Chapter 262: งานรับจ้าง
“ช่วยพันธมิตรอันนองเลือดงั้นเหรอ?” ทุกคนอ้าปากค้าง “เมื่อไหร่กันที่ธงสงครามอันนองเลือดถามหาความช่วยเหลือจากนาย?”
“ ธงสงครามอันนองเลือดยังไม่ได้ถามหาความช่วยเหลือจากฉัน แต่เขาส่งข้อความถามฉันชวนไปดื่ม ถ้าการคาดเดาของฉันถูกต้องแล้วละก็ เขากําลังจะถามหาความช่วยเหลือจากฉัน”ไร้ความกลัวส่ายหัวและอธิบาย
“เมื่อไหร่กันที่พวกเขาได้สมญานามอย่างอื่น?” หวังหยู่ถาม
“ พวกเขาไม่ได้มัน! มันจะต้องเป็นอันนั้นอย่างแน่นอน! “ไร้ความกลัวพูด
“ไม่ใช่ธงสงครามพูดว่าพวกเขาจะไม่สามารถทําเควสป้องกันสํานักงานได้งั้นเหรอ? เมื่อไหร่กันที่เขาเปลี่ยนความคิด ?”
หวังหยู่จําได้ถึงอาการเศร้าสร้อยบนใบหน้าของธงสงครามอันนองเลือด เมื่อเขาได้รับการสมญานามก่อนหน้านี้
“มันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะมีตัวเลือกอื่นซะหน่อย… “ไร้ความกลัวหัวเราะ
“ไม่มีทางเลือกงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะขายสมญานามนั่นและซื้ออันอื่นงั้นเหรอ?”
“นั่นเป็นแผนเดิม แต่ถ้านายคิตตามหลักเหตุผลแล้วละก็ มันก็ไม่ได้มีกิลด์มากเท่าไหร่หรอกที่สามารถทําเควสแบบนั้นให้สําเร็จได้ ใครจะไปซื้อมันกัน?”ไร้ความกลัวพูด
“โอ้ มันเป็นแบบนี้นี่เอง… “หวังหยู่พยักหน้า
มันมีสองทางที่จะได้รับสมญานามของสํานักงานกิลด์ใน {REBIRTH} ทางแรกก็คือฆ่าบอสที่มีระดับมากกว่าสามสิบห้าและทางที่สองก็คือการเคลียร์ดันเจี้ยน
อัตราการเกิดและช่วงเวลาของบอสในป่านั้นไม่ตายตัว ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นเรื่องยากสําหรับผู้เล่นที่จะรวมตัวฆ่าพวกมัน แต่บอสในดันเจี้ยนจะอยู่ตําแหน่งเดิมอยู่เสมอๆ จึงทําให้เป็นเรื่องง่าย สําหรับพวกเขาที่จะล่ามัน สมญานามส่วนมากที่ถูกวางขายในตลาดประมูลนั้นมาจากดันเจี้ยนบอส
แม้ว่าความยากของดันเจี้ยนจะแตกต่างกันในแต่ละที่ ความยากของมันก็เกือบที่จะเท่าเทียมกันสําหรับดันเจี้ยนทั้งหมด
“จากที่ดูแล้ว มันมีเพียงแค่กิลด์ที่ดีที่จะได้รับสํานักงานกิลด์ของตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะสามารถทําเควสสําเร็จได้ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะมีกิลด์ไหนยอมตั้งสํานักงานกิลด์ในต่างเมือง ไร้ความก ลัวให้เหตุผล
“ชิ มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้…”หวังหยู่ไม่ตกลงกับคําพูดของไร้ความกลัว สุดท้ายแล้วพันธมิตรอันนองเลือดนั้นได้รับความสูญเสียจากฝีมือของนิกายชวนเฉินในเมืองรัตติกาล
“แต่พวกเขาก็ยังไม่ไปไหนใช่ไหมละ? ถ้านายคิดเกี่ยวกับมันแล้วละก็ พวกเขาก็จะสูญเสียมากกว่านี้ ถ้าพวกเขายังคงทําตัวไปวันๆโดยไม่ตัดสินใจอะไรสักอย่าง”ไร้ความกลัวพูดอย่างไม่แยแส
ความจริงที่สมญานามพวกนี้นั้นให้สํานักงานกิลด์เฉพาะเขตยังไม่ได้ถูกเปิดเผยเป็นทางการ แต่เมื่อมันถูกเปิดเผย มันก็เหมือนกับว่า สมญานามในตลาดจะสูญเสียคุณค่าของมันไป
ยิ่งไปกว่านั้น การมีสํานักงานกิลด์นั้นก็เหมือนกับเป็นหน้าตาของกิลด์ส่วนใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขาเองได้แล้วพวกเขาก็สามารถที่จะเริ่มทําสงครามกิลด์ได้ด้วยเช่นกัน
สํานักงานกิลด์ไม่สามารถที่จะพัฒนาในวันเดียวได้ มันจะต้องใช้ทั้งแรงและทรัพยากรสําหรับพวกเขาในการพัฒนามัน ด้วยเหตุนี้ กิลด์ที่ได้รับมันมาเร็วมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น
ถ้าพันธมิตรอันนองเลือดยังคงปล่อยเวลาทิ้งขว้างโดยปราศจากการตัดสินใจ มันก็เหมือนกับ ว่าพวกเขาจะไม่ได้เปรียบกิลด์อื่นมากเท่าไหร่
“มันเป็นแบบนี้นี่เอง มันจะต้องใช้ความกล้าของธงสงครามอันนองเลือดอย่างมากเลยนะ กับการที่มาขอความช่วยเหลือจากนายเนี่ย!” หมิงหัวเราะ
“มันไม่ใช่ว่าเขาไม่มีตัวเลือก แต่มันมีใครอื่นในเมืองรัตติกาลที่เขาสามารถเชื่อใจในความสําเร็จได้อีกงั้นเหรอ?”ไร้ความกลัวตอบกลับ
“ไม่เลวเลย ไม่เลวเลย ในที่สุดนายก็พูดออกมา ไร้ความกลัว!” ทุกคนหัวเราะออกมาด้วยคํา พูดอันหยิ่งยโสของไร้ความกลัว
เพียงแค่พวกเขากําลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข ประตูของโรงเตี้ยมก็เปิดออกแล้วธงสงครามอันนองเลือดก็เดินเข้ามาด้านใน
“อ้า พวกนายอยู่ที่นี่กันทั้งหมดเลย… “ธงสงครามอันนองเลือดพิมพ์แล้ วเขาก็เหลือบตาไปมองไร้ความกลัว
นิกายซวนเฉินนั้นแทบจะไม่รวมตัวกัน ยกเว้นว่าพวกเขาจะไปเคลียร์ดันเจี้ยน นี่เป็นครั้งแรกที่ธงสงครามอันนองเลือดเห็นสมาชิกจํานวนมากของนิกายซวนเฉินที่รวมตัวกันเช่นนี้
“ไอ้พวกบัดซบนี่ตัดสินใจที่จะมาดื่มที่นี้ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าผู้นําธงสงครามเลี้ยงเหล้าฉันได้ ความกลัวหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“เชียนี่แม่งเป็นชายที่หน้าด้านบัดซบที่สุดเลยจริงๆ ไร้ความกลัว…” ทุกคนเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว เมื่อพวกเขาได้ยินไร้ความกลัวพูดคําแบบนั้นออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหมิงที่ซึ่ง เตรียมระเบิดสายฟ้าไว้ฆ่าเขาแล้ว
เมื่อมองไปที่การกระทําของหมิงตู ไร้ความกลัวก็พูดออกมาคําหนึ่ง “ไอ้โง่”
“เชี่ยเอ้ย!” หมิงขู่คํารามออกมาแล้วเขาก็ยกศทาของเขาขึ้น แต่เขาก็โดนรัศมีฤดูใบไม้ผลิ หวังหยู่และความทระนงตัวกตตัน
“ฮ่าๆ”ธงสงครามอันนองเลือดหัวเราะออกมาอย่างอึดอัดใจ “พวกนายนี่มีชีวิตชีวาจริงๆ”
“ไม่มากเท่าไหร่ เขาก็แค่ทําตัวห่มๆไปเล็กน้อย “ไร้ความกลัวจ้องไปที่หมิงแล้วเขาก็พูดออกมา
หวังหยู่และรัศมีฤดูใบไม้ผลิถอนหายใจออกมา มันเหมือนกับว่าไร้ความกลัวนั้นทําให้หมิงคู่กราดเกรี้ยว
เมื่อเห็นประกายไฟบินไปมาระหว่างสมาชิกของนิกายชวนเฉิน ธงสงครามอันนองเลือดก็รีบเปลี่ยนหัวข้อ “ผมได้ยินมาวาผู้เชี่ยวชาญในนิกายชวนเฉินนั้นมีนับไม่ถ้วนเหมือนกับหมู่เมฆ ผมหวังว่าผู้นําไร้ความกลัวจะสามารถแนะนําพวกเขาทั้งหมดกับผมได้!”
เหตุผลหลักที่ไร้ความกลัวเรียกทุกคนมาที่นี้ก็เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงพลังการต่อสู้ของนิกายชวนเฉิน หลังจากนั้นเขาก็จะสามารถที่จะต่อรองราคาที่เขาจะได้จากธงสงครามอันนอง เลือดได้
ยิ่งไปกว่านี้ แม้ว่านิกายชวนเฉินจะมีชื่อเสียงในทางไม่ดีด้านอกเมืองรัตติกาล ผู้เล่นที่เป็นที่รู้จักกันส่วนมากก็มีแค่ผู้เล่นเดิมหกคน ดาบน้ําแข็ง โบซอนและคนอื่น ธงสงครามอันนองเลือดอาจจะเคยได้ยินชื่อขุนนางครอทมาก่อน แต่เขาไม่เคยเจอตัวเป็นๆ
“นักรบที่อยู่ด้านขวาของนายมีชื่อว่าโบซอน! ไร้ความกลัวชี้ไปที่โบขอนและประกาศออกมา
โบขอนหัวเราะออกมาแล้วเขาก็พยักหน้าให้กับธงสงครามอันนองเลือด
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ!” ธงสงครามอันนองเลือดครีบตอบกลับแล้วเขาก็หันไปมองนักฆ่าที่อยู่ด้านซ้ายเขา “นายจะต้องเป็นดาบน้ําแข็งสินะ!”
ดาบน้ําแข็งนั้นเป็นที่รู้จักในวงการเกมว่าเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่งที่เล่นเป็นนักฆ่าในตอนนี้ แม้แต่ธงสงครามอันนองเลือดก็รู้ถึงข้อมูลพื้นฐานนี้ด้วย
“ที่จริงแล้ว นี่ต่างหากที่เป็นดาบน้ําแข็ง… “ไร้ความกลัวแก้คําพูดของธงสงครามอันนองเลือด แล้วเขาก็ชี้ไปที่ดาบน้ำแข็ง
“โอ้…ถ้างั้นคนนี้คือใครกัน?” ธงสงครามอันนองเลือดถามอย่างกระวนกระวายใจ
“ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์”
“หื้อ” ราชานักรบรับจ้างดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์??ธงสงครามอันนองเลือดอ้าปากค้างด้วยความ ตกตะลึง
ผู้เล่นชรรมดาอาจจะไม่รู้ว่าเขาคือใคร แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่างยิ่งสงครามอันนองเลือดนั้นเคยได้ ยินชื่อของเขามาก่อนอย่างแน่นอน เมื่อธงสงครามอันนองเลือดได้รับข่าวว่ากิลด์ของดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์นั้นแยกตัว เขาก็ต้องการที่จะเชิญเขามาเข้าร่วมกับพันธมิตรอันนองเลือด ใครจะไปคิดว่าเขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของนิกายชวนเฉินไปแล้ว
“ฮ่าๆ!” ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ เมื่อเขามองไปที่การแสดงออกของธงสงครามอันนองเลือด
“และนี้คือใครกัน?”
“ขุนนางครอท! “ขุนนางครอทประกาศออกมาอย่างมีความสุข
“ผู้พิทักษ์อันดับหนึ่งในเขต 7!!” ธงสงครามอันนองเลือดอ้าปากค้างอีกครั้ง
นอกจากสมาชิกหลักเดิมหกคนและผู้เชี่ยวชาญขั้นสุดยอดอย่างหวังหยู่แล้ว ธงสงคราม อันนองเลือดก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะมีตํานานผู้เล่นอีกสองคนด้วยเช่นกัน! แม้แต่กิลด์ใหญ่อย่างยิ่งสงศรามอันนองเลือดก็ไม่ได้มีผู้เชี่ยวชาญมากเท่านี้
“และสาวคนนั้นคือใครกัน? เธอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในตํานานอีกคนด้วยงั้นเหรอ? ฟีนิกส์สวรรค์ ร่ายรําหรือเทพธิดาหลัวร่ายรํากัน?” ธงสงครามอันนองเลือดถามแล้วเขาก็มองไปที่หยางหัวอย่างชื่นชม
จํานวนของผู้เชี่ยวชาญสาวในสังคมเกมนั้นสามารถที่จะนับได้ตวัยมือเดียวและมีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถไปด้วยกันกับกลุ่มของพวกอันธพาลอย่างนิกายชวนเฉินได้
ถ้าหญิงสาวคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในตํานานอีกคนแล้วละก็ ถ้าอย่างงั้นราคาที่พันธมิตรอันนองเลือดจะต้องจ่ายในครั้งนี้จะต้องไม่ถูกเลย ธงสงครามอันนองเลือดคิดกับตัวเองแล้วเขาก็มองไปที่ถุงเงินในช่องเก็บของ