เมื่อชายที่สวมหน้ากากรูปหัวกะโหลกสีแดงเห็นแววตาที่ดุดันของโอลิเวอร์ ควีนที่กําลังจ้องมาที่เขา มันก็ทําให้เขาถึงกับหัวเราะเยาะเย้ยออกมาในการประเมินความสามารถของตัวเองสูง ไปของโอลิเวอร์ควีน “แกเมาหรือยังไง แกถูกมัดไว้กับเก้าอี้แท้ ๆ นะเว้ย …”
“ใช่หรอ ?” โอลิเวอร์ ควิน ค่อย ๆ ผายมือของเขาออกอย่างช้า ๆ “ตอนนี้มันไม่อีกแล้ว!”
“เป็นไปได้ยังไง?”
ชายที่สวมหน้ากากรูปหัวกะโหลกสีแดงมองไปที่มือของโอลิเวอร์ควิน ด้วยความไม่อยากจะเชื่อและเตรียมที่จะจับตัวของโอลิเวอร์ขึ้นเอาไว้ แต่ทันใดนั้นโอลิเวอร์ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาหยิบเก้าอี้ขึ้นมาแล้วกระแทกไปที่ชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ไปแย่งเครื่องช็อตไฟฟ้าจากอีกคนหนึ่งมา และเครื่องช็อตไฟฟ้าไปที่ชายคนนั้นทันที
ทันใดนั้นชายที่ถือปืนอยู่ก็ยิงไปที่โอลิเวอร์ควีนอย่างรวดเร็ว ทําให้เขาต้องจับชายคนที่ถูกเขาใช้เครื่องช็อตไฟฟ้ามาบังตัวของเขาเอาไว้ ทําให้กระสุนพุ่งเข้าร่างของชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยชายคนนั้นทิ้งไปพร้อมกับวิ่งไล่ตามชายคนที่ถือปืนไปทันที
“เขาสามารถจัดการคนพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย และแน่นอนว่ามันแข็งแกร่งมากสําหรับคนธรรมดาทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการยิงธนูของเขา!” เงินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ถึงแม้ว่าการเคลื่อนไหวของโอลิเวอร์ควีนจะรวดเร็วและเฉียบคม แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ซู่เจินต้องการอยู่ดี
บางที่อาจจะเป็นเพราะว่าคู่ต่อสู้ของเขาอ่อนแอเกินไป จึงทําให้เขาไม่สามารถแสดงฝีมือทั้งหมดออกมาได้ใช่ไหม ?
เมื่อเห็นว่าโอลิเวอร์ควีนไล่ตามชายคนที่ถือปืนออกไปแล้ว ซู่เจินที่ยืนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นขุดพลังงานอนุภาคอีเทอร์ที่ปรากฏขึ้นมาครอบคลุมร่างกายของเขาเอาไว้ และรีบเดินตามออกไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันด้านนอกในตอนนี้กําลังมีเสียงปืนดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว
ด้วยความที่โอลิเวอร์ควีนมีสมรรถภาพทางร่างกายที่แข็งแกร่งมาก มันจึงทําให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว และไม่นานเขาก็ไล่ตามชายคนที่ถือปืนได้ทัน ซึ่งเขาในตอนนี้กําลังวิ่งไล่ตามชายคนที่ถือปืนเข้าไปโรงงานที่อยู่ข้างเคียงอย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้นก็มีห่ากระสุนสาดเข้ามา ทําให้โอลิเวอร์ควีนต้องรีบกระโดดขึ้นไปจับที่เช็อกเหล็กที่ห้อยอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับโหนเชือกเหล็กอันนั้นเข้าไปหาชายคนที่ถือปืนและล็อคคอของเขาเอาไว้
“อย่า … อย่าทําแบบนี้เลย” ชายคนที่ถือปืนตะโกนร้องขอความเมตตาออกมาอย่างไม่เต็มใจ
โอลิเวอร์ควีนส่ายหัวพร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยท่าทางหนักแน่นว่า “ฉันต้องทํา .. จะให้ใครรู้ความลับฉันไม่ได้”
” แคร๊ก”
โอลิเวอร์ควีนค่อย ๆ ย่อตัวลงพร้อมกับบิดคอของชายคนนั้นอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นโอลิเวอร์ควีนก็เตรียมตัวที่จะกลับไปดูอาการของทอมมี่เพื่อนรักของเขา แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นชายคนหนึ่งที่กําลังยืนอยู่ข้างหลังของเขาในชุดเครื่องแบบสีดํา โดยที่หน้าตาของชายคนนี้ดูเด็กมากและชายคนนี้ก็ไม่ได้สวมหน้ากากอะไรทั้งสิ้น เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีหน้าตาหล่อเหลาแบบคนเอเชีย ซึ่งในตอนนี้ชายคนนี้กําลังยืนยิ้มมองมาที่เขาพร้อมกับดื่มกาแฟในมือของเขาเบา ๆ ซึ่งมันดูแปลก!
“ดูเหมือนว่าผมจะรู้ความลับของคุณเข้าโดยบังเอิญ แล้วคุณจะฆ่าผมด้วยไหม?”
เมื่อซูเจินเห็นแววตาที่ประหลาดใจของโอลิเวอร์ควีน เขาก็เลยถามขึ้นมาด้วยความสนใจเล็กน้อย
“คุณเป็นใคร?”
โอลิเวอร์ควีน มองมาที่ซูเจินด้วยความระหวาดระแวง เพราะว่าอยู่ดี ๆ ชายคนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันโดยที่เขาไม่รู้สึกตัวเลยว่าเขามาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ และดูเหมือนว่า เขาจะไม่ได้เป็นพวกเดียวกันกับพวกคนที่สวมหน้ากาก
“อยากรู้งั้นหรอว่าผมเป็นใคร? ผมจะบอกคุณให้ถ้าเกิดว่าคุณสามารถเอาชนะผมได้!” ซูเจินยิ้มออกมาพร้อมกับกระติกนิ้วเรียกให้โอลิเวอร์ควีนเข้ามา
โอลิเวอร์ควีนรู้แล้วว่าคน ๆ นี้เป็นใคร แต่ในเมื่อเขาอยากสู้ งั้นพวกเราก็มาสู้กัน! โอลิเวอร์ควีนวิ่งเข้าไปหาซูเจินอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้มันเฉียบคมมาก
ซูเจินถือกาแฟของเขาเอาไว้ในมือข้างซ้าย ส่วนมือข้างขวาก็พยายามปัดป้องการโจมตีของอีกฝ่ายที่โจมตีมาที่เขาอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าซูเจินไม่ได้ใช้ความสามารถพิเศษของเขา เพราะท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าโอลิเวอร์ควีนจะแข็งแกร่งมาก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นเพียงแค่คนธรรมดาอยู่ดี ถ้าเกิดว่าเขาใช้ความสามารถของเขามันก็เหมือนกับการกลั่นแกล้งดี ๆ นี่เอง ยิ่งไปกว่านั้นจุดประสงค์หลักของ เขาก็คือการพัฒนาทักษะการต่อสู้ระยะประชิดของเขา!
ความแข็งแกร่งและความเร็วของโอลิเวอร์ควีนนั้นแข็งแกร่งมาก บวกกับเทคนิคการต่อสู้ของเขาที่ผสมผสานกับการใช้เล่ห์เหลี่ยมมันก็ยิ่งทําให้เขาสามารถไล่ต้อนซูเจินได้ ถึงแม้ว่าสมรรถภาพทางร่างกายของซูเจินจะแข็งแกร่งมากกว่าของโอลิเวอร์ควีน และสามารถตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งกว่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกว่ามันยากมากที่จะตอบโต้กับไป ราวกับว่าเขากําลังพ่ายแพ้ให้กับการใช้กลอุบายเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
สิ่งนี้ทําให้เป็นรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
นี่แหละคือทักษะการต่อสู้ระยะประชิดที่เขาต้องการ
“ตู้ม!”
ซูเจินต่อยไปที่โอลิเวอร์ควีนอย่างรุนแรง จนทําให้ร่างกายของของโอลิเวอร์ควีนกระเด็นถอยหลังไปพร้อมกับอาการปวดที่มือของเขา ทําให้เขาต้องนวดมันเบา ๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ซูเจินด้วยความตกใจปนความประหลาดใจเล็กน้อยในความแข็งแกร่งของซูเจินในขณะเดียวกันขู่เงินก็ค่อย ๆ วางกาแฟของเขาเอาไว้ข้าง ๆ พร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า “มาต่อกันเถอะ!”
ปัก! ปุก! ปัง!
พวกเขาทั้งสองคนพุ่งเข้ามาต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว โดยที่เงินพยายามที่จะใช้หมัดของเขาโจมตีไปที่โอลิเวอร์ควีน แต่โอลิเวอร์ควีนก็สามารถหลบได้อย่างง่ายดาย เพราะว่าประสบการณ์การต่อสู้ของโอลิเวอร์ควีนนั้นมีมากกว่าซูเจิน ทําให้เขาสามารถแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าของเขาได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งซูเจินในตอนนี้กําลังรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะว่ายิ่งเขาต่อสู้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น โดยที่เขาพยายามเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีของเขาอยู่ตลอดเวลา และไม่นานใบหน้าของโอลิเวอร์ควีนก็โดนหมัดของซูเจินชกติดต่อกันไปสามครั้ง ทําให้สีหน้าของโอลิเวอร์ควีนขึ้นในตอนนี้แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาเล็กน้อย
“เอาล่ะ! หยุดต่อสู้กันได้แล้ว!”
จู่ ๆ ซูเจินก็ตะโกนขึ้นมาเพื่อให้โอลิเวอร์ควีนหยุดการต่อสู้ในครั้งซะ แต่โอลิเวอร์ควีนในตอนนี้กําลังเต็มไปด้วยความโกรธทําให้เขารีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและเตรียมตัวที่จะเข้ามาโจมตีซูเจินอีกครั้ง โดยที่ไม่ได้ฟังคําพูดของซูเจินเลยแม้แต่น้อย ทําให้ซูเจินส่ายหัวขึ้นมาเบา ๆ ทันใดนั้นก็มีห้องขังสีเขียวเข้มปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันพร้อมกับขังร่างของโอลิเวอร์ควีนเอาไว้ด้านใน ทําให้โอลิเวอร์ควีนในตอนนี้กําลังเด้งไปเด้งมาอยู่ในห้องขังจากการที่เขาพยายามกระแทกกับห้องขังอย่างรุนแรงเพื่อทําลายมันออกไป
แต่ไม่ว่าโอลิเวอร์ควีนจะกระแทกมันรุนแรงสักเท่าไหร่ มันก็ไม่ยอมฟังสักที ทําให้เขาในตอนนี้ ได้แต่มองไปที่มันตัวยความประหลาดใจ
ซูเจินค่อย ๆ เดินกลับมาเอากาแฟของเขาอย่างช้า ๆ พร้อมกับนั่งลงบนโซฟาที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน โดยที่เขากําลังนั่งไขว้ห้างพร้อมกับดื่มกาแฟเบา ๆ และมองไปที่โอลิเวอร์ควีนด้วยความสงบ
หลังจากนั้นไม่นานโอลิเวอร์ควีนก็ค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลง และมองไปที่ซูเจินด้วยสายตาจริงจัง
“ทําจิตใจให้สงบ แล้วฟังผมให้ดี ๆ ผมชื่อว่าซูเจินมาจากเมืองปืนไร่ และถ้าเกิดว่าคุณเคยอ่านข่าวก็น่าจะเคยได้ยินชื่อ ” ซูเจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“กรีนแลนเทิร์น?”
โอลิเวอร์ควีนกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ดูเหมือนว่าคุณจะเคยได้ยินชื่อเสียงของผมมาบ้างแล้ว ดังนั้นผมจะอธิบายให้คุณเข้าใจง่าย ๆ เลยก็แล้วกัน ที่ผมมาที่นี่ในวันก็เพราะว่าผมอยากทําความรู้จักกับคุณนิดหน่อย และดูเหมือนว่าวันนี้ผมจะมาไม่เสียเที่ยวเปล่า ๆ แถมผมก็รู้ตัวยว่าคุณยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดการอยู่ ดังนั้น ถ้าเกิดว่าคุณทําอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณสามารถมาหาผมได้ถ้าเกิดว่าคุณสนใจ และผมก็คิดว่า.. คุณน่าจะรู้วิธีติดต่อหาผมอยู่แล้ว”
ซูเจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับห้องขังที่ยังโอลิเวอร์คขึ้นอยู่ก็ค่อยหายไป ทันใดนั้น ซูเจินที่หายตัวไปทันทีเช่นกัน ทําให้โอลิเวอร์ควีนในตอนนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจมากมาย
” กรีนแลนเทิร์นซูเจิน!”
โอลิเวอร์ควีนบ่นพึมพําขึ้นมาเบา ๆ กับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็รีบกลับไปหาทอมมี่เพื่อนรักของเขาทันที เพราะว่าตอนนี้มันมีเรื่องให้เขาต้องจัดการมากมายจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลักพาตัวหรือคนที่เขาได้ฆ่าตายไป ดังนั้นเรื่องพวกนี้มันจะต้องทําให้ตํารวจมาหาเขาถึงหน้าประตูบ้านอย่างแน่นอน แล้วจะให้เขาอธิบายว่าเขาเป็นคนฆ่าพวกนี้เองอย่างนี้หรอ ? เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาและทอมมี่ก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ส่วนอีกฝ่ายมีคนมากมายพร้อมกับอาวุธปืน
ซึ่งในตอนแรกเขาวางแผนไว้ว่าจะบอกกับตํารวจว่ามีคนใส่สู้ดสีเขียวมาช่วยพวกเขาเอาไว้ แต่ตอนนี้เขากับมีความคิดที่ดีกว่านั้นนั่นก็คือ กรีนแลนเทิร์น คนที่จะมาเป็นโล่ป้องกันความผิดของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ