“เฮลไฟร์คลับยังต้องการความช่วยเหลือและคนคอยปกป้องอยู่อีกงั้นหรอ ?”
ซู่เจินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เพราะว่าเงื่อนไขที่ราชินีสีขาวยื่นให้กับเขานั้นมันดูดีมาก แม้กระทั่งความเห็นแก่ตัวของเธอก็ยังไม่มีแม้แต่น้อย และด้วยทรัพยากรของเฮลไฟร์คลับเธอสามารถหาความสามารถอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการมาได้อย่างง่ายดาย โดยที่เขาไม่ต้องออกไปหาด้วยตัวเอง ซึ่งตรงนี้มันสามารถช่วยลดปัญหาให้กับเขาได้อย่างมหาศาล แถมสิ่งที่เขาจะต้องทำเป็นการแลกเปลี่ยนก็คือเมื่อเฮลไฟร์คลับตกอยู่ในอันตรายเขาก็แค่ออกมาช่วยพวกเขาก็แค่นั้น
ซึ่งหลังจากที่เขาลองเปรียบเทียบผลประโยชน์ดูแล้ว เขาก็พบว่าเขาค่อนข้างที่จะได้ผลประโยชน์มากกว่า
แต่มันจะเป็นอย่างงั้นจริง ๆ งั้นหรอ?
แน่นอนว่าราชินีสีขาวไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ๆ ทั่วไป เพราะถ้าหากว่าไม่มีราชาสีดำ เธอจะเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถจัดการทุกอย่างภายในเฮลไฟร์คลับได้ทั้งหมด และแทนที่เธอจะไม่ต้องสนใจเกี่ยวกับเฮลไฟร์คลับก็ได้ แต่เธอก็เลือกที่จะพัฒนามัน และมันก็ประสบความสำเร็จไปด้วยดี ดังนั้นด้วยสิ่งนี้จึงแสดงให้เห็นว่าเธอมีความสามารถมากแค่ไหน!
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับผู้หญิงที่จะค่อยซัพพอร์ตสโมสรที่ใหญ่ขนาดนี้ เพราะว่ามันทำให้ฉันเหนื่อยมาก ดังนั้น … ฉันจึงหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากคุณ“ ราชินีสีขาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ และพูดต่อว่า “และถ้าเกิดว่าฉันมีคุณมันจะแตกต่างออกไปทันที แม้ว่าตอนแรกมันอาจจะมีปัญหาบ้างเล็กน้อย แต่ตราบใดที่ความแข็งแกร่งของคุณมันเพิ่มมากขึ้นก็จะไม่มีใครกล้ามายั่วยุคุณอีก และในฐานะที่สโมสรให้ความช่วยเหลือคุณ ฉันคิดว่า … คุณไม่ควรถูกปฏิบัติอย่างเลวร้ายถูกไหม? “
“มันเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงมาก!“
ซู่เจินรู้สึกชื่นชมเธอขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก แต่เธอก็ต้องแบกรับความกดดันจากคนอื่นทุก ๆ ด้านอยู่ดี ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของแม็กนีโต้เพราะว่าเขาน่าจะทนไม่ได้อย่างแน่นอน ใช่ไหม ?
“แล้วคุณตกลงที่จะเข้าร่วมกับพวกเราไหม ?”
ราชินีสีขาวถามขึ้นมาอย่างมีความสุข
ซู่เจินยิ้มและส่ายหัวเบา ๆ “ไม่! ผมไม่ต้องการเข้าร่วมกับพวกคุณ“
“เพราะอะไร?” ราชินีสีขาวถามขึ้นมาด้วยความมึนงงเล็กน้อย เพราะว่าเงื่อนไขที่เธอยื่นให้กับเขามันก็ดีมากแล้วไม่ใช่หรอ ? แล้วทำไมเขาถึงไม่เห็นด้วยกับการที่เธอจะช่วยเขาแก้ปัญหาและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขา ?
“เพราะว่าเงื่อนไขหรือผลประโยชน์ที่คุณบอกผมมา มันไม่น่าดึงดูดสำหรับผมเลยแม้แต่น้อย และ … ผมก็ไม่ต้องการความคุ้มครองจากผู้หญิง ดังนั้นถ้าเกิดว่ามีใครกล้ามาสร้างปัญหาให้กับผมละก็ ผมจะบอกให้พวกเขารู้เองว่าผลที่ตามมามันคืออะไร! ส่วนเรื่องของความสามารถผมก็มีช่องทางของผมอยู่แล้ว เพราะงั้นผมจึงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ!”
ซู่เจินลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ พร้อมกับเหลือบมองไปที่บริ๊งค์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และถามกับราชินีสีขาวขึ้นมาว่า “คุณปล่อยเธอออกจากการควบคุมของคุณได้ไหม ?”
ราชินีสีขาวยักไหล่ของเธอเบา ๆ ทันใดนั้นบริ๊งค์ก็กลับมาเป็นปกติในทันทีและมองไปรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง “บอสทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ ? แล้วที่นี่มันคือที่ไหน ?”
“เดี๋ยวผมจะเล่าให้คุณฟังในภายหลัง“ ซู่เจินส่ายหัวและค่อย ๆ พูดขึ้นมาว่า “มันเคยมีคำพูดโบราณ ๆ อยู่อันหนึ่งในประเทศจีนของผม กล่าวว่า ‘การซื้อและการขายจะต้องไม่มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่นเด็ดขาด’ ดังนั้นแม้ว่าพวกเราในตอนนี้จะไม่ได้ร่วมมือกัน แต่ผมก็คิดว่า … คุณควรที่จะดื่มเคารพให้ผมสักแก้วหน่อยไหม ? “
ในขณะที่ราชินีสีขาวกำลังจะพูดตอบซู่เจิน ทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่าดวงตาของซู่เจินเปลี่ยนเป็นสีดำ ทำให้เธอเริ่มมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีปรากฏขึ้นมาในจิตใจอย่างเงียบ ๆ และเตรียมตัวที่จะเปลี่ยนเนื้อเยื่อชีวภาพของเธอให้กลายเป็นเพชร แต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ช้าไปอยู่ดี เพราะว่าตอนนี้เธอได้ถูกซู่เจินควบคุมความคิดของเธอเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เธอลุกขึ้นยืนพร้อมกับรินไวน์ใส่แก้วให้กับซู่เจินและค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเขาอย่างช้า ๆ
“แบบนั้นแหละ ? ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยมีความจริงใจเลยนะ งั้นเอาแบบนี้ … พอดีว่าผมเพิ่งจะไปเจอวิธีการดื่มที่น่าสนใจมา คุณเอาไวน์เข้าไปในปากของคุณแล้วป้อมมันให้กับผม” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“แกอยากตายงั้นเหรอ? “
เมื่อปีศาจแดงได้ยินคำพูดของซู่เจิน เขาก็โกรธขึ้นมาทันที
เขากล้าขอให้ราชินีสีขาวป้อนไวน์ด้วยปากให้กับเขาได้อย่างไร ? คุณกำลังดูถูกราชินีสีขาวของพวกเราอยู่งั้นหรอ! ปีศาจแดงคำรามขึ้นมาดังลั่นพร้อมกับร่างกายของเขาที่หายไปทันที และจากนั้นไม่นานเขาก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของซู่เจินอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเจอร์นี่ที่ยืนอยู่ตรงประตูก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน
ในขณะที่ปีศาจแดงกำลังจะจับตัวของซู่เจิน แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าซู่เจินโบกมือไปด้านหลังเบา ๆ ทันใดนั้นก็มีแรงลมระเบิดออกมาอย่างรุนแรงพัดตัวของปีศาจแดงกระเด็นออกไป แต่ปีศาจแดงก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เขาเริ่มใช้พลังเทเลพอร์ตของเขาอีกครั้งหนึ่ง และไม่นานเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากด้านข้างของซู่เจินทันที
“นอนลงไปที่พื้นซะ!”
ทันทีที่ปีศาจแดงปรากฏตัวขึ้น ก็มีค้อนสีเขียวขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาเหนือหัวของเขาพร้อมกับทุบลงมาอย่างรุนแรง
“ปัง!“ เกิดเสียงกระแทกดังขึ้นอย่างรุนแรง พร้อมกับร่างของปีศาจแดงที่ถูกทุบลงกับพื้นจนเกิดรูขนาดใหญ่ หลังจากนั้นค้อนสีเขียวอันนั้นก็กลายเป็นกรงขังปีศาจแดงเอาไว้ข้างในอย่างรวดเร็ว โดยที่ปีศาจแดงพยายามที่จะใช้ความสามารถของเขาในการเทเลพอร์ตออกไปแต่มันก็ล้มเหลว ราวกับว่ากรงอันนี้มันสามารถเดาทิศทางที่เขาจะเทเลพอร์ตไปได้อย่างไงอย่างงั้น
แน่นอนว่าการเทเลพอร์ตของปีศาจแดงนั้นแตกต่างจากของคนอื่น ๆ เพราะว่ามันคล้าย ๆ กับความสามารถในการเปิดประตูพอร์ทัลของบริ๊งค์ ซึ่งความแตกต่างของพวกเขาก็คือบริ๊งค์สามารถเปิดประตูพอร์ทัลเป็นช่องว่างของเวลาได้โดยตรง ในขณะที่ของปีศาจแดงนั้นจะถูกส่งไปยังพื้นที่พิเศษก่อนในตอนแรก และค่อยเทเลพอร์ตไปที่อื่น ๆ ที่ต้องการต่อในภายหลัง
และเมื่อปีศาจแดงลองใช้ความสามารถของเขา เพื่อส่งไปยังพื้นที่พิเศษก่อนในตอนแรก และเตรียมที่จะเทเลพอร์ตไปที่ต่อไปแต่เขาก็พบว่าเขาไม่สามารถเทเลพอร์ตไปที่อื่น ๆ ได้ราวกับว่ามันถูกปิดกั้นอยู่ …
ซู่เจินหันกลับไปมองที่เจอร์นี่เล็กน้อยและกำลังจะทำอะไรบางอย่าง แต่บริ๊งค์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาก็ไม่ใช่คนที่กินมังสวิรัติสักหน่อย แม้ว่าเธอในตอนนี้จะไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าสักเท่าไหร่ แต่เธอก็เห็นได้ชัดว่าเธอจะต้องทำอะไรบางอย่างกับสถานการณ์ตรงหน้าของเธอโดยเร็วที่สุด
เมื่อคริสตัลถูกโยนออกไป ทันใดนั้นบริ๊งค์ก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้างหน้าของเจอร์นี่อย่างรวดเร็ว พร้อมกับจับตัวของเจอร์นี่ย้ายไปที่อื่นทันที … ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เจอร์นี่คนนี้ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรเลย ซึ่งมันคล้าย ๆ กับกัปตันอเมริกาที่เป็นตัวละครที่ถนัดการต่อสู้ระยะประชิด และดูเหมือนว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งอยู่นิดหน่อย แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังไม่มีผลกับบริ๊งค์อยู่ดี
เพราะว่าบริ๊งค์นั้นเร็วเกินไป
นอกจากนี้ยังต้องขอบคุณการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอของบริ๊งค์ในช่วงนี้ด้วย เพราะว่าถ้าหากเธอไม่ได้เจอกับซู่เจินในตอนนั้นความสามารถของเธอมันคงจะไม่แข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้อย่างแน่นอน
“แล้วคุณคิดยังไงเกี่ยวกับข้อเสนอของผม“
ซู่เจินหันไปมองราชินีสีขาว
“มันเยี่ยมมาก!“
ราชินีสีขาวพูดตอบซู่เจินขึ้นมาพร้อมกับจิบไวน์เก็บไว้ในปากของเธอ หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปหาซู่เจินและจูบเขาทันที เมื่อรู้สึกได้ถึงไวน์ที่ไหลเข้ามาในปากของเขา ซู่เจินก็ยื่นมือออกมาและบีบไปที่เอวของเธอเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมาอย่างมีชัย
“คุณ … คุณสามารถควบคุมจิตใจได้งั้นหรอ ?”
การแสดงออกของราชินีสีขาวเปลี่ยนไปเล็กน้อย ซึ่งดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะได้สติจากการควบคุมจิตใจของเขาเรียบร้อยแล้ว ทำให้เธอก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวพร้อมกับร่างกายของเธอที่กลายเป็นเพชรส่องประกายทันที
“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของคุณ … ไวน์อร่อยมากเลยล่ะ!”
ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปหาบริ๊งค์เล็กน้อย ทันใดนั้นก็มีประตูพอร์ทัลปรากฏขึ้นมาด้านหลังของซู่เจินอย่างรวดเร็ว และก่อนที่เขาจะจากไปเขาก็เหลือบมองไปที่ราชินีสีขาวที่กำลังโกรธอยู่เล็กน้อยและพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ว่า “นี่จะถือว่าเป็นการเตือนครั้งแรกสำหรับคุณ และถ้าเกิดว่าครั้งหน้าคุณยังกล้าที่จะควบคุมคนของผมอีกละก็ มันจะไม่จบง่าย ๆ อย่างนี้แน่นอน ดังนั้น … อย่าทำให้ผมต้องมากลืนกินความสามารถของคุณและคนของคุณเลย!”
หลังจากพูดจบซู่เจินและบริ๊งค์ก็เดินเข้าไปในพอร์ทัลและหายตัวไปทันที
เจอร์นี่ลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยความอับอายเล็กน้อย และไม่นานกรงขังของปีศาจแดงก็ค่อย ๆ หายไป ทั้งสองคนรีบเดินเข้ามาหาราชินีสีขาวและพูดขึ้นมาอย่างโกรธแค้นว่า “ต้องการให้ฉันไปจับตัวเขากลับมาไหม ? “
“คุณสู้เขาไหวงั้นหรอ?” ราชินีสีขาวถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ทำให้ปีศาจแดงถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ