปีศาจได้จบลงตั้งแต่จับตัวหยุนชิงวูได้มันเหมือนกับที่ฟางเจิ้งจือเคยคิดก่อนหน้านี้

  ในเมื่อการต่อสู้กำลังจะจบลงเต๋าฮุนควรทำอะไรในเวลาที่เหลืออยู่?

  แม้แต่คนโง่ก็ยังรู้  อย่างไรก็ตามเต๋าฮุนกังวลเกินไปเขากำลังคิดว่าถ้าไม่ฆ่าฟางเจิ้งจือในตอนนี้ ในอนาคตเขาต้องเสียทุกอย่างไปแน่นอน

  มันทำให้เขาลงมืออย่างหุนหันพลันแล่น

  เต๋าฮุนต้องการใช้โอกาสนี้ที่หยุนชิงวูถูกฟางเจิ้งจือจับตัวได้ทำร้ายฟางเจิ้งจือให้บาดเจ็บสาหัสและชิงตัวหยุนชิงวูไป

  จากนั้นอสูรและปีศาจจะอยู่ในการควบคุมของเขา

  หลังจากที่หยุนชิงวูอยู่ในมือของเต๋าฮุนกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ก็ไม่สามารถต่อต้านอะไรเขาได้

  มันเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม

  อย่างไรก็ตามเขาคาดเดาผิดเขาคิดว่าฟางเจิ้งจือบาดเจ็บสาหัสจากการพยายามชิงตัวหยุนชิงวู

   เจ้าพูดว่าอะไรนะ?ข้าได้ยินไม่ชัดเท่าไรนัก เจ้าบอกว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้า…หืม…พูดใหม่อีกครั้งสิ?  ฟางเจิ้งจือมองเต๋าฮุนอย่างเยือกเย็นและกดดันเขามากขึ้น

  แกรก!

  รอยแตกเกิดขึ้นบนพื้น

  หัวของเขาถูกกดลงไปบนพื้นแรงขึ้นจนหน้ากากของเขาร้าว

   ไม่! ทันใดนั้นเสียงหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งที่รีบวิ่งออกมาจากฝูงชน

  เต๋าซิง!

  นางรีบวิ่งออกมาพร้อมกับเหยียนซิว

  ขณะเดียวกันฟางเจิ้งจือรู้สึกถึงพลังอันชั่วร้ายบางอย่างก่อตัวขึ้นที่เท้าของเขา

  มันเป็นสีแดงเลือดที่ปนเปื้อนสีดำ

  เต๋าอาชูร่า?!

  ฟางเจิ้งจือมองไปรอบๆทันใดนั้นเขาเห็นฝ่ามือหนึ่งพุ่งมาที่ด้านหลังของเขา

  ตูม!ฟางเจิ้งจือยื่นฝ่ามืออกไปตั้งรับทันที แรงระเบิดส่งผลให้เขาถอยหลังไปสองก้าว  เหยียนซิว!

  มันเป็นใบหน้าที่ฟางเจิ้งจือคุ้นเคยเป็นอย่งดี

   เจ้าจะฆ่าเข้าไม่ได้! เหยียนซิวกล่าวโดยไม่เกรงกลัวต่อพลังของฟางเจิ้งจือ

  เหยียนซิวก็ยังคงเป็นเหยียนซิวเช่นเคย…

  อย่างไรก็ตาม…

  เขากลายเป็นคนหนึ่งที่เต๋าซิงให้ความเชื่อมั่นความทรงจำของเขาก่อนหน้านี้อาจจะถูกผนึกหรือลบออกไป

   เจ้าเพียงคนเดียวไม่สามารถหยุดข้าได้ ฟางเจิ้งจือกล่าวกับเหยียนซิว

   ข้าจะรู้หลังจากที่ได้ลองไปแล้ว เหยียนซิวดันมือขวาออกไปจากนั้นพัดสีแดงเลือดที่เปล่งแสงสีเงินอ่อนๆก็ปรากฎขึ้นในมือของเขา

   เจ้าไม่จำเป็นต้องลอง ฟางเจิ้งจือส่ายหน้าและเลื่อนสายตาจากเหยียนซิวไปยังเต๋าซิง  ข้าได้ยินว่านอกจากเต๋าฮุนแล้วยังมีผู้นำศาลาหยินหยางอีกคนชื่อเต๋าซิง เป็นเจ้าใช่ไหม? 

   ใช่แล้วผู้อาวุโส… เต๋าซิงก้าวไปข้างหน้าและกล่าวออกมาด้วยความเคารพ

   ถ้าเจ้าสามารถตอบคำถามสามข้อนี้กับข้าได้ข้าจะทำตามความต้องการของเจ้าหนึ่งข้อ  ฟางเจิ้งจือกล่าวหลังจากคิดอยู่สักพัก

  เขาต้องการคำตอบ

  เกี่ยวกับเหยียนซิว

  เช่นนั้นเขาสามารถปล่อยให้เต๋าฮุนและเต๋าซิงมีชีวิตอยู่ต่ออีกหน่อย

  อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของตัวเองได้เขารู้ว่าเขาจะไม่ได้รับคำตอบที่แท้จริงถ้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกไป

   สามคำถาม? เต๋าซิงรู้สึกตกใจมาก แต่หลังจากเห็นเต๋าฮุนที่นอนอยู่บนพื้น นางจึงตอบออกไปอย่างไม่ลังเล  เชิญท่านผู้อาวุโสถาม…ข้าจะตอบตามความเป็นจริง 

   ความทรงจำของเหยียนซิวถูกผนึกหรือถูกลบออกไป? ฟางเจิ้งจือถามอย่างตรงไปตรงมา

   ความทรงจำของเหยียนซิว?!ผู้อาวุโส…รู้จักเหยียนซิวด้วยงั้นหรือ?  เต๋าซิงไม่คิดว่าฟางเจิ้งจือจะถามคำถามเช่นนี้

  เกี่ยวกับความทรงจำของเหยียนซิว!

  มันเป็นความลับภายในศาลาหยินหยางไม่มีคนภายนอกรู้เรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาเป็นเทพสงครามที่พึ่งกลับมามีชีวิตจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?

  เมิ่งเทียน?!

  เขาเป็นใครกันแน่?

  เขารู้เรื่องความทรงจำของเหยียนซิวได้เช่นไร?

  บุคคลหนึ่งปรากฎขึ้นในความคิดของนางอย่างไรก็ตามมันไม่มีทางเป็นไปได้ เขาน่าจะอยู่ที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือและไม่มีทางปรากฎตัวขึ้นที่นี่ได้

   เจ้ามีสิทธิ์ตอบเท่านั้นเจ้าไม่สามารถถามอะไรได้ เจ้าควรรู้ไว้ว่าแม้แต่เหยียนซิวก็ไม่สามารถป้องกันข้าได้  ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะอธิบายอะไรอีก

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท