Gate of God – ตอนที่ 1030 วางแผนการแข่งขัน

ตอนที่ 1030 วางแผนการแข่งขัน

ตอนที่ 1030 วางแผนการแข่งขัน

   สอง?!เป็นไปได้ยังไง?  มือของหนานกงมู่สั่นไหว เขานั้นรู้นิสัยของฟางเจิ้งจือเป็นอย่าง

  ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าฟางเจิ้งจือต้องโกงโดยการเขียนเลขหนึ่งลงบนกระดาษทั้งสองแผ่น

  แต่ตอนนี้…

  เลขสองปรากฎชัดเจนต่อหน้าเขา

  เกิดอะไรขึ้น?

  หรือฟางเจิ้งจือไม่ได้เล่นตุกติกแต่เขากินกระดาษที่เขียนหมายเลขหนึ่งลงไปจริงๆ

  ไม่ไม่…

  ฟางเจิ้งจือต้องโกงแน่นอนเขาน่าจะเขียนเลขสองลงบนกระดาษทั้งสองแผ่น

  เมื่อคิดถึงตรงหน้าใบหน้าของหนานกงมู่กลายเป็นอัปลักษณ์ทันทีฟางเจิ้งจือราวกับสามารถคาดเดาการกระทำล่วงหน้าของเขาได้

   พูดถึงเรื่องความฉลาด…ข้าไม่สามารถสู้ฟางเจิ้งจือได้จริงๆแต่พวกเรากำลังแข่งขันเรื่องพลัง  หนานกงมู่ส่ายหัวและไม่คิดจะใส่ใจอีกต่อไป

  แม้ว่าการที่ต้องส่งคนลงก่อนจะทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจแต่มันก็ไม่ได้เกินความคาดหมายของเขาไปนัก

  แต่ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้นเสียงหนึ่งได้ดังขึ้น

   ข้าลืมบอกว่าข้าทำกระดาษทั้งสองแผ่นเลอะตอนที่ข้าเขียนมัน…ร่างกายของเจ้ายังไม่เป็นไรใช่ไหม? 

  เสียงของฟางเจิ้งจือไม่ได้ดังมากแต่ทำให้ใบหน้าของหนานกงมู่ดำทมึน

  พิษ!

  เขาวางยาพิษบนกระดาษ!

   เจ้านั่นกล้าวางยาพิษบนกระดาษ! 

   ชั่วร้ายมาก!     เลือกพูดไร้สาระได้แล้วขอให้ท่านเทพปีศาจโจวฉีออกคำสั่งให้พวกเราฆ่ามนุษย์ทั้งหมด! 

  กองทัพอสูรและปีศาจตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวฟางเจิ้งจือนั้นไร้ยางอายเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิดนัก

   เจ้าไร้ยางอายเจ้าใส่ยาพิษลงบนกระดาษจริงๆงั้นหรือ?!  ปิงหยางยังไม่เชื่อว่าฟางเจิ้งจือจะทำเช่นนั้น

   แน่นอน…โอกาสดีๆแบบนี้ข้าจะพลาดได้ยังไง? ฟางเจิ้งจือกล่าวออกมาโดยไม่คิดจะปิดบังความจริงแม้แต่น้อย

   … ปิงหยางพูดไม่ออก

   … วู่จวี้เอ๋อที่ยืนอยู่ด้านข้างขยับปากเล็กน้อยแต่ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาเช่นกัน

  โม่ฉานฉือและมู่ฉิงเฟิงมองหน้ากันด้วยความอับอายที่พวกเขาต้องร่วมมือกับฟางเจิ้งจือ

  การลอบวางยาพิษอาจะถือได้ว่าเป็นการกระทำชั้นต่ำ

  อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางเลือก

   เจ้าเด็กเหลือขอเจ้าใช้พิษของข้างั้นรึ?  เซียนสวรรค์พักพิงถามขึ้นมา ฟางเจิ้งจือเคยแอบเอายาพิษจำนวนมากของเขาไปใช้โดยไม่บอกเขาแม้แต่น้อย

   ข้าปรับปรุงมันเล็กน้อย ฟางเจิ้งจือกล่าวเรียบๆ

   เยี่ยมเจ้านั้นไร้เมตตาจริงๆ 

   เรื่องธรรมดาไม่ต้องชมข้าหรอก 

   … 

  เหล่าศิษย์ฝ่ายมนุษย์หันหน้าไปด้านอื่นแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่ฟางเจิ้งจือคุยกับเซียนสวรรค์พักพิง

  ด้านหนานกงมู่เหงื่อเย็นๆไหลลงมาจากหน้าผากของเขาเพราะตอนนี้เขารู้สึกปวดท้องจริงๆ

   มันเป็นพิษจริงๆ! หนานกงมู่ทรุดตัวลงแล้วอาเจียนออกมา ในขณะเดียวกันเขาได้หยิบเม็ดยาบางอย่างออกมาและกลืนมันเข้าไป

  อาการของเขาดีขึ้นเล็กน้อย

  การมีพลังจากต้นไม้เทพเจ้าและหัวใจของหนานกงเฮารวมถึงพลังที่ได้รับจากโจวฉีและฉินเซียน หนานกงมู่ไม่มีทางตายง่ายๆเพราะยาพิษ

  อย่างไรก็ตามใช่ว่าเขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากพิษของฟางเจิ้งจือเลยมันเป็นความรู้สึกอันสะอิดสะเอียน

   มั่นใจได้ว่าเจ้าจะไม่ตายพิษนี้ไม่ได้ร้ายแรง มันอาจจะทำร้ายไตของเจ้าเล็กน้อย…อาจจะทำให้แค่ท้องเสียบ่อยๆเท่านั้น…  ฟางเจิ้งจือกล่าวเตือนด้วยความห่วงใยต่อหนานกงมู่

   … ใบหน้าของหนานกงมู่ซีดขาว

   ฟางเจิ้งจือ… 

  ’ข้าไม่ควรเป็นศัตรูของเจ้าจริงๆ’

  หนานกงมู่กำหมัดแน่นแต่โชคชะตาของตระกูลหนานกงอยู่ในมือของเขา เขาจะยอมแพ้ไม่ได้!

   ท่านพ่อ! 

   … 

  เหตุการณ์ที่หนานกงเทียนได้ฆ่าตัวตายปรากฎขึ้นในใจของเขา

  หนานกงมู่กัดริมฝีปากเขาไม่เพียงแต่ต้องการทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของหนานกงเทียนเป็นจริง แต่เขาต้องการสู้เพื่ออนาคตของตระกูลหนานกง

   ท่านพ่อ…ข้าไม่สามารถทำตามที่ท่านสอนได้แต่ข้าสัญญาว่าข้าจะเอาสิ่งที่เป็นของตระกูลหนานกงกลับา… เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของหนานกงมู่ ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงเลือดพร้อมกับบรรยากาศอันน่าขนลุกที่ปล่อยออกมารอบๆตัวเขา

  อย่างไรก็ตามท่าทีของเขากลับสงบลงอย่างรวดเร็ว

  ตัวตนของโจวฉีและตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพอสูรและปีศาจมันหมายความว่าเขาทำสำเร็จไปแล้วครึ่งทางเขาจะยอมแพ้ตอนนี้ไม่ได้

   พิษกระจอกๆไม่มีทางทำร้ายข้าได้! หนานกงมู่ลุกขึ้น หมอกที่ปกปิดใบหน้าของเขาหนาขึ้น

   แน่นอนว่ามันไม่มีทางทำร้ายเจ้าได้งั้นมาเริ่มการแข่งขันเลยไหม เจ้าจะส่งใครมาในรอบแรก?  ฟางเจิ้งจือพยักหน้า

   ท่านโจวฉี! หลินยู่ที่ปกติจะยืนเงียบพูดขึ้นมาทันที

   มีอะไรงั้นรึ? หนานกงมู่ถามกลับ

   ท่านจะส่งใครออกไปในรอบแรก? หลินยู่กัดฟันถามอย่างระมัดระวัง

   เจ้ามีอะไรจะแนะนำงั้นรึ? หนานกงมู่รู้ว่าหลินยู่กำลังคิดอะไรอยู่

   ถ้าท่านเชื่อใจข้าข้าจะสู้อย่างสุดกำลังในรอบแรก!  หลินยู่คิดดีแล้ว

   เจ้าคนเดียว?     และราชาอสูรอีกสามคน 

   ข้าคิดว่ามันไม่เพียงพอ หนานกงมู่ส่ายหัว

   ทำไม?ยกเว้นท่านจะคิดว่ามีคนอื่นนอกจากฟางเจิ้งจือที่จะสามารถเอาชนะพวกเราได้?  หลินยู่ไม่เข้าใจ

   ไม่แต่ถ้าพวกมันสองคนสามารถฆ่าราชาอสูรทั้งสามได้ในเวลาสั้นๆเล่า?  หนานกงมู่ถาม

   ท่านหมายความว่าเช่นไร? 

   จากสิ่งที่ข้ารู้มู่ฉิงเฟิงสามารถฆ่าราชาอสูรสามคนได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเจ้าก็ต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์ทั้งสี่โดยลำพัง! 

   ข้าไม่กลัว! 

   ดีแต่โอกาสชนะมีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น  หนานกงมู่ส่ายหัว

  หลินยู่เงียบลง

  มันเป็นอย่างที่หนานกงมู่พูดจริงๆแม้ตัวตนระดับเทพเจ้าจะมีพลังมากแต่ก็มีโอกาสชนะเพียงครึ่งหนึ่งถ้าต้องสู้กับเซียนสี่คนแบบมู่ฉิงเฟิง

  หากพวกเขาแพ้ในการต่อสู้ครั้งแรกอาจจะต้องเจอกับฟางเจิ้งจือในรอบต่อไป…

   งั้นส่งข้าและมู่ซิง! หลินยู่ยอมรับคำแนะนำของหนานกงมู่

   ด้วยพลังของมู่ซิงเขาจะชนะแน่นอนถ้าไม่ได้เจอกับฟางเจิ้งจือข้ายังคิดว่าเงื่อนไขของฟางเจิ้งจืออาจจะมีกับดักซ่อนอยู่  หนานกงมู่พยักหน้าก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อย

   กับดักอะไร? 

   ถ้า…เจ้าเป็นฟางเจิ้งจือเจ้าจะทำเช่นไรถ้าต้องสู้กับตัวตนระดับเทพเจ้าสองคน?  หนานกงมู่ถามกลับ

   นอกจากสู้ด้วยตัวเองตัวเลือกอื่นมีแต่เพียงความพ่ายแพ้ที่รอเขาอยู่  หลินยู่กล่าว

   เจ้าคิดว่าเขาจะแพ้งั้นรึ? 

   ใช่ 

   ข้าไม่คิดเช่นนั้น    ทำไมกัน? 

   ถ้าพวกมันแพ้ในรอบแรกคงจะสูญสิ้นความหวังแทบทั้งหมด… 

   ท่าน…หมายความว่ายังไง? 

   ถ้าข้าส่งเจ้ากับมู่ซิงออกไปฟางเจิ้งจือต้องส่งตัวเองออกมาแน่นอน 

   ท่านหมายความว่าในรอบแรกฟางเจิ้งจือจะ… หลินยู่ตัวสั่นเล็กน้อยพร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผาก

   ใช่เขาต้องฆ่าเจ้าและมู่ซิงในรอบแรกแน่นอน จากนั้นเขาจะเหลือตัวเลือกไม่มากนัก อาจจะเป็นการสู้กับพวกเราโดยไม่สนใจกฎที่ตั้งขึ้น อย่างไรก็ตามข้าคิดว่าเขาต้องทำอะไรที่ไร้ยางอายกว่านั้นมากแน่นอน 

   … หลินยู่พูดไม่ออก

  แม้ว่ามันจะเป็นเพียงคาดการณ์แต่ด้วยนิสัยไร้ยางอายของฟางเจิ้งจือ เรื่องไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

  ยิ่งไปกว่านั้นถ้าตัวตนระดับเทพเจ้าถูกฆ่าไปสองถึงสามคนในการแข่งขันเท่ากับขุมกำลังของปีศาจและอสูรจะลดลงอย่างมาก

  เท่ากับพวกเขาไม่มีความสามารถในการกดดันมนุษย์อีกต่อไป

   งั้นท่านคิดว่าพวกเราควรทำเช่นไร? หลินยู่ถามขึ้นมากอีกครั้งเพราะเขารู้สึกว่าโจวฉีมีความเข้าใจในตัวของฟางเจิ้งจือดีมาก

  มันทำให้เขาสงสัย

  เท่าที่เขาจำได้โจวฉีไม่เคยติดต่อหรือสนใจในตัวของฟางเจิ้งจือมาก่อน

  แปลกมาก

  อย่างไรก็ตามเขายังไม่มีวิธีตรวจสอบและโจวฉียังเป็นผู้บัญชาการกองทัพอสูรและปีศาจในขณะนี้

  เขาไม่สามารถสงสัยในตัวโจวฉีได้

   ถ้าพวกเรามัวแต่จะคิดว่าแข่งสามรอบคงแพ้แน่นอนพวกเราควรสนใจแต่การวางตำแหน่งแค่สองรอบเท่านั้น!     สองรอบ?! ดวงตาของหลินยู่สว่างขึ้น

  เขาเข้าใจสิ่งที่หนานกงมู่กล่าวคนฉลาดย่อมรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเอาชนะทั้งสามรอบ ดังนั้นควรสนใจเฉพาะบางรอบเท่านั้น

   สำหรับรอบแรกเจ้าไปพร้อมกับตัวตนระดับเทพเจ้าอีกสองคนและหนึ่งราชาอสูร ส่วนมู่ซิง ข้าจะลงกับเขาในรอบสุดท้าย  หนานกงมู่กล่าว

   ตัวตนระดับเทพเจ้าสามคนในรอบแรกท่านมั่นใจแล้วใช่ไหม?  แม้หลินยู่จะเข้าใจแผนของหนานกงมู่ แต่เขาลังเลเล็กน้อย

   หืมฟางเจิ้งจือไม่มีทางสู้ถ้าพวกเราได้ถ้าส่งไปสามคน โอกาสที่เขาจะจัดการตัวตนระดับเทพเจ้าสามคนได้มีน้อยมาก โอกาสที่เขาจะชนะมีเพียงครึ่งหนึ่ง แต่ต่อให้เขาชนะ ในรอบต่อไปเขาต้องไม่มีพลังเหลือพอที่จะจัดการกับตัวตนระดับเทพเจ้าอีกสองคน ดังนั้นฟางเจิ้งจือจะไม่ลงในรอบแรกอย่างแน่นอน!  หนานกงมู่กล่าวอย่างมั่นใจ

   แล้วในรอบที่สอง…     จากกฎฟางเจิ้งจือต้องส่งคนอื่นออกมาก่อนแน่อน ข้าคิดว่าเขาจะส่งคนที่สามารถฆ่าราชาอสูรออกมาเพื่อเอาชนะในรอบที่สอง 

   งั้นรอบที่สองเราต้องแพ้ใช่ไหม? 

   ใช่พวกเราต้องวางเดิมพันไว้กับรอบสุดท้าย! 

   ข้าเข้าใจแล้วท่านสามารถช่วยเติมเต็มความปรารถนาหนึ่งของข้าก่อนได้ไหม? 

   พูด 

   โปรดให้ข้าลงแข่งขันในรอบที่สาม 

   เจ้าต้องการสู้ในรอบที่สาม? 

   ใช่ 

   นั่นหมายความว่าเจ้าจะต้องเจอกับฟางเจิ้งจือ 

   ข้ารู้มันเป็นเหตุผลที่ข้าต้องการลงแข่งในรอบสุดท้าย ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน! 

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท