ตอนที่ 1020 อ่านออก?
โลกก่อนฟางเจิ้งจือนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรโบราณและเขาศึกษาพวกมันอย่างหนัก บทความบางส่วนของเขายังถูกตีพิมพ์ลงในหลายๆนิตยาสาร
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่ได้ออกมาดีเท่าไรนัก
หลังจากทำงานไปได้สักพักเขาเลือกที่จะออกจากงาน
สิ่งที่ต้องทำทั้งวันมีเพียงแปลข้อความจากภาษาโบราณตรวจสอบเอกสาร กลับไปแปลต่อ จากนั้นก็ตรวจสอบเอกสารอีกครั้ง…
มันเป็นงานที่น่าเบื่อมาก
ที่สำคัญไม่มีผู้หญิงสวยๆอยู่ในออฟฟิศที่เขาทำงานเพื่อร่วมงานของเขามีแต่คุณตา คุณยาย ป้า ลุง เด็กเนิร์ด
ฟางเจิ้งจือนั้นเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยความทะเยอะทะยานและมีแรงบรรดาลใจเขาไม่ยอมติดอยู่ในที่แบบนั้นไปตลอดชีวิต ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจหางานอื่น
ดังนั้นเขาจึงมีความรู้เกี่ยวกับพวกจารึกสัญลักษณ์โบราณ อักษรโบราณเป็นอย่างดี
เรียกได้ว่าเขาเป็นอัจฉริยะในเรื่องเหล่านี้
ฟางเจิ้งจือพูดออกไปอย่างสัตย์จริง’ดูเหมือนข้าจะรู้จักตัวอักษรเหล่านี้’
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาพูดนั้นกลับทำให้มู่ฉิงเฟิงโม่ฉานฉือและคนที่เหลือรู้สึกราวกับถูกฆ้อนขนาดใหญ่ทุบใส่
เขารู้…รู้จักพวกมันด้วยงั้นหรือ?!
เขาบอกว่ารู้จักอักษรที่อยู่บนจารึก?
…
ทุกคนต่างไม่เชื่อในสิ่งที่ฟางเจิ้งจือพูด
หากฟางเจิ้งจือยังคงปลอมตัวเป็นเมิ่งเทียนพวกเขาอาจจะเชื่อ
แม้แต่มูฉิงเฟิงผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องเหล่านี้มากที่สุดยังไม่กล้าบอกว่ารู้จักตัวอักษรเหล่านั้นดีแม้แต่น้อย
แต่ฟางเจิ้งจือกลับบอกว่ารู้จักตัวอักษรเหล่านั้นทั้งหมดแม้แต่มู่ฉิงเฟิงใช้เวลาศึกษาพวกมันมาหลายเดือนยังไม่สามารถเข้าใจพวกมันได้ทั้งหมด
ขณะที่มู่ฉิงเฟิงกำลังจะถามออกไปเขาก็นึกถึงเรื่องบางอย่างได้และตัดสินใจกลืนคำพูดกลับไป
ไม่ใช่เพราะเขาตัดสินใจที่จะเชื่อฟางเจิ้งจือ
แต่เป็นเพราะเขาจำบางอย่างในความทรงจำได้
’เดี๋ยวก่อน!’
’ถ้าฟางเจิ้งจือคือเทพสงครามเมิ่งเทียนรวมกับสิ่งที่วู่จวี้เอ๋อกล่าวที่ภูเขาหลิงเซียวเกี่ยวกับตำนาน…
บัดซบ!ดูเหมือนพวกเขาจะตกหลุมพรางเจ้าเด็กเหลือขอนี้อีกครั้ง’
มู่ฉิงเฟิงคิดว่าถ้าเขาเดาไม่ผิดตำนานต้องเกิดมาจากฟางเจิ้งจือสร้างเรื่องขึ้นแน่นอน
ไร้ยางอายเขาไร้ยางอายสุดๆ
มู่ฉิงเฟิงโกรธแต่เขาสามารถเข้าใจเป้าหมายของฟางเจิ้งจือที่สร้างตำนานเหล่านั้นขึ้นมาได้ อาจจะเพื่อจับตัวหยุนชิงวู
ถ้าเป็นเช่นนั้นมันคงสมเหตุสมผสที่เขาจะอ้างว่าตัวเองรู้จักอักษรเหล่านั้นบนจารึกหิน
มู่ฉิงเฟิงคิดว่ามีโอกาสแบบนี้มากที่สุด
แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของฟางเจิ้งจือแต่เมื่อเขาคิดถึงสิ่งที่ฟางเจิ้งจือได้ทำไปก่อนหน้านี้ เขาก็ตัดสินใจไม่เปิดเผยเรื่องโกหกของฟางเจิ้งจือ
’ข้าจะดูว่าเจ้าเด็กเหลือขอนี่จะสร้างเรื่องอะไรขึ้นมาอีก’หลังจากพิจารณาอยู่สักครู่ มู่ฉิงเชิงกระแอ้มเล็กน้อยและเดินไปทางจารึกหิน ฟางเจิ้งจือในเมื่อเจ้าบอกว่ารู้จักอักษรเหล่านี้ ทำไมเจ้าไม่ลองบอกเนื้อหาคร่าวๆของทั้งสามเรื่องนี้ให้พวกเราฟัง? มู่ฉิงเฟิงกล่าวออกไปอย่างระมัดระวัง
แม้เขาจะสงสัยฟางเจิ้งจือแต่ก็บอกใบ้ให้ฟางเจิ้งจือว่าจารึกตรงหน้ามีอยู่สามเรื่องราว
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังขอให้ฟางเจิ้งจือพูดให้ฟังคร่าวๆเท่านั้นเพราะพวกเขาศึกษาจารึกมาสักพักหนึ่งแล้ว
เจ้าไร้ยางอายทำไมไม่พูดให้ทุกคนฟังล่ะ? วู่จวี้เอ๋อรู้ความคิดของมู่ฉิงเฟิงได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับเรื่องที่ฟางเจิ้งจือบอกว่ารู้ทั้งหมด…
นางไม่ได้โง่!
นางรู้จักฟางเจิ้งจือดีกว่าคนส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ
เขาเป็นอัจฉริยะที่ยากคนจะเทียบได้
แต่จุดอ่อนคือเขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และตำนานของโลกใบนี้เลย
ดังนั้นเขาจะอ่านอักษรบนจารึกออกได้เช่นไร? งั้นข้าของลองอ่านดูก่อนนะ ฟางเจิ้งจือพยักหน้าและกวาดสายตาไปทั่วจารึก
…
ลองอ่านดู?!
ทุกคนต่างยืนนิ่งราวกับถูกฟ้าผ่า
’เจ้าไม่ได้บอกว่ารู้จักอัษรเหล่านั้นงั้นหรือ?’
’ทำไมต้องลองอ่านดูด้วย?!’
ในขณะที่ทุกคนกำลังสับสนฟางเจิ้งจือก็พยักหน้าและพึมพำ หืม…ดูเหมือนย่อหน้าแรกจะพูดเกี่ยวกับ หืม…แล้วอะไรต่อนะ…โอ้…ไม่แปลกใจเลย อ้อ…ดูเหมือนตรงนี้ข้าจะอ่านไม่ค่อยออก…
…
’เจ้าช่วยเลือกเสแสร้งได้ไหม?!’
’จะมีใครหน้าไหนเชื่อว่าเจ้าอ่านมันได้จริงๆ?’
เหล่าศิษย์ต่างแปลกใจและมองในแง่ดีเล็กน้อยเมื่อฟางเจิ้งจือกล่าวในย่อหน้าแรกอย่างไรก็ตามสิ่งที่ตามมาทำให้เขาพูดไม่ออก
’เจ้าบอกว่ารู้จักอักษรเหล่านั้นทั้งหมดไม่ใช่หรือ?’
’มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่เชื่อเจ้า!’
แม้พวกเขาจะรู้ความจริงแต่ก็ไม่กล้าจะพูดออกมาเพราะจำตอนที่ฟางเจิ้งจือไล่ตีศิษย์ที่ภูเขาสวรรค์ได้
ฟางเจิ้งจือไม่ลังเลที่จะทุบตีศิษย์ที่ไม่เห็นด้วยกับเขา…
…
เหยียนซิวและปิงหยางหยุดอยู่ด้านข้างของฟางเจิ้งจือ
ท่านมู่บอกว่าย่อหน้าแรกเกี่ยวข้องกับมารดาแห่งโลกได้หาต้นตอของภัยพิบัตินางพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นบนโลกมีต้นตอมาจากภัยพิบัติจากจักรวาล เช่นนั้นนางจึงหาวิธีเพื่อซ่อมท้องฟ้า มันตรงกับสิ่งที่เจ้าอ่านไหม? เหยียนซิวกล่าวอย่างไม่รีบร้อน เจ้าสนใจเรื่องนี้ด้วยงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือหันไปถามเหยียนซิวด้วยความสงสัย
อืม เหยียนซิวพยักหน้า
งั้นข้าจะอ่านให้เจ้าฟัง ฟางเจิ้งจือตอบกลับทันที
…
…
วู่จวี้เอ๋อและศิษย์ที่ยืนอยู่รอบๆพูดไม่ออก
ด้านมู่ฉิงเฟิงตอนนี้เขาแทบอยากจะฆ่าฟางเจิ้งจือทิ้ง เขายังหน้าด้านที่จะโหกหกต่ออีกงั้นหรือ?
’งั้นก็อ่าน!’
’อ่านให้ข้าฟังถ้าเจ้าสามารถทำได้!’
ขณะที่มู่ฉิงเฟิงกำลังหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธอยู่นั้นเสียงของฟางเจิ้งจือก็ดังขึ้น
ในอดีตกาลเสาทั้งสี่ต้นที่แบกรับท้องฟ้าเอาไว้ได้พังทลายลงท้องฟ้าไม่ได้ปกคลุมโลกอีกต่อไป เพลิงและสายน้ำถ้าโถมเข้ามาอย่าง เจ้าสนใจเรื่องนี้ด้วยงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือหันไปถามเหยียนซิวด้วยความสงสัย
อืม เหยียนซิวพยักหน้า
งั้นข้าจะอ่านให้เจ้าฟัง ฟางเจิ้งจือตอบกลับทันที
…
…
วู่จวี้เอ๋อและศิษย์ที่ยืนอยู่รอบๆพูดไม่ออก
ด้านมู่ฉิงเฟิงตอนนี้เขาแทบอยากจะฆ่าฟางเจิ้งจือทิ้ง เขายังหน้าด้านที่จะโหกหกต่ออีกงั้นหรือ?
’งั้นก็อ่าน!’
’อ่านให้ข้าฟังถ้าเจ้าสามารถทำได้!’
ขณะที่มู่ฉิงเฟิงกำลังหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธอยู่นั้นเสียงของฟางเจิ้งจือก็ดังขึ้น
ในอดีตกาลเสาทั้งสี่ต้นที่แบกรับท้องฟ้าเอาไว้ได้พังทลายลงท้องฟ้าไม่ได้ปกคลุมโลกอีกต่อไป เพลิงและสายน้ำถ้าโถมเข้ามาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ สัตว์ร้ายอาละวาด นกอันชั่วร้ายใช้กรงเล็บของมันจับตัวทั้งเด็กน้อยและคนแก่…
…
…
ทุกคนที่ได้ยินต่างยืนนิ่งอ้าปากค้าง
’เขาอ่านมันได้จริงๆ!’
’ยิ่งไปกว่านั้นเขายังอ่านมันได้อย่างลื่นไหล!’
’บ้าไปแล้ว!’
ทุกคนราวกับเป็นใบ้พวกเขาได้ศึกษาย่อหน้าแรกก่อนที่ฟางเจิ้งจือจะมาถึง
ใช้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญทั้งมู่ฉิงเฟิง เต๋าฮุน เต๋าซิง วู่จวี้เอ๋อและเหยียนเฉียนหลี่ พวกเขาสามารถถอดรหัสคำได้ไม่กี่คำ
พวกเขาสามารถถอดรหัสคำว่า’สี่เสา’ ‘ไฟ’และ’น้ำ’ได้ จากนั้นพวกเขาก็พยายามเชื่อมโยงคำเหล่านั้นเข้าด้วยกัน แต่ตอนนี้ฟางเจิ้งจือสามารถเล่าเรื่องได้อย่างไร้รอยต่อราวกับอ่านคำทั่วๆไป
…
ใบหน้าของมู่ฉิงเฟิงยิ่งดูยิ่งอัปลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม
’เขาทำได้จริงๆ?’
’สมองของเขาทำมาจากอะไรกันแน่?’
’เขาสามารถอ่านอักษรจากจารึกหินได้จริงๆอ่านพวกมันได้อย่างลื่นไหล…’
มีสิ่งแตกต่างกับสิ่งที่ตาเฒ่ามู่พูดหรือไม่? ฟางเจิ้งจือหันไปถามเหยียนซิวอีกครั้ง
มีความแตกต่างอยู่เล็กน้อยแต่ท่านมู่ก็ทำได้ดีแล้ว เหยียนซิวกล่าวออกมาตามความจริง
…
ตาเฒ่ามู่เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการอ่านภาษาโบราณงั้นรึ? โม่ฉานฉือพูดขึ้นมาทันที เฒ่าโม่เจ้ายังไม่ตายอีกงั้นรึ? ใบหน้าของมู่ฉิงเฟิงแดงก่ำด้วยความอับอาย เขามองไปทางโม่ฉานฉือที่บาดเจ็บหนักและกำหมัดแน่น
ต้องขอบคุณเจ้าที่ให้ยาชั้นยอดกับข้าเจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้าเลย? โม่ฉานฉือยิ้มและยืนขึ้นช้าๆ
หลังจากได้มีโอกาสพักผ่านพิษในร่างกายของเขาโม่ฉานฉือค่อยๆลดลง บวกกับการรักษาของมู่ฉิงเฟิงทำให้ตอนนี้เขาสามารถกลับมายืนได้อีกครั้ง
มู่ฉิงฟิงไม่ได้ตอบอะไรเพราะถ้าเขาตอบออกไปมันจะเป็นการทำลายความภูมิใจของตัวเขาเองอย่างแน่นอน
เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าฟางเจิ้งจือสามารถอ่านอักษรเหล่านั้นได้เช่นไร
ขณะที่เขาคิดเสียงของฟางเจิ้งจือก็ดังขึ้นอีกครั้ง
หืม?มีการพูดถึงเรื่องแหล่งพลังเทพเจ้า!
……………………………………..